‘อิตาลี’ ที่ล่าสุดได้ออกกฎหมายใหม่ ไล่ลบชื่อคุณแม่จากครอบครัวคู่รักเพศเดียวกัน หรือคุณแม่เลสเบี้ยน ออกจากสูติบัตรของลูกอย่างไม่ยุติธรรม และทำให้แม่ที่เคยเป็นแม่ กลายเป็นคนอื่นในทันที

แม่ๆ เลสเบี้ยนในอิตาลี ถูกลบสถานะ ‘แม่’ ในสูติบัตรของลูกอย่างไม่เป็นธรรม จากกฎหมายที่ยึดให้เด็กมีพ่อ-แม่ตามสายเลือด

ใกล้เข้าสู่สิงหาคม เดือนแห่งวัน<a href="https://www.mirrorthailand.com/tags/%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88" rel="noopener noreferrer" target="_blank">แม่</a>ของไทย แต่คุณแม่หญิงรักหญิง หรือคุณแม่เพศหลากหลายหลายคนในไทยกลับยังไม่สามารถมีสิทธิเป็นแม่ที่ถูกต้องตามกฎหมายได้ ทำให้ลูกๆ ของคุณแม่เหล่านี้ขาดสิทธิในการใช้ชีวิตหลายต่อหลายอย่าง เช่นเดียวกับใน ‘อิตาลี’ ที่ล่าสุดได้ออกกฎหมายใหม่ ไล่ลบชื่อคุณแม่จากครอบครัวคู่รักเพศเดียวกัน ออกจากสูติบัตรของลูกอย่างไม่ยุติธรรม และทำให้แม่ที่เคยเป็นแม่ กลายเป็นคนอื่นในทันที เรื่องเริ่มต้นขึ้นเมื่อต้นปี รัฐบาลอิตาลีสั่งให้หน่วยงานรัฐยุติการจดทะเบียนเด็กที่เกิดจากคู่รักเพศเดียวกัน และในเดือนกรกฎาคม ปี 2023 นี้ รัฐบาลอิตาลีก็ดันเพดานความไม่เท่าเทียมทางเพศให้สูงขึ้นไปอีก เพราะไม่ใช่แค่ยุติการจดทะเบียน แต่คนที่เคยมีชื่อในทะเบียนว่าเป็น ‘แม่’ ของลูกไปแล้ว อัยการของรัฐทางตอนเหนืออย่างเมืองปาดัว ก็ได้ทยอยลบสถานะความเป็นแม่ในใบสูติบัตร และได้ออกสูติบัตรใหม่ๆ ให้เด็กๆ จากครอบครัวคุณแม่คู่รัก<a href="https://www.mirrorthailand.com/tags/%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%AA%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%A2%E0%B8%99" rel="noopener noreferrer" target="_blank">เลสเบี้ยน</a>ไปแล้ว 27 ใบ จาก 33 ใบ ภายใต้กฎหมายใหม่ที่ออกโดยรัฐบาลนายกฯ Giorgia Meloni ที่ยึดถือ “traditional family-first” หรือครอบครัวตามประเพณี หรือครอบครัวที่เกิดจากดีเอ็นเอ หรือสายเลือดเดียวกันอย่างเดียว และเป็นคนที่มีแนวคิดต่อต้าน <a href="https://www.mirrorthailand.com/tags/LGBTQ+" rel="noopener noreferrer" target="_blank">LGBTQ+</a> ชัดเจน ที่เชื่อว่า “ทารกทุกคนเกิดจากผู้ชายและผู้หญิง” สูติบัตร 33 ใบที่ว่า เป็นสูติบัตรของลูกที่เกิดจากการผสมเทียมนอกประเทศ (ประเทศที่เปิดรับเรื่องเพศ) จากนั้นคุณแม่หญิงรักหญิงก็นำมาจดทะเบียนบุตรภายใต้รัฐบาล Sergio Giordani ในปี 2017 ซึ่งแปลว่าอิตาลีเคยสามารถทลายกรอบความเป็นแม่ หรือพ่อ ในสายเลือดที่ปรากฏบนสูติบัตรได้ระยะหนึ่ง ก่อนที่นายกฯ คนใหม่นี้จะหยุดทุกสิ่งไว้ และหวนคืนสู่ยุคแห่งความไม่เท่าเทียมเต็มระบบอีกครั้ง กฎหมายนี้จึงมีความหมายว่า ผู้ปกครองตามสายเลือดเท่านั้นที่จะสามารถเป็นแม่ หรือพ่อในสูติบัตรได้ ซึ่งแน่นอนว่า เด็กบางคนที่ทำการผสมเทียมมา ก็จะกลายเป็นคนที่ไม่มีแม่ หรือพ่อทันที และหากว่ากันตามความเป็นจริง เด็กบางคนที่เป็นลูกบุญธรรม ที่พ่อ-แม่ ตามสายเลือดยังมีตัวตนอยู่ ก็คงไม่อยากจะให้พวกเขาที่ไม่ได้เลี้ยงมา อยู่ในสูติบัตรเช่นเดียวกัน ซึ่งในอิตาลี การตั้งครรภ์แทน หรืออุ้มบุญ เป็นเรื่องผิดกฎหมาย มีโทษจำคุก 2 ปี และปรับมากกว่า 1 ล้านดอลลาร์ การแต่งงานของคู่รักเพศเดียวกันก็ยังไม่ได้รับการยอมรับในทางกฎหมาย ผู้ปกครองที่ไม่ได้มีสายเลือดจะต้องยื่นเรื่องเป็นกรณีพิเศษเพื่อรับเป็นบุตรบุญธรรม และหากจะรับบุตรบุญธรรม ก็จะต้องมีคนใดคนหนึ่งที่ได้สถานะผู้ปกครองไป ไม่สามารถเป็นแม่-แม่ หรือ พ่อ-พ่อ ได้ ซึ่งไม่ต่างจากกฎหมายไทยที่เป็นไปในลักษณะนี้ แม้รัฐมนตรีกระทรวงครอบครัวจะออกมายืนยันว่า “ไม่มีการเลือกปฏิบัติต่อเด็ก” เพราะลูกของคู่รักเพศเดียวกันยังสามารถเข้าโรงเรียน และได้รับบริการทางการแพทย์ได้เหมือนกับผู้ที่มีพ่อแม่เพียงคนเดียว แต่สุดท้าย มันก็ยังเป็นการเลือกปฏิบัติอยู่ดี ตั้งแต่ที่เด็กไม่สามารถมีผู้ปกครองได้ 2 คน หรือมีแม่ 2 คน หรือ พ่อ 2 คน ได้ เพราะหากคนใดคนหนึ่งเกิดเป็นอะไรขึ้นมา เด็กคนนี้จะไม่เหลือผู้ปกครองตามกฎหมายเลย “เราไม่ได้ขออะไรมากนอกจากขอให้ลูกๆ ของเราเป็นเพียงแค่พลเมือง ที่ได้รับการคุ้มครองอย่างเต็มที่ และครอบครัวของเราไม่ควรถูกทำลายด้วยเรื่องทางการเมืองนี้ ที่รัฐบาลกำหนดโมเดล single family ให้” LGBTQ+ จากกลุ่มรณรงค์ Rainbow Family Association กล่าว เพราะสิทธิในการเป็นแม่ เป็นพ่อ เป็นลูก ในครอบครัว LGBTQ+ เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่มนุษย์ทุกคนควรได้รับ ไม่ใช่สิทธิพิเศษเหนือคนอื่นแต่อย่างใด เราขอร่วมส่งกำลังใจให้คุณแม่เลสเบี้ยนในอิตาลีที่แม้จะถูกลบสถานะแม่ในสูติบัตรไปแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าความเป็นแม่จะถูกลบหายไปด้วย แต่มากกว่านั้น เราหวังว่าความเท่าเทียมทางเพศทางด้านกฎหมายจะเกิดขึ้นโดยเร็ววันในอิตาลี รวมถึงประเทศไทยที่ยังคงต้องร่วมสู้กันต่อไปเช่นกัน อ้างอิง: <a href="https://edition.cnn.com/2023/07/21/europe/italy-lesbian-couples-birth-certificates-scli-intl/index.html" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://edition.cnn.com/2023/07/21/europe/italy-lesbian-couples-birth-certificates-scli-intl/index.html</a> <a href="https://www.hrw.org/news/2023/07/24/italys-mounting-attack-lesbian-parents" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.hrw.org/news/2023/07/24/italys-mounting-attack-lesbian-parents</a>&nbsp;

