และหากจะพูดถึงบุคคลซึ่งอยู่เบื้องหลังการผลักดันกฎหมายสมรสเท่าเทียมครั้งนี้ คงต้องมีชื่อของ ‘เศรษฐา ทวีสิน’ นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศ หนึ่งในผู้ที่มีส่วนสำคัญของการผลักดันกฎหมายสมรสเท่าเทียมให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมครั้งแรกในเมืองไทย

MIRROR50 : เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของไทย ผู้ผลักดันสังคมแห่งความหลากหลาย เพราะเชื่อว่ามนุษย์มีสิทธิ์ ‘ได้รัก’ และ ‘มีความสุข’ อย่างเท่าเทียม

เศรษฐา ทวีสิน : MY VOICE IS FOR AN INCLUSIVE SOCIETY WHERE EVERYONE IS TREATED EQUALLYอาจเรียกได้ว่า วันนี้ 23 มกราคม 2568 คือวันสำคัญที่จารึกหมุดหมายของหน้าประวัติศาสตร์ไทยเอาไว้อีกครั้ง เพราะเป็นวันที่การเดินทางอันยาวนานกว่า 20 ปีของร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมได้เกิดขึ้นในสังคมไทยเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งนับเป็นการพิสูจน์ว่าประเทศไทยโอบรับความหลากหลายอย่างเท่าเทียมไม่แพ้ชาติใดในโลก&nbsp;และหากจะพูดถึงบุคคลซึ่งอยู่เบื้องหลังการผลักดันกฎหมายสมรสเท่าเทียมครั้งนี้ คงต้องมีชื่อของ ‘เศรษฐา ทวีสิน’&nbsp;นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศ หนึ่งในผู้ที่มีส่วนสำคัญของการผลักดันกฎหมายสมรสเท่าเทียมให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมครั้งแรกในเมืองไทยทว่านั่นไม่ใช่ครั้งแรกที่เศรษฐา ทวีสิน เป็นหนึ่งในผู้อยู่เบื้องหลังอีกหลักไมล์สำคัญในสังคม เพราะหากย้อนกลับไปถึงบทบาทหน้าที่ที่ผ่านมา เขาในฐานะผู้นำด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศอย่าง บริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน) ความสำเร็จของการผลักดันความหลากหลายและเท่าเทียมนั้นอาจไม่ได้เกิดขึ้นภายในวันเดียว แต่อาศัยระยะเวลาพิสูจน์และเดินทางผ่านการทำงานของเขามาอย่างยาวนานกว่านั้น&nbsp;เศรษฐา ทวีสิน เฝ้ามองการเติบโตของสังคมไทยมาโดยตลอด ตั้งแต่ก่อนที่เขาจะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ด้วยปรัชญาที่เชื่อในสิทธิและความเท่าเทียมของมนุษย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่เขายึดถือไม่เพียงแค่ในพาร์ตของการดำเนินชีวิต แต่ยังรวมถึงการที่เขาใช้มันเป็นปรัชญานการทำงานเสมอมา ด้วยการสนับสนุนความหลากหลายและเท่าเทียมในหลากหลายมิติ ทั้งในด้านสถานะทางสังคม (Status) ด้านเพศสภาพ (Gender) และด้านศักยภาพ (Ability) ผ่านโครงการนำร่องมากมายที่สร้างแรงกระเพื่อมให้เกิดขึ้นในสังคม&nbsp;หนึ่งในนั้นคือโครงการที่บุกเบิกขึ้นอย่าง ‘Sansiri Academy’ อะคาเดมี่ฟุตบอลที่ปลูกฝังให้เด็กๆ และเยาวชนทุกคนได้มีโอกาสเข้าถึงการเล่นกีฬาอย่างเท่าเทียม&nbsp;เขายังเป็นผู้บุกเบิกคนสำคัญในเรื่องการศึกษาอย่างเท่าเทียมอีกด้วย ภายใต้แคมเปญ ‘Zero Dropout เด็กทุกคนต้องได้เรียน’ ที่แสนสิริ ร่วมมือกับ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) กับภารกิจที่ต้องการลดปัญหาเด็กและเยาวชนหลุดออกจากระบบการศึกษาให้เป็นศูนย์ และให้เด็กไทยได้มีโอกาสเรียนหนังสืออย่างเท่าเทียมและยั่งยืน โดยไม่มีใครหลุดออกจากระบบการศึกษา ควบคู่ไปกับการสร้างความตระหนักในเรื่องของสิทธิแรงงานเด็ก ที่เป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันด้านสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นรูปธรรมด้วย&nbsp;และในด้านเพศสภาพ ซึ่งนับว่าอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญของความเท่าเทียมในภาคใหญ่ที่เศรษฐา ทวีสิน ผลักดันเสมอมา ไม่เพียงมีแนวคิดในการสร้างสรรค์สังคมให้โอบรับแนวคิดของความหลากหลายในมิติเรื่องเพศสภาพเท่านั้น แต่เขายังนำมันมาปรับใช้ให้เกิดเป็น ‘Eco System’ ทั้งหมด ริเริ่มตั้งแต่ภายในองค์กร ซึ่งยึดหลัก ‘DEI’ (Diversity, Equity และ Inclusion) ที่สนับสนุนความหลากหลาย ความเสมอภาค และการมีส่วนร่วมของทุกคนในองค์กร ไม่ว่าจะเป็นใคร เพศอะไร หรือเจนเนอเรชั่นไหน ตั้งแต่การดูแลสวัสดิการของพนักงานที่เข้าถึงได้และเป็นธรรม การสร้างระบบนิเวศให้เกื้อกูลสำหรับคนทุกเพศทุกวัย ไปจนถึงเป็นกระบอกเสียงให้กับผู้นำทางธุรกิจที่มีความเชื่อในปรัชญาเดียวกันที่ต้องการเห็นสังคมของความหลากหลายและเท่าเทียม เพราะเชื่อว่ารากฐานที่ดีในสังคม ย่อมเกิดจากความเเข็งแกร่งของทุกๆ คนในหน่วยย่อยเสมอ&nbsp;แม้ระหว่างทางของการต่อสู้ให้เกิดกฎหมายสมรสเท่าเทียม จะต้องใช้เวลานานร่วม 2 ทศวรรษในการต่อสู้ทางกฎหมาย การผ่านความเห็นชอบจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากทั้งพรรคฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน รวมถึงสมาชิกวุฒิสภาที่ร่วมกันผลักดันกฎหมายฉบับนี้ผ่านกลไกของรัฐสภา ผ่านการเผชิญหน้ากับอคติ ค่านิยมของสังคม และยังต้องเผชิญกับวิกฤติทางการเมืองที่ทำให้เศรษฐา ทวีสิน ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ณ ขณะนั้น แต่ด้วยความมุ่งมั่นของเขาที่ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงก็สำเร็จลุล่วงตามที่ได้ให้สัญญาไว้กับพี่น้องประชาชน และความสำเร็จครั้งนั้นก็จะเป็นการสร้างแรงกระตุ้นสิ่งใหม่ๆ ในเรื่องความหลากหลายและเท่าเทียมให้เกิดขึ้นต่อไปหลังจากนี้ด้วย &nbsp;&nbsp;“กว่า 20 ปีของการเดินทางอันยาวนาน #สมรสเท่าเทียม ที่เราทุกคนร่วมกันเรียกร้องถึงความเสมอภาคในการใช้ชีวิตคู่ ได้เดินทางมาถึงจุดหมายแรกแล้วครับ ผม “เชื่อ” ในสิทธิที่เท่าเทียมมาโดยตลอด ตั้งแต่วันที่ก้าวมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ผมไม่เคยลืม วันนี้ ต้องขอบคุณทุกภาคส่วนที่ช่วยกันผลักดันจนมีวันนี้ ความรักที่ไม่ต้องแอบอยู่ข้างหลังใคร เราจะอยู่อย่างที่เราอยากจะอยู่ จะรักในแบบที่เราเป็นคนเลือก ยินดีต้อนรับชาว LGBTQIA2S+ จากทั่วโลกที่จะหลั่งไหลเข้ามาสร้างเศรษฐกิจสีรุ้งในประเทศไทยครับ ‘BETTER LATE THAN NEVER มาสายยังดีกว่าไม่มา’ และวันนี้ เราถึงจุดหมายแล้วครับ” &nbsp;เศรษฐา ทวีสิน กล่าวผ่านเพจเฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2568“สมรสที่เท่าเทียมเกิดขึ้นได้จริงแล้วด้วยพลังของทุกคน จากนี้ไป จะไม่มี ‘ชาย‘ หรือ ’หญิง’ แต่จะเป็น ‘บุคคล’ กับ ‘บุคคล’ ที่เป็น ’คู่สมรส‘ ที่เสมอภาคเท่าเทียมกัน… ยินดีจากหัวใจกับทุกความรักของทุกคนครับ”&nbsp;เศรษฐา ทวีสิน จึงขอส่งเสียงของเขาเพื่อสังคมอันหลากหลาย ที่ไม่ว่าจะเป็นใคร เป็นเพศไหน ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะได้รัก ถูกรัก และมีความสุขอย่างเท่าเทียมกัน&nbsp;<img src="https://media.thairath.co.th/image/xdJccYJkDhHdfllOjFKm6HJcW1FxOV8p1V2Ip1V2lDPH0izDAe9vA1.jpg" data-id="102819" data-url="https://media.thairath.co.th/image/xdJccYJkDhHdfllOjFKm6HJcW1FxOV8p1V2Ip1V2lDPH0izDAe9vA1.jpg" style="width: auto;" class="fr-fic fr-dib">

