ฐา-ฐาปณี หลูสุวรรณ คือผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง Blue Again ที่ใช้ระยะเวลาในการค่อยๆ ทำมาถึง 8 ปี เธอคือคนทำหนังอิสระคนหนึ่งที่พยายามผลักดันผลงานของตัวเองอย่างไม่ย่อท้อ จนภาพยนตร์ของเธอมีโอกาสไปสู่สายตาชาวโลก

Mirror 50 : ฐาปณี หลูสุวรรณ ผู้กำกับภาพยนตร์ Blue Again ที่อยากให้คนทำหนังอิสระได้รับโอกาสมากขึ้น

จากธีสิสของนักศึกษาวิชาภาพยนตร์ 50 กว่านาที กลายเป็นหนังความยาวร่วม 3 ชั่วโมง ที่ใช้เวลาทำทั้งหมดนาน 8 ปี ตัวเลขและระยะเวลาเหล่านี้คือส่วนสำคัญในชีวิตของผู้หญิงชื่อ&nbsp;ฐา-ฐาปณี หลูสุวรรณ ผู้กำกับหนังอิสระเจ้าของผลงานหนังเรื่องแรกอย่าง Blue Again ที่เริ่มฉายในปี 2022 โดยเธอทั้งกำกับ เขียนบท โปรดิวซ์ ลงทุน และจัดจำหน่ายด้วยตัวเองโดยใช้ความศรัทธาของคนทำหนังล้วนๆ จนกระทั่งได้เข้าชิงรางวัลสำหรับผู้กำกับหน้าใหม่ (New Currents) ในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปูซาน ครั้งที่ 27 และได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม จากงานประกาศรางวัลภาพยนตร์แห่งชาติสุพรรณหงส์ ครั้งที่ 31 ในปีนี้แม้ว่าวันนี้ ฐา-ฐาปณี กับหนังที่เธอใช้เวลาเคี่ยวกรำมานานจะมีโอกาสเดินทางไปฉายในเทศกาลหนังอีกหลายประเทศ และมีพื้นที่บนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งซึ่งทำให้คนในประเทศได้รู้จักมากขึ้น แต่เส้นทางของหนังอิสระในบ้านเรานั้นยังคงขรุขระตั้งแต่เรื่องของการขาดเงินทุน แรงสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐฯ จนถึงพื้นที่ฉายอันจำกัด นั่นทำให้ทั้งหนังและคนทำหนังอิสระในประเทศนี้ไม่มีพื้นที่ยืนมากนัก เธอจึงหวังจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลง ตั้งแต่การปลูกฝังวิชาศิลปะอย่างจริงจังตั้งแต่ในระบบการศึกษาไทย ไปจนถึงโอกาสที่คนทำหนังหน้าใหม่จะได้ลงมือทำหนังเรื่องเเรกของตัวเอง โดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐฯ พร้อมกับได้รับการมองเห็นคุณค่าจากคนในประเทศ เพราะเธอเชื่อว่าศักยภาพของคนทำหนังอิสระบ้านเราไม่แพ้ชาติใดในโลก ขอเพียงเเค่สิ่งที่เรียกว่า ‘โอกาส’ เท่านั้น พวกเขาจะสามารถช่วยกันผลักดันให้วงการหนังอิสระไทยไปได้ไกลกว่าที่เป็นอยู่<img src="https://media.thairath.co.th/image/7921CJQFXEHsnm3Rg4okgKwKaqLEay1YF0xRXp4GZSse9vA1.png" data-id="101303" data-url="https://media.thairath.co.th/image/7921CJQFXEHsnm3Rg4okgKwKaqLEay1YF0xRXp4GZSse9vA1.png" style="width: auto;" class="fr-fic fr-dib">Q: อะไรที่คนยังไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับผลงานเรื่องแรกของคุณA: จริงๆ แล้วภาพยนตร์ Blue Again อะค่ะ ถึงแม้มันจะเริ่มต้นจากการเป็นธีสิสแต่คนยังเข้าใจว่างานของเรามันเป็นธีสิสอยู่ แต่จริงๆ แล้วมันถูกพัฒนาหลังจากเรียนจบค่ะ มันก็ถือว่าเป็นหนังอิสระเต็มรูปแบบเลย ซึ่งจะบอกว่ามันเป็นหนังธีสิสก็คงไม่ใช่ ไม่ใช่ทั้งหมดค่ะ แต่ว่าเราเริ่มทำจากการที่มันมีทุนซัพพอร์ตที่มันไม่ได้เยอะมาก แต่ทุกอย่างมันก็คล้ายๆ เป็นลูกผสมนิดนึง เป็นหนังนักศึกษาครึ่งนึงแล้วก็หนังที่ทำโดยคนที่รักหนังมารวมตัวกันครึ่งนึง มันก็ค่อนข้างใช้ budget ที่ค่อนข้าง… ถ้าเทียบกับหนังอิสระธรรมดาก็อาจจะน้อย แต่ว่าพอมันเป็นทุนที่ออกเอง มันก็ยังค่อนข้างเยอะค่ะ<img src="https://media.thairath.co.th/image/rzqPUxXp1V26JJ5yrIR3DeM6oH7Rpl8HcjfQSQArvyJeloe9vA1.png" data-id="101303" data-url="https://media.thairath.co.th/image/rzqPUxXp1V26JJ5yrIR3DeM6oH7Rpl8HcjfQSQArvyJeloe9vA1.png" style="width: auto;" class="fr-fic fr-dib">Q: สิ่งที่คนยังไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับหนังอิสระคืออะไรA: จริงๆ แล้วเราอยากให้คนเข้าใจในภาพยนตร์อิสระมากขึ้นค่ะ เพราะว่าเราอาจจะเห็นความต่างระหว่างหนังสตูฯ กับหนังอิสระ หนังสตูฯ อาจจะมีเงิน มีทุนซัพพอร์ตที่มันเยอะมาก และเขาก็ pick up เรื่องที่เขาอยากจะทำ แต่หนังอิสระอะค่ะมันต้องการคนที่เชื่อในศิลปะ ในภาพยนตร์ที่เรากำลังจะทำมากๆ เชื่อในสิ่งที่เรากำลังจะทำ ซึ่งเราก็จำเป็นต้องหาทุน แล้วก็ไป pitching ตามโครงการต่างๆ ซึ่งมันอาจจะยากและใช้เวลาทำนาน แต่ว่าการที่เราทำงานในระยะเวลาที่นานมันจะทำให้เราได้ตกผลึกทางความคิดเยอะ ซึ่งมันก็ทำให้เกิดความงามอะไรบางอย่างในภาพยนตร์อิสระค่ะ ซึ่งบางวิธีการในหนังอิสระอาจจะเป็นสิ่งที่สตูฯ ไม่ได้อนุญาตให้ทำ แต่หนังอิสระทำได้ค่ะ<img src="https://media.thairath.co.th/image/7921CJQFXEHsnm3Rg4okgFUWl8d0fUvvStlubZ6eijAe9vA1.png" data-id="101303" data-url="https://media.thairath.co.th/image/7921CJQFXEHsnm3Rg4okgFUWl8d0fUvvStlubZ6eijAe9vA1.png" style="width: auto;" class="fr-fic fr-dib">Q: สิ่งที่อยากเห็นอย่างเป็นรูปธรรมเกี่ยวกับการสนับสนุนหนังอิสระในไทยคืออะไรA: เราอยากให้มีสนามสำหรับคนทำหนังหน้าใหม่ค่ะ ด้วยการเริ่มต้นจากแหล่งทุนที่มันไม่ได้เยอะ แต่ว่ายังสามารถพัฒนาหนังสเกลเล็กได้ ให้คนทำหนังหน้าใหม่ๆ ได้ลองผิดลองถูกค่ะ เราก็เชื่อว่ามันจะเป็นสิ่งที่สร้างคนทำหนังหน้าใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นแล้วก็ทำให้วงการภาพยนตร์มีคนที่ทำงานมีศักยภาพมากขึ้นค่ะQ: การที่มีคนมองเห็นสิ่งที่เรากำลังทำอยู่สำคัญอย่างไรA: ก็จริงๆ มันเหมือนพอคนเห็นเราว่าเราทำอะไรได้ แล้วเขารู้สึกชื่นชม หรือเรารู้สึกว่า เออ งานของเรามีคุณค่า มันก็ย่อมดีอยู่แล้ว มันเป็นรางวัล เป็นกำลังใจ เหมือนเป็นการย้ำกับเราว่าสิ่งที่เราทำมันโอเคแล้วและเราก็จะได้พัฒนาต่อไป แต่ส่วนตัว เรารู้สึกว่าถึงจะไม่ได้ถูกมองเห็นหรือรู้สึกไม่มีคุณค่า เราก็ยังจะทำในสิ่งที่เรารักต่อไป เพราะเรายังสนุกกับมันอยู่Q: คิดว่ามีใครหรือคนกลุ่มไหนที่ควรได้รับการมองเห็นมากขึ้นไหมA: ก็เหมือนยังเป็นคำตอบเดิมค่ะ เราอยากให้มีการสนับสนุนคนที่ทำหนังอิสระเรื่องแรก ซึ่งอันนี้มันเป็นหน้าที่เหมือนกัน ที่รัฐจะต้องผลักดันหนังสเกลเล็ก เพราะว่าคนทำหนังเล็กๆ เขาก็เหมือนมีความฝัน ซึ่งเราอยากให้ประเทศนี้มันซัพพอร์ตความฝันของคนเหล่านี้ได้ เราว่าคนทำหนังหน้าใหม่ๆ เขาพร้อมที่จะปล่อยของอยู่แล้วถ้าเราให้โอกาสเขาค่ะ เช่น อาจจะเพิ่มโรงฉายให้เขามากขึ้น ถึงแม้จะไม่ได้มีดาราหรือว่านักแสดงตัวดึงดูด เราคิดว่ามันก็ควรจะได้รับโอกาสเท่าเทียมกับหนังเรื่องอื่นๆ อยากให้วิเคราะห์ตาม budget เงินที่ลงทุนหรือว่าความเป็นไปได้ที่จะฉาย ซึ่งหนังอิสระก็ควรจะมีที่ทางและเราคิดว่าคนประเทศเราเขาต้องการเสพสื่อที่หลากหลาย ฉะนั้น เราควรจะมีพื้นที่ให้ผู้ชมได้เลือกมากกว่านี้ค่ะแล้วก็เรารู้สึกว่าในแง่หนึ่ง หนังอิสระมันสร้างสุนทรียะบางอย่างที่เราอาจจะหาได้ยากในหนังสตูฯ ทั่วไป แต่ว่าไม่ใช่ว่าหนังสตูฯ ไม่มีเลยนะ เพียงแต่เราเชื่อว่ามันมีความงอกงามอะไรบางอย่างอยู่ในหนังอิสระ และเราก็เชื่อว่าถ้าสามารถเพิ่มวิชาสุนทรียศาสตร์ลงไปในการเรียนการสอน ตั้งแต่มัธยม ตั้งแต่ประถม เราเชื่อว่าคนจะมองเห็นคุณค่าของศิลปะมากขึ้น ช่วยให้เด็กๆ โตมาแล้วรับรู้ว่าหนังมันมีหลายแบบ ศิลปะมันมีหลายแบบ แล้วก็สามารถเห็นคุณงามความดีของอะไรที่มันเล็กๆ ได้ค่ะ&nbsp;<img src="https://media.thairath.co.th/image/7921CJQFXEHsnm3Rg4okgHVSMGvqmjEGHRJGs1a2hnrPh5we9vA1.png" data-id="101303" data-url="https://media.thairath.co.th/image/7921CJQFXEHsnm3Rg4okgHVSMGvqmjEGHRJGs1a2hnrPh5we9vA1.png" style="width: auto;" class="fr-fic fr-dib"><img src="https://media.thairath.co.th/image/7921CJQFXEHsnm3Rg4okgCGvyuzAYRg5jMMle6V6LG0e9vA1.png" data-id="101303" data-url="https://media.thairath.co.th/image/7921CJQFXEHsnm3Rg4okgCGvyuzAYRg5jMMle6V6LG0e9vA1.png" style="width: auto;" class="fr-fic fr-dib">

