Pink Flag หรือ ธงสีชมพูในความสัมพันธ์ ไม่ได้หมายความว่าความสัมพันธ์นี้มีแววจะรักเอยหวานกรุบ แต่หมายถึงว่ารักครั้งนี้มีแววจะเข้ากันไม่ได้ในภายหลังต่างหาก

Pink Flag สัญญาณเล็กๆ ในความรัก ที่มักถูกมองข้ามในช่วงโปรโมชั่น แต่นานวันกลายเป็น “เราเข้ากันไม่ได้”

ฟังแค่ชื่อก็อาจจะดูน่ารักดี หากแต่ Pink Flag หรือ ธงสีชมพูในความสัมพันธ์ ไม่ได้หมายความว่าความสัมพันธ์นี้มีแววจะรักเอยหวานกรุบ แต่หมายถึงว่ารักครั้งนี้มีแววจะเข้ากันไม่ได้ในภายหลังต่างหากPink Flag มักจะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ความไม่ลงรอยเบาๆ ที่หลายคู่มองว่าเป็นเรื่องหยุมหยิม ซึ่งแน่นอนว่าในช่วงเพิ่งเริ่มคบหากันที่ทุกอย่างยังหวานๆ เรื่องเหล่านี้ก็เป็นอะไรที่พอจะมองข้ามไปได้ ไม่ว่าจะด้วยความไม่อยากให้เสียบรรยากาศ หรือไม่อยากดูเป็นคนงี่เง่า&nbsp;แต่ยิ่งนานวันเข้า ยิ่งความคลั่งรักเริ่มลดลง ประเด็นเหล่านี้พร้อมจะกลายเป็นปัญหาให้ทุ่มเถียงกัน หรือไม่ก็กลายเป็นประเด็นในการเลิกราไปเลยก็ได้จากที่ผ่านมา มีคำแนะนำมากมายที่ชวนให้คนสังเกต Red Flag หรือสัญญาณเตือนใหญ่ๆ ถึงปัญหาที่รออยู่ แต่มาถึงตอนนี้ ดูเหมือน Red Flag อาจจะช้าไป หลายคนเลยเริ่มหันมาสังเกตสัญญาณเล็กๆ อย่าง Pink Flag กันแทน ก็คือไม่ต้องถึงกับเห็นสัญญาณแดงแจ๋ แค่ออกชมพูหน่อยๆ ก็ควรไหวตัวกันได้แล้วค่ะหญิงดอกเตอร์แคเธอรีน แฮร์ต์ไลน์ เซ็กซ์เธอราพิสต์ จากมหาวิทยาลัยเนวาดา เป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญที่แนะนำให้คนเริ่มสังเกต Pink Flag ทั้งยังยกตัวอย่างสัญญาณปัญหาที่พบได้ในหลายคู่ เช่น‘วิธีแสดงความรักที่ไม่ตรงกัน’ ทั้งที่สองฝ่ายต่างก็ใจตรงกันนั่นแหละ แต่วิธีรับ-ส่งดันไม่เข้ากัน เช่นบางคนอยากได้ยินคำหวานๆ ซึ้งๆ ในทุกวัน แต่อีกฝ่ายไม่ถนัดพูดอะไรแบบนี้ หรือบางคนชอบบอกรักผ่านการให้อิสระ แต่อีกฝ่ายดันชอบให้หึงหวง บางคนชอบบอกรักเป็นคำพูด อีกคนต้องการสัมผัสทางร่างกาย ฯลฯ&nbsp;เหล่านี้ หากปล่อยไปนานวัน อาจนำไปสู่การ ‘คิดไปเอง’ ว่า เอ๊ะ เขาไม่รักเราใช่มั้ย ทั้งที่จริงแล้วมันอาจเป็นแค่วิธีบอกรักที่ไม่ตรงกัน ดังนั้นเมื่อเจอ Pink Flag นี้ในความสัมพันธ์ คุณอาจต้องลองปรับจูนกันแต่เนิ่นๆ ว่าพอจะปรับวิธีการของแต่ละฝ่ายได้อย่างไรบ้าง หรืออีกฝ่ายควรทำความเข้าใจพื้นนิสัยของอีกฝ่ายให้มากขึ้นไหม จะได้ไม่ต้องแอบไปฟังเพลงเศร้าแล้วน้อยใจคนเดียวPink Flag ยอดฮิตอีกข้อคือ ‘เวลาหน้าจอไม่ตรงกัน’ หรือที่มีการนิยามศัพท์เก๋ๆ ว่า Bluelighting ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายคู่พบเจอ เช่นเวลานัดกินข้าวแล้วอีกฝ่ายเล่นโทรศัพท์ หรือฝ่ายหนึ่งอยากชวนนอนกอดกันแต่อีกฝ่ายดันติดดูซีรีส์ ฯลฯ&nbsp;เรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งที่ควรทำความเข้าใจกันแต่เนิ่นๆ เพื่อจะหาจังหวะเวลาที่ตรงกัน ตกลงกันให้ดีเรื่องเวลาหน้าจอและเวลาความรัก เพื่อที่นานวันเข้าความรู้สึกเบื่อหน่ายเวลาอีกฝ่ายไม่มีเวลาให้หรือไม่ใส่ใจกัน จะได้ไม่ต้องเติบโตกลายเป็นความรู้สึกก้อนใหญ่ที่แบกไม่ไหวแล้วระเบิดออกมายังมี Pink Flag อีกหลายข้อที่น่าหยิบมาพิจารณาเช่นเรื่องเซ็กซ์ที่ไม่ตรงกัน (ไม่ถึงกับคนละโยชน์ แต่ก็มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่ไม่ได้เอนจอยเท่าอีกฝ่าย) หรือกระทั่งการเดินทางร่วมกันอย่างเช่นคนหนึ่งขับรถแล้วไม่ชอบให้อีกฝ่ายนอนหลับระหว่างนั่งรถ&nbsp;ความจุกจิกเหล่านี้นี่เองที่บางทีมันอาจกลายเป็นเรื่องกวนใจ และกลายเป็นความทรงจำแย่ๆ สำหรับแต่ละฝ่าย รู้ตัวอีกทีก็แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ดังนั้นการสังเกตสัญญาณเล็กๆ น้อยๆ แล้วให้ความสำคัญกับมันสักหน่อย อย่างน้อยลองสื่อสารกันดูก่อนก็น่าจะช่วยให้ความสัมพันธ์เฮลธ์ตี้ได้ไม่น้อยเลยล่ะอ้างอิง<a href="https://metro.co.uk/2022/05/11/common-pink-flags-in-a-relationship-and-expert-tips-on-to-fix-them-16623822/" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://metro.co.uk/2022/05/11/common-pink-flags-in-a-relationship-and-expert-tips-on-to-fix-them-16623822/&nbsp;</a><a href="https://www.stylist.co.uk/relationships/relationship-pink-flags-how-to-spot/657008" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.stylist.co.uk/relationships/relationship-pink-flags-how-to-spot/657008 </a>

