สำหรับชาวเกาหลีใต้ การเป็นเฟมินิสต์หรือสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศกลับกลายเป็นความเสี่ยง เพราะต้องเผชิญความเกลียดชังจากผู้ชายบางกลุ่มในประเทศ ที่มองว่าการเรียกร้องสิทธิสตรีรวมถึงเพศหลากหลายนั้นเป็นเรื่องไม่สมเหตุสมผล 

ชายเกาหลีใต้ลงมือทำร้ายผู้หญิงเพียงเพราะเธอไว้ผมสั้น และคาดเดาว่าเธอน่าจะเป็นเฟมินิสต์

สำหรับชาวเกาหลีใต้ การเป็นเฟมินิสต์หรือสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศกลับกลายเป็นความเสี่ยง เพราะต้องเผชิญความเกลียดชังจากผู้ชายบางกลุ่มในประเทศ ที่มองว่าการเรียกร้องสิทธิสตรีรวมถึงเพศหลากหลายนั้นเป็นเรื่องไม่สมเหตุสมผล และล่าสุดนี้มีผู้หญิงที่ถูกทำร้าย เพียงเพราะเธอเลือกจะไว้ผมสั้น จนผู้ก่อเหตุคาดเดาเองว่าเธอน่าจะเป็นเฟมินิสต์ (!?)&nbsp;มีการเปิดเผยภาพจากกล้องวงจรปิดจากร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งในเมืองจินจู ประเทศเกาหลีใต้ ว่ามีชายวัย 20 กว่าๆ คนหนึ่ง ลงมือทำร้ายผู้หญิงที่เป็นพนักงานร้าน เขาทั้งต่อยและเตะเธอ รวมถึงด่าทอลูกค้าชายวัย 50 กว่า ที่เข้ามาช่วยห้ามปราม โดยรายงานของตำรวจระบุว่า เป็นเพราะเขาเห็นเธอไว้ผมสั้นเหมือนเฟมินิสต์จึงลงมือ ซึ่งผู้ก่อเหตุระบุว่าตัวเขาเองเป็นชายแท้อนุรักษ์นิยม และพวกเฟมินิสต์นั้นก็สมควรถูกเหยียดหยาม ตำรวจยังรายงานอีกว่าเขากำลังเมาขณะก่อเหตุ และเคยมีประวัติรักษาอาการจิตเภทมาก่อนทำไมการไว้ผมสั้น จึงถูกมองว่าเป็นเฟมินิสต์? การไว้ผมสั้นที่เป็นเรื่องปกติในหลายๆ สังคม กลับมีความหมายอีกแบบในเกาหลีใต้ ในแง่หนึ่งมันหมายถึงการยืนยันสิทธิในร่างกายตัวเอง พร้อมกับปฏิเสธภาพผู้หญิงแบบที่สังคมคาดหวังนั่นคือต้องมีผมยาวดูสมกับเป็นหญิง และเรื่องการไว้ผมสั้นนี้ก็เคยเป็นที่ถกเถียงครั้งใหญ่มาแล้วเมื่อปี 2021 ที่อันซานวอน (An Sanwon) นักกีฬายิงธนูที่ชนะเหรียญทองโอลิมปิกได้เข้าแข่งขันในภาพลักษณ์ผมสั้น แต่แทนที่จะได้รับคำชื่นชมในความสำเร็จ เธอกลับถูกก่นด่าเรื่องการไว้ผมสั้นจนทำให้ดูเหมือนเฟมินิสต์&nbsp;แล้วทำไมเป็นเฟมินิสต์ต้องถูกเกลียดชัง? ย้อนไปเมื่อหลายปีก่อน พร้อมๆ กับที่เริ่มมีการเรียกร้องสิทธิสตรีในช่วงเวลาเดียวกับปรากฏการณ์ #MeToo ในเกาหลีใต้ก็มีคนที่ออกมาต่อต้านเฟมินิสต์ไปพร้อมๆ กัน เนื่องจากเกาหลีใต้มีแนวคิดเรื่องบทบาททางเพศแบบขงจื๊อที่ฝังรากมายาวนานและยังคงทรงอิทธิพลในสังคม บวกกับชายเกาหลีใต้หลายคนมองว่าการเรียกร้องสิทธิสตรีนั้นเป็นเรื่องไร้เหตุผล เพราะพวกเธอได้รับอภิสิทธิ์จากความเป็นหญิง ทำให้ไม่ต้องถูกบังคับเกณฑ์ทหาร ไม่ต้องเสียโอกาสทางหน้าที่การงานอย่างที่เพศชายในประเทศต้องเผชิญ (ทั้งที่จริงแล้ว ปัญหาอยู่ที่การบังคับเกณฑ์ทหารด้วยซ้ำ) หลายคนในเกาหลีใต้ยังมองว่าเฟมินิสต์เรียกร้องมากเกินไป