หากเลื่อนผ่านดูเผินๆ โดยไม่ได้ตั้งใจฟัง ก็อาจจะงงๆ นิดหน่อยว่าหญิงสาวเจ้าของคลิปผู้นำใบมีดมาเฉือนกลีบดอกกุกลาบ พร้อมพูดย้ำๆ ว่า “ขอเตือนๆ คลิปนี้มีเนื้อหาสะเทือนใจนะทุกคน” กำลังจะสาธิตวิธีการทำอะไรบางอย่างที่น่าสยอดสยองอยู่แน่ๆ แต่คลิปนี้เองได้กลายเป็นไวรัลบน TikTok ที่มีคนดูมากกว่าล้านครั้ง เพราะมันเป็นการเปิดเผยประสบการณ์การถูก ‘ขลิบอวัยวะเพศหญิง’ ของเธอคนนี้เอง

Shamsa Sharawe อินฟลูฯ สาวชาวโซมาเลีย ผู้ออกมาเเชร์เรื่องราวการถูกขลิบอวัยวะเพศจนเป็นไวรัล และขอเป็นผู้นำการทวงคืน ‘จิ๋ม’ ให้กับเด็กๆ และผู้หญิงทุกคน 

หากเลื่อนผ่านดูเผินๆ โดยไม่ได้ตั้งใจฟัง ก็อาจจะงงๆ นิดหน่อยว่าหญิงสาวเจ้าของคลิปผู้นำใบมีดมาเฉือนกลีบดอกกุกลาบ พร้อมพูดย้ำๆ ว่า “ขอเตือนๆ คลิปนี้มีเนื้อหาสะเทือนใจนะทุกคน” กำลังจะสาธิตวิธีการทำอะไรบางอย่างที่น่าสยอดสยองอยู่แน่ๆ แต่คลิปนี้เองได้กลายเป็นไวรัลบน TikTok ที่มีคนดูมากกว่าล้านครั้ง เพราะมันเป็นการเปิดเผยประสบการณ์การถูก ‘ขลิบอวัยวะเพศหญิง’ ของเธอคนนี้เองนี่คือประสบการณ์อันโหดร้ายของ Shamsa Sharawe เมื่อครั้งที่เธออายุได้เพียง 6 ขวบและอาศัยอยู่กับป้าในโซมาเลีย ประเทศที่เด็กผู้หญิงและผู้หญิงจำนวนมากต้องถูกจับขลิบอวัยวะเพศ (Female Genital Mutilate) ตั้งแต่เล็กๆ ตามหลักความเชื่อทางศาสนาและตามหลักจารีตของสังคม โดยการขลิบอวัยวะเพศหญิงนี้ คือการตัดเอาคลิตอริสที่ทำหน้าที่ให้ความสุขทางเพศออกไป และส่งผลให้ผู้หญิงไม่สามารถรู้สึกสุขสมได้ตลอดชีวิตความรู้สึกของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่เหมือนถูก ‘ยึด’ เอาอะไรบางอย่างไปจากตัวเองโดยไม่ได้เต็มใจ ไม่ได้มี Consent ไม่ได้แม้แต่จะมีใครถามถึงความสมัครใจนี้เอง ทำให้ Sharawe ก่อตั้งกลุ่มรณรงค์และต่อต้านการขลิบอวัยวะเพศหญิงขึ้นมาในอังกฤษ ประเทศที่กลายมาเป็นบ้านหลังใหม่ของเธอ&nbsp;“ขอเตือนก่อนนะทุกคน ถ้าไม่ชอบดูอะไรอี๋แหวะ ผ่านได้เลยค่ะ” เธอบอกกับคนดูในคลิปของตัวเอง ระหว่างจำลองภาพขั้นตอนการขลิบอวัยวะเพศหญิงไปด้วยโดยใช้ดอกกุหลาบเป็นเหมือนสัญลักษณ์แทนอวัยวะเพศหญิง มันดูเปราะบางไปเลยเมื่อมันถูกเฉือนหลายครั้งด้วยใบมีดคมๆ แถมยังถูกเย็บติดกันด้วยเข็มแหลมๆ อีกนับครั้งไม่ถ้วน ไม่ต่างกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ กับเด็กผู้หญิงหลายคนทั่วโลกเมื่อปี 2023 นี้เองที่ Shamsa Sharawe ตัดสินใจเดินทางจากบ้านเกิดในโซมาเลีย มายังอังกฤษ และเดินทางต่อสู่เยอรมัน เพื่อมายังคลินิกแห่งหนึ่ง เพื่อสร้างสิ่งที่เธออาจ ‘เคยมี’ แต่โดนใครบางคนริบไปตั้งแต่ยังไม่ประสีรประสาด้วยความไม่เต็มใจ แต่หลังได้รับเงินจากการระดมทุนจำนวน 20,000 ยูโร เพื่อทำการผ่าตัดสร้างอวัยวะเพศใหม่โดย ดร. Dan O’Dey ซึ่งเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ด้านการผ่าตัดและฟื้นฟูอวัยวะเพศหญิงโดยเฉพาะ เธอกลับมีความหวังขึ้นอีกครั้ง เพราะจะได้มีโอกาสผ่าตัดสร้างอวัยวะเพศภายนอกสตรี (Valva) แบบใหม่ แบบสับทั้งเซ็ตมันเป็นคืนที่เธอยังจำได้ดี ความตื่นกลัวที่ต้องนอนรอการผ่าตัดอยู่ตามลำพังในคลินิก ณ ประเทศไกลบ้านที่เธอไม่รู้จัก พร้อมกับความคิดฟุ้งซ่านกังวลมากมายที่ถาโถมเข้ามา เธอจะตายระหว่างผ่าตัดไหม? ถ้าตายแล้ว ซาราห์-ลูกสาววัย 9 ขวบของเธอจะอยู่อย่างไร?&nbsp;“ในที่สุดฉันก็ได้มีคลิตอริสเป็นของตัวเอง ได้รู้สักทีว่าการมีจิ๋มจริงๆ มันเป็นอย่างไร แล้วฉันก็ได้อยู่ในร่างกายที่ไม่รู้สึกเหมือนว่าเป็นศัตรูของตัวเองสักทีด้วย” Sharawe กล่าวในวันนี้ที่เธอได้รับการผ่าตัดอวัยวะเพศหญิงใหม่เรียบร้อย &nbsp;จริงอยู่มันอาจจะดูเป็นคอนเทนต์ที่รุนแรงไปบ้างหากเด็กๆ เลื่อนผ่านมาดู แต่ Sharawe บอกว่าเหตุผลที่เธอออกมาทำคลิปเล่าเรื่องเหล่านี้ ก็เพราะเธอไม่อยากให้เด็กๆ หรือผู้หญิงคนไหนต้องรู้สึกอับอายเวลาพูดถึงอวัยวะเพศของตัวเอง รวมถึงภาวะความเจ็บปวดทางใจที่เป็นผลตามมา ในเมื่อพวกเธอมีสิทธิ์ที่จะพูดถึงมัน เพราะ Sharawe เองก็เคยเงียบ และเลือกที่จะไม่พูดเรื่องเหล่านี้มานานหลายปีจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้เองที่กล้าพูดถึงมันเสียที&nbsp;ตามบริบทของบางสังคม ในบางประเทศ โดยเฉพาะแถบแอฟริกา อย่างโซมาเลีย ซูดาน หรือจิบูตี รวมถึงบางประเทศในเอเชีย เด็กผู้หญิงต้องเข้ารับการผ่าตัดขลิบอวัยวะเพศตั้งแต่อายุยังน้อย โดยเด็กผู้หญิงที่ไม่ได้ขลิบจะถือเป็นความ ‘ไม่สะอาดหมดจด’ และยังผิดหลักของบางศาสนาด้วย ถึงแม้ว่าในบางประเทศ การขลิบอวัยวะเพศจะเป็นเรื่องผิดกฎหมายแล้วในทุกวันนี้ แต่ก็ยังมีเด็กผู้หญิงไม่ต่ำกว่าล้านคนที่ยังคงต้องถูกขลิบอยู่ และในจำนวนนั้นก็มีเด็กผู้หญิงที่เสียชีวิตระหว่างหรือหลังกระบวนการขลิบนับหมื่นคนเลยทีเดียว ซ้ำร้ายอีกหลายคนก็อาจยังต้องเผชิญกับความรู้สึกเจ็บปวดจากบาดแผลทางร่างกาย รวมถึงบาดแผลทางใจ ไปจนถึงภาวะที่ตามมาหลังจากนั้น อย่างเช่นการที่ไม่สามารถมีอารมณ์ทางเพศได้อย่างที่ควรจะเป็น รวมถึงเจอความเสี่ยงอันตรายในการคลอดลูกอีกด้วย&nbsp;อันที่จริงแล้ว N.H.S. ระบบบริการสุขภาพแห่งชาติของสหราชอาณาจักร ครอบคลุมการรักษาทางการแพทย์ให้กับคนไข้โดยที่ไม่ต้องร่วมจ่ายหรือสำรองจ่ายไปก่อน การรักษาที่ว่าครอบคลุมถึงการผ่าตัดแปลงเพศ และการผ่าตัดเปลี่ยนไซส์ของแคม (Labia Minora) ด้วย แต่สำหรับผู้หญิงที่ผ่านการขลิบมา ระบบสวัสดิการของอังกฤษนี้จะรองรับแค่การผ่าตัดเพื่อ ‘เปิด’ อวัยวะเพศเฉพาะส่วนที่ถูกปิดไว้เท่านั้น ไม่ได้มีการผ่าตัดเพื่อฟื้นฟูหรือสร้างอวัยวะเพศที่มีการวางระบบประสาทครบวงจรขึ้นมาใหม่แบบ ‘ใช้งานได้’ สำหรับการมีเซ็กซ์ที่ทำให้ผู้ผ่าตัดกลับมามีความรู้สึกฟินจริงๆ อย่างที่ Sharawe ได้รับการผ่าตัดที่ประเทศเยอรมนี&nbsp;และนั่นทำให้เธอรู้สึกโกรธ “เรากำลังบอกพวกคุณถึงสิ่งที่เราต้องการ แต่พวกคุณไม่ฟังเลย” เธอกล่าวถึง N.H.S. ว่ายังมีเด็กและผู้หญิงทั่วยุโรป อเมริกา และแอฟริกาที่เคยผ่านการขลิบอวัยวะเพศกำลังได้รับผลกระทบจากบาดแผลทั้งทางกายและใจ แถมยังไม่สามารถบอกเล่าเรื่องของพวกเธอได้ โดยเฉพาะผู้หญิงในกลุ่มคนชายขอบ&nbsp;จุดนั้นเองที่ทำให้ Sharawe ก่อตั้งแคมเปญระดมทุนเพื่อเรียกร้องให้สวัสดิการการรักษาของ N.H.S. และรัฐบาลอังกฤษ ช่วยเหลือครอบคลุมไปถึงเด็กและผู้หญิงที่ผ่านการผ่าตัดอวัยวะเพศหญิงให้มีโอกาสได้เข้ารับการผ่าตัดฟื้นฟูอวัยวะเพศใหม่ พร้อมกับได้รับการเยียวยาทางด้านจิตใจ เพราะการเข้าถึงสิ่งเหล่านี้สำหรับคนทั่วไป โดยเฉพาะคนชายขอบ ยังเป็นเรื่องยาก แถมมีค่าใช้จ่ายที่แพงมากๆ ด้วย“ฉันลองกับตัวเองแล้วนะทุกคน มันก็เวิร์กมากค่าาาา” เธอบอกกับแฟนๆ ผู้ติดตามช่องของเธอถึงประสบการณ์การลองมีเซ็กซ์ครั้งแรกหลังพักฟื้นจากการผ่าตัด พร้อมเล่นมุขล้อเลียนตัวเองว่ายังไม่ค่อยชินเท่าไร เพราะให้ความรู้สึกเหมือนใส่ ‘ขาเทียม’ อยู่ อาจต้องรอให้มันเข้าที่เข้าเข้าทางอีกสักพัก&nbsp;Sharawe บอกว่าการแชร์ประสบการณ์ของเธอเป็นเรื่องสำคัญต่อเด็กและผู้หญิงทุกคนที่เจอเรื่องราวเหมือนกับเธอ ไม่ใช่ว่าเพราะเธออยากจะมาดราม่าหรือบอกให้พวกเขาโศกเศร้ากับมัน แต่เป็นการแชร์ประสบการณ์ที่น่าจะสามารถช่วยให้พวกเธอเหล่านั้นได้กลับมามีความหวัง มีกำลังใจกับเนื้อตัวร่างกายของตัวเองอีกครั้งหนึ่ง&nbsp;“มันเป็นการหัวเราะให้กับตัวเอง ให้กับความรู้สึกของการได้ถูกปลดปล่อยเป็นอิสรภาพต่างหากล่ะ”&nbsp;อ้างอิง<a href="https://www.nytimes.com/2025/06/02/world/africa/female-genital-cutting-tik-tok.html" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.nytimes.com/2025/06/02/world/africa/female-genital-cutting-tik-tok.html</a><a href="https://www.tiktok.com/@shamsa.araweeloo/video/7217555385710873862" rel="noopener noreferrer noopener noreferrer" target="_blank">https://www.tiktok.com/@shamsa.araweeloo/video/7217555385710873862</a>

