แม้ว่าจะถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิต แต่ ช่อ-พรรณิการ์ วานิช ยืนยันว่าตัวเองยังคงเป็นนักการเมืองและจะเดินหน้าทำงานการเมืองต่อไป และสิ่งหนึ่งที่เธอต้องการยืนหยัดสนับสนุนก็คือ Freedom of Speech เพราะนี่คือรากฐานของประชาธิปไตยที่แท้จริง

Mirror 50 : พรรณิการ์ วานิช ผู้ยืนยันว่ายังคงทำงานการเมือง และยืนหยัดเพื่อเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น

แม้ว่าจะถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิต แต่ ช่อ-พรรณิการ์ วานิช ยืนยันว่าตัวเองยังคงเป็นนักการเมืองและจะเดินหน้าทำงานการเมืองต่อไป เธอคือโฆษกคณะก้าวหน้าและอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร พรคคอนาคตใหม่ ก่อนหน้านี้เธอถูกเพิกถอนสิทธิในการสมัครรับเลือกตั้งนานถึง 10 ปี หลังพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ จนวันนี้ที่เธอถูกศาลฎีกาที่พิพากษาอีกครั้ง ให้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิตฐานฝ่าฝืนจริยธรรม จากกรณีโพสต์ภาพที่ถูกกล่าวหาว่าพาดพิงสถาบันฯ ซึ่งนับว่าเป็นนักการเมืองอีกคนที่ถูก ‘ประหารชีวิตทางการเมือง’ ด้วยอำนาจของรัฐธรรมนูญปี 2560&nbsp;และในวันนี้ สิ่งหนึ่งที่เธอต้องการยืนหยัดสนับสนุนก็คือ Freedom of Speech หรือเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น เพราะนี่คือรากฐานของประชาธิปไตยที่แท้จริง ที่ทุกคนมีสิทธิที่จะพูด ทั้งตัวเราและคนที่เห็นต่างกับเราด้วยเช่นกัน<img src="https://media.thairath.co.th/image/wsDndcFM0p1V2s7o31rfj8KrMxP5JULJim2VuVds1a2h6ATUIke9vA1.png" data-id="101316" data-url="https://media.thairath.co.th/image/wsDndcFM0p1V2s7o31rfj8KrMxP5JULJim2VuVds1a2h6ATUIke9vA1.png" style="width: auto;" class="fr-fic fr-dib">Q: คิดว่ามีอะไรที่คนยังไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับสิ่งที่คุณทำในช่วงนี้บ้างคะA: ทุกคนคิดว่าตกงาน แล้วก็คิดว่าน่าจะเปลี่ยนไปทำอย่างอื่นแล้ว เปิดร้านอาหารหรือเปล่า เปิดร้านกาแฟหรือเปล่า ก็ยืนยันว่ายังคงทำงานต่อไป การไม่ได้เป็นส.ส. ไม่เกี่ยวข้องอะไรเลยกับการทำงานการเมืองของเรานะคะ ก็ยังทำอย่างอื่นต่อได้Q: หนึ่งประเด็นที่อยากผลักดันที่สุดคืออะไรA: อยากผลักดันเรื่อง freedom of speech หรือว่าเสรีภาพในการพูด ในฐานะที่เคยเป็นสื่อมวลชนมาก่อนด้วย แล้วก็เป็นนักการเมือง คิดว่าคุณค่าเรื่องนี้มันคือสิ่งที่เชื่อมโยงสองอาชีพของเราเข้าด้วยกัน มันคือสิ่งที่ไม่ว่าจะเป็นสื่อมวลชนหรือเป็นนักการเมืองเนี่ย มันเป็นสิ่งที่เราต้องปกป้องพิทักษ์รักษา ไม่ใช่แค่สิทธิของเรา แต่เหมือนกับเป็นสิทธิของพี่น้องประชาชนเพื่อนร่วมประเทศไปจนถึงเพื่อนร่วมโลกของเราด้วย เพราะว่าประเทศที่เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง ทุกคนควรจะมีสิทธิที่จะพูดใช่ไหมคะ ถึงแม้ว่าเราจะไม่เห็นด้วยกับการพูดของคนอื่น แต่อย่างน้อยต้องช่วยกันพิทักษ์สิทธิที่ทุกคนจะได้พูดในสิ่งที่ตัวเองคิดออกมาและนั่นคือประเทศที่เราอยากจะเห็น <img src="https://media.thairath.co.th/image/wsDndcFM0p1V2s7o31rfj8KrHZpgZwChn6s1a2hISi43cZP81Ye9vA1.png" data-id="101316" data-url="https://media.thairath.co.th/image/wsDndcFM0p1V2s7o31rfj8KrHZpgZwChn6s1a2hISi43cZP81Ye9vA1.png" style="width: auto;" class="fr-fic fr-dib">Q: การมีคนมองเห็นสิ่งที่คุณผลักดัน สำคัญแค่ไหนA: การต่อสู้ทางการเมืองเนี่ย ถ้าเราเชื่ออย่างแรงกล้าแต่เชื่ออยู่คนเดียว ไม่มีวันสำเร็จ ไม่มีวันชนะและไม่มีวันเปลี่ยนแปลงประเทศและสังคมให้เป็นอย่างที่เราต้องการจะให้มันเป็นได้ มันคือการทำสงครามทางความคิด เราต้องออกไปชักชวน ไปรณรงค์ ไปพูดโน้มน้าวยังไงก็ได้ให้คนอื่นๆ เนี่ย เห็นในสิ่งเดียวกับที่เราเห็น คุณค่าเดียวกับที่เรายึดถือแล้วสังคมมันถึงจะเปลี่ยนไปในแบบที่เราต้องการได้ เพราะฉะนั้นยิ่งมีคนเห็นในสิ่งที่เราทำมาก เราทำความเข้าใจกับเขาได้มาก เชิญชวนให้เขามาเห็นด้วยกับเราได้มาก สังคมที่เราฝันเห็น โลกที่เราอยากอยู่ มันก็จะเกิดขึ้นเร็ว&nbsp;Q: ยังมีคนกลุ่มไหนหรือใครบ้างที่ควรได้รับการมองเห็นมากขึ้นA: คนที่ถูกตราหน้าว่าเป็นพวกที่ extreme หรือสุดโต่งค่ะ คุณไม่มีวันรู้หรอกว่าวันหนึ่งคุณก็อาจจะถูกตัดสินว่าเป็นพวก extreme หรือสุดโต่ง หรือมีความคิดที่เป็นอันตราย ซึ่งความคิดไม่มีวันเป็นอันตรายค่ะ แต่ว่าเวลาที่คุณคิดว่าความคิดเหล่านั้นเป็นอันตราย คุณเนี่ยกำลังจะเริ่มไปทำอันตรายพวกเขา ความคิดไม่เคยฆ่าใครแน่นอน แต่ความเกลียดชังน่ะฆ่า เมื่อคุณรู้สึกว่าเขาสุดโต่ง เขารุนแรง เขาเป็นภัยต่อประเทศของคุณหรือสิ่งที่คุณรัก แล้วคุณก็รู้สึกว่าอยากจะทำลายเขา กำจัดเขา ความรุนแรงมันเกิดขึ้นตรงจุดนั้น เพราะฉะนั้นอยากให้เห็นถึงความคิดที่แตกต่างและอย่าไปตีตรามันก่อนที่คุณจะรู้จักมันดี ว่ามันเป็นสิ่งที่อันตรายหรือสุดโต่ง ดังนั้นเราจึงอยากยืนยันเรื่อง freedom of speech หรือเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นค่ะ<img src="https://media.thairath.co.th/image/wsDndcFM0p1V2s7o31rfj8KrPl80zjKZHOgS41wgt71p1V2PEe9vA1.png" data-id="101316" data-url="https://media.thairath.co.th/image/wsDndcFM0p1V2s7o31rfj8KrPl80zjKZHOgS41wgt71p1V2PEe9vA1.png" style="width: auto;" class="fr-fic fr-dib"><img src="https://media.thairath.co.th/image/wsDndcFM0p1V2s7o31rfj8KrLwJMXgaOjgeIHwZHWwE508e9vA1.png" data-id="101316" data-url="https://media.thairath.co.th/image/wsDndcFM0p1V2s7o31rfj8KrLwJMXgaOjgeIHwZHWwE508e9vA1.png" style="width: auto;" class="fr-fic fr-dib">


