อิหร่านเพิ่งอนุมัติผ่านร่างกฎหมายว่าด้วยฮิญาบและพรหมจรรย์ ที่หาก ‘ผู้หญิง’ อิหร่านคนใดแต่งกายไม่เหมาะสมในสายตาผู้มีอำนาจหรือคนในสังคม จะถูกจำคุกสูงสุด 10 ปี

อิหร่านผ่านร่าง ก.ม. ว่าด้วยฮิญาบและพรหมจรรย์ ผู้หญิงแต่งกาย ‘ไม่เหมาะสม’ ถูกจำคุกสูงสุด 10 ปี และใครซัพพอร์ตพวกเธอ อาจต้องรับโทษไปด้วย

หากร่างกฎหมายว่าด้วยฮิญาบและพรหมจรรย์ (Hijab and Chastity Bill) ใน<a href="https://www.mirrorthailand.com/tags/%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99" rel="noopener noreferrer" target="_blank">อิหร่าน</a>ที่เพิ่งอนุมัติผ่านร่างกฎหมายเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2566 ถูกบังคับใช้จริงขึ้นมา <a href="https://www.mirrorthailand.com/tags/%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B8%B4%E0%B8%87" rel="noopener noreferrer" target="_blank">‘ผู้หญิง’</a> อิหร่านทุกคนที่แต่งกายไม่เหมาะสมในสายตาผู้มีอำนาจหรือคนในสังคม จะถูกจำคุกสูงสุด 10 ปี นับเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไม่ยุติธรรมในประเทศอิหร่าน เมื่อสิทธิของผู้หญิงอิหร่านที่ถูกจำกัดอย่างเข้มงวดมาตลอด มีแนวโน้มที่จะเข้มงวดมากขึ้น เมื่อสมาชิกรัฐสภาอิหร่านลงมติด้วยคะแนนเสียง 152 ต่อ 34 เสียง ให้ผ่านร่างกฎหมายฮิญาบและพรหมจรรย์ ซึ่งระบุว่าผู้หญิงที่ถูกจับได้ว่าแต่งกาย ‘ไม่เหมาะสม’ ในที่สาธารณะจะถูกลงโทษระดับที่ 4 โดยปกติแล้ว ภายใต้กฎหมายชารีอะห์ กำหนดความเหมาะสมในเรื่องการแต่งกายของผู้หญิงไว้ว่า ผู้หญิงและเด็กผู้หญิงที่พ้นวัยแรกรุ่น จะต้องคลุมผมด้วยฮิญาบ และสวมเสื้อผ้าที่ยาวและโคร่ง เพื่ออำพรางรูปร่าง ซึ่งปัจจุบันผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามอาจเสี่ยงต่อโทษจำคุกระหว่าง 10 วันถึง 2 เดือน หรือปรับระหว่าง 5,000 ถึง 500,000 เรียล แต่หากร่างกฎหมายใหม่ถูกบัญญัติเป็นกฎหมายของอิหร่านจริง โทษของผู้หญิงที่แต่งกายไม่เหมาะสมจะเพิ่มขึ้นเป็น จำคุกระหว่าง 5 ถึง 10 ปี และปรับระหว่าง 180 ถึง 360 ล้านเรียล ซึ่งถือว่าเป็นโทษที่หนักมาก และน่าเศร้าอย่างยิ่งที่การแต่งกายของผู้หญิงกลายเป็นความผิดรุนแรงได้ถึงเพียงนี้ แม้นั่นจะเป็นสิทธิในร่างกายที่พวกเธอควรมี ร่างกฎหมายยังมีค่าปรับสำหรับผู้ที่ส่งเสริมการเปลือยกาย หรือล้อเลียนฮิญาบ ในสื่อและบนสังคมออนไลน์ ไปจนถึงเจ้าของยานพาหนะที่คนขับหรือผู้โดยสารที่เป็นผู้หญิงไม่สวมฮิญาบหรือเสื้อผ้าที่เหมาะสม และบุคคลใดก็ตามที่ส่งเสริมการละเมิดการแต่งกายอย่างเป็นระบบ หรือร่วมมือกับรัฐบาล สื่อ กลุ่ม หรือองค์กรต่างชาติหรือที่เป็นปรปักษ์ ก็อาจถูกจำคุกระหว่าง 5 ถึง 10 ปีเช่นกัน นั่นหมายความว่า กฎหมายนี้ได้กีดกันคนรอบข้าง หรือ Support System ของผู้หญิงไว้อย่างรอบด้าน เพราะแค่สนับสนุนก็อาจโดนคดีตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม ก่อนร่างกฎหมายนี้จะถูกบังคับใช้ได้ ต้องถูกส่งไปเพื่อขออนุมัติจากสภาผู้พิทักษ์ (Guardian Council) ซึ่งเป็นกลุ่มนักบวชและนักกฎหมายอนุรักษ์นิยม ที่มีอำนาจว่าจะยับยั้งร่างกฎหมายนี้หากเห็นว่าไม่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญและชารีอะห์ หรืออีกทาง คือเห็นด้วย และดำเนินการต่อจนกฎหมายนี้ถูกบัญญัติขึ้นมาจริงๆ ก็ต้องคอยติดตามต่อไป อาจพูดได้ว่าส่วนหนึ่งที่กฎหมายอิหร่านต่อการแต่งกายของผู้หญิงมีแนวโน้มจะแรงขึ้นเรื่อยๆ เกิดจากความเคลื่อนไหวหลังการเสียชีวิตของ มาห์ซา อามินี (<a href="https://www.mirrorthailand.com/tags/Mahsa%20Amini" rel="noopener noreferrer" target="_blank">Mahsa Amini</a>) ที่ถูกตำรวจศีลธรรมควบคุมตัวในข้อหาสวมฮิญาบไม่เหมาะสม ทำให้ผู้หญิงหลายคนกล้ายืนหยัดต่อสู้เพื่อเธอและสิทธิของตัวเอง ไม่ว่าจะการเผาผ้าคลุมศีรษะ หรือโบกผ้าคลุมศีรษะไปมา ซึ่งก็ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคนจากการปราบปรามโดยกองกำลังความมั่นคง แต่ผู้หญิงรวมถึงเด็กผู้หญิงก็ยังยืนยันที่จะไม่คลุมผมในที่สาธารณะกันแล้ว และนั่นทำให้ผู้มีอำนาจที่อยากจะควบคุมพฤติกรรมของผู้หญิง ใช้วิธีการทางกฎหมายเพื่อที่จะจัดระเบียบทางสังคมอย่างไม่ยุติธรรม และแน่นอน มันละเมิดสิทธิมนุษยชนเต็มๆ อ้างอิง: <a href="https://www.bbc.com/news/world-middle-east-66863720" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.bbc.com/news/world-middle-east-66863720</a>&nbsp;

