‘Pink Wheels’ คือกลุ่มตำรวจหญิงชาวปากีสถาน ที่สวมฮิญาบ ขี่สกู๊ตเตอร์สีชมพูจำนวน 10 คัน เข้าไปในเมืองเพื่อรับเรื่องร้องเรียน และช่วยเหลือผู้หญิงที่เผชิญความรุนแรง เนื่องจากเหยื่อหลายคนคิดว่าจะ “ไม่ได้รับความเป็นธรรม” จากตำรวจชายที่ไม่เข้าใจความเจ็บปวดของพวกเธอ 

Pink Wheels กลุ่มตำรวจหญิงในปากีสถาน สวมฮิญาบมากับสกู๊ตเตอร์สีชมพู เพื่อช่วยเหลือผู้หญิงที่เผชิญความรุนแรงทางเพศ

แคว้นปัญจาบ ซึ่งมีประชากรมากที่สุดในประเทศปากีสถาน มีรายงานความรุนแรงในครอบครัว (Domestic Violence) ในปี 2023 มากถึง 10,103 ครั้ง และตั้งแต่ต้นปี 2024 จนถึงเดือนสิงหาคม ตัวเลขผู้ถูกกระทำความรุนแรงก็สูงขึ้นเป็น 13,295 คน และแน่นอนว่า จำนวนผู้ถูกกระทำส่วนใหญ่เป็น <a href="https://mirrorthailand.com/tags/%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B8%B4%E0%B8%87" rel="noopener noreferrer" target="_blank">‘ผู้หญิง’</a> โดยในทุกๆ 2 ชั่วโมงในปากีสถานจะมีผู้หญิงหนึ่งคนถูกข่มขืน นั่นทำให้ปากีสถานติดอันดับ 1 ใน 10 ประเทศที่แย่และอันตรายสำหรับผู้หญิง และอยู่ในอันดับรั้งท้ายเรื่องความเท่าเทียมทางเพศนั่นคือลำดับที่ 142 จาก 146 ประเทศ ตามรายงานของ Global Gender Gap Report 2023 โดย World Economic Forumหนึ่งในปัญหาใหญ่ที่ทำให้เหยื่อความรุนแรงหลายคนในประเทศไม่กล้าลุกขึ้นมาเรียกร้องความเป็นธรรม เนื่องจากพวกเธอคิดว่าจะ “ไม่ได้รับความเป็นธรรม” จากประสบการณ์ที่ตำรวจชายหลายคน ไม่เข้าใจความเจ็บปวดของพวกเธอ จนถึงบางคนก็เพิกเฉยต่อเรื่องที่พวกเธอร้องเรียน นั่นทำให้ล่าสุดนี้ ตำรวจในเมืองกุชรันวาลา ในแคว้นปัญจาบ อยากอุดช่องว่างความกลัวนี้ของเหยื่อผู้หญิงทุกคน ด้วยการก่อตั้งโปรเจ็กต์ที่ชื่อว่า ‘Pink Wheels’ โดยรวมตัวเหล่าตำรวจหญิงชาวปากีสถาน ที่สวมฮิญาบ ขี่สกู๊ตเตอร์สีชมพูสดใสจำนวน 10 คัน เข้าไปในเมืองเพื่อรับเรื่องร้องเรียน และช่วยเหลือผู้หญิงที่เผชิญความรุนแรงในครอบครัว และความรุนแรงทางเพศทุกรูปแบบโดยตำรวจหญิงเหล่านี้จะคอยสแตนด์บายรับสายของเหยื่อที่โทร.เข้ามาร้องเรียน จนถึงคอยตรวจดูข้อมูลผ่านแอปฯ Police Women Safety ที่เหยื่อเข้ามาแจ้งเรื่องร้องเรียนต่างๆ ก่อนจะรีบไปที่จุดเกิดเหตุและให้ความคุ้มครองต่อเหยื่อ ซึ่งสมาชิกในทีม Pink Wheels จะมีกล้องติดตัวรถเพื่อบันทึกเหตุการณ์ มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการปฐมพยาบาล กรณีเหยื่อได้รับบาดเจ็บ จนถึงจะประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ทั้งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อตรวจสอบหลักฐาน และนักจิตวิทยา เพื่อเข้ามาเยียวยาสภาพจิตใจเหยื่อให้เร็วที่สุด โดยเฉพาะกรณีที่เหยื่อถูกข่มขืน&nbsp;<img src="https://media.thairath.co.th/image/0WCcop1V2Dp1V2akBk81laqrvKshqpMWTNTNs1a2hy2T2QoWxvfJce9vA1.jpg" data-id="101890" data-url="https://media.thairath.co.th/image/0WCcop1V2Dp1V2akBk81laqrvKshqpMWTNTNs1a2hy2T2QoWxvfJce9vA1.jpg" style="width: auto;" class="fr-fic fr-dib">ความสำคัญของการที่ตำรวจหญิงเป็นคนเข้าไปช่วยเหลือเหยื่อผู้หญิงด้วยกัน หลักๆ คือการมอบความรู้สึกปลอดภัยให้กับเหยื่อ ซึ่งสำคัญมากในประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องความไม่เท่าเทียมทางเพศ จึงเป็นธรรมดาที่ผู้หญิงอาจไม่ได้ไว้ใจผู้ชายมากนัก แม้จะเป็นตำรวจผู้ชายก็ตาม ยกตัวอย่างจาก กรณีที่เจ้าหน้าที่หญิง Iman Aziz และ Maryam Khalil ได้รับสายจากหญิงสาวคนหนึ่งที่เพิ่งถูกสามีทำร้ายร่างกาย และพยายามบีบคอเธอ ซึ่งโดยปกติแล้วสามีของเธอจะทุบตีเธอและลูกๆ อยู่เป็นประจำ และในเหตุครั้งล่าสุดนี้เธอถูกทำร้ายเพียงเพราะเธอไปหาหมอฟันเพื่อรักษาอาการปวดฟัน แต่กลับถูกสามีทุบตี เพราะคิดว่าเธอออกไปหาผู้ชายคนอื่น ซึ่งการที่เธอรอดมาได้ในครั้งนี้ เพราะลูกสาวของเธอขอร้องไม่ให้พ่อฆ่าแม่ส่วนหนึ่งที่หญิงสาวคนนี้โดนกระทำจากสามีซ้ำแล้วซ้ำเล่า เป็นเพราะเธอเคยขอให้พ่อของเธอช่วยแล้ว แต่พ่อก็ยังบังคับให้เธออยู่กับเขาต่อไป เพราะมองว่าการที่ผู้หญิงหย่าร้างจะกลายเป็นเรื่องอับอาย จนถึงหากข่าวลือเรื่องนอกใจของผู้หญิงถูกแพร่ออกไป คนอื่นๆ ก็อาจมองว่า การที่เธอถูกฆ่าตายนั้นเป็นเรื่อง ‘ปกติ’ ได้ หากฝ่ายชายทำไปเพื่อปกป้องชื่อเสียงของครอบครัว นั่นจึงไม่แปลกเลย หากเธอจะกลัวว่าเจ้าหน้าที่ชายจะเพิกเฉยต่อชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งที่ถูกทำร้าย หากผู้ชายส่วนใหญ่ในประเทศยังมองการถูกทำร้ายเป็นเรื่องปกติได้แบบนี้&nbsp;มุขมนตรีแคว้นปัญจาบอย่าง Maryam Nawaz ได้ออกมากล่าวเกี่ยวกับโปรเจ็กต์นี้ว่า “ด่านหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือผู้หญิงที่กำลังตกอยู่ในความทุกข์ยากจะต้องเป็นผู้หญิงด้วยกัน” เพราะที่ผ่านมา การจะเห็นตำรวจหญิงขี่สกู๊ตเตอร์รอบเมืองเป็นสิ่งที่หายากมากๆ ในปากีสถาน และทุกวันนี้ เจ้าหน้าที่หญิงก็ยังเผชิญความท้าทายต่ออคติทางเพศที่เจ้าหน้าที่ชายมองพวกเธอ Iman Aziz กล่าวว่า “ผู้ชายพยายามแสดงให้พวกเราเห็นว่าถนนนี้เป็นของพวกเขา” นำไปสู่การดูหมิ่นความสามารถของเจ้าหน้าที่หญิง จนถึงการที่ Maryam Khalil โดนผู้ชายพูดว่าผู้หญิงขี่สกู๊ตเตอร์ไม่เป็น หรือแม้แต่เสียงบนโซเชียลมีเดีย ที่เจ้าหน้าที่หญิง ก็ยังถูกมองว่านี่เป็นโปรเจ็กต์ที่ไร้สาระและไม่จริงจังอย่างไรก็ตาม คงต้องรอดูกันต่อว่าการมีอยู่ของ Pink Wheels จะช่วยให้ตัวเลขความรุนแรงทางเพศในปากีสถานลดลงได้จริงหรือไม่ เพราะหากสุดท้าย ศาลยังไม่ได้ให้ความยุติธรรมต่อเหยื่ออย่างแท้จริง พวกเธอก็จะยังคงเจ็บปวดต่อไปอย่างน่าเศร้า ฉะนั้นการจริงจังทางกฎหมายจึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก อย่างไรก็ตาม การมีอยู่ของ Pink Wheels ก็อาจเพิ่มความสบายใจให้กับผู้หญิงในการแจ้งความเมื่อถูกทำร้ายหรือคุกคามมากขึ้น จากที่ก่อนหน้านี้หลายปัจจัยทำให้หลายๆ คนอาจจะแทบไม่กล้าลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อตัวเองเลยอ้างอิง:<a href="https://www.npr.org/sections/goats-and-soda/2024/10/25/g-s1-28774/women-help-pakistan-domestic-violence" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.npr.org/sections/goats-and-soda/2024/10/25/g-s1-28774/women-help-pakistan-domestic-violence&nbsp;</a><a href="https://www.dawn.com/news/1856235" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.dawn.com/news/1856235&nbsp;</a><a href="https://bestdiplomats.org/worst-countries-for-women/" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://bestdiplomats.org/worst-countries-for-women/&nbsp;</a>

