มีผู้หญิงอิสลามหลายคนไม่เห็นด้วยกับความชายเป็นใหญ่ ที่ผู้ชายในศาสนาอิสลามสามารถมีเมียได้หลายคน แม้ฝ่ายหญิงจะไม่ยินยอมพร้อมใจ

ผลสำรวจจากอินเดียเผย ผู้หญิงมุสลิม 76% ไม่เห็นด้วยที่ผู้ชายมีเมียได้ถึง 4 คน และ อีกจำนวนมาก อยากได้ความเท่าเทียมในฐานะ ‘คู่ชีวิต’

เมื่อยุคสมัยเปลี่ยน ข้อบังคับหรือวัฒนธรรมในหลายๆ ศาสนา ก็ถูกผู้คนตั้งคำถามถึงว่ามันยังเวิร์กอยู่ไหม หรือไปละเมิดสิทธิใครหรือเปล่า อย่างกรณีของศาสนาอิสลาม ที่โลกยุคใหม่พบว่ามีธรรมเนียมปฏิบัติหลายข้อที่แย้งกับสิทธิสตรี หนึ่งในนั้นคือเรื่องที่ผู้ชายในศาสนาอิสลามสามารถมีเมียได้หลายคน แม้ฝ่ายหญิงจะไม่ยินยอมพร้อมใจ ซึ่งจากผลสำรวจ ก็มีผู้หญิงอิสลามหลายคนไม่เห็นด้วยกับความชายเป็นใหญ่นี้ และบางครั้งการจะออกมาพูดตรงๆ ว่าฉันไม่เห็นด้วย กลับไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีคนอยากเปลี่ยนแปลงมัน สำนักข่าว News18 ได้สัมภาษณ์ผู้หญิงมุสลิม 8,035 คน ช่วงอายุ 18-65 ปีขึ้นไป ใน 25 รัฐ และดินแดนสหภาพ (Union Territories) ในอินเดีย เกี่ยวกับหลักการ Uniform Civil Code (UCC) ซึ่งเป็นกฎหมายที่ควบคุมไปถึงเรื่องส่วนบุคคล เช่น การแต่งงาน การหย่าร้าง มรดก และการรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมสำหรับพลเมืองทุกคน โดยไม่คำนึงถึงศาสนาของพวกเขา เนื่องจากอินเดียถือเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางศาสนา กฎหมายฉบับนี้จึงครอบคลุมทุกศาสนา ไม่ใช่แค่ศาสนาอิสลามเท่านั้น แปลว่าหากกฎหมายฉบับนี้บังคับใช้ขึ้นมาจริงๆ จากที่ผู้ชายมุสลิมสามารถมีภรรยาได้มากถึง 4 คน ก็จะไม่สามารถเกิดขึ้น อีกทั้งฝ่ายหญิงก็จะมีสิทธิไม่เห็นด้วยกับการกระทำของสามีตัวเองได้ แน่นอนว่าเหล่าองค์กรมุสลิมในประเทศ มีปฏิกิริยาต่อต้านอย่างรุนแรง โดยองค์กรเอกชนอย่าง All India Muslim Personal Law Board (AIMPLB) ได้ออกมายืนยันว่า ‘ศีลธรรมของคนส่วนใหญ่’ ไม่ควรจะขัดกับหลักศาสนา ทั้งในเรื่องเสรีภาพและสิทธิต่างๆ แต่หากลองถามผู้หญิงเกี่ยวกับเรื่องนี้ล่ะ? สิ่งที่โพลของ News18 พบก็คือ ผู้หญิงมุสลิม 67.2% เห็นด้วยหากมีการบังคับใช้กฎหมาย UCC 76.5% ของผู้หญิงมุสลิม ไม่เห็นด้วยกับการที่ผู้ชายสามารถมีภรรยาได้หลายคน และกล่าวว่าผู้ชายมุสลิมไม่ควรมีสิทธิแต่งงานกับผู้หญิง 4 คน 82.3% ของผู้หญิงมุสลิม สนับสนุนให้ผู้หญิงมีสิทธิเท่าเทียมกันในการสืบทอด หรือรับมรดกโดยไม่คำนึงถึงเพศ 73.7% ของผู้หญิงมุสลิม เห็นว่าคู่หย่าร้างควรได้รับอนุญาตให้แต่งงานใหม่ได้โดยไม่มีข้อจำกัดใด 64.9% ของผู้หญิงมุสลิม เห็นว่าควรอนุญาตให้รับบุตรบุญธรรมได้โดยไม่คำนึงถึงศาสนา และ 78.7% ของผู้หญิงมุสลิม สนับสนุนการเพิ่มอายุขั้นต่ำในการแต่งงานของทั้งชายและหญิงเป็น 21 ปี จะเห็นได้ว่ามีผู้หญิงเกินกว่าครึ่งจากการสำรวจ ที่อยากให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในศาสนาตัวเอง เพื่อความเท่าเทียมทางเพศโดยเฉพาะในเรื่องของชีวิตคู่ ที่สิทธิต่างๆ ไม่ควรจะมีไว้เพื่อขึ้นอยู่กับผู้ชายฝ่ายเดียว นี่จึงถึงเวลาที่เหล่าผู้เคยถืออำนาจเอาไว้ ควรยอมปล่อยมือจากอำนาจที่ไม่เป็นธรรมเหล่านั้นได้แล้ว แม้คุณจะชินกับการมองตัวเองสูงกว่า แต่ก็ควรเริ่มมองคนอื่นๆ เพศอื่นๆ เป็นมนุษย์ที่พึงมีสิทธิเท่าเทียมกันเสียที เพราะผลสำรวจนี้ได้ยืนยันแล้วว่ามีคนทนทุกข์กับข้อปฏิบัติที่กดทับนี้มากขนาดไหน และคงน่าเศร้าเกินไป หากเสียงเหล่านี้ของพวกเธอจะไม่ถูกรับฟัง เพียงเพราะความยึดติดของใครบางคน อ้างอิง: <a href="https://www.news18.com/india/news18-mega-poll-marriage-divorce-to-inheritance-muslim-women-support-tenets-of-ucc-7-key-findings-8291473.html" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.news18.com/india/news18-mega-poll-marriage-divorce-to-inheritance-muslim-women-support-tenets-of-ucc-7-key-findings-8291473.html</a>&nbsp;

