จากผลสำรวจผู้หญิงกว่า 50,000 คนในสหราชอาณาจักรพบว่า กว่า 98.8% ของผู้หญิงที่ใช้บริการ TelAbortion

Tele-Abortion ทำแท้งปลอดภัยฟรอมโฮม ที่ฝั่งอนุรักษ์นิยมพยายามแบน

เทคโนโลยีช่วยให้อะไรๆ ง่ายขึ้น การยุติการตั้งครรภ์ก็เช่นกัน และขณะที่บ้านเรายังคงกลัวผีเด็กกันอยู่ หลายพื้นที่ในประเทศที่กฎหมายเปิดกว้าง ผู้ตั้งครรภ์สามารถวิดีโอคอลคุยกับแพทย์เพื่อปรึกษาอาการ ก่อนที่แพทย์จะจัดยายุติการตั้งครรภ์ส่งให้ถึงบ้าน พร้อมกับคำแนะนำอย่างละเอียด ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างปลอดภัยได้ที่บ้าน และการระบาดของโควิด-19 ก็ทำให้วิธีการนี้แพร่หลายเป็นอย่างมากจากผลสำรวจผู้หญิงกว่า 50,000 คนในสหราชอาณาจักรพบว่า กว่า 98.8% ของผู้หญิงที่ใช้บริการ TelAbortion สามารถดำเนินการทั้งหมดด้วยตัวเองได้อย่างลุล่วงปลอดภัย ขณะที่มีเพียง 0.05% ที่ได้รับผลข้างเคียงรุนแรง ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดได้จากการเข้ารับการยุติการตั้งครรภ์ในคลินิกเช่นกัน&nbsp;ยิ่งกว่านั้น ยังไม่เคยมีรายงานผู้เสียชีวิตจากการใช้ยายุติการตั้งครรภ์เองที่บ้าน นั่นทำให้ TelAbortion กลายเป็นอีกหนึ่งความหวัง ที่จะทำให้ผู้หญิงในพื้นที่ห่างไกลหรือตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากใดๆ สามารถเข้าถึงการทำแท้งที่ปลอดภัยได้ง่ายขึ้นการยุติการตั้งครรภ์ด้วยการใช้ยา ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก โดยยาที่ใช้ในการยุติการตั้งครรภ์จะมี 2 ตัวเป็นหลัก ได้แก่ มิเฟพริสโตน (Mifepristone) สำหรับกิน และ มิโซโพสตอล (Misoprostol) สำหรับสอดใต้ลิ้น อมในกระพุ้งแก้ม หรือสอดในช่องคลอด ซึ่งการใช้ยาเหล่านี้จำเป็นต้องได้รับคำแนะนำจากแพทย์ในปริมาณที่ใช้และความถี่ในการสอด โดยผลข้างเคียงจะมีตั้งแต่อาการคลื่นไส้ อาเจียน เป็นไข้ และมีเลือดไหลออกมาจากช่องคลอด และมีอัตราความสำเร็จอยู่ที่ 96% ในอายุครรภ์ไม่เกิน 10 สัปดาห์อย่างไรก็ตาม แม้จะมีข้อยืนยันว่าปลอดภัยและได้ผล ก็ยังมีฝ่ายอนุรักษ์นิยมในหลายพื้นที่พยายามต่อต้านวิธีการนี้เนื่องจากข้อกังวลเรื่องความปลอดภัย รวมถึงข้อกังวลเรื่องศีลธรรมและศาสนาที่ยังคงมีอยู่ยกตัวอย่างเช่นในสหรัฐอเมริกา มี 6 รัฐในอเมริกากลางและทางตอนใต้ เช่น เท็กซัส แอละแบมา หรือเซาธ์ แคโรไลนา ที่มีกฎหมายแบนการใช้ยายุติการตั้งครรภ์เองที่บ้าน ขณะที่ 13 รัฐกำหนดให้ผู้ตั้งครรภ์ต้องเดินทางไปพบแพทย์เอง แล้วจึงรับยาไปใช้ที่บ้าน ส่วนอีก 31 รัฐ เช่น นิวยอร์ก แคลิฟอร์เนีย วอชิงตันดีซี ไม่ได้มีกฎหมายที่สั่งห้ามแต่อย่างใด แต่ ณ เวลานี้ก็มีบางรัฐ เช่น จอร์เจีย ที่เริ่มพิจารณาแล้วว่าจะออกกฎหมายแบนวิธีการนี้นั่นนำมาซึ่งข้อกังวลของแพทย์ที่เกี่ยวข้องว่า เมื่อมีกฎหมายแบนเสียแล้ว แต่ความต้องการยุติการตั้งครรภ์ยังคงมีตามเดิม จะทำให้ผู้ตั้งครรภ์บางรายพยายามหายานี้มาใช้เองแบบใต้ดิน ไม่ได้รับคำแนะนำที่ใกล้ชิดจากแพทย์ และอาจทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้&nbsp;ตัดภาพมาที่เมืองไทย หลายคนยังติดภาพน่ากลัวของการโดนจับขึ้นเตียงขูดมดลูก และผู้ที่เลือกยุติการตั้งครรภ์ก็ถูกยัดภาพฆาตกรเข้าใส่ รวมถึงเรื่องเล่าเกี่ยวกับบาปบุญและผีเด็กที่ถูกผลิตซ้ำอยู่เรื่อยๆ ทำให้บทสนทนาเรื่องนี้ยังไม่ค่อยไปถึงไหน&nbsp;เราจึงอยากลองชวนให้ดูภาพความก้าวหน้าในประเทศอื่น ที่การยุติการตั้งครรภ์ตั้งอยู่บนพื้นฐานของ ‘ความปลอดภัย’ และสิทธิเสรีภาพในร่างกายผู้ตั้งครรภ์เป็นหลัก มีความพยายามผลักดันให้คนสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้นเหมือนบริการสาธารณสุขด้านอื่นๆ แม้จะยังมีเสียงที่คอยต่อต้าน แต่ถึงอย่างนั้นหากพิจารณาถึงพื้นที่ที่เปิดกว้างกับพื้นที่ที่ต่อต้าน เราน่าจะเห็นอะไรบางอย่างได้ชัดขึ้นทีเดียว อ้างอิง<a href="https://www.rcog.org.uk/en/news/telemedicine-cohort-study-released/" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.rcog.org.uk/en/news/telemedicine-cohort-study-released/ </a><a href="https://www.kff.org/womens-health-policy/slide/state-restrictions-on-telehealth-abortion/" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.kff.org/womens-health-policy/slide/state-restrictions-on-telehealth-abortion/ </a><a href="https://en.m.wikipedia.org/wiki/Medical_abortion" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://en.m.wikipedia.org/wiki/Medical_abortion </a>

