นิยามของ ‘ช่องว่าง’ ระหว่างคู่รักต่างวัยดูจะถูกถ่างออกไปอีก เมื่อโลกหมุนไวจนบีบให้คนที่แม้จะไม่ได้อายุห่างกันมากนัก รู้สึกห่างกันมากขึ้นโดยปริยาย

เสียงจากมิลเลนเนียลที่กำลังเดตกับคนเจนฯ Z

โดยปกติแล้วเรามักจะเข้าใจว่า ‘Age Gap Relationship’ หมายถึงคู่รักที่มีอายุห่างกันอย่างน้อยๆ ก็ 10 ปี หรือมากกว่า ซึ่งความห่างของวัยอาจทำให้เกิดปัญหาช่องว่างในความสัมพันธ์ตามมา แต่ดูเหมือนว่าทุกวันนี้ นิยามของ ‘ช่องว่าง’ ระหว่างคู่รักต่างวัยดูจะถูกถ่างออกไปอีก เมื่อโลกหมุนไวจนบีบให้คนที่แม้จะไม่ได้อายุห่างกันมากนัก รู้สึกห่างกันมากขึ้นโดยปริยาย บทความในเว็บไซต์ Vice ได้ยกตัวอย่างคู่รักที่เจอปัญหาเล็กๆ ของการเดตระหว่างคนเจนฯ Z (คนที่เกิดช่วงปลายปี 1990s ถึงต้นปี 2000s) กับคนเจนฯ มิลเลนเนียล (คนที่เกิดช่วงระหว่างปี 1981-1996) ที่แม้ดูเหมือนจะไม่ได้ห่างกันมากนัก แต่คัลเจอร์ของทั้งสองเจนฯ กลับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เช่น หากพูดถึงปี 2003 สำหรับคนเจนฯ Z ในตอนนี้ก็อาจเรียกว่า ‘วินเทจ’ ได้แล้ว พวกเขาอาจนึกไม่ออกเลยว่าโลกที่ไม่มี iPhone กับการฟังเพลงแบบไม่มีสตรีมมิงนั้นหน้าตาเป็นอย่างไร หรือไม่รู้เลยว่าแฟชั่น Y2K ที่กำลังฮิตอยู่ตอนนี้เคยมีหมดมาแล้วในปี 2000s ขณะที่มิลเลนเนียลผู้เคยฟังเพลงจากโปรแกรม Winamp หรือบรรจงโหลดไฟล์ MP3 ลงในเครื่องเล่น MP3 ก็ยากที่จะอธิบายให้คนเจนฯ Z ที่โตมากับการฟังเพลงแบบกดข้ามได้ไม่จำกัดเห็นภาพว่าทำไมกว่าจะเข้าถึงเอนเตอร์เทนเมนต์ได้แต่ละทีถึงต้องยากเย็นขนาดนั้น ฟังเหมือนเป็นเรื่องขำๆ แต่เอาเข้าจริงช่องว่างระหว่างวัยของคน 2 เจนฯ ที่กว้างขึ้นนี้ก็น่าคิดอยู่เหมือนกัน ลองนึกภาพว่าถ้าเป็นเมื่อก่อนคนที่เกิดปี 2000s ก็อาจจะไม่ได้รู้สึกห่างจากคนที่เกิดปี 1990s มากนัก เพราะยังอยู่ในกลิ่นอายของคัลเจอร์คล้ายๆ กันอยู่ แต่ด้วยอิทธิพลของการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรม บวกกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี รวมถึงเทรนด์ต่างๆ ที่มาเร็วไปเร็ว ‘Age Gap Relationship’ จึงไม่ได้หมายความว่าต้องเป็นคู่รักที่อายุต่างกันเป็นสิบปี ถึงจะมีปัญหาเรื่องช่องว่างระหว่างวัย เพราะยุคนี้แค่เกิดห่างกันสัก 5 ปี วัฒนธรรมการใช้ชีวิตก็อาจแตกต่างกันมากมายราวฟ้ากับเหว และเมื่อชาวมิลเลนเนียลต้องเดตกับคนเจนฯ หลังตัวเองไม่มากอย่างเจนฯ Z ก็อาจเป็นธรรมดาที่จะรู้สึกสงสัยว่าตัวเองนั้น ‘เเก่’ เกินไปหรือเปล่า &nbsp; ความต่างกันของบริบททางสังคมและวัฒนธรรมไม่เพียงส่งผลให้คู่รักต่างเจนฯ จูนกันได้ยากขึ้น ทัศนคติ และการมองโลกด้วยประสบการณ์การรับรู้ที่ไม่เหมือนกันยังมีส่วนทำให้คน 2 เจนฯ สื่อสารผิดเพี้ยน จนถึงกับเข้าใจกันไปคนละความหมายอีกด้วย อย่างเช่น Roxy ฝ่ายแคสติ้งวัย 30 ที่กำลังเดตกับหนุ่มวัย 21 ผู้ซึ่งตอนแรกเธอคิดว่าอายุห่างกันไม่ใช่อุปสรรคของการคบกันแต่อย่างใด จนกระทั่งไปเจอกลุ่มเพื่อนๆ ของเขา “น้องผู้หญิงคนหนึ่งถามฉันว่าฉันมีลูกแล้วกี่คน คือเธอใช้คำว่า ‘กี่คน’ ไม่ได้ถามเลยว่าฉันมีลูกแล้วหรือยังด้วยซ้ำ” Roxy เล่า “ที่หนักกว่านั้น