ศูนย์สำรวจความคิดเห็น ‘นิด้าโพล’ ในช่วงต้นปี 2567 พบว่า สายตาที่ประชาชนหลายคนมองไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กลับยังมีความ ‘ไม่ไว้ใจ’ ในการทำงานของเจ้าหน้าที่อยู่มาก

ผลสำรวจปี 67 พบว่า คนไทยหวาดกลัวต่ออาชญากรรมค่อนข้างมาก ขณะเดียวกันก็ไม่เชื่อมั่นใน ‘ตำรวจ’ ทั้งยังคาดหวังให้ตำรวจตรวจสอบได้ ทำงานเร็ว และไม่เลือกปฏิบัติ ฯลฯ

หนึ่งในคนที่ขับเคลื่อนประเด็นออทิสซึมมานานนับทศวรรษคือ แจ็กเคอลีน จาบลอนสกี (Jacquelyn Jablonski) ที่หลายคนอาจคุ้นเคยในฐานะนางแบบชั้นนำของแบรนด์แฟชั่นหลายสำนัก แต่นอกจากงานแฟชั่น เธอแน่วแน่กับการสื่อสารประเด็นออทิสติก

Jacquelyn Jablonski นางแบบสาวที่ตั้งใจสื่อสารประเด็น ‘ออทิสติก’ จากการเติบโตมากับน้องชายออทิสติกแต่กำเนิด

ขณะที่สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล และปาเลสไตน์ ไม่มีทีท่าว่าจะทุเลาลง ในพื้นที่อย่างสถาบันการศึกษาซึ่งควรจะเปิดกว้างต่อการแสดงออกทางความคิดได้อย่างเสรีของคนรุ่นใหม่ ก็อาจกำลังเกิดประเด็นที่สร้างความขัดแย้งไม่น้อยไปกว่ากัน เมื่อแถลงการณ์ล่าสุดจากมหาวิทยาลัย USC ในแคลิฟอร์เนีย (University of Southern California) ประกาศยกเลิกการกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีจบการศึกษาประจำปีนี้ เนื่องจากตัวแทนนักศึกษาปริญญาตรีผู้กล่าวสุนทรพจน์ที่กำลังจะจัดขึ้นในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ ถูกกล่าวหาว่าเป็นฝ่าย ‘สนับสนุนปาเลสไตน์’ (Pro-Palestinian)

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

CONVERSATION

VDO

Social Issues

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MIRROR TEAM

RELATED

HOT TOPICS