เราสามารถใช้คำว่ารักกับคนที่เพิ่งเจอกันแค่ไม่กี่วันได้จริงหรือ? 

‘รักแรกพบ’ หรือแค่เขาตรงสเปก เมื่ออาการใจเต้นแต่แรกเห็น เป็นเรื่องการหลั่งของฮอร์โมนมากกว่าความรัก

โชคชะตาส่งโชคใหญ่มาให้คนสองคนเจอกัน และพร้อมจะรักทันทีในเวลาสั้นๆ ราวกับเป็นชั่วโมงต้องมนตร์ที่เรียกว่า ‘รักแรกพบ’&nbsp;หรือ Love at first sight เหมือนที่คู่รักจากหลายซีรีส์จ้องตากันแล้วรู้สึกตกหลุมรักตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ หรือจะเป็นเหล่าเจ้าหญิงดิสนีย์ที่เราคุ้นเคย ทั้งออโรร่า สโนว์ไวท์ หรือแอเรียล ที่พวกเธอต่างรู้สึกว่าเจ้าชายตรงหน้าคือคนที่ ‘ใช่’ แม้เพิ่งเจอกันแค่วันเดียว รักแรกพบ เป็นความโรแมนติกรูปแบบหนึ่งที่หลายคนเชื่อ อิน หรืออยากประสบพบเจอบ้าง เพราะมันคงจะใจเต้นตุบตับไม่ใช่น้อย แต่จริงๆ แล้ว เราสามารถใช้คำว่ารักกับคนที่เพิ่งเจอกันแค่ไม่กี่วันได้จริงหรือ? แล้วถ้าใช้ได้ ทำไมเราถึงรักเขาแค่เพียงแรกพบสบตา ส่วนใหญ่แล้วกว่าคนเราจะใช้คำว่ารักกันได้ มันอาจจะไม่ใช่แค่เรื่องของหน้าตา หรือเคมีของทั้งคู่ แต่เรื่องของนิสัยใจคอ หรือการศึกษาดูใจนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญเหนือสิ่งใด ราซีน อาร์. เฮนรี (Racine R. Henry) นักบำบัดด้านการแต่งงานตั้งข้อสังเกตว่า ผู้คนสามารถรู้สึกอย่างแรงกล้าถึงแรงดึงดูด และการต่อกันติด ซึ่งพวกเขาเข้าใจผิดว่ามันคือความรัก แต่อันที่จริงมันเป็นตกหลุม ‘หลง’ แทน พูดได้ว่า ที่เราใจเต้นกับใครคนนั้นและคิดว่านี่คือการตกหลุมรัก ก็เพราะว่าเขาเป็นคนแบบที่เราชอบ และวัน ‘แรก’ ที่เจอ เขาได้สร้างความประทับใจอะไรบางอย่างให้เรารู้สึกว่าโคตรจะใช่ ซึ่งแง่นี้ก็อาจเป็นได้ทั้งหน้าตา หรือรูปลักษณ์ภายนอกที่ตรงสเปกทุกข้อ การกระทำของเขาที่โดนเส้นเราเต็มๆ นิสัยเล็กๆ ที่เราไม่เคยเห็นจากใครมาก่อน หรือแม้แต่สถานการณ์บังเอิญที่ทำให้การพบกันวันนั้นดูจะพิเศษเหลือเกิน “ถ้าคุณเจอคนคนหนึ่ง และไม่เคยคุยอะไรกับเขา คุณจะรู้สึกรักได้จริงๆ หรือ? มันไม่ใช่ หากคุณนิยามความรักว่ามันหมายถึงความห่วงใยกันอย่างลึกซึ้ง ความเข้าใจกัน การซัพพอร์ต และมีความรักใคร่ต่อกัน” เฮนรีกล่าว คล้ายกับมุมมองทางจิตวิทยาของนักจิตวิทยาในซานฟรานซิสโก ดร.เบรนด้า เวด (Dr. Brenda Wade) ซึ่งเธอกล่าวว่า รักแท้มันต้องใช้เวลา ตระหนักรู้ว่าเขาคนนั้นเป็นใคร และคุณเป็นใคร เหมือนกับสวนที่ต้องรดน้ำ เพาะปลูก รับแสงแดด และรอเพื่อที่จะได้เห็นดอกไม้เบ่งบาน ซึ่งความรู้สึกรักแรกพบ เธอมองว่า “ดูเผินๆ เขาอาจจะดูเหมือนมีทุกอย่างที่คุณกำลังตามหา และคุณก็จมดิ่งไปช่วงเวลานั้น แบบที่ละสายตาจากเขาไม่ได้…ทุกๆ สิ่ง เกี่ยวกับเขาดูเพอร์เฟกต์ไปหมด เพราะว่าคุณยังไม่รู้จักเขาทั้งหมดยังไงล่ะ” รักแรกพบแท้จริงอาจจะไม่ใช่รักจริงๆ แต่เป็นความรู้สึก ‘เหมือนรัก’ เฉยๆ ก็ได้ และสามารถอธิบายในทางวิทยาศาสตร์ได้ว่า มันอาจเกี่ยวเนื่องกับสารในร่างกายมนุษย์ การสัมผัสทางร่างกาย และความผูกพันทางอารมณ์ซึ่งไปกระตุ้นระบบลิมบิก ตามที่ ดร.