เธอบอกว่าอยากจะมีลุคแบบ ‘คุณแม่แซ่บๆ’ อย่างฉันตอนเธอแก่เท่าฉันด้วย” “สำหรับผู้หญิง การเดตคนอายุน้อยกว่าไม่เคยง่ายค่ะ เพราะคุณกำลังต่อสู้กับ ‘นาฬิกา’ ในร่างกายตัวเองอยู่ตลอดเวลา และการยืนอยู่บนระยะทางของชีวิตที่ต่างกัน ก็เป็นตัววัดดวงเลยว่าการคบกันจะรอดหรือไม่รอด” Roxy กล่าว และถึงแม้ทั้งเจนฯ Z กับมิลเลนเนียลจะโตมากับยุคที่มีอินเทอร์เน็ตแล้วเหมือนกัน ก็ใช่ว่าการใช้งานอินเทอร์เน็ตเมื่อ 10 ปีที่แล้วกับตอนนี้จะเหมือนกันเสียทีเดียว บางครั้งช่องว่างระหว่างวัยก็เกิดจากไลฟ์สไตล์การเสพเทคโนโลยีที่ไม่เหมือนกันนี่เอง อย่าง Naomi นักดนตรีสาววัย 33 ผู้ไม่เล่น TikTok แต่เคยเดตกับคนวัย 20 ที่ใช้ TikTok เหมือนเป็นปัจจัย 4 ในชีวิต เธอสารภาพว่าบางครั้งก็ทำให้คุยกันไม่รู้เรื่อง “ความแตกต่างมากๆ ของเราคือไลฟ์สไตล์การเสพสื่อหรือข้อมูลที่ไม่เหมือนกัน สำหรับพวกเขา TikTok คือทุกสิ่งอย่าง เทรนด์ไหนกำลังมา ประเด็นไหนกำลังเป็นกระแส คนไหนดัง เพลงไหนฮิต ฯลฯ ส่วนฉันยังต้องพึ่งพา Google เพื่อทำความเข้าใจเทรนด์ต่างๆ พวกนั้นอีกทีอยู่เลย” &nbsp; แต่การโตมากับการเสพสื่อและฐานข้อมูลที่ต่างกันก็ไม่ใช่เรื่องแย่ไปเสียทั้งหมด Naomi บอกว่า ที่สุดแล้ว คนเจนฯ Z TikTok อาจมีความตระหนักและเท่าทันข้อมูลได้ดีกว่าตอนที่เธออายุเท่าพวกเขาด้วยซ้ำ นั่นทำให้เธอรู้สึกว่าแม้จะคบกับคนอายุห่างกันก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะพวกเขามีวุฒิภาวะไม่น้อยไปกว่าเธอ ในทางกลับกันความเห็นของฝั่งคนเจนฯ Z ที่กำลังเดตกับมิลเลนเนียลก็ช่วยให้เราเข้าใจภาพใหญ่ได้ชัดเจนขึ้น เช่น Emily วิศกรวัย 24 ที่เดตกับคนหนุ่มวัย 33 และการที่สมัยเรียนมัธยมเขาไม่มีสมาร์ทโฟนเหมือนทุกวันนี้ ทำให้เธอนึกแทบไม่ออกเลยว่าเขาเป็นอย่างไรตอนนั้น ภาพถ่ายก็ไม่มี ไม่รู้ว่าหน้าตาอย่างไร ไลฟ์สไตล์ที่ผ่านมาเป็นอย่างไร ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ต่างจากยุคของเธอที่มีทั้งเฟซบุ๊ก อินสตาเเกรม และช่องทางโซเชียลอื่นๆ ที่พร้อมบันทึกทุกสิ่ง ทุกโมเมนต์ จะไถย้อนดูเรื่องราวในอดีตตอนไหนก็ได้ เมื่อไรก็ได้ ซึ่งน่าจะทำให้การทำความรู้จักกันของคนสองคนดูจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากกว่าสำหรับเจนฯ Z อย่างเธอ อย่างไรก็ตาม ความหมุนไวของโลกก็ยังพอมีข้อดีอยู่บ้าง ตรงที่มันหมุนเอาวัฒนธรรมของความเก่าและใหม่ของคนหลากหลายเจนฯ มาเบลนด์รวมกัน อย่างเช่นทุกวันนี้ที่หลายคนกลับไปกรอเทปคาสเซต ซื้อเครื่องเล่น Walkman หรือมีสตรีมมิงครบทุกแพลตฟอร์ม แต่ก็ยังอยากฟังเพลงจากแผ่นเสียงบ้างในบางครั้ง และเพราะแทบจะทุกเทรนด์ที่เกิดขึ้นตอนนี้ล้วนมี Cultural Reference มาจากสิ่งที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนแล้ว ความต่างระหว่างคัลเจอร์จึงไม่น่าจะเป็นปัจจัยสำคัญหรือเป็นเรื่องใหญ่อะไรที่ทำให้คน 2 เจนฯ จูนกันไม่ติด อ้างอิง <a href="https://www.vice.com/en/article/n7e49z/gen-z-dating-millenials" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.vice.com/en/article/n7e49z/gen-z-dating-millenials</a>

