หลายคนอาจนึกไม่ถึงว่าประเทศที่ดูเหมือนเปิดกว้างให้กับความหลากหลายทางเพศไปไกลแล้วอย่างอังกฤษ ในแง่ทางกฎหมายอาจใช่ แต่ในแง่การยอมรับทางสังคม กลุ่ม LGBTQI+ ยังคงเผชิญกับการเลือกปฏิบัติและการกีดกันอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะกลุ่มทรานส์เจนเดอร์ที่ยังต้องเจอกับปัญหาความยากจน การเป็นคนตกงาน ไร้บ้าน เพราะมีโอกาสในการได้รับการจ้างงานอันน้อยนิด

‘Transpire Talent’ เอเจนซี่ที่ก่อตั้งโดยทรานส์ เพื่อต่อสู้ให้ทรานส์ในอังกฤษได้มีโอกาสทำงานอย่างเท่าเทียม และไม่ถูกกดดันเพียงเพราะอัตลักษณ์ทางเพศ

หลายคนอาจนึกไม่ถึงว่าประเทศที่ดูเหมือนเปิดกว้างให้กับความหลากหลายทางเพศไปไกลแล้วอย่างอังกฤษ ในแง่ทางกฎหมายอาจใช่ แต่ในแง่การยอมรับทางสังคม กลุ่ม LGBTQI+ ยังคงเผชิญกับการเลือกปฏิบัติและการกีดกันอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะกลุ่มทรานส์เจนเดอร์ที่ยังต้องเจอกับปัญหาความยากจน การเป็นคนตกงาน ไร้บ้าน เพราะมีโอกาสในการได้รับการจ้างงานอันน้อยนิดผลสำรวจชิ้นหนึ่งเมื่อปี 2018 ที่ทำการศึกษาเรื่อง Transphobia ในอังกฤษ พบว่า 1 ใน 3 ของนายจ้างจะไม่เลือกจ้างแรงงานทรานส์ และสถานการณ์เหล่านี้ก็ดูเหมือนจะยิ่งเลวร้ายลงไปอีกในปี 2021 เมื่อเสียงจากแรงงานทรานส์กว่า 85% รู้สึกว่าพวกเขาถูกกดดันที่ต้องซ่อนอัตลักษณ์ทางเพศของตัวเองในที่ทำงาน นั่นทำให้สถานการณ์ด้านอื่นๆ เช่น รายได้ ชีวิตความเป็นอยู่ สุขภาพทั้งร่างกายและสุขภาพจิตของพวกเขาย่ำแย่ตามไปด้วย&nbsp;จริงๆ แล้วการเลือกปฏิบัติกับรสนิยมทางเพศใดๆ หรือเลือกปฏิบัติกับบุคคลที่ได้รับการแปลงเพศนั้นถือว่าผิดกฎหมายในอังกฤษตามที่ระบุไว้ในพระราชบัญญัติความเท่าเทียม ปี 2020 แต่ในทางปฏิบัติ การจะเข้าถึงอาชีพ การจะมีรายได้กับคุณภาพชีวิตที่ดีของทรานส์ในอังกฤษก็ยังไม่เท่าเทียมเสียทีเดียว จากปัญหาการปฏิเสธที่จะรับทรานส์เข้าทำงานของบรรดานายจ้างและองค์กรส่วนใหญ่ที่อาจเป็นไปได้ว่ายังมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อกลุ่มทรานส์อยู่&nbsp;ด้วย Pain Point นี้เองที่ทำให้ ‘Transpire Talent’ เอเจนซี่จัดหางานเพื่อแรงงานทรานส์ในอังกฤษโอกาสทำงานโดยไม่ถูกกีดกันทางสังคมถือกำเนิดขึ้น&nbsp;ลูเซีย เบลค (Lucia Blayke) นักเคลื่อนไหวที่ทำงานเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ ผู้ก่อตั้งเอเจนซี่ Transpire Talent บอกว่า ในความเป็นจริง มีหลายๆ องค์กรที่ไม่ใช่ไม่อยากจ้างงานชาวทรานส์ แต่พวกเขาสารภาพว่าแทบไม่ได้รับใบสมัครเข้ามาจากคนเหล่านี้เลย ซึ่งเธอมองว่า ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะแรงงานทรานส์เองก็รู้สึกขาดความมั่นใจ กลัวว่าจะถูกเหยียด ถูกเลือกปฏิบัติจนไม่กล้าสมัครไม่น้อยไปกว่ากัน&nbsp;และปัจจัยอีกข้อหนึ่งก็คือสถานที่ทำงานเองก็มักจะ ‘ไม่เป็นมิตร’ ต่อแรงงานทรานส์สักเท่าไรเหมือนกัน สอดคล้องกับรายงานใน 2018 จาก Stonewall UK ที่บอกว่า 1 ใน 8 ของแรงงานทรานส์มักจะถูกคุกคามทางร่างกายในที่ทำงาน ซึ่งลูเซียหวังว่าเอเจนซี่ที่ใช้ความเป็นทรานส์นำของเธอ จะช่วยบรรเทาความกังวลของแรงงานทรานส์ได้บ้างไม่มากก็น้อย&nbsp;“จริงๆ แล้วธรรมชาติของคนเป็นทรานส์จะค่อนข้างไว้เนื้อเชื่อใจกลุ่มทรานส์ด้วยกันนะ เพราะฉะนั้นการที่พวกเขาเห็นว่าทรานส์ก็มีโอกาสได้รับการจ้างงานที่ดีได้เหมือนกัน และได้รับรู้ว่ามีคนที่พร้อมเข้าใจพวกเขา มันก็น่าจะทำให้พวกเขารู้สึกสบายใจมากขึ้น” ลูกเซีย กล่าว&nbsp;ไม่เพียงแค่เอเจนซี่ ‘For trans by Trans’ อย่างที่ Transpire Talent กำลังทำจะช่วยให้คอมมูฯ ทรานส์มีโอกาสได้รับการจ้างงานแบบอุ่นใจและรู้สึกปลอดภัยแล้ว การที่บรรดาองค์กรกับนายจ้าง ‘มองเห็น’ ศักยภาพของแรงงานทรานส์และให้โอกาสพวกเขาได้แสดงทักษะในอาชีพนั้นยังมีข้อดีล้วนๆ เพราะยิ่งคนรุ่นใหม่กล้า Come Out อัตลักษณ์ทางเพศของตัวเองมากขึ้น ย่อมดีต่อองค์กรที่จะมีแรงงานทรานส์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนคัลเจอร์ LGBTQI+ ให้แข็งแรงขึ้น แถมยังขับเคลื่อนในแง่ภาพลักษณ์และการตลาดขององค์กรได้อีกด้วย&nbsp;จนถึงวันนี้ เอเจนซี่ Transpire Talent ของลูเซียคาดหวังว่าจะเปิดตลาดแรงงานที่หลากหลาย ครอบคลุมให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อสนับสนุนกลุ่มแรงงานทรานส์ในสายอาชีพต่างๆ ที่อาจยังติดอุปสรรคภายใต้ Stigma ของสังคมอยู่ เช่น หมอ หรือครู รวมถึงแรงงานสายเทคโนโลยี หรือสายแฟชั่นอีกด้วยเธอมองว่า ไม่เพียงแค่ทรานส์ที่มักจะไม่ได้รับโอกาสในการทำงานเท่ากับเพศชาย-หญิง ยังมีความจริงที่น่าเศร้าว่า ทรานส์หลายคนๆ ต้องออกจากการเรียนมหาวิทยาลัยกลางคันด้วยปัจจัยทางการเงิน ซ้ำหลังจากแปลงเพศแล้ว หลายคนยังต้องถูกกดดันให้เป็น Sex Worker โดยไม่เต็มใจหรือไม่มีทางเลือก เพราะสำหรับทรานส์ การที่พวกเขาแปลงเพศแล้ว กลับรู้สึกเหมือนพวกเขากลายเป็นพลเมืองชั้น 2 ที่ถูกสังคมทิ้งขว้าง&nbsp;“เพราะฉะนั้นสิ่งที่เรากำลังทำคือการทำให้ทรานส์ที่ตกหล่นตั้งแต่ระบบการศึกษา ตกหล่นในระบบการทำงาน และถูกทอดทิ้งเหล่านั้น กลับมาเป็นส่วนหนึ่งกับสังคมให้ได้อีกครั้ง ซึ่งเราหวังไว้ว่าภายใน 10 ปีนี้ การเป็นทรานส์ในอังกฤษจะเป็น ‘เรื่องปกติ’ เสียที” ลูเซีย กล่าว&nbsp;ลูเซียเองก็เป็นคนหนึ่งที่ค้นพบตัวเองว่าเป็นทรานส์ตอนที่ย้ายจากลิเวอร์พูลมาอยู่ลอนดอนเมื่อ 7 ปีก่อน เธอบอกว่าตัวเองโชคดีมากๆ ที่มีโอกาส แต่ก็ไม่ใช่ว่าทรานส์ทุกคนที่นี่จะโชคดีเหมือนกับเธอ เพราะมันยากมากที่จะเจอคนที่ ‘เข้าใจ’ สิ่งที่พวกเธอต้องเจอ หนึ่งในเรื่องนั้นคือ ‘Gender Dysphoria’ หรือความทุกข์ทรมานใจจากการที่บุคคลมีเพศสภาพไม่ตรง หรือไม่สอดคล้องกับเพศโดยกำเนิดของตนนั่นเอง &nbsp;เอเจนซี่ Transpire Talent ไม่เพียงแค่สนับสนุนกลุ่มทรานส์ ทั้งทรานส์เมน ทรานส์วูแมน แต่คนที่มีภาวะ Neurodiverse (ความหลากหลายทางระบบประสาท) เช่น ออทิสติก สมาธิสั้น ดิสเร็กเซีย ดาวน์ซินโดรม รวมถึงอาการทางจิตเวชอย่าง โรคไบโพลาร์ โรควิตกกังวล และโรคซึมเศร้า หรือคนเพศอื่นๆ ที่ไม่ได้เป็น LGBTQI+ พวกเขาก็ยินดีต้อนรับด้วยเหมือนกัน พร้อมเป็นตัวกลางในการเชื่อมแรงงานที่มีความหลากหลายให้เข้าถึงระบบการทำงานง่ายขึ้น&nbsp;“เราอยู่ตรงนี้ ไม่ใช่แค่เพื่อให้คนเหล่านี้ได้งานทำ ได้ทำตามความฝันของพวกเขาเท่านั้น แต่ยังเพื่อให้พวกเขารู้ว่ามีคนดันหลังอยู่นะ และพร้อมเอาใจช่วยให้พวกเขาได้เป็นตัวเองในเวอร์ชันที่ดีขึ้น” ลูเซีย กล่าวอ้างอิง<a href="https://www.dazeddigital.com/life-culture/article/62847/1/lucia-blayke-transpire-talent-recruitment-agency-trans-discrimination-work-uk" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.dazeddigital.com/life-culture/article/62847/1/lucia-blayke-transpire-talent-recruitment-agency-trans-discrimination-work-uk</a><a href="https://www.cipd.org/uk/knowledge/factsheets/sexual-orientation-discrimination-factsheet/" rel="noopener noreferrer noopener noreferrer" target="_blank">https://www.cipd.org/uk/knowledge/factsheets/sexual-orientation-discrimination-factsheet/</a><a href="https://www.facebook.com/showyourspectrum/photos/a.276495186375492/862300004461671/?type=3" rel="noopener noreferrer noopener noreferrer noopener noreferrer" target="_blank">https://www.facebook.com/showyourspectrum/photos/a.276495186375492/862300004461671/?type=3</a>

