การมีประจำเดือนเป็นสิ่งที่น่าหงุดหงิดด้วยตัวมันเองอยู่แล้ว ทั้งความไม่สบายตัว และอาการปวดประจำเดือน แต่สิ่งที่น่าหงุดหงิดไปกว่านั้น คือการที่ผู้มีประจำเดือนต้องแบกรับค่าใช้จ่ายของ ‘ผ้าอนามัย’ ที่ไม่น้อยเลยในแต่ละเดือน

ผ้าอนามัยฟรีจากรัฐสวัสดิการ อีกหนึ่งหนทางสู่ความเท่าเทียมทางเพศที่ยังไม่มีในไทย

การมีประจำเดือนเป็นสิ่งที่น่าหงุดหงิดด้วยตัวมันเองอยู่แล้ว ทั้งความไม่สบายตัว และอาการปวดประจำเดือน แต่สิ่งที่น่าหงุดหงิดไปกว่านั้น คือการที่ผู้มีประจำเดือนต้องแบกรับค่าใช้จ่ายของ ‘ผ้าอนามัย’ ที่ไม่น้อยเลยในแต่ละเดือนถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีถ้วยอนามัยเป็นอีกหนึ่งทางเลือก และกำลังได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ อาจจะด้วยความแปลกใหม่ สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ แต่ก็มีผู้มีประจำเดือนหลายคนที่ยังคงใช้ผ้าอนามัยแบบเดิม (แบบแผ่นหรือสอด) เนื่องจากเงื่อนไขของแต่ละคนที่ต่างกันออกไปใน 1 วัน ผู้มีประจำเดือนต้องใช้ผ้าอนามัยอย่างน้อย 4-6 แผ่น ต้องเปลี่ยนทุกๆ 3-4 ชั่วโมง เพื่อสุขอนามัยที่ดี และป้องกันการติดเชื้อในช่องคลอดและทางเดินปัสสาวะ พวกเขาจะต้องจ่ายค่าผ้าอนามัยอย่างต่ำที่สุด 45 บาทต่อเดือน แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ต้องการจะใช้ผ้าอนามัยแบบเดียวกัน ความแตกต่างของผ้าอนามัยทำให้ราคาต่างกันด้วย เช่น แบบกลางวัน กลางคืน ความยาว หรือถ้ามีคุณสมบัติเพิ่มเติม เช่น สูตรเย็นลดความอับชื้น ราคาก็จะเพิ่มสูงขึ้นอีกผู้มีประจำเดือนจำนวนมาก ไม่สามารถเข้าถึงผ้าอนามัย หรือสวัสดิการเกี่ยวกับประจำเดือนได้ ในรัฐมหาราษฏระ ทางภาคตะวันตกของอินเดีย ผู้หญิงหลายคนยอมตัดมดลูกเพื่อให้ได้ทำงานเป็นคนตัดอ้อย พวกนายจ้างมักไม่ต้องการแรงงานผู้หญิง เพราะจะต้องหยุดงานเมื่อปวดท้องประจำเดือน อีกทั้งสภาพแวดล้อมการทำงานที่ต้องกินอยู่กลางไร่อ้อย ห้องน้ำไม่สะอาด ทำให้ผู้หญิงที่มีประจำเดือนลำบากมาก หรืออย่างในราชทัณฑ์ไทยก็มีปัญหาผ้าอนามัย ทั้งกาวไม่ดี ใช้แล้วหลุด และไม่เพียงพอต่อความต้องการ แต่นักโทษหญิงก็ต้องทนอยู่ในสภาพเช่นนั้น&nbsp;นอกจากนั้นยังมีผู้ชายข้ามเพศและนอนไบนารีที่รู้สึกแย่ขณะเป็นประจำเดือน เพราะขัดกับอัตลักษณ์ของตน และเป็นกลุ่มคนที่ถูกลืม เพราะเมื่อพูดถึงผลิตภัณฑ์สำหรับประจำเดือน มักจะถูกมองว่าเป็นของใช้สำหรับผู้หญิงเท่านั้น&nbsp;ผู้มีประจำเดือนไม่ได้รับการช่วยเหลือและสวัสดิการที่สมควรจะได้ แทนที่จะทำให้คนกลุ่มนี้เข้าถึงผ้าอนามัยหรือสวัสดิการเพื่อส่งเสริมสุขอนามัยและความเป็นอยู่ที่ดี พวกเขากลับถูกผลักให้หาวิธีจัดการกับการเป็นประจำเดือนด้วยตัวเองหลายประเทศพยายามให้ความช่วยเหลือผู้มีประจำเดือน โดยคำนึงถึงความเท่าเทียมทางเพศ สกอตแลนด์ เป็นเพียงประเทศเดียวที่มีผ้าอนามัยฟรีสำหรับประชาชนทุกคน ไต้หวันและนิวซีแลนด์มีการแจกผ้าอนามัยฟรีสำหรับนักเรียนที่ไม่มีรายได้ และบางประเทศก็มีการยกเลิกภาษีผ้าอนามัย ในขณะที่ประเทศไทย ผ้าอนามัยจัดเป็นสินค้าควบคุม และมีการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ซึ่งยังคงเป็นภาระค่าใช้จ่ายของผู้มีประจำเดือนอยู่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผ้าอนามัยดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องสำคัญหรือจำเป็น มาจากการที่สถาบันทางสังคมอย่าง สถาบันครอบครัว การศึกษา หรือแม้แต่หน่วยงานด้านสาธารณสุข ไม่ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับประจำเดือนและผ้าอนามัยมากพอ ทำให้ประชาชนขาดความรู้ความเข้าใจ โดยเฉพาะคนที่ไม่มีประจำเดือนก็จะยิ่งรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับตัวเอง ไม่ต้องให้ความสนใจก็ได้ ขนาดเราที่เป็นผู้หญิงยังไม่ค่อยรู้เลย ไม่มีใครสอนว่าผ้าอนามัยมีแบบไหนบ้าง ต้องดูแลความสะอาดยังไง ตอนเป็นประจำเดือนครั้งแรก เราก็เลือกผ้าอนามัยมั่วๆ เอา ลองผิดลองถูกกว่าจะเจอแบบที่ใช่สำหรับเราผู้ชายในสังคมบางกลุ่มยังไม่เข้าใจความลำบากของผู้มีประจำเดือน และการที่ต้องแบกรับค่าผ้าอนามัยอย่างเลี่ยงไม่ได้ เวลาที่ผู้มีประจำเดือนระบายความขุ่นเคืองใจ หรือออกมาเรียกร้องสิทธิของพวกเขาในการเข้าถึงผ้าอนามัย ก็มักจะมีประโยคแนว “เดี๋ยวทำให้ไม่มีเมนส์ไปอีก 9 เดือนเลย” ผู้พูดอาจคิดว่าประโยคนี้ฟังดูตลก แต่จริงๆ แล้วผู้มีประจำเดือนรู้สึกโกรธมาก พวกเขาไม่ได้อยากท้อง ผู้ชายไม่เห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้น แถมยังเสนอทางแก้ที่ไม่ตรงจุด และไม่เกิดประโยชน์ต่อการเรียกร้องสิทธิอีกต่างหาก&nbsp;เมื่อการหล่อหลอมความคิดของคนในสังคมจากสถาบันทางสังคมมารวมกับ ‘ระบบชายเป็นใหญ่’ ที่ฝังรากลึกอยู่ในสังคมไทย ผู้มีอำนาจตัดสินใจในนโยบายรัฐสวัสดิการยังคงเป็นเพศชาย ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากราคาผ้าอนามัย และไม่คิดว่าเป็นประเด็นที่ต้องได้รับการแก้ไข ทำให้ไม่ว่าจะมีคนออกมาเรียกร้อง หรือสร้าง movement เกี่ยวกับการลด หรือไม่เก็บภาษีผ้าอนามัย ไปจนถึงสวัสดิการผ้าอนามัยฟรีมากเพียงใด เสียงเหล่านั้นยังคงไม่เป็นผลก่อนที่ประเทศไทยจะไปถึงการมีผ้าอนามัยฟรี อย่างน้อยที่สุด รัฐต้องยกเว้นการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากผ้าอนามัยให้ได้เสียก่อน รัฐต้องหยุดแสวงหารายได้จากผู้มีประจำเดือน และหันมาสนับสนุนสิทธิของคนกลุ่มนี้ให้เข้าถึงผ้าอนามัยได้อย่างทั่วถึงในฐานะประชาชนของประเทศเนื้อหาโดย อภิชญา จิราพงษ์อ้างอิง&nbsp;<a href="https://www.bbc.com/thai/international-48900229" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.bbc.com/thai/international-48900229</a>&nbsp;<a href="https://prachatai.com/journal/2016/10/68561" rel="noopener noreferrer noopener noreferrer" target="_blank">https://prachatai.com/journal/2016/10/68561</a>ใช้ “ผ้าอนามัย” อย่างไร? ให้ปลอดภัยกับจุดซ่อนเร้น | โรงพยาบาลเปาโล - Paolo Hospital&nbsp;สำรวจราคา “ผ้าอนามัย” ทั่วโลก ผู้หญิงหมดเงินไปเท่าไรกับสิ่งจำเป็นนี้ : PPTVHD36<a href="https://helloclue.com/articles/cycle-a-z/gender-dysphoria-your-cycle" rel="noopener noreferrer noopener noreferrer noopener noreferrer" target="_blank">https://helloclue.com/articles/cycle-a-z/gender-dysphoria-your-cycle</a>&nbsp;