สำนักข่าว AP ได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยตัวตนจำนวน 4 คน ว่านโยบายนี้ถูกสั่งการโดยนาย Nicholas Burns เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศจีน เพียงไม่นานก่อนที่เขาจะหมดวาระการดำรงตำแหน่งในจีน และก่อนที่โดนัลด์ ทรัมป์ จะขึ้นสู่ตำแหน่งประธานาธิบดี

สำนักข่าว AP เผย สหรัฐฯ สั่งห้ามเจ้าหน้าที่รัฐและครอบครัวที่อยู่ในจีน คบหาเชิงโรแมนติกหรือมีความสัมพันธ์ทางเพศกับพลเมืองจีน

จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมา อีกหนึ่งประเด็นที่ได้รับกระแสวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมากคือ ‘การทำงานของสื่อมวลชน’ เนื่องจากสำนักข่าวบางส่วนยังคงเลือกสัมภาษณ์แหล่งข่าว ‘ผู้ประสบภัย’ ณ ที่เกิดเหตุ ซึ่งเพิ่งเผชิญสถานการณ์เลวร้ายและกระทบจิตใจอย่างตึกถล่มมาได้ไม่นาน

‘ซ้ำเติมผู้เสียหาย’ การทำงานที่ไร้จรรยาบรรณของสื่อ อีกหนึ่งบทเรียนจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและตึกถล่ม ที่สื่อมวลชนไทยบางส่วนไม่เคย (ยอม) เรียนรู้เสียที

“Feminine Energy ทำให้ชีวิตของผู้หญิงง่ายขึ้น” กลายเป็นวาทกรรมสอนหญิงที่ได้รับความนิยมอย่างมากในแพลตฟอร์ม TikTok โดยเนื้อหาส่วนใหญ่มักระบุว่า หากผู้หญิงเพิ่ม Feminine Energy มากขึ้น จะทำให้พวกเธอสามารถดึงดูดสิ่งที่ดีเข้ามา นำไปสู่การมีชีวิตที่สบายขึ้น รวมถึงหากนำไปปรับใช้กับด้านความสัมพันธ์ จะส่งผลให้ได้รับการปฏิบัติที่ดีแบบ Princess Treatment จากคนรัก

“Feminine Energy ทำให้ชีวิตผู้หญิงง่ายขึ้น” วาทกรรมสอนหญิงจาก TikTok ที่ชวนให้คนกลับสู่กรอบบทบาททางเพศ เพื่อจะมีชีวิตที่ดี ทั้งที่จริงแล้ว ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงแบบไหน ก็สามารถมีชีวิตที่ดี และความรักที่คู่ควรได้

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Sex

เสียงจากมิลเลนเนียลที่กำลังเดตกับคนเจนฯ Z

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

NUT LELAPUTRA

RELATED

HOT TOPICS