เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา มีหญิงสาวที่ออกมาร้องเรียนผ่านสื่อ กรณีที่เธอถูกชายคนหนึ่งลวนลามจนต้องปีนรั้วหนี ทำให้โดนแจ้งความในข้อหาบุกรุก ซ้ำยังโดนนายตำรวจคนหนึ่งเรียกเงินจากเธอพร้อมทั้งขอมีเซ็กซ์ด้วยเพื่อช่วยให้จบคดีนี้–ที่เธอไม่ได้มีความผิดใดๆ ด้วยซ้ำ

แด่ความปลอดภัยในชีวิต? กรณีหญิงสาวที่ต้องปีนรั้วหนีคนที่พยายามข่มขืน ซ้ำยังโดนนายตำรวจรีดเงินและขอมีเซ็กซ์ด้วยแลกกับการปิดคดี

ขณะที่ความปลอดภัยในชีวิตควรเป็นเรื่องพื้นฐานที่เราทุกคน ทุกเพศ พึงได้รับสำหรับการดำเนินชีวิตในสังคม แต่ข่าวที่เพิ่งเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ เป็นอีกครั้งที่ยืนยันได้ว่าเพศหญิงยังคงต้องเผชิญความเสี่ยงที่จะถูกคุกคามทางเพศอยู่แทบจะตลอดเวลา ยิ่งกว่านั้น คนที่อ้างตัวเป็นพลเมืองดี หรือกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ไม่สามารถเป็นที่พึ่งและกลายเป็นผู้ก่อเหตุด้วยซ้ำเมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา มีหญิงสาวที่ออกมาร้องเรียนผ่านสื่อ กรณีที่เธอถูกชายคนหนึ่งลวนลามจนต้องปีนรั้วหนี ทำให้โดนแจ้งความในข้อหาบุกรุก ซ้ำยังโดนนายตำรวจคนหนึ่งเรียกเงินจากเธอพร้อมทั้งขอมีเซ็กซ์ด้วยเพื่อช่วยให้จบคดีนี้–ที่เธอไม่ได้มีความผิดใดๆ ด้วยซ้ำรายละเอียดของเรื่องที่เกิดขึ้น เต็มไปด้วยประเด็นที่น่าตกใจ จากที่เธอได้ออกมาเปิดหน้าเล่าเรื่องราวผ่านรายการ ‘ถกไม่เถียง’ ร่วมกับ ‘กัน จอมพลัง’ เธอระบุว่าในวันเกิดเหตุเมื่อเดือนตุลาคมปี 2565 เธอได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์กลับบ้านหลังจากไปสังสรรค์กับเพื่อน แต่น้ำมันหมดกลางทางอีกทั้งโทรศัพท์ก็ยังแบตหมด ต่อมามีชายคนหนึ่งทำทีเป็นพลเมืองดี เข้ามาช่วยเข็นรถและแนะนำให้เธอไปชาร์จโทรศัพท์ที่บ้านของเขาก่อน จากนั้นจะช่วยเอารถไปเติมน้ำมัน ด้วยความที่เธอไม่ใช่คนในพื้นที่และบริเวณนั้นค่อนข้างเปลี่ยว จึงตัดสินใจไปกับเขาเพราะคิดว่าน่าจะปลอดภัยกว่าเมื่อถึงที่บ้าน ชายคนนั้นนำน้ำมาให้ดื่ม จากนั้นได้เข้ามาลวนลามเธอ ด้วยความกลัวจะถูกทำร้าย เธอจึงแกล้งยินยอมโดยการขอไปเข้าห้องน้ำก่อน หลังจากนั้นเธอจึงรีบหนีออกไปด้านนอก และตัดสินใจปีนรั้วเข้าไปที่บ้านที่อยู่ในบริเวณนั้นเพื่อขอความช่วยเหลือ จากนั้นเธอระบุว่ามีอาการเบลอ (ซึ่งไม่แน่ใจว่าเกิดจากน้ำที่ดื่มเข้าไปหรือไม่) และรู้ตัวอีกทีก็ถูกจับส่งโรงพัก พร้อมถูกแจ้งความในข้อหาบุกรุกเคหะสถานในเวลากลางคืนเธอต้องนอนคุกเป็นจำนวนหนึ่งคืน และในวันรุ่งขึ้นเมื่อบ้านที่แจ้งความได้รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น จึงเข้าใจและต้องการถอนแจ้งความ แต่นายตำรวจผู้เป็นเจ้าของคดีที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี ไม่ยอมให้ถอนแจ้งความพร้อมอ้างว่าเป็นคดีอาญาจึงทำให้ไม่สามารถถอนแจ้งความได้ เธอจึงต้องติดอยู่กับคดีนี้มาจนถึงปัจจุบัน ที่แย่กว่านั้นคือ ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา นายตำรวจคนดังกล่าวได้เรียกเงินจากเธอเป็นจำนวนหนึ่งแสนบาท อ้างว่าจะช่วยเหลือให้ยุติคดีในชั้นพนักงานสอบสวน ไม่ต้องไปถึงชั้นอัยการ ซึ่งเจ้าตัวไม่สามารถหาเงินหนึ่งแสนให้ได้ และขอต่อรองลดจำนวนเงิน ตำรวจรายนั้นตกลง แต่ขอมีความสัมพันธ์ทางเพศกับเธอแทน เพื่อแลกกับการจบคดีบุกรุกรวมถึงการดำเนินคดีกับชายที่อ้างตัวเป็นพลเมืองดีและลวนลามเธอ โดยฝ่ายหญิงมีคลิปเสียงที่เธออัดไว้ซึ่งชัดเจนถึงเจตนาของนายตำรวจที่ต้องการจะมีเซ็กซ์กับเธอ&nbsp;ทั้งหมดที่เกิดขึ้น สะท้อนได้ถึงความบิดเบี้ยวของผู้คนในสังคมทั้งชายคนแรกที่เห็นความเดือดร้อนของเธอ เป็นโอกาสในการข่มขืนเธอ รวมถึงนายตำรวจยศพันโทรายนี้ ที่ใช้คำว่า “วิน-วิน” กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งที่โดยหน้าที่แล้ว เขาควรให้เจ้าของบ้านที่เข้าใจผิดถอนแจ้งความได้ตั้งแต่แรก และต้องดำเนินคดีกับชายที่พยายามข่มขืนเธอ แต่นายตำรวจกลับเลือกทำสิ่งที่ตรงกันข้าม และย้ำแผลของเธอด้วยการใช้เซ็กซ์เป็นข้อแลกเปลี่ยน ซึ่งนับว่าเลวร้ายอย่างยิ่งไม่ว่าจะด้วยการมองว่าเธอเป็นเพียง ‘ชาวบ้านตัวเล็กๆ’ ที่สามารถใช้อำนาจทางกฎหมายเป็นข้ออ้างในการข่มขู่เอาเงิน หรือมองเธอเป็น ‘ผู้หญิงตัวเล็กๆ’ ที่สามารถใช้อำนาจกดขี่ให้เธอยอมมีเซ็กซ์ด้วยได้ เหล่านี้ล้วนแต่เป็นวิธีคิดที่เป็นภัยสังคม ดังนั้นแล้ว การเปิดหน้าเรียกร้องของหญิงสาวในครั้งนี้ จึงเป็นความกล้าหาญที่น่าชื่นชม แต่สิ่งที่น่ากังวลคือ ยังมีคนอื่นอีกไหมที่ถูกกระทำในลักษณะนี้แต่ไม่มีโอกาสได้ร้องเรียนผ่านสื่อจนกลายเป็นคดีที่มีคนพูดถึง และต่อจากนี้จะมีกรณีลักษณะนี้เกิดขึ้นอีกไหม? ตราบใดที่หลายคนในสังคมยังมองร่างกายเพศหญิงเป็นเพียงพื้นที่ปลดปล่อยอารมณ์ทางเพศ และไม่ได้ตระหนักรู้ที่จะเคารพในสิทธิของกันและกัน ก็คงเป็นเรื่องยากที่ผู้หญิงจะสามารถใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างปลอดภัยอย่างที่ควรจะเป็น&nbsp;อ้างอิง<a href="https://www.youtube.com/watch?v=WIDObM48c44" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.youtube.com/watch?v=WIDObM48c44</a> &nbsp;<a href="https://www.youtube.com/watch?v=RfMNAJ9a3_4" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.youtube.com/watch?v=RfMNAJ9a3_4</a> &nbsp;

