นอกจากคนส่วนใหญ่จะรู้จักจากการเป็นพิธีกรช่อง Open Relationship แล้ว ศ.ดร. ชลิดาภรณ์ ยังเป็นอาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่มีความสนใจด้านแนวคิดทางการเมืองสตรีนิยม ทฤษฎี และแนวคิดการเมืองเปรียบเทียบ รวมไปถึงสตรินิยมและเพศวิถี

MIRROR50 : ศ.ดร. ชลิดาภรณ์ ส่งสัมพันธ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านความรักและความสัมพันธ์ ผู้มอบพื้นที่ที่พร้อมโอบกอด ‘คนคลั่งรัก’ อย่างละมุนละไมและไม่ตัดสิน

<img src="https://media.thairath.co.th/image/7mggY9wx9zeyn5NXVI3sta94u7CGmXIgDsBs1a2hc2JtAtUe9vA1.jpg" data-id="101930" data-url="https://media.thairath.co.th/image/7mggY9wx9zeyn5NXVI3sta94u7CGmXIgDsBs1a2hc2JtAtUe9vA1.jpg" style="width: auto;" class="fr-fic fr-dib">ชลิดาภรณ์ ส่งสัมพันธ์ : LIFE IS NOW ‘ความรักมันไม่ได้เลือกเพศสภาพ ความรักมันพาใครมาหาเราก็ได้’ ประโยคเด็ดจากพอดแคสต์ Open Relationship ที่ฉลองครบ 100 EP ไปหมาดๆ และผู้กล่าวประโยคนี้คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ‘ศ.ดร. ชลิดาภรณ์ ส่งสัมพันธ์’&nbsp;เพียงแค่ประโยคเดียวก็สะท้อนให้เห็นถึงมุมมองอันเปิดกว้างทางความสัมพันธ์และเพศสภาพของผู้พูดได้ดีที่สุด&nbsp;ศ.ดร. ชลิดาภรณ์ คือเจ้าของแฮชแทก #ทวิตรัก ที่ใช้พื้นที่ในทวิตเตอร์คอยตอบปัญหาความรักและความสัมพันธ์ของผู้คนมานานกว่า 10 ปี และเป็นผู้เขียนหนังสือ ‘รักของเราไม่เท่ากัน’ จนไม่แปลกใจที่หลายคนพร้อมใจกันเรียกเธอว่า ‘อาจารย์แม่’ เพราะคอยชี้แนะ ให้คำแนะนำเรื่องความรักความสัมพันธ์ได้ไม่ต่างจากแม่ เพราะบางทีปัญหาความรักความสัมพันธ์ของมนุษย์ก็เหมือนเส้นผมบังภูเขาที่หลายครั้งเรารู้อยู่แล้ว เพียงแค่ต้องการใครสักคนมาพูดบางประโยคที่เราอยากได้ยินเท่านั้น และ ศ.ดร. ชลิดาภรณ์ก็คือ ‘ใครคนนั้น’ ที่พร้อมยืนอยู่เคียงข้างเราเสมอมา พร้อมโอบกอด มอบพื้นที่ปลอดภัยให้หัวใจที่คลั่งรักของเราทุกคนโดยไม่ตัดสิน&nbsp;และนอกจากนั้นแล้ว งานหลักของ ศ.ดร. ชลิดาภรณ์ คือการเป็นอาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้มีความสนใจด้านแนวคิดทางการเมืองสตรีนิยม และแนวคิดการเมืองเปรียบเทียบ รวมไปเรื่องเพศวิถีที่ในอีกภาคหนึ่งเธอยังทำงานเคลื่อนไหวเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ พร้อมกับการเรียกร้องให้เซ็กซ์เวิร์เกอร์ถูกบรรจุเป็นหนึ่งในการงานอาชีพที่ถูกกฎหมายและมีสิทธิ์ได้รับการดูแลคุ้มครองไม่ต่างจากอาชีพอื่นๆ รวมถึงการขับเคลื่อนเรื่องสิทธิการทำแท้งด้วยการผลักดันในเชิงนโยบายอีกด้วยPower of Now ของคุณคือ : “Life is now มันคือชีวิตของคุณ สิ่งที่คุณมี สิ่งที่คุณเป็น คุณทำอะไรได้ คือโมเมนต์นี้ ปัจจุบันนี้เท่านั้น เพราะฉะนั้น อย่าเหลียวหลังมองอดีตเยอะ หากคุณอยู่กับปัจจุบันได้ คุณจะมองเห็นตัวเอง มองเห็นคนอื่น มองเห็นโลกรอบข้าง คิดถึงสถานการณ์รอบตัวมากขึ้น มันจะทำให้คุณตามทัน และสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของโลกได้”สิ่งที่คุณกำลังทำหรือขับเคลื่อนอยู่ตอนนี้คืออะไร? :&nbsp;“นอกจากสอนหนังสือที่คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์แล้ว