กี่ครั้งแล้วที่ 'พระ' กระทำความผิด ข่มขืน หรือล่วงละเมิดทางเพศสีกา แล้วมีคนออกโรงปกป้อง

เราจะมอง ‘พระ’ กันใหม่ได้หรือยัง? เมื่อทุกปีมีพระที่ปาราชิก / ก่อคดีทางเพศ แถมสาวกก็เชื่อสุดใจว่าพระไม่ผิด ผิดที่สีกา

การยัดเยียด ‘ความพุทธ’ ในอุดมคติของรัฐไทยที่ส่งต่อมาหลายยุค หลายสมัย พร่ำบอกว่าประเทศเรามีศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ แตะไม่ได้ ตั้งคำถามไม่ได้ และ ‘พระไทย’ ในเมืองพุทธ ถูกสมาทานความเชื่อว่าเป็นผู้เผยแผ่ศาสนาที่ทรงศีล ทรงธรรม เหนือมนุษย์ ใครผ่านต้องกราบไหว้ ความน่ากลัวคือ สาวกบางคน เชื่อสนิทใจว่า ‘พระ’ ทุกรูปดี และหาเหตุผลมาแย้งว่าการทำผิดของพระนั้นมีเหตุผล อย่างกรณี ‘สมีกาโตะ’ หรือ พงศกร จันทร์แก้ว อดีตพระที่ไปมีเซ็กซ์ และความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับสีกา โดยอ้างว่าผู้หญิงยั่วยวนเอง แต่หากมาดูรายละเอียดข่าวจริงๆ การจะมีเซ็กซ์กับสีกาซ้ำถึง 2 ครั้ง ตบมือข้างเดียวเป็นไปไม่ได้ที่จะดัง แถมเขาเองยังเบิกเงินวัดไปถึง 6 แสนบาทไปใช้ส่วนตัว ซึ่งเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 แต่ก็ยังมีคนจำนวนมากแห่ให้กำลังใจอย่างผิดปกติ ตัวอย่างเช่น “แม้จะสึกก็ยังคงเป็น FC ตลอดไปค่ะ คนเรามีเนื้อหนังมังสา มีหัวใจ มีความรู้สึกย่อมผิดพลาดได้เป็นธรรมดา สู้ๆ ค่ะ” “ฟังที่หนุ่มกรรชัยสัมภาษณ์แล้ว คุณกาโตะคุณยอมพูดความจริงทั้งหมด #คุณแมนมาก คุณบวชเรียนมาไม่กี่ปีอาจถูกยั่วยุอารมณ์ทางเพศได้ พอคุณผิดคุณก็ยอมสึก แต่ชะนีคือเชี้ยมาก คอยกัดคอยจิกตอนสัมภาษณ์ ไม่สำนึกอะ” เรื่องมันผิดแปลก และน่าตั้งคำถามต่อพระสงฆ์ในประเทศเหลือเกิน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าน่าตั้งคำถามต่อคนไทยบางกลุ่มเหมือนกันว่า ทำไมพอเป็นพระที่ขึ้นชื่อว่าเป็น ‘ผู้ชาย’ กระทำความผิดจน ‘ปาราชิก’ หรืออาบัติของภิกษุที่มีโทษร้ายแรงที่สุดในพุทธบัญญัติ ซึ่งการมีเพศสัมพันธ์ด้วยการสอดใส่ไม่ว่าจะกับหญิงหรือชาย นับเป็นปาราชิก ประเภทเสพเมถุนธรรม ทว่าหลายคนยังคิดว่าเป็นเรื่องปกติของผู้ชาย และกล่าวโทษแต่ฝ่ายหญิง ที่ทำให้ผู้สมาทานธรรมในอุดมคติของพวกเขาแปดเปื้อนจนต้องสึก (แต่ลืมไปหรือเปล่าว่า พระไทย ที่คนค่อนประเทศเคลมว่าอยู่ในศีลมากที่สุด ก็ไม่ยับยั้งชั่งใจเองด้วย) หากมองแบบนั้น คนไทยก็ควรมอง ‘พระ’ เป็นอาชีพหนึ่ง เป็นคนธรรมดาที่ต้องจ่ายภาษี มากกว่ามองเป็นผู้สมาทานธรรมตั้งแต่แรกหรือเปล่า? เพราะเมื่อยังเชื่อว่า “พระไม่ใช่คนธรรมดา” เมื่อพวกเขากระทำความผิด กลับมีคนออกโรงปกป้อง ยิ่งเป็นคดีข่มขืน หรือล่วงละเมิดทางเพศ กี่ครั้งแล้วที่ไม่มีใครอยู่ข้างผู้ถูกกระทำ ย้อนกลับไปปี 2553 วิทยานิพนธ์เรื่อง ‘ปัญหาการล่วงละเมิดจริยธรรมของพระภิกษุและสามเณรในสังคมไทย ศึกษาเฉพาะกรณีการก่อคดีทางโลก’ ของ พระปรียะพงษ์ คุณปัญญา พบว่าตั้งแต่ปี 2546-2550 มีคดีที่พระสงฆ์เป็นผู้ก่อเหตุในหน้าหนังสือพิมพ์ 117 คดี โดยเป็นคดีล่วงละเมิดทางเพศ 35 คดี โดยผู้ถูกล่วงละเมิดส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง 34 คดี และ 3 คดีเป็นเพศชาย เราลองเสิร์ชดูข่าวเกี่ยวกับประเด็นทางเพศของพระในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ก่อนจะเกิดประเด็นร้อนของสมีกาโตะที่เรากล่าวไปแล้วข้างต้น สิ่งที่น่าสลดคือ มีข่าวพระทำผิดขึ้นหน้ากูเกิลเพียบ และในแต่ละข่าวก็สะท้อนปัญหา และมุมมองแบบไทยๆ ได้มากเช่นกัน ปี 2561 เกิดขึ้นที่จังหวัดเลย สาววัย 21 ปี ขอความเป็นธรรม เมื่อเจ้าอาวาสวัดถ้ำประกายเพชร ใช้กลอุบายทักว่าเธอที่มีรอยสัก จะต้องทำการไล่ผีออกจากตัว แต่สุดท้าย เธอก็ถูกแตะเนื้อต้องตัว โดนล็อกคอ เอามือปิดปาก และข่มขืนครั้งแรก หลังจากนั้นก็ถูกกระชากตัวไปที่กุฏิเพื่อข่มขืนเป็นครั้งที่สอง เหตุการณ์นั้นทำให้เธอเข้าแจ้งความ และแพทย์ยืนยันว่าเธอถูกข่มขืนจริง แนวคิดประหลาดๆ ของคนไทยบางคนก็โผล่ขึ้นมา เมื่อลูกศิษย์ของเจ้าอาวาส เดินทางมาไกล่เกลี่ยให้ยอมความ และยื่นข้อเสนอว่า “สึกแล้วมาเป็นสามีเอาไหม” และมัดมือชกแต่งงาน แน่นอน หญิงคนดังกล่าวปฏิเสธ พร้อมเอาเรื่องถึงที่สุด แต่สิ่งนี้สะท้อนค่านิยมการชุบความผิดด้วยการแต่งงาน โดยไม่คิดถึงในมุมผู้ถูกกระทำเลย ว่าใครที่ไหนจะไปอยากแต่งงานกับคนที่ข่มขืนตัวเอง และนี่คือสายตาเหยียดเพศที่คิดว่าผู้หญิงคือวัตถุทางเพศ ขาดซึ่งการเห็นอกเห็นใจโดยสิ้นเชิง ยิ่งเป็น ‘พระ’ ยิ่งตลกร้ายว่า คนกลับมองว่าการสึก คือการล้างบาปทั้งหมดที่ทำไป โดยไม่ต้องให้รับโทษทางกฎหมายกันได้อย่างไร? ปี 2562 เกิดขึ้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ สำนักพุทธฯ ปลดเจ้าอาวาสที่ข่มขืนเด็กสาวอายุ 18 จนตั้งท้องเพราะกระทำผิดพระธรรมวินัยอย่างร้ายแรง ขั้นอาบัติปาราชิก ซึ่งขณะนั้นผู้ถูกกระทำยังเรียนอยู่เพียงชั้น ม.4 เองด้วยซ้ำ สิ่งที่น่ารังเกียจที่สุด คือติ่งพระคนหนึ่ง ออกมาเบี่ยงประเด็นว่าพระถูกกลั่นแกล้ง เพราะคนบางกลุ่มไม่ชอบ และเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ที่ผู้เสียหายจะถูกข่มขืน ทั้งๆ ที่เจ้าอาวาสก็ยอมรับแล้วด้วยซ้ำว่าทำจริง…เห็นไหม พอเป็นพระ คนก็เลือกจะเชื่อว่าเขาดี ประเสริฐ เลิศเลอ ปี 2563 เกิดขึ้นที่จังหวัดลำปาง กรณีสามเณรวัย 15 ปี ถูกเจ้าอาวาสของสำนักสงฆ์แห่งหนึ่งล่วงละเมิดทางเพศ และข่มขืน ซึ่งเขาถูกกระทำมานานหลายเดือน จนทนไม่ไหวเพราะครั้งล่าสุดถูกกระทำต่อเนื่อง 4 วันติด จึงขอให้หลวงตาที่วัดช่วยพาหลบหนี ก่อนจะทำการสึกออกจากเณร และญาติพาเข้าไปแจ้งความ เหตุการณ์นี้ทำให้เห็นว่าผู้ถูกกระทำจากพระไม่ได้มีแค่เพศสภาพหญิง แต่มีเพศสภาพชายอยู่ด้วย แถมยังเป็นผู้เยาว์ ที่ตามสถิติปี 2553 ผู้เยาว์อายุ 13-19 ปีถูกล่วงละเมิดโดยพระเป็นอันดับสอง รองจากช่วงอายุ 20-30 ปี ปี 2564 เกิดขึ้นที่จังหวัดราชบุรี ผู้หญิงคนหนึ่งถูกพระภิกษุรูปหนึ่ง วิดีโอคอลมาทำอนาจารด้วยการสำเร็จความใคร่ให้ดู โดยเธอโดนพระรูปนี้กระทำแบบนี้มากกว่า 4 ครั้ง จนเธอต้องบันทึกหน้าจอ เพื่อเก็บหลักฐานเรียกร้องขอความเป็นธรรม ซึ่งจุดเริ่มต้นมาจากการที่เธออยู่ในกลุ่มเฟซบุ๊กที่คุยกันเรื่องหลักธรรมคำสอน