เมื่อพูดถึงความรุนแรงในครอบครัวหรือความรุนแรงต่อผู้หญิง หลายคนอาจเห็นภาพการลงไม้ลงมือทำร้าย แต่อันที่จริง การใช้คำพูดทำร้ายอีกฝ่ายโดยเฉพาะในคู่รัก ก็นับเป็นความรุนแรงอย่างหนึ่งเช่นกัน 

ผู้หญิงมักถูกคนรักของตัวเองใช้คำพูดทำร้ายด้วยเรื่องไหนบ้าง?

นักศึกษาหญิงชาวอิหร่านถูกเจ้าหน้าที่จับกุม หลังจากเธอตัดสินใจถอดฮิญาบ ปล่อยผมสยาย และเปลื้องผ้าให้เหลือแต่ชุดชั้นใน เดินไปรอบๆ มหาวิทยาลัยของเธอ เพื่อประท้วงต่อต้านกฏบังคับอันเคร่งครัดที่ให้ผู้หญิงทุกคนในประเทศแต่งกายอย่างมิดชิดตั้งแต่หัวจรดเท้าตามหลักศาสนาอิสลาม

นักศึกษาหญิงชาวอิหร่านถอดฮิญาบ เปลื้องผ้าประท้วง ในมหาวิทยาลัย เพื่อต่อต้านกฏที่บังคับให้ผู้หญิงต้องปกปิดทั้งร่างกายและเส้นผม จนถูกจับกุมและยังไม่รู้ว่าตอนนี้เธออยู่ไหน

เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น อาเจะห์คือจังหวัดที่ยังมีการลงโทษคนด้วยการเฆี่ยนตี และมีกฎหมายบังคับให้ผู้หญิงต้องสวมใส่ฮิญาบ อีกทั้งผู้หญิงส่วนมากยังต้องอยู่แต่ในบ้านและมีโอกาสทางการศึกษาและอาชีพน้อยกว่าผู้ชายหลายเท่า ดังนั้น สำหรับพื้นที่อื่นๆ บนโลกนี้ การมีผู้หญิงเป็นเจ้าของร้านกาแฟคงไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร แต่สำหรับที่อาเจะห์ นี่เป็นเรื่องที่น่าพูดถึง

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Social Issues

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MIRROR TEAM

RELATED

HOT TOPICS