ลี ฟิลป์ส นักจิตบำบัดชี้ว่า ฮอร์โมน เช่น ออกซิโทซิน มีบทบาทสำคัญในเรื่องของความสัมพันธ์ เพราะเป็นฮอร์โมนนิวโรเปปไทด์ (สารสื่อประสาท) ที่สมองผลิตขึ้นมา และมีเอฟเฟกต์หลากหลาย และหนึ่งในเอฟเฟกต์ที่เกิดขึ้นคือ “ฮอร์โมนนี้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาสายใยโรแมนติกสำหรับคู่รัก เพราะมันหลั่งออกมาระหว่างเกิดการใกล้ชิดกันทางร่างกาย” นั่นอาจเป็นเหตุผลเบื้องหลังว่าส่วนใหญ่แล้ว รักแรกพบมักเกิดขึ้นเวลาเจอกันมากกว่าการคุยกันผ่านทางโซเชียลมีเดีย และการพบเจอกันครั้งแรกที่เหมือนกับเป็นโมเมนต์ห้วงความรักอาจสร้างความประทับใจไม่รู้ลืมให้คนสองคนได้ทันที “คนสองคนสามารถรู้สึกอย่างลึกซึ้งถึงเซนส์ของการทำความรู้จักพร้อมกับความรู้สึกเชื่อมโยง และดึงดูดแบบที่อธิบายไม่ได้ในครั้งแรกที่เจอกัน คือมันเป็นไปได้ที่เราจะมีเซนส์ว่าความรู้สึกเหล่านั้นมันมีอยู่ โดยไม่คำนึงถึงอะไรก็ตามที่จะเฉลยออกมานอกเหนือจากที่พบกันครั้งแรก” วีณา คัลลินส์ (Weena Cullins) นักบำบัดด้านการแต่งงานบอก และมันอาจหมายถึง สถานการณ์ที่บางคนรู้สึกหลงใหลในตัวคนคนหนึ่งจนไม่ได้คิดเผื่อใจว่าแท้จริงแล้วตัวตนเขาเป็นอย่างไร เราจึงคิดว่าการดูกันไปนานๆ ก่อนปักใจรักใคร อาจจะดีกว่ามาก แต่ก็เข้าใจได้ ว่าเรื่องความรู้สึกบางครั้งมันห้ามกันได้ซะที่ไหน (ฮือ) เราอาจจะแยกไม่ได้ว่านี่คือความรัก หรือความหลง เพราะทั้งสองนิยาม ล้วนถูกกระตุ้นทางประสาทคล้ายคลึงกัน ซึ่งไม่ว่าจะความรู้สึกแรงกล้า มีแพสชั่น ความตื่นเต้นดีใจ และความต้องการ ล้วนสัมพันธ์กับการตกหลุมรัก ซึ่งเป็นผลมาจากปฏิกิริยาของเหล่าสารเคมีทางประสาท ในที่นี่นั้นเกี่ยวกับระบบให้รางวัลของสมอง ขับเคลื่อนโดยสารสื่อประสาทโดปามีน กระตุ้นให้ผู้คนแสวงหาความใกล้ชิด และสนิทสนมกับเป้าหมาย สิ่งที่สำคัญที่สุดของ ‘รักแรกพบ’ มันอาจจะเป็นการที่เรารู้สึกตกหลุมรักเขา ทำความรู้จักเขา เรียนรู้ตัวเขา และปลายทางทั้งสองคนก็ได้รักกันอย่างมีความสุขเหมือนเกิดมาเพื่อกันและกัน มากกว่าการที่เจอกันแวบเดียวแล้วรู้สึกไปเลยว่าคนนี้คือคนที่ใช่ ทั้งๆ ที่ยังตอบไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเขาเป็นคนอย่างไร ถ้าให้ยกตัวอย่าง คงเหมือนหนังเรื่อง Enchanted (2007) จากดิสนีย์ที่ฉายให้เห็นถึงเรื่องราวของเจ้าหญิงจีเซลในการ์ตูน ซึ่งเธอมีรักแรกพบกับเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด และตกลงปลงใจว่าจะครองรักกันตั้งแต่แรกพบ แต่เมื่อมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันทำให้เธอมาตกอยู่ที่โลกมนุษย์ เธอกลับรู้ว่าความรักที่ยั่งยืนไม่ใช่รักแรกพบ ทว่ามันคือการได้พบรักแท้จากการเรียนรู้ที่จะรักใครอีกคน ซึ่งคนนั้นอาจจะไม่ใช่เจ้าชายก็ได้ ไม่มีอะไรการันตีได้เลยว่า คนที่คุณคิดว่าเป็นรักแรกพบ จะเป็นรักสุดท้ายของคุณ หรือเป็นรักที่ดีต่อใจ ตราบใดที่มนุษย์เรายังต้องอาศัยการทำความเข้าใจ และเรียนรู้กันไปในทุกๆ วัน หากรักแรกพบของคุณคนนั้นกลายเป็นความรักระยะยาว ถือเป็นเรื่องน่าดีใจ และโรแมนติกใช่เล่น แต่ถ้าไม่ใช่ ก็ไม่อยากให้เฝ้ารอคำว่ารักแรกพบอย่างเดียว เพราะการเลือกความรักด้วยตัวเอง ไม่ได้รอฟ้าประทานลงมา หรือใช้เวลากับการออกตามหาความรักโดยที่ไม่ต้องเร่งรีบมากนัก อาจจะพบเจอความโรแมนติกที่เหมาะกับตัวเองที่สุดก็ได้เหมือนกัน อ้างอิง: <a href="https://www.mindbodygreen.com/articles/love-at-first-sight" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.mindbodygreen.com/articles/love-at-first-sight</a>&nbsp; <a href="https://psychcentral.com/health/love-at-first-sight#8" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://psychcentral.com/health/love-at-first-sight#8</a> &nbsp;