ความสนใจหลักคือเรื่อง Gender กับ Sexual Equality และส่วนที่เป็นงานด้านเคลื่อนไหว คือการทำเรื่องเซ็กซ์เวิร์เกอร์ที่อยากจะเห็นการขายบริการทางเพศ เป็นการงานอาชีพแบบ 'Sex work is work' รวมถึงขับเคลื่อนเรื่องการทำแท้ง ซึ่งเป็นประเด็นเร่งด่วนทั้งหมด เพราะกระทบกับคนหลายกลุ่ม และอีกเรื่องที่ทำก็คือพอดแคสต์รายการที่พูดเรื่องความสัมพันธ์อย่าง Open Relationship ที่จริงๆ แล้วมันคือมุมมองทางการเมืองของตัวเอง เพียงแต่คนฟังอาจจะไม่รู้สึก แต่มันเป็นการชวนให้คนดูตรวจสอบ ความเชื่อ ค่านิยม ความคาดหวังของตัวเอง ทำให้คุณได้ไคร่ครวญ เพราะบางทีคุณต้องฟังคนอื่นบ้าง ฟังให้เป็น และอย่าบังคับคนอื่นให้เชื่อเหมือนกับคุณ”มีเรื่องไหนที่ต้องเร่งขับเคลื่อนก่อน หรือสามารถทำไปพร้อมกันทุกเรื่องได้? :&nbsp;"จริงๆ เป็นประเด็นเร่งด่วนทั้งหมด แต่มักจะถูกผลักให้เป็นเรื่องรองเสมอ หรือถูกทำให้เป็นเรื่องที่เข้าใจว่ามีเรื่องอื่นสำคัญกว่าเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทยที่มักจะมองว่าเป็นเรื่องเล็ก หรือไม่ก็เป็นเรื่องส่วนตัว ที่ไม่เกี่ยวกับนโยบายสาธารณะ ซึ่ง ณ เวลานี้ เรื่องการให้บริการทางเพศ เราผลักดันด้วยการรวบรวมรายชื่อครบแล้ว เสนอแล้ว เพื่อยกเลิก พ.ร.บ. การค้าประเวณี ปี 39 ทำให้การขายบริการทางเพศมีสถานะเป็นการงานอาชีพให้ได้ค่ะ"&nbsp;คุณกลัวอะไรในอนาคต? : “กลัวระบบการเมือง การมองรัฐฯ และนโยบายสาธารณะ ตอนนี้คนใช้กรอบความคิดแบบเดิมที่เชื่อว่าคิดถูกมาแล้วตั้งแต่เมื่อหลายศตวรรษ แล้วนำชุดความคิดนั้นมาใช้กับการจัดการปัญหา กับคุณภาพชีวิตผู้คน กับสถานการณ์ต่างๆ ที่มันเกิดขึ้นในปัจจุบัน ทั้งๆ ที่โลกเปลี่ยนไปมากแล้ว แต่ก็ยังยึดติดอยู่กับกรอบความคิดเดิมเหล่านั้นอยู่”ความกลัวนั้นส่งผลต่อปัจจุบันอย่างไร? :&nbsp;“เพราะโลกเปลี่ยนเร็วมากๆ เลยทำให้ดูเหมือนไล่กันไม่ทัน มันส่งผลให้บางคนมีชุดความคิดแบบนี้ ไปตีกรอบความคิด ความหมาย ไปจำกัด บังคับคนอื่น ว่าสิ่งที่คุณทำมันดี มันถูก แล้วมันอาจกลายเป็นผลักดันให้คนแบ่งข้างกันด้วยกรอบคิดแบบนั้น”สิ่งที่สามารถทำได้เลยเพื่อเอาชนะความกลัวในตอนนี้คืออะไร? :&nbsp;"ต้องตระหนัก คิดใคร่ครวญ ตรวจสอบตัวเอง และลงมือทำ ฟังคนอื่นให้เป็น แลกเปลี่ยนพูดคุยกันให้มาก อย่าบังคับใคร อย่ายึดติดอยู่กับอะไรแล้วคิดว่ามันถูกเสมอ”

แคมเปญ MIRROR50 การเฉลิมฉลองให้กับ 50 รายชื่อบุคคลและองค์กรแห่งปีที่ก้าวข้ามความกลัวให้กลายเป็นพลังขับเคลื่อนในด้านต่างๆ แก่สังคม ด้วยความเชื่อมั่นที่จะ ‘เป็น’ ตัวเอง

ปลุกความมั่นใจเพื่อเหรียญรางวัลแห่งความภาคภูมิใจ Confident NOW I เอสที - วารีรยา สุขเกษม 

ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของโลกที่เร็วเสียจนเราแทบไม่มีเวลาได้หยุดพักหายใจ คิดทบทวนกับตัวเอง พร้อมกับความกังวลที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เพราะมัวแต่พะวงกับอนาคตที่ยังมาไม่ถึง อาจทำให้เราพลาดโอกาสที่จะได้มีความสุขไปอย่างน่าเสียดาย

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Changer

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MIRROR TEAM

RELATED

HOT TOPICS