นี่คือคอมเมนต์ (บางส่วน) จากบรรดาชาวโซเชียลฯ ที่วิพากษ์อย่างเผ็ดร้อนหลังจากการกลับมาของซีรีส์แนวหลังโลกล่มสลาย The Last of Us ในซีซั่นล่าสุดที่เริ่มต้นด้วยเรื่องราวของตัวละครหลัก กลับถูกมองว่า ภายใต้เรื่องราวความรักโรแมนติกหลังโลกล่มสลาย และการโอบรับความหลากหลายท่ามกลางความขัดแย้งเหล่านั้น อาจเป็นแค่ส่วนหนึ่งในการ ‘โรแมนติไซส์’ ความจริงอันโหดร้ายที่ถูกปัดไว้ใต้พรม

Pride in Genocide? เมื่อซีรีส์ The Last of Us ถูกวิจารณ์ว่าเป็น ‘Rainbow Washing’ การใช้ความโรแมนติกของความหลากหลาย มากลบทับความเกลียดชังปาเลสสไตน์ของผู้สร้าง

“Feminine Energy ทำให้ชีวิตของผู้หญิงง่ายขึ้น” กลายเป็นวาทกรรมสอนหญิงที่ได้รับความนิยมอย่างมากในแพลตฟอร์ม TikTok โดยเนื้อหาส่วนใหญ่มักระบุว่า หากผู้หญิงเพิ่ม Feminine Energy มากขึ้น จะทำให้พวกเธอสามารถดึงดูดสิ่งที่ดีเข้ามา นำไปสู่การมีชีวิตที่สบายขึ้น รวมถึงหากนำไปปรับใช้กับด้านความสัมพันธ์ จะส่งผลให้ได้รับการปฏิบัติที่ดีแบบ Princess Treatment จากคนรัก

“Feminine Energy ทำให้ชีวิตผู้หญิงง่ายขึ้น” วาทกรรมสอนหญิงจาก TikTok ที่ชวนให้คนกลับสู่กรอบบทบาททางเพศ เพื่อจะมีชีวิตที่ดี ทั้งที่จริงแล้ว ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงแบบไหน ก็สามารถมีชีวิตที่ดี และความรักที่คู่ควรได้

ใน vlog ที่ปารีสของ Rachel Zegler เมื่อปี 2023 มีบางคนฟังทั้งหมดที่เธอพูดจาก vlog นี้ และได้รับเอาความรู้สึกที่เป็นมนุษย์มากๆ ของเธอเข้าไว้ในใจ โดยไม่ได้รู้สึกเกลียดชังทั้งยังได้รับพลังกลับมา

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Relationship

Pink Flag สัญญาณเล็กๆ ในความรัก ที่มักถูกมองข้ามในช่วงโปรโมชั่น แต่นานวันกลายเป็น “เราเข้ากันไม่ได้”

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

SERENE

RELATED

HOT TOPICS