และที่ทางของผู้หญิงอย่างที่เป็นอยู่ หรือคือดำเนินชีวิตตามกรอบการเป็นลูกสาว เป็นเมีย เป็นแม่ นั้นถูกต้องแล้วเราจึงเห็นปรากฏการต่อต้านเฟมินิสต์ที่ค่อนข้างน่ากลัวในหลายกรณี เช่นย้อนไปในกรณีดังของไอรีน ไอดอลสาวแห่งวง Red Velvet ที่เคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่าเธออ่านหนังสือ ‘คิมจียอง เกิดปี 82’ ที่ใจความของเรื่องพยายามฉายให้เห็นความอึดอัดและแรงกดทับที่ผู้หญิงแต่งงานแล้วคนหนึ่งต้องเผชิญ เรียกได้ว่าเป็นงานไอคอนของน้ำเสียงเฟมินิสต์ในเกาหลีใต้ และเมื่อมีคนมองว่าไอรีนอ่านหนังสือเล่มนี้ ก็เท่ากับเธอเป็นเฟมินิสต์ ทำให้เกิดกระแสต่อต้านอย่างรุนแรง แฟนคลับชายบางคนถึงกับเผารูปและอัลบั้มของเธอแล้วโพสต์ลงอินเทอร์เน็ตเลยทีเดียว&nbsp;นอกจากนี้ยังมีอีกหลายกรณีที่แสดงให้เห็นว่ายังมีคนเกาหลีใต้จำนวนมากที่พร้อมจะแสดงความเกลียดชังใส่เฟมินิสต์ หลายครั้งก็เข้าข่ายการล่าแม่มด นั่นทำให้หลายคนไม่อยากหรือไม่กล้าออกตัวว่าเป็นเฟมินิสต์ อย่างในช่วงที่ภาพยนตร์ Barbie สร้างรายได้ล้นหลามในหลายๆ ประเทศ แต่คนดูในเกาหลีใต้กลับซบเซา ซึ่ง ชิมแฮอิน (Shim Haein) นักเรียกร้องสิทธิสตรีชาวเกาหลีใต้บอกว่า “ผู้หญิงเกาหลีอาจลังเลที่จะไปดูหนังเรื่องนี้ ความกลัวที่จะถูกแปะป้ายว่าเป็นเฟมินิสต์มีอยู่จริงค่ะ” ทั้งยังเพิ่มเติมอีกว่า “คำว่าเฟมินิสต์กลายเป็นคำต้องห้ามในบรรดาคนเกาหลี วัฒนธรรมชายเป็นใหญ่ของที่นี่ฝังรากลึกเกินไปค่ะ”&nbsp;นี่จึงเป็นกรณีศึกษาที่น่าพูดถึงอย่างยิ่ง เมื่อเกาหลีใต้มีความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจที่สูง มีซอฟต์พาวเวอร์ที่แข็งแกร่งและพยายามนำเสนอภาพผู้คนที่ดีต่อกัน ให้เกียรติกันผ่านสื่อเสมอมา แต่ในทางปฏิบัติแล้วยังมีคนอีกมากมายที่ถูกกดทับหรือกระทั่งถูกคุกคาม และแม้แต่การเปิดเผยว่าตัวเองสนันสนุนสิทธิสตรีนั้นอาจก่อให้เกิดอันตรายกับตัวเองได้ นับว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ฝั่งผู้เรียกร้องความเท่าเทียมต้องต่อสู้กันอีกยาวไกลทีเดียวอ้างอิง<a href="https://www.bbc.com/news/world-asia-67330628" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.bbc.com/news/world-asia-67330628</a>&nbsp;<a href="https://www.bbc.co.uk/news/world-asia-58082355" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.bbc.co.uk/news/world-asia-58082355</a> &nbsp;<a href="https://www.theguardian.com/world/2023/aug/02/barbie-movie-flops-south-korea-feminism" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.theguardian.com/world/2023/aug/02/barbie-movie-flops-south-korea-feminism</a> &nbsp;

นับเป็นอีกข่าวที่เป็นโศกนาฏกรรมและชวนให้หลายคนได้ตั้งคำถามถึงมาตรวัดเรื่องศีลธรรมของตัวเอง รวมถึงระบบสวัสดิการที่รัฐถึงจะเอื้อให้กับประชาชนในประเทศ เมื่อนาย Toshio Hiranouchi ชายชาวญี่ปุ่นวัย 78 ปี ตัดสินใจฆาตกรรมลูกชายวัย 44 ปีของตัวเองที่เป็นผู้พิการทางสติปัญญาตั้งแต่กำเนิด

ศาลญี่ปุ่นตัดสินให้รอลงอาญา พ่อวัย 78 ที่จบชีวิตลูกชายผู้พิการทางสติปัญญาวัย 44 เนื่องจากเห็นแก่ความทุกข์ยากที่ต้องเผชิญ และแรงจูงใจที่ต้องการรับผิดชอบต่อสังคม

เราพอทราบกันอยู่แล้วว่ารัฐจีนต้องการกลืนชาติ ‘อุยกูร์’ เพื่อสร้างจีนเดียวที่ทุกคนมีความคิดความเชื่อเป็นหนึ่งเดียวกัน และจีนก็ยังมีอีกวิธีการกลืนชาติอุยกูร์ซึ่งมุ่งเป้ามาที่ผู้หญิงโดยตรง 

ผู้หญิงชาวอุยกูร์ถูกบังคับให้ทำแท้ง ทำหมัน หรือต้องแต่งงานกับชายชาวจีน เพื่อหยุดยั้งการสืบสายเลือดชาวอุยกูร์

“Feminine Energy ทำให้ชีวิตของผู้หญิงง่ายขึ้น” กลายเป็นวาทกรรมสอนหญิงที่ได้รับความนิยมอย่างมากในแพลตฟอร์ม TikTok โดยเนื้อหาส่วนใหญ่มักระบุว่า หากผู้หญิงเพิ่ม Feminine Energy มากขึ้น จะทำให้พวกเธอสามารถดึงดูดสิ่งที่ดีเข้ามา นำไปสู่การมีชีวิตที่สบายขึ้น รวมถึงหากนำไปปรับใช้กับด้านความสัมพันธ์ จะส่งผลให้ได้รับการปฏิบัติที่ดีแบบ Princess Treatment จากคนรัก

“Feminine Energy ทำให้ชีวิตผู้หญิงง่ายขึ้น” วาทกรรมสอนหญิงจาก TikTok ที่ชวนให้คนกลับสู่กรอบบทบาททางเพศ เพื่อจะมีชีวิตที่ดี ทั้งที่จริงแล้ว ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงแบบไหน ก็สามารถมีชีวิตที่ดี และความรักที่คู่ควรได้

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Social Issues

ชายเกาหลีใต้ลงมือทำร้ายผู้หญิงเพียงเพราะเธอไว้ผมสั้น และคาดเดาว่าเธอน่าจะเป็นเฟมินิสต์

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MIRROR TEAM

RELATED

HOT TOPICS