มีหลายกรณีที่ชวนให้คนได้ตระหนักถึงกรณีที่ ‘ผู้ชาย’ หรือ ‘เด็กชาย’ ตกเป็นเหยื่อการคุกคามทางเพศจนถึงการล่วงละเมิดทางเพศ ไม่ว่าจะข่าวลือเรื่อง Justin Bieber ที่ถูก Diddy ล่วงละเมิด ทั้งยังมีการเปิดเผยอีกว่ามีเด็กชายวัย 9 ขวบเคยตกเป็นเหยื่อของ Diddy ด้วยเหมือนกัน ในจังหวะใกล้ๆ กัน ดาราชายฝั่งไทยก็ออกมาเปิดเผยเรื่องที่เคยถูกคุกคามทางเพศ

เมื่อ ‘ผู้ชาย’ ตกเป็นเหยื่อการล่วงละเมิดทางเพศ แต่กำแพงเรื่อง 
‘ความเป็นชาย’ อาจทำให้พวกเขาเข้าไม่ถึงความช่วยเหลือ และอาจ 
‘โทษตัวเอง’ ทั้งที่ไม่ได้ผิด

การปรับแก้กฎหมายใหม่ล่าสุดของอิตาลี ถึงกับถูกวิจารณ์ว่าเป็นการถอยกลับไปสู่ยุคกลางอีกครั้ง เมื่อรัฐสภาเพิ่งผ่านกฎหมายที่ทำให้การรับเด็กอุ้มบุญจากต่างประเทศเป็นสิ่งผิดกฎหมาย โดยรัฐบาลฝั่งอนุรักษ์นิยมที่นำโดยนายกหญิงอย่างจอร์จา เมโลนี (Giorgia Meloni) ระบุว่า นี่เป็นการปกป้องครอบครัวตามขนบอันดีงามให้คงอยู่ต่อไป

อิตาลีแบนการรับเด็กอุ้มบุญ
จากต่างประเทศซึ่งส่งผลโดยตรง
ต่อคู่รัก LGBTQ 


เมื่อสุดสัปดาห์ผ่านมาประเด็นหนึ่งที่ถูกพูดถึงอย่างมาก คงเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากกรณีของ จงหยาง (Zhong Yang) หญิงผู้เป็นอดีตผู้ว่าการและรองเลขานุการพรรคคอมมิวนิสต์จีน หรือ CPC วัย 52 ซึ่งถูกตัดสินจำคุกจากความผิดที่เธอประพฤติมิชอบด้วยการคอร์รัปชั่น และบังคับเพื่อให้ผู้ใต้บังคับบัญชาชายมากกว่า 58 คนให้มีเซ็กซ์กับเธอ

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

CONVERSATION

VDO

PR-NEWS

Change

ผ้าอนามัยฟรีจากรัฐสวัสดิการ อีกหนึ่งหนทางสู่ความเท่าเทียมทางเพศที่ยังไม่มีในไทย

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MIRROR TEAM

RELATED

HOT TOPICS