สำนักข่าว AP ได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยตัวตนจำนวน 4 คน ว่านโยบายนี้ถูกสั่งการโดยนาย Nicholas Burns เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศจีน เพียงไม่นานก่อนที่เขาจะหมดวาระการดำรงตำแหน่งในจีน และก่อนที่โดนัลด์ ทรัมป์ จะขึ้นสู่ตำแหน่งประธานาธิบดี

สำนักข่าว AP เผย สหรัฐฯ สั่งห้ามเจ้าหน้าที่รัฐและครอบครัวที่อยู่ในจีน คบหาเชิงโรแมนติกหรือมีความสัมพันธ์ทางเพศกับพลเมืองจีน

รายงานล่าสุดเมื่อสิ้นเดือนที่ผ่านมา รัฐบาลฝรั่งเศสกำลังพิจารณาผ่านกฎหมายปฏิรูปการศึกษาเรื่อง Sex Education ซึ่งนับว่าเป็นการปฏิรูปที่เรียกว่าโหดหินที่สุดครั้งหนึ่งของฝรั่งเศส จากการใช้เวลาผลักดันมานานกว่า 25 ปี 

ฝรั่งเศสเตรียมปฏิรูป Sex Education
ให้สอนเรื่องอัตลักษณ์ทางเพศ ความเท่าเทียม และ consent แต่ยังไม่วายถูกฝ่ายอนุรักษ์นิยมต่อต้าน เพราะมองว่า “woke เกินไป”

“Feminine Energy ทำให้ชีวิตของผู้หญิงง่ายขึ้น” กลายเป็นวาทกรรมสอนหญิงที่ได้รับความนิยมอย่างมากในแพลตฟอร์ม TikTok โดยเนื้อหาส่วนใหญ่มักระบุว่า หากผู้หญิงเพิ่ม Feminine Energy มากขึ้น จะทำให้พวกเธอสามารถดึงดูดสิ่งที่ดีเข้ามา นำไปสู่การมีชีวิตที่สบายขึ้น รวมถึงหากนำไปปรับใช้กับด้านความสัมพันธ์ จะส่งผลให้ได้รับการปฏิบัติที่ดีแบบ Princess Treatment จากคนรัก

“Feminine Energy ทำให้ชีวิตผู้หญิงง่ายขึ้น” วาทกรรมสอนหญิงจาก TikTok ที่ชวนให้คนกลับสู่กรอบบทบาททางเพศ เพื่อจะมีชีวิตที่ดี ทั้งที่จริงแล้ว ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงแบบไหน ก็สามารถมีชีวิตที่ดี และความรักที่คู่ควรได้

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Social Issues

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MIRROR TEAM

RELATED

HOT TOPICS