‘PiXXiE’ คือชื่อของวงเกิร์ลกรุ๊ปสาว 3 คน แห่งค่าย Lit Entertainment ที่เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้วโดยมีสมาชิกกอย่าง ‘มาเบล-สุชาดา สอนพันธ์’ ‘พิมมา-พิมพ์มาดา ใจสักเสริญ’ และ ‘อิงโกะ-อินท์ปาลี โชติหิรัญธนนนท์’ จากจุดเริ่มต้นที่แต่ละคนเป็นเพียงเด็กสาวที่ไม่ได้มีต้นทุนอะไรมากมาย  นอกจากการพกพาพรสวรรค์ด้านการร้อง เต้น กับความฝันในการจะได้ลงมือทำสิ่งเหล่านั้นที่กรุงเทพฯ เท่านั้น 

MIRROR50 : PiXXiE ไอดอลเกิร์ลกรุ๊ปเลือดใหม่ที่ไม่ได้พกมาแค่พรสวรรค์ แต่ยังฝันอยากรันวงการ T-POP ไทยไปสู่เทศกาลดนตรีระดับโลก

‘มะเหมี่ยว - พญ.ลักษิกา อาศิรวาทวุณิชย์’ หรือ ‘หมอมะ’ เป็นที่รู้จักจากคลิปไวรัลบอกเล่าชีวิตการทำงานหนักของเธอในฐานะหมอฝึกหัดต่างจังหวัดเมื่อหลายปีก่อน หลังจากนั้นจึงเหมือนเป็นการค้นพบพรสวรรค์ในการเล่าเรื่องของเธอ จนกลายมาเป็นคุณหมอ / คอนเทนต์ครีเอเตอร์ชื่อ @nothingjustmeowmeow ทางแพลตฟอร์ม Tiktok เจ้าของแฮชแท็ก #แม่หมอมะเป็นหมอ

MIRROR50 : พญ.ลักษิกา อาศิรวาทวณิชย์ แพทย์ด้านความงามที่ให้ความรู้ผ่าน TikTok ทั้งด้านความงามและเรื่องเพศ

จากเด็กที่คลุกคลีกับชาวเขาเพราะตามแม่เข้าไปทำงานในท้องถิ่น สู่การเดินตามรอยเท้าแม่ในบทบาทนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ‘เพียรพร ดีเทศน์’  คือผู้อำนวยการฝ่ายรณรงค์ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ องค์กรแม่น้ำนานาชาติ ผู้อาสาเปล่งเสียงแทนธรรมชาติ

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Artist

Mirror 50 : ฐาปณี หลูสุวรรณ ผู้กำกับภาพยนตร์ Blue Again ที่อยากให้คนทำหนังอิสระได้รับโอกาสมากขึ้น

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MIRROR TEAM

RELATED

HOT TOPICS