‘BENZKHAOKHWAN’ ศิลปินเดี่ยวสุดฮอตแห่งวงการ T-POP ที่ไม่ได้โดดเด่นเพียงความสามารถในการร้องหรือเต้นเท่านั้น แต่เธอยังกล้าเดิมพันอนาคตด้วยการเปิดค่ายเพลงของตัวเอง ‘QWIN LABEL’ เพื่อให้ได้ทำตามความฝันในการเป็นศิลปิน หลังจากที่เคยพยายามไปออดิชันกับค่ายเพลงหลายแห่ง แต่ผลลัพธ์ก็ยังไม่เป็นดั่งหวัง

MIRROR50 : ‘BENZKHAOKHWAN’ ตัวแม่สุดฮอตแห่งวงการ T-POP ที่เคยออดิชันไม่ผ่าน จึงเปิดค่ายของตัวเอง ‘QWIN LABEL’ เพื่อทำตามฝัน พร้อมยืนหยัดว่า การแต่งตัวเซ็กซี่ไม่ใช่เรื่องผิด และคนอื่นก็ไม่มีสิทธิ์มาคุกคาม

จากค่ำคืนแห่งการส่งเสียงเพื่อสร้างพลังการเปลี่ยนแปลงในงาน ‘MIRROR50 : All Voices, Empowering Ones ทุกคนคือพลัง ทุกเสียงคือการเปลี่ยนแปลง’ ซึ่งจัดขึ้น ณ EMSKYE ชั้น 14 EMSPHERE เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม ที่ผ่านมา นับเป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่ทำให้เกิดแรงกระเพื่อนในสังคมอีกครั้งหนึ่ง

‘ต่างเส้นทาง แต่เป้าหมายเดียวกัน’ รวมหลากหลายเส้นทางการต่อสู้ สู่การส่งเสียงเพื่อขับเคลื่อนสังคมของเหล่าศิลปิน นักเคลื่อนไหว และผู้ประกอบการ จากเวทีเสวนา ‘MIRROR50 : All Voices, Empowering Ones’

Beauty Standard ยังคงเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นใจของผู้คน โดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่ ‘บรีม - พรกมล เพชรดาษดา’ Chief Marketing Officer ของ Aura Bangkok Clinic และ Aura Xpress จึงอยากสนับสนุนให้ทุกคนกล้าเป็นตัวเอง และเลือกทำหัตถการในแบบที่ใช่ มากกว่าการทำตาม Beauty Standard ของสังคม

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Change Maker

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MIRROR TEAM

RELATED

HOT TOPICS