ย้อนไปเมื่อต้นปี 2023 ม้าตัวหนึ่งหัวใจวายตายขณะถ่ายทำซีรีส์ The Ring of Power ขณะที่เมื่อปี 2011 เสือชื่อคิงก็เกือบจมน้ำตายระหว่างการถ่ายทำหนังเรื่อง Life of Pi ในฉากที่จำเป็นต้องใช้เสือจริงๆ แทนซีจี  ฯลฯ และเช่นเดียวกับเคสแมวดำในซีรีส์ ‘แม่หยัว’ มีสัตว์หลายชีวิตต้องสูญเสียสวัสดิภาพของตัวเอง เพื่อตอบสนอง ‘ความสมจริง’ ในการถ่ายทำ โดยที่มันไม่สามารถให้ความยินยอมหรือเรียกร้องอะไรได้

เมื่อดิสเคลมเมอร์ “No Animal Were Harmed” ในหนังฮอลลีวูด ก็ไม่อาจการันตีสวัสดิภาพสัตว์ได้ 100% 


Ashley Ai-Xi คือนักแสดงหนังโป๊ชาวไต้หวันที่ออกมาบอกเล่าประเด็นเรื่องการแกล้งเสร็จของผู้หญิง ให้คนได้แวะกลับมาทำความเข้าใจเรื่องนี้กันอีกสักครั้ง

 มุมมองเรื่องการแกล้งเสร็จ ของ Ashley Ai-Xi นักแสดงหนังโป๊ชาวไต้หวันผู้มีอีกหนึ่งอาชีพเป็นครูสอน รร. กวดวิชา

แม้จะไม่ได้มีกฎข้อห้ามอย่างชัดเจน แต่ดูเหมือนว่าประเด็นที่บรรดานักแสดงตลกในจีนต่างรู้กันว่า ‘ไม่พูดดีกว่า ถ้าไม่อยากเดือดร้อน’ ก็เห็นจะต้องยกให้เป็นเรื่องการเมือง เรื่องทหาร กับเรื่องของ ‘ความเป็นชาย’ มาเป็นอันดับต้นๆ 

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Social Issues

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MIRROR TEAM

RELATED

HOT TOPICS