นับว่าเป็นค่ำคืนสุดทรงพลังที่เราได้เห็นการรวมตัวกันของเอเนอร์จี้บวกที่ดีมากๆ กับการเกิดขึ้นของงาน ‘MIRROR50’ โปรเจ็กต์ครั้งยิ่งใหญ่ที่ MIRROR Thailand ขอเฉลิมฉลองให้กับบรรดา 50 รายชื่อตัวบุคคลและองค์กรผู้ขับเคลื่อนสังคมด้วยสิ่งที่กำลังทำ เพื่อนำไปสู่การสร้างแรงบันดาลใจและการรับรู้ใหม่ๆ ผลักดันให้เกิดความเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆ ในสังคม

ตอนนี้แหละ เริ่มเลย! ภาพบรรยากาศงาน ‘MIRROR50 POWER of NOW’ โปรเจ็กต์ที่เฉลิมฉลองให้กับ 50 รายชื่อผู้สร้างการเปลี่ยนแปลง เพื่อส่งต่อพลังให้ทุกคนในสังคม

‘คุณจิรัญญา ประชาเสรี’ ประธานกรรมการบริหาร ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท ไครโอวิวา (ประเทศไทย) จำกัด ต้องการขับเคลื่อนมาตลอดระยะเวลากว่า 17 ปี ผ่านการทำงานของแบรนด์ CRYOVIVA (ไครโอวิวา) ธุรกิจธนาคารจัดเก็บสเต็มเซลล์แห่งเดียวในประเทศไทยที่ให้บริการครอบคลุมทั้งด้านการจัดเก็บและการเพาะเลี้ยงสเต็มเซลล์ 

MIRROR50 : คุณจิรัญญา ประชาเสรี หญิงแกร่งแห่ง CRYOVIVA ผู้นำด้านนวัตกรรมสเต็มเซลล์ระดับโลกที่เชื่อว่าทุกคนมีโอกาสเข้าถึงสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีได้ 

'คุณลินดา เชง' คือกรรมการผู้จัดการ ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก (River City Bangkok) ผู้อยู่เบื้องหลังความเปลี่ยนแปลงอันยากลำบากของอาร์ตเซ็นเตอร์ริมแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งนี้ และกลายเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญของกรุงเทพฯ ทั้งสำหรับคนที่หลงรักงานศิลปะ และใครก็ตามที่อยากแวะมาพัก ‘หายใจ’ ที่นี่

MIRROR50 : คุณลินดา เชง กรรมการผู้จัดการ ผู้ฟื้นลมหายใจให้ River City Bangkok ด้วยความตั้งใจที่อยากสร้างแรงกระเพื่อมทางจิตใจผ่านงานศิลปะที่คนไทยไม่เคยพบเจอ

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Changer

Mirror 50 : พรรณิการ์ วานิช ผู้ยืนยันว่ายังคงทำงานการเมือง และยืนหยัดเพื่อเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MIRROR TEAM

RELATED

HOT TOPICS