รายงานล่าสุดเมื่อสิ้นเดือนที่ผ่านมา รัฐบาลฝรั่งเศสกำลังพิจารณาผ่านกฎหมายปฏิรูปการศึกษาเรื่อง Sex Education ซึ่งนับว่าเป็นการปฏิรูปที่เรียกว่าโหดหินที่สุดครั้งหนึ่งของฝรั่งเศส จากการใช้เวลาผลักดันมานานกว่า 25 ปี 

ฝรั่งเศสเตรียมปฏิรูป Sex Education
ให้สอนเรื่องอัตลักษณ์ทางเพศ ความเท่าเทียม และ consent แต่ยังไม่วายถูกฝ่ายอนุรักษ์นิยมต่อต้าน เพราะมองว่า “woke เกินไป”

ไม่แปลกที่การเห็นภาพใครบางคนจะก้าวไปมีชีวิตหรูหรา สุขสบายได้แบบง่ายๆ ไม่ต้องลงทุนลงแรงอะไรมาก นอกจากใช้ ‘ตัวเอง’ เป็นสิ่งแลกเปลี่ยน จะกลายเป็นภาพที่ชวนให้ขัดใจอยู่ลึกๆ สำหรับใครหลายคน 

ทำไมคนถึงอยากสมน้ำหน้า “ผู้หญิงที่อยากได้คนรวย แต่ดันพลาด” ทั้งที่ทุกคนควรมีสิทธิเลือกทางในชีวิตตัวเอง

Manosphere มาจาก Man และ Sphere มีความหมายตรงตัวว่ามันคือพื้นที่สำหรับผู้ชายในการแชร์มุมมอง ทัศนคติ และความเชื่อในแบบของพวกเขาและแม้จะเกลียดคำว่า woke แต่เหล่าสมาชิก Manosphere ก็ใช้คอนเซปต์เรื่องการ ‘ตื่นรู้’ มาเป็นสัญลักษณ์ของกลุ่ม

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Movement

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

NUT LELAPUTRA

RELATED

HOT TOPICS