Restaurant of Mistaken Orders ร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์โฮมมี่ในโตเกียว ที่พนักงานเสิร์ฟทั้งหมดล้วนเป็นผู้สูงอายุ ซึ่งมีภาวะสมองเสื่อม

Restaurant of Mistaken Orders 
ร้านอาหาร ที่มีพนักงานเป็นผู้สูงวัยสมองเสื่อม แม้จะหลงลืมออเดอร์บ้าง แต่ลูกค้าก็แฮปปี้ดี เพราะนี่คือพื้นที่ให้ผู้สูงอายุได้มีปฏิสัมพันธ์

ถ้าคุณไปร้านอาหารแห่งนี้ ประสบการณ์ที่คุณจะได้รับ คือการลุ้นว่าเมนูที่สั่งไปตอนแรก พอมาเสิร์ฟจะยังคงเป็นเมนูนั้น หรือเมนูอื่นแทน บางคนสั่งเกี๊ยว ได้ซุปมิโซะ บางคนสั่งปลาย่าง ได้ซูชิแทน! แต่นั่นไม่ได้ทำให้ลูกค้ารู้สึกโมโหแต่อย่างใด แต่ที่แห่งนี้ลูกค้า 99% พึงพอใจกับมื้ออาหารของพวกเขา เราชวนทำความรู้จัก Restaurant of Mistaken Orders ร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์โฮมมี่ในโตเกียว ที่พนักงานเสิร์ฟทั้งหมดล้วนเป็นผู้สูงอายุ ซึ่งมีภาวะสมองเสื่อม <img src="https://media.thairath.co.th/image/jZgs1a2h8eu5gz8EE1omitfBvJv6D5Rxs1a2hdZuj5XR05XXHtUe9vA1.jpeg" data-id="101291" data-url="https://media.thairath.co.th/image/jZgs1a2h8eu5gz8EE1omitfBvJv6D5Rxs1a2hdZuj5XR05XXHtUe9vA1.jpeg" style="width: auto;" class="fr-fic fr-dib">หลายคนอาจจะรู้กันอยู่แล้วว่า ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ได้ชื่อว่าเป็นสังคมสูงอายุระดับสุดยอด (Super-Aged Society) ซึ่งก็มีการคาดการณ์ว่าภาวะสมองเสื่อมจะส่งผลกระทบต่อประชากร 1 ใน 5 คน ภายในปี 2025 และเพื่อการอยู่ร่วมกันในสังคมให้เป็นสุขสำหรับผู้ที่มีภาวะสมองเสื่อม และไม่มีสมองเสื่อม ชิโระ โอกุนิ (Shiro Oguni) ผู้กำกับรายการทีวีชาวญี่ปุ่น จึงปิ๊งไอเดีย เปิด Restaurant of Mistaken Orders เป็นร้านอาหารป๊อปอัปขึ้นมา เพื่อให้ผู้สูงอายุที่มีภาวะสมองเสื่อมได้ทำงาน ได้เห็นคุณค่าและความสามารถของตัวเอง โดยหยิบความหลงๆ ลืมๆ ของพวกเขา ที่อาจจะแก้ได้ยากในวัยสูงอายุแล้ว มาเป็นจุดที่ทำให้ร้านนี้มีความพิเศษตรงที่ลูกค้าทุกคนเตรียมใจมาตั้งแต่ก่อนเข้าร้านว่า สั่งเมนูหนึ่ง อาจจะได้อีกเมนูหนึ่งนะ ซึ่งก็ได้กลายเป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนความสุข และสร้างรอยยิ้มให้ทั้งกับคนเสิร์ฟและลูกค้าที่รอลุ้นทุกครั้งที่สั่งออเดอร์ Restaurant of Mistaken Orders เปิดตัวครั้งแรกในปี 2017 โอกุนิได้รับแรงบันดาลใจมาจากประสบการณ์ส่วนตัวของเขา เมื่อเขาได้มีโอกาสไปเยี่ยมผู้สูงอายุในบ้านพักคนชราแล้วดันเป็นตัวเขาเองที่เสิร์ฟเกี๊ยวแทนเบอร์เกอร์ให้กับคนที่นั่น แต่ทุกคนกลับกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อย จากที่รู้สึกผิด และกำลังจะแก้ไขสถานการณ์ เขาก็มาคิดได้ว่าบางครั้งความผิดพลาดก็ไม่ได้แย่ไปเสียตลอด แค่ยอมรับว่าตัวเองผิดพลาด และปล่อยใจให้ทำผิดพลาดบ้างก็อาจสร้างความสุขให้กับตัวเราและคนอื่นได้เหมือนกัน เหมือนกับที่ผู้ที่มีภาวะสมองเสื่อม enjoy eating สุดๆ และไม่ได้มีปัญหาอะไรกับเกี๊ยวตรงหน้า <img src="https://media.thairath.co.th/image/jZgs1a2h8eu5gz8EE1omitfBvNZ3XqLkyhIo99QFBW9AYJce9vA1.jpeg" data-id="101291" data-url="https://media.thairath.co.th/image/jZgs1a2h8eu5gz8EE1omitfBvNZ3XqLkyhIo99QFBW9AYJce9vA1.jpeg" style="width: auto;" class="fr-fic fr-dib">สิ่งที่โอกุนิตั้งใจให้เกิดขึ้นสำหรับการเปิดร้านอาหารแห่งนี้คือการนำเสนอภาพของผู้สูงอายุที่มีภาวะสมองเสื่อมว่าเขายังสามารถมีความสุขในการทำงานได้ และอยู่ท่ามกลางคนที่ไม่มีภาวะสมองเสื่อมได้อย่างปกติ และส่งต่อความสุขซึ่งกันและกันได้ ในช่วงแรกที่เปิดป๊อปอัปขึ้นมา ออเดอร์ 37% เสิร์ฟผิดทั้งหมด แต่ลูกค้า 99% กล่าวว่าเขาพึงพอใจกับมื้ออาหารของเขา ไม่ได้มีใครทำท่าทีตกใจหรือท่าทีหงุดหงิด ทุกคนล้วนแสดงความเข้าอกเข้าใจ และไม่ได้มาโฟกัสถึงข้อบกพร่องนี้ของพนักงานเสิร์ฟ <img src="https://media.thairath.co.th/image/jZgs1a2h8eu5gz8EE1omitfBvM82WlquUtHt4AHcZp1V2rh0BAe9vA1.jpeg" data-id="101291" data-url="https://media.thairath.co.th/image/jZgs1a2h8eu5gz8EE1omitfBvM82WlquUtHt4AHcZp1V2rh0BAe9vA1.jpeg" style="width: auto;" class="fr-fic fr-dib">“เราต้องการเปลี่ยนสังคมให้มีความเอาใจใส่และง่ายๆ สบายๆ มากขึ้น ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นโรคสมองเสื่อมหรือไม่ก็ตาม เราก็สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืน” โอกุนิกล่าว ดังนั้น ร้านอาหารนี้จึงไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าออเดอร์จะถูกหรือผิด แต่เขาย้ำว่า “สิ่งสำคัญคือการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้มีภาวะสมองเสื่อมต่างหาก” นับว่าเป็นไอเดียดีๆ ที่ทำให้เห็นว่าผู้สูงอายุที่มีแนวโน้มมีภาวะสมองเสื่อมในสังคม ไม่ควรถูกผลักให้อยู่แต่บ้าน ถูกมองว่าทำตัวเป็นภาระสังคมเพราะความขี้หลงขี้ลืม เพราะพวกเขาก็ยังต่างเป็นมนุษย์ที่ยังอยากใช้ชีวิตของตัวเอง ทำงานที่สร้างความสุขให้กับตัวเอง และผู้อื่น ไม่ต่างจากคนในวัยอื่นๆ ที่มีสมองเป็นปกติดีเหมือนกัน เพราะฉะนั้นการทำความเข้าใจในความแตกต่างหลากหลายในสังคม จะทำให้สังคมของเราน่าอยู่มากขึ้นอย่างแน่นอน อ้างอิง: <a href="https://www.forbes.com/sites/justcapital/2023/08/18/the-restaurant-of-mistaken-orders/?sh=aee01333d5c9" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.forbes.com/sites/justcapital/2023/08/18/the-restaurant-of-mistaken-orders/?sh=aee01333d5c9</a> <a href="https://www.japan.go.jp/tomodachi/2019/winter2019/restaurant_of_mistaken_orders.html" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.japan.go.jp/tomodachi/2019/winter2019/restaurant_of_mistaken_orders.html</a>&nbsp;