แล้วพระรูปนี้เคยออกมาต่อต้านพระที่ล่วงละเมิดทางเพศผู้หญิง แต่ปรากฏว่ากลับทำซะเอง พระรูปนั้นทักแชตมาทางเฟซบุ๊ก ทำทีคุยเรื่องธรรมะ ก่อนจะขอไลน์ และวิดีโอคอลมา เหตุการณ์นี้สะท้อนโลกที่เปลี่ยนไป ที่พระหันมาใช้โซเชียลมีเดียมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มในเฟซบุ๊ก หรือเปิดเพจในเฟซบุ๊ก และส่วนใหญ่ก็มักจะมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง เพื่อดึงดูดให้ผู้คนฟังหลักธรรมสมัยใหม่ที่ปรับตามยุคสมัย ซึ่งจริงๆ ไม่ได้ผิดอะไร หากสิ่งนั้นเป็นไปในทางสร้างสรรค์ และไม่ได้เดือดร้อนใคร แต่มันก็เป็นดาบสองคม เมื่อพระถูกเรียกว่าคนดังมากขึ้น ก็มีโอกาสใช้ช่องทางนี้ทำผิดวินัยได้มากขึ้น หรือไปล่วงละเมิดทางเพศตามที่เห็นในข่าวจากการล่อลวงแฟนคลับได้เหมือนกัน โลกที่เปิดกว้างทางความคิดเพิ่มขึ้น เข้าถึงข่าว ความจริง และการตระหนักรู้ทางสังคมมากขึ้น ไม่แปลก ที่แม้จะยังมีคนที่ยังเชื่อว่าพระทุกรูป ‘ดี’ แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่มองโลกด้วยพื้นฐานความจริงว่า ‘ไม่ใช่’ พระทุกรูปจะดี เสียงที่แตกเป็นสองฝั่งระหว่าง พระอยู่เหนือทุกคน กับพระเป็นคนเท่ากัน จึงเข้มข้นในปัจจุบัน น่าตั้งคำถามเหมือนกันว่า ‘พระ’ ในความหมายของแต่ละคนเป็นอย่างไร ควรเป็นผู้เผยแผ่คำสอนในการทำความดี? เป็นร่มเงาต้นไม้ใหญ่ให้ผู้คนมาพึ่งพิง? เป็นพระที่ไม่ลืมเรื่องสิทธิมนุษยชน? มองโลกบนพื้นฐานความเป็นจริงเสมอ? หรือควรเป็นพระแบบไหน ลองแชร์ความคิดเห็นกันได้นะ อ้างอิง: <a href="https://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/1002296" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/1002296</a> <a href="https://www.dailynews.co.th/news/1014042/" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.dailynews.co.th/news/1014042/</a> <a href="https://www.matichon.co.th/region/news_2304116" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.matichon.co.th/region/news_2304116</a> <a href="https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A1/162295" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A1/162295</a> <a href="https://www.tcijthai.com/news/2016/11/scoop/6406" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.tcijthai.com/news/2016/11/scoop/6406</a> <a href="https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1375930" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1375930</a> <a href="https://www.sanook.com/news/8555814/" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.sanook.com/news/8555814/</a> <a href="https://siamrath.co.th/n/100900" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://siamrath.co.th/n/100900</a>

Mike White บาลานซ์น้ำเสียงในเรื่องเล่าของแต่ละคนได้อย่างกลมกล่อม โอบกอดทุกตัวละครของเขาเอาไว้อย่างงดