กลายเป็นอีกหนึ่งคลิปไวรัลทาง TikTok เมื่อผู้หญิงชาวปาเลสไตน์ที่แสดงจุดยืนต่อหน้าสื่อสัญชาติอเมริกันอย่าง CNN ณ ชายแดนเมืองราฟาห์ (Rafah) ที่อยู่ระหว่างอียิปต์และฉนวนกาซา ซึ่งสำหรับเธอแล้ว อีกหนึ่งตัวการสำคัญท่ามกลางความขัดแย้งที่เกิดขึ้นก็คือสหรัฐอเมริกา

เสียงจากหญิงชาวปาเลสไตน์ที่พูดต่อหน้ากล้อง CNN และอยากส่งไปถึงสหรัฐอเมริกา

กลายเป็นอีกหนึ่งคลิปไวรัลทาง TikTok เมื่อผู้หญิงชาวปาเลสไตน์ที่แสดงจุดยืนต่อหน้าสื่อสัญชาติอเมริกันอย่าง CNN ณ ชายแดนเมืองราฟาห์ (Rafah) ที่อยู่ระหว่างอียิปต์และฉนวนกาซา ซึ่งสำหรับเธอแล้ว อีกหนึ่งตัวการสำคัญท่ามกลางความขัดแย้งที่เกิดขึ้นก็คือสหรัฐอเมริกา ที่กุมอำนาจในการเสนอภาพความขัดแย้งที่เกิดขึ้น รวมถึงภาพของชาวปาเลสไตน์ต่อสายตาชาวโลก“นี่คือปัญหาของเรา พวกคุณเป็นคนเล่าเรื่อง คุณคุม UN คุณคุมฮอลลีวูด คุมเสียงทั้งหมด แล้วเสียงของพวกเราอยู่ไหนล่ะ? เสียงของพวกเราก็ควรถูกได้ยินเหมือนกัน เราดูช่องของคุณมาตลอด และแทนที่จะสามารถคร่ำครวญให้ความตายของพวกเรา แทนที่จะไว้อาลัยแก่ความสูญเสียของเด็กๆ ปาเลสไตน์ เรากลับต้องเผชิญกับการลดทอนความเป็นมนุษย์ของชาวอาหรับ&nbsp;เราต้องการให้พวกคุณนำเสนอการกระทำของอิสราเอลด้วย ช่องของพวกคุณ (CNN) ได้เล่าเรื่องพวกนี้หรือเปล่า เล่าสิ เล่าความจริง เราเข้าใจว่าคุณก็คือพนักงาน คุณคือหุ่นเชิด คุณคือกระบอกเสียงของพวกเขา ฉันเข้าใจว่าพวกคุณมีนโยบายระหว่างประเทศ แต่เราได้ยินสิ่งที่พวกคุณเล่าทั้งหมด ฉันเข้าใจดีว่าพวกคุณกำลังทำงานให้รัฐบาลของคุณ แต่คุณคือประเทศที่เคลมเรื่อง free speech และตอนนี้คุณก็ได้เห็นภาพการยึดครองประเทศของเรา และเราก็ได้เห็นผลจากความเงียบของพวกคุณ ผลของการนำเสนอภาพชาวอาหรับที่ไม่เป็นจริง” เธอกล่าว&nbsp;เป็นที่ชัดเจนว่าสหรัฐอเมริกาสนับสนุนฝั่งอิสราเอลเต็มตัว และขณะที่กลุ่มฮามาสก่อความรุนแรงและคุกคามชีวิตผู้คนอย่างโหดร้าย แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าอิสราเอลมีสิทธิชอบธรรมในการก่อความรุนแรงต่อชาวปาเลสไตน์ที่เป็นผู้บริสุทธิ์ ซึ่งหากมองจากมุมของหญิงสาวปาเลสไตน์ในคลิป การที่สื่ออเมริกาเลือกเสนอภาพชาวอาหรับว่าเป็นผู้สนับสนุนความรุนแรง เมื่อประกอบกับความเกลียดกลัวชาวมุสลิมที่ฝังอยู่ในหัวหลายคนอยู่แล้ว ยิ่งทำให้ภาพที่ชาวปาเลสไตน์ถูกกระทำถูกกลบหายไป ไม่ได้รับการพูดถึงอย่างที่ควรจะเป็น ทั้งที่ก็มีชาวปาเลสไตน์หลายชีวิตที่ถูกฆ่า ถูกกวาดล้าง ถูกทำร้าย ถูกพรากไปจากครอบครัว ไม่ต่างจากที่ชาวอิสราเอลถูกกระทำโดยกลุ่มฮามาส สื่อมวลชนปาเลสไตน์ที่พยายามนำเสนอภาพที่เกิดขึ้นในฝั่งประเทศตนเอง ก็ถูกฆ่าโดยกองกำลังอิสราเอลเช่นกันดังนั้นแล้ว ความรุนแรงใดๆ ไม่ว่าจะมาจากฝั่งไหนก็ควรถูกประณามโดยเท่ากัน ควรถูกนำเสนออย่างที่เป็นจริงๆ อย่างที่ผู้หญิงในคลิปนี้พยายามเรียกร้องและบอกเล่า และการเรียกร้องสันติภาพควรมาจากการเจรจาของทั้งสองฝ่าย และเหล่าผู้สนับสนุนทั้งหลายที่อยู่เบื้องหลัง เพราะที่สุดแล้วผู้ที่ต้องสูญเสียจากสงครามครั้งนี้ก็คือประชาชนที่ล้วนแต่เป็นมนุษย์ธรรมดาทั้งสิ้น&nbsp;อ้างอิง<a href="https://www.tiktok.com/@trtworld/video/7292301022096051461?_r=1&_t=8gjyMJP0hRR" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.tiktok.com/@trtworld/video/7292301022096051461?_r=1&amp;_t=8gjyMJP0hRR</a> &nbsp;

เวอร์จิเนีย จุฟเฟร (Virginia Giuffre) คือหนึ่งในเหยื่อคนแรกๆ ที่ออกมาเปิดเผยเรื่องการค้าประเวณีเด็กของนักการเงินผู้มีอิทธิพลอย่างเจฟฟรีย์ เอปสตีน (Jeffey Epstein) เธอระบุว่าเอปสตีนและผู้ช่วยล่อลวงให้เธอค้าประเวณีตอนที่เธออายุเพียง 16 ปี 

Virginia Giuffre หนึ่งในผู้เปิดโปงการค้าประเวณีเด็กของ Jeffrey Epstein จบชีวิตตัวเองในวัย 41 ปี

นี่คือคอมเมนต์ (บางส่วน) จากบรรดาชาวโซเชียลฯ ที่วิพากษ์อย่างเผ็ดร้อนหลังจากการกลับมาของซีรีส์แนวหลังโลกล่มสลาย The Last of Us ในซีซั่นล่าสุดที่เริ่มต้นด้วยเรื่องราวของตัวละครหลัก กลับถูกมองว่า ภายใต้เรื่องราวความรักโรแมนติกหลังโลกล่มสลาย และการโอบรับความหลากหลายท่ามกลางความขัดแย้งเหล่านั้น อาจเป็นแค่ส่วนหนึ่งในการ ‘โรแมนติไซส์’ ความจริงอันโหดร้ายที่ถูกปัดไว้ใต้พรม

Pride in Genocide? เมื่อซีรีส์ The Last of Us ถูกวิจารณ์ว่าเป็น ‘Rainbow Washing’ การใช้ความโรแมนติกของความหลากหลาย มากลบทับความเกลียดชังปาเลสสไตน์ของผู้สร้าง

หากจะบอกว่าการทำแบบสำรวจเหล่านี้ไม่มีประโยชน์เสียทีเดียวก็พูดได้ยาก เพราะที่สุดแล้วมันก็สะท้อนแนวโน้มที่หลายๆ คนมีร่วมกันและพอจะทำให้เห็นสถิติบางอย่างและความเชื่อมโยงกับตัวเราเองได้

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Social Issues

เสียงจากหญิงชาวปาเลสไตน์ที่พูดต่อหน้ากล้อง CNN และอยากส่งไปถึงสหรัฐอเมริกา

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MIRROR TEAM

RELATED

HOT TOPICS