สัปดาห์ที่ผ่านมา หลายคนอาจได้ทราบข่าวการสูญเสียคุณแม่ของนักแสดงทั้งสอง อย่าง ‘บอย ปกรณ์’ และ ‘นนกุล ชานน’ โดยสื่อมวลชนเผยแพร่ภาพและเนื้อหาข่าวเกี่ยวกับบรรยากาศต่างๆ รวมถึงสีหน้าอารมณ์ของผู้คนในงานฌาปนกิจศพ โดยเฉพาะช่วงเวลาที่นักแสดงและคนในครอบครัวกำลังโศกเศร้า ร้องไห้ หรือปลอบใจกันและกัน ซึ่งการนำเสนอข่าวในรูปแบบนี้นับว่าผิดหลักจรรยาบรรณสื่อมวลชน

เมื่อนักแสดงต้องอยู่ในแสงตลอดเวลา แม้กระทั่งตอนสูญเสียคนสำคัญ (?) การนำเสนอข่าวงานศพของคนในครอบครัวนักแสดง เพื่อเน้นย้ำความสูญเสีย หรือตอกย้ำความโศกเศร้า ซึ่งนับว่าผิดจรรยาบรรณสื่อมวลชน

บางคนในสังคมที่อาจเผลอคิดว่า LGBTQ+ ‘ทุกคน’ น่าจะ come out ได้ง่ายๆ กันทั้งหมดแล้ว และบางคนก็คาดหวังที่จะเห็น LGBTQ+ ออกมา ‘พูด’ ว่าเป็นเพศอะไร มีนิยามแบบไหน จนกลายเป็นความ 'กดดัน'

แม้จะเป็น LGBTQ+ ก็ไม่ควรถูกกดดันให้ ‘Come Out’ หากยังไม่พร้อม และโลกคงไม่แตกหรอก ถ้าเราไม่ได้รู้เพศของคนอื่นตลอดเวลา

นับเป็นเรื่องน่าสะเทือนใจอย่างยิ่ง เมื่อข่าวนี้เกิดในช่วงเวลาเพียงไม่กี่วันก่อนเข้าเดือนไพรด์ และสะท้อนชัดเจนว่ายังมีอีกหลายพื้นที่ในประเทศไทย ที่ความเข้าใจและเปิดกว้างต่อ LGBTQ ยังไปไม่ถึง

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Movement

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

NUT LELAPUTRA

RELATED

HOT TOPICS