วันที่ 22 มกราคม 2568 จะเป็นวันแรกในหน้าประวัติศาสตร์ไทยที่ความรักของคู่รัก ‘ทุกเพศ’ จะเท่าเทียมกัน เพราะคนเพศหลากหลายจะ มี ‘สิทธิ’ ครองรักกันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย 'สมรสเท่าเทียม'

นับตั้งแต่ 22 มกราคม 2568 เป็นต้นไป คู่รักเพศหลากหลายในไทย จะมีสิทธิรักกัน
อย่างถูกต้องตามกฎหมาย #สมรสเท่าเทียม

วันที่ 22 มกราคม 2568 จะเป็นวันแรกในหน้าประวัติศาสตร์ไทยที่ความรักของคู่รัก ‘ทุกเพศ’ จะเท่าเทียมกัน เพราะคนเพศหลากหลายจะ มี ‘สิทธิ’ ครองรักกันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย หลังจากวันที่ 24 กันยายน 2567 ราชกิจจานุเบกษาได้ประกาศกฎหมายสมรสเท่าเทียม ทำให้ในอีก 120 วันข้างหน้า คู่รัก LGBTQ+ จะสามารถไปอำเภอ เพื่อจดทะเบียนสมรสกันได้แล้ว!นับเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่ง หลังจากที่หลายคนขับเคลื่อนและต่อสู้เรื่อง <a href="https://mirrorthailand.com/tags/%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1" rel="noopener noreferrer" target="_blank">#สมรสเท่าเทียม</a> กันมาอย่างยาวนาน ในที่สุด ก็สิ้นสุดการรอคอยสำหรับความเท่าเทียมขั้นพื้นฐานในการเป็นมนุษย์ของคนเพศหลากหลาย ที่จะได้สมรสกับคนรักเฉกเช่นคู่รักชาย-หญิง อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยไร้ซึ่งความสองมาตรฐานใดๆ และคงเป็นหน้าที่ของหน่วยงานราชการนับจากนี้ ที่คนทำงานทุกคนต้องทำความ ‘เข้าใจ’ กฎหมายใหม่ ก่อนจะเริ่มใช้จริง ทั้งในแง่ความถูกต้องทางข้อกฎหมาย กระทั่งความละเอียดอ่อนต่อการสื่อสารกับประชาชนที่ต้องปราศจากการเลือกปฏิบัติ ซึ่งเราขอทบทวนสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลักๆ หลังจากเรามีสมรสเท่าเทียมในประเทศแล้วกันอีกครั้งเมื่อมีสมรสเท่าเทียม อายุขั้นต่ำสำหรับการหมั้นและสมรส จาก 17 ปีบริบูรณ์ จะเป็น 18 ปีบริบูรณ์ จากที่กำหนดคำสำหรับผู้ต้องการสมรสไว้ว่าเป็นชาย-หญิง จะเปลี่ยนเป็น ‘บุคคล’ และจากสามี-ภริยา จะเป็น ‘คู่สมรส’ และเมื่อเป็นคู่สมรสกันอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว คู่รักเพศหลากหลายจะมีสิทธิทางกฎหมายเหมือนกับคู่รักชาย-หญิง ตั้งแต่ รับบุตรบุญธรรมร่วมกันได้ รับมรดกคู่สมรสหากอีกฝ่ายเสียชีวิตได้ เว้นเสียแต่ผู้ตายทำพินัยกรรมเป็นอย่างอื่น ใช้นามสกุลคู่สมรสได้ สามารถเซ็นยินยอมให้รักษาพยาบาลกรณีคู่สมรสเกิดอุบัติเหตุ เจ็บป่วย กรณีที่อยู่ในสภาวะให้ความยินยอมไม่ได้ ได้สิทธิประโยชน์ในทางภาษี สามารถฟ้องหย่าได้หากคู่สมรสมีชู้ ไม่ว่าชู้จะเป็นเพศใดก็ตาม ฯลฯซึ่งตัวอย่างสิทธิที่จะเกิดขึ้นทางกฎหมายนี้ ก็ล้วนเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่คนทุกเพศควรจะได้รับกันอย่างเท่าเทียมอยู่แล้ว หากใครอยากอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับกฎหมายทั้งหมด สามารถเข้าไปอ่านได้ที่ <a href="https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/36482.pdf" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/36482.pdf</a>

ยิ่งเข้าใกล้โค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯ นอกจากการหาเสียงที่ดุเดือดแล้ว การ ‘คอมเมนต์’ พาดพิงถึงบรรดาผู้ท้าชิงตำแหน่งของแต่ละฝั่งก็ดูเหมือนจะไม่ยอมลดราวาศอกด้วยเช่นกัน

Kamala Harris ตอกกลับผ่านรายการพอดแคสต์ถึงกรณีที่ถูกเหน็บว่าเป็น ‘ผู้หญิงไร้ลูก’

การปรับแก้กฎหมายใหม่ล่าสุดของอิตาลี ถึงกับถูกวิจารณ์ว่าเป็นการถอยกลับไปสู่ยุคกลางอีกครั้ง เมื่อรัฐสภาเพิ่งผ่านกฎหมายที่ทำให้การรับเด็กอุ้มบุญจากต่างประเทศเป็นสิ่งผิดกฎหมาย โดยรัฐบาลฝั่งอนุรักษ์นิยมที่นำโดยนายกหญิงอย่างจอร์จา เมโลนี (Giorgia Meloni) ระบุว่า นี่เป็นการปกป้องครอบครัวตามขนบอันดีงามให้คงอยู่ต่อไป

อิตาลีแบนการรับเด็กอุ้มบุญ
จากต่างประเทศซึ่งส่งผลโดยตรง
ต่อคู่รัก LGBTQ 


มีหลายกรณีที่ชวนให้คนได้ตระหนักถึงกรณีที่ ‘ผู้ชาย’ หรือ ‘เด็กชาย’ ตกเป็นเหยื่อการคุกคามทางเพศจนถึงการล่วงละเมิดทางเพศ ไม่ว่าจะข่าวลือเรื่อง Justin Bieber ที่ถูก Diddy ล่วงละเมิด ทั้งยังมีการเปิดเผยอีกว่ามีเด็กชายวัย 9 ขวบเคยตกเป็นเหยื่อของ Diddy ด้วยเหมือนกัน ในจังหวะใกล้ๆ กัน ดาราชายฝั่งไทยก็ออกมาเปิดเผยเรื่องที่เคยถูกคุกคามทางเพศ

เมื่อ ‘ผู้ชาย’ ตกเป็นเหยื่อการล่วงละเมิดทางเพศ แต่กำแพงเรื่อง 
‘ความเป็นชาย’ อาจทำให้พวกเขาเข้าไม่ถึงความช่วยเหลือ และอาจ 
‘โทษตัวเอง’ ทั้งที่ไม่ได้ผิด

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

CONVERSATION

VDO

PR-NEWS

Movement

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MIRROR TEAM

RELATED

HOT TOPICS