Gracie Abrams คือลูกสาวแท้ๆ ของ J. J. Abrams ผู้กำกับชื่อดังแห่งฮอลลีวูด เพลงของเธอมักพูดถึงอารมณ์ความรู้สึกแห่งวัยสาว แต่อีกด้านหนึ่ง เธอพร้อมที่จะแสดงจุดยืนทางการเมืองและเชื่อในการต่อสู้ของผู้หญิง 100%

Gracie Abrams ศิลปินผู้มีภาพลักษณ์สดใส แต่ไม่เคยหยุดตัวเองเมื่อต้องพูดเรื่องการเมือง

นักศึกษาหญิงชาวอิหร่านถูกเจ้าหน้าที่จับกุม หลังจากเธอตัดสินใจถอดฮิญาบ ปล่อยผมสยาย และเปลื้องผ้าให้เหลือแต่ชุดชั้นใน เดินไปรอบๆ มหาวิทยาลัยของเธอ เพื่อประท้วงต่อต้านกฏบังคับอันเคร่งครัดที่ให้ผู้หญิงทุกคนในประเทศแต่งกายอย่างมิดชิดตั้งแต่หัวจรดเท้าตามหลักศาสนาอิสลาม

นักศึกษาหญิงชาวอิหร่านถอดฮิญาบ เปลื้องผ้าประท้วง ในมหาวิทยาลัย เพื่อต่อต้านกฏที่บังคับให้ผู้หญิงต้องปกปิดทั้งร่างกายและเส้นผม จนถูกจับกุมและยังไม่รู้ว่าตอนนี้เธออยู่ไหน

แม้จะไม่ได้มีกฎข้อห้ามอย่างชัดเจน แต่ดูเหมือนว่าประเด็นที่บรรดานักแสดงตลกในจีนต่างรู้กันว่า ‘ไม่พูดดีกว่า ถ้าไม่อยากเดือดร้อน’ ก็เห็นจะต้องยกให้เป็นเรื่องการเมือง เรื่องทหาร กับเรื่องของ ‘ความเป็นชาย’ มาเป็นอันดับต้นๆ 

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Movement

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MIRROR TEAM

RELATED

HOT TOPICS