1 ต.ค.2025 ที่ผ่านมา รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ได้บังคับใช้กฎหมายที่ครอบคลุม ‘สิทธิการลางานของเหยื่อความรุนแรง’ ให้สามารถลาได้โดยไม่กระทบวันลาป่วยหรือลาพักร้อน

แคลิฟอร์เนีย ผ่านกฎหมายให้เหยื่อความรุนแรง หรือใครที่มีคนในครอบครัวตกเป็นเหยื่อ สามารถใช้สิทธิลางานเพื่อดูแลตัวเองหรือคนที่รักได้

ในโลกของการทำงาน เรามักถูกสอนให้แยกเรื่องส่วนตัวออกจากเรื่องงาน แต่เมื่อฝันร้ายอย่าง ‘ความรุนแรง’ ได้เกิดขึ้นและส่งผลร้ายแรงต่อชีวิตของใครคนหนึ่ง หรือแม้แต่คนในครอบครัวของเขา การฝืนมาทำงานพร้อมรอยแผลที่มองไม่เห็นย่อมเป็นเรื่องที่ยากเกินจะแบกรับ&nbsp;ไม่เพียงเท่านั้นผู้ถูกกระทำยังจำเป็นต้องแสวงหาความคุ้มครองเพื่อความปลอดภัย ฟื้นฟูสุขภาพกายและใจ จัดระเบียบชีวิตใหม่ เช่นวางแผนรูทีนชีวิต ย้ายที่อยู่ หรือกระทั่งพาลูกย้ายโรงเรียน ไปจนถึงการเตรียมตัวเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้ตนเองดังนั้น สิทธิในการลางานที่ครอบคลุมกรณีเหล่านี้จึงจำเป็น เพราะผู้ถูกกระทำไม่จำเป็นต้องเลือกระหว่างสวัสดิภาพที่ถูกพรากไปกับความมั่นคงในหน้าที่การงานของตัวเอง&nbsp;และนับตั้งแต่ 1 ต.ค.2025 ที่ผ่านมา รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ได้บังคับใช้กฎหมายที่ครอบคลุม ‘สิทธิการลางานของเหยื่อความรุนแรง’ ให้สามารถลาได้โดยไม่กระทบวันลาป่วยหรือลาพักร้อน และสามารถใช้สิทธินี้ควบคู่ไปกับการลาเพื่อครอบครัวและการแพทย์ของรัฐบาลกลางด้วย ถ้ามีคุณสมบัติครบตามเกณฑ์ที่กำหนด&nbsp;แล้วอะไรบ้าง ที่เข้าข่ายความรุนแรงที่เหยื่อสามารถใช้สิทธิลาได้? หากอิงตามกฎหมายฉบับนี้ กรณีที่เข้าข่ายก็ได้แก่&nbsp;-การล่วงละเมิดทางเพศ&nbsp;-ความรุนแรงในครอบครัว-การสะกดรอยตาม (Stalking)&nbsp;-การใช้อาวุธข่มขู่ จนถึงการขู่ว่าจะใช้กำลังทำร้าย&nbsp;โดยไม่ว่าตัวผู้กระทำจะถูกฟ้องร้อง ถูกจับกุม หรือถูกตัดสินว่ามีความผิดหรือไม่ก็ตาม ผู้ถูกกระทำ หรือคนที่มีสมาชิกในครอบครัวถูกกระทำ ก็สามารถใช้สิทธิลานี้ได้ทันที อีกทั้งข้อมูลการถูกทำร้ายหรือการลานี้ต้องถูกเก็บเป็นความลับเพื่อเกียรติและความปลอดภัยของพนักงาน และนายจ้างจำเป็นต้องให้สิทธิพนักงานในการลาโดยไม่ต้องหวาดระแวงว่าจะถูกเลิกจ้างหรือถูกเลือกปฏิบัติในภายหลัง เพราะหากเป็นอย่างนั้น นายจ้างก็จะมีความผิดตามกฎหมาย&nbsp;การเกิดขึ้นของกฎหมายนี้จึงนับว่าเป็นอีกก้าวที่งดงาม เพราะสุดท้ายแล้ว องค์กรที่ยั่งยืนไม่ใช่แค่องค์กรที่มีผลกำไรสูง แต่คือองค์กรที่พนักงานรู้สึก ‘ปลอดภัย’ และ ‘มีคุณค่า’ แม้ในวันที่มืดมนที่สุดของชีวิตก็ตามอ้างอิง<a href="https://ogletree.com/insights-resources/blog-posts/california-expands-leave-and-protections-for-victims-of-violence/" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://ogletree.com/insights-resources/blog-posts/california-expands-leave-and-protections-for-victims-of-violence/</a>&nbsp;<a href="https://www.cooley.com/news/insight/2025/2025-07-08-california-publishes-new-violence-victims-leave-and-accommodation-notice" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.cooley.com/news/insight/2025/2025-07-08-california-publishes-new-violence-victims-leave-and-accommodation-notice</a> &nbsp;

สองศิลปินดังอย่าง ‘วินเทอร์’ แห่งวง Aespa และ ‘จองกุก’ แห่งวง BTS ก็ต้องเผชิญกระแสต่อต้านอย่างรุนแรงทั้งจากแฟนคลับวงตัวเองและแฟนคลับอีกวงหนึ่ง หลังจากที่มีคนโพสต์ภาพรอยสักของทั้งคู่ ที่เป็นลายเดียวกัน

วินเทอร์ Aespa และจองกุก BTS ถูกแฟนคลับโจมตีอย่างรุนแรง หลังมีรอยสักเหมือนกันจนมีข่าวลือเดต

สถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ ณ เวลานี้เข้าสู่ขั้นวิกฤติ และหากดูบนโซเชียลมีเดีย หลายคนน่าจะได้เห็นคลิปวิดิโอที่ผู้คนในพื้นที่ส่งเสียงตะโกนขอความช่วยเหลือออกมาจากบ้านของตัวเอง และตามโพสต์ต่างๆ เราก็จะได้เห็นคอมเมนต์แจ้งพิกัดจากญาติๆ หรือเจ้าตัว ที่ขอให้เข้าไปช่วยเหลือ แต่ยังคงไม่ได้รับความช่วยเหลือ

เสียงร้องขอความช่วยเหลือจากภาคใต้คอมเมนต์แจ้งพิกัดทั่วโซเชียลมีเดีย และคำถามถึงนายกฯ อนุทิน ชาญวีระกูล เมื่ออำนาจใหญ่สุดกลับขยับตัวช้าสุด

เมื่อเข้าสู่ช่วงปลายปี 2568 ภัยพิบัติก็ได้เคลื่อนตัวลงสู่ภาคใต้ ที่มีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ ส่งผลให้หลายจังหวัดเผชิญน้ำท่วมครั้งใหญ่ในรอบประวัติศาสตร์

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Change

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MIRROR TEAM

RELATED

HOT TOPICS