“เธอโยกอยู่ในฟลอร์ ซ้าย ขวา ซ้าย เธออยากโดน ‘เซ็ตหย่อ’ หันหลังมา” ท่อนไวรัลที่เต้นกันม่วนๆ กับเพลง ‘CHI MI’ จาก YOUNGGU ฟีเจอริ่งกับ GUNNER ที่ฟังผ่านๆ ก็ดูเป็นเพลงจังหวะสนุก แต่ปัญหาที่น่าพูดถึงไม่น้อยคือการที่มี ‘ภาษาคุก’ ปรากฏอยู่อย่างคำว่า ‘เซ็ตหย่อ’ ซึ่งแฝงไปด้วยความรุนแรงทางเพศที่ LGBTQ+ รวมถึงผู้ชายในคุกต้องเผชิญ

คนทั่วไปอาจขำๆ แต่คนเคยโดนอาจไม่ตลก เมื่อ “เซ็ตหย่อ” / “หนมน้า” ภาษาคุกที่แฝงด้วยความรุนแรงทางเพศ ยังถูกใช้อย่างสนุกปาก แถมปรากฏในเพลงไวรัลที่เด็กๆ ก็ร้องกัน

นับเป็นกรณีสะเทือนขวัญในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อผู้หญิงข้ามเพศที่ให้บริการทางเพศในพัทยา ถูกชายชาวจีนฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยมในอพาร์ทเมนต์แห่งหนึ่ง

ความตายของผู้หญิงข้ามเพศที่พัทยา: ความเสี่ยงที่ Sex Worker และคนข้ามเพศต้องเผชิญเพียงลำพัง

นี่คือคอมเมนต์ (บางส่วน) จากบรรดาชาวโซเชียลฯ ที่วิพากษ์อย่างเผ็ดร้อนหลังจากการกลับมาของซีรีส์แนวหลังโลกล่มสลาย The Last of Us ในซีซั่นล่าสุดที่เริ่มต้นด้วยเรื่องราวของตัวละครหลัก กลับถูกมองว่า ภายใต้เรื่องราวความรักโรแมนติกหลังโลกล่มสลาย และการโอบรับความหลากหลายท่ามกลางความขัดแย้งเหล่านั้น อาจเป็นแค่ส่วนหนึ่งในการ ‘โรแมนติไซส์’ ความจริงอันโหดร้ายที่ถูกปัดไว้ใต้พรม

Pride in Genocide? เมื่อซีรีส์ The Last of Us ถูกวิจารณ์ว่าเป็น ‘Rainbow Washing’ การใช้ความโรแมนติกของความหลากหลาย มากลบทับความเกลียดชังปาเลสสไตน์ของผู้สร้าง

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Relationship

‘รักแรกพบ’ หรือแค่เขาตรงสเปก เมื่ออาการใจเต้นแต่แรกเห็น เป็นเรื่องการหลั่งของฮอร์โมนมากกว่าความรัก

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

PATCHSITA PAIBULSIRI

RELATED

HOT TOPICS