หากจะบอกว่าการทำแบบสำรวจเหล่านี้ไม่มีประโยชน์เสียทีเดียวก็พูดได้ยาก เพราะที่สุดแล้วมันก็สะท้อนแนวโน้มที่หลายๆ คนมีร่วมกันและพอจะทำให้เห็นสถิติบางอย่างและความเชื่อมโยงกับตัวเราเองได้

"งานอดิเรกของผู้ชายที่ผู้หญิงไม่ชอบ" ไวรัลจากญี่ปุ่นที่สะท้อนสิ่งที่ผู้หญิงต้องการ
ในความสัมพันธ์ (ซึ่งบางครั้งก็หนีไม่พ้นการเหมารวม)

สำนักข่าว AP ได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยตัวตนจำนวน 4 คน ว่านโยบายนี้ถูกสั่งการโดยนาย Nicholas Burns เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศจีน เพียงไม่นานก่อนที่เขาจะหมดวาระการดำรงตำแหน่งในจีน และก่อนที่โดนัลด์ ทรัมป์ จะขึ้นสู่ตำแหน่งประธานาธิบดี

สำนักข่าว AP เผย สหรัฐฯ สั่งห้ามเจ้าหน้าที่รัฐและครอบครัวที่อยู่ในจีน คบหาเชิงโรแมนติกหรือมีความสัมพันธ์ทางเพศกับพลเมืองจีน

21-27 เมษายนนับเป็นสัปดาห์แห่งการมองเห็นเลสเบี้ยน (Lesbian Visibility Week) เพื่อสร้างความตระหนักรู้ให้ผู้คนมองเห็นและเข้าใจเลสเบี้ยนมากขึ้น

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Change

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MIRROR TEAM

RELATED

HOT TOPICS