กลายเป็นประเด็นใหญ่ในฮอลลีวูด จากกรณีที่นักแสดงสาว Blake Lively ยื่นฟ้อง Juston Baldoni ที่เป็นทั้งผู้กำกับและแสดงนำคู่กับเธอในภาพยนตร์เรื่อง It Ends with Us

Blake Lively ยื่นฟ้อง Justin Baldoni ที่คุกคามทางเพศเธอ และใช้อำนาจเติม ‘ฉากเซ็กซ์’ ที่นอกเหนือจากที่ตกลงกันไว้

ก้าวเข้าสู่ปีใหม่อย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว แต่ปัญหาเดิมๆ อย่างเรื่องความรุนแรงในความสัมพันธ์ยังคงไม่ไปไหน อย่างกรณีหนึ่งที่เป็นที่พูดถึงไม่น้อยในช่วงหยุดปีใหม่ที่ผ่านมา ก็คือกรณีที่อดีตสามีทำร้ายร่างกายอดีตภรรยา

คดีอดีตสามีทำร้ายภรรยา คำพูดที่ชี้ชัดถึงความคิดของคนที่เลือกจะใช้ความรุนแรง และ ‘วงจรความรุนแรง’ ที่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว ก็มักจะมีครั้งต่อไปเสมอ

กลายเป็นเรื่องช็อกสำหรับหลายคนโดยเฉพาะแฟนผลงานของ Neil Gaiman ผู้เขียนนวนิยายเด็กและงานแฟนตาซีชื่อดังอย่าง Caroline, The Graveyard Book, The Sandman, American Gods ฯลฯ เมื่อมีผู้หญิงกว่า 8 คน ออกมาเปิดเผยด้านมืดของเขาที่ทั้งข่มขืนและกระทำความรุนแรงทางเพศกับพวกเธอ 

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Health

Tele-Abortion ทำแท้งปลอดภัยฟรอมโฮม ที่ฝั่งอนุรักษ์นิยมพยายามแบน

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

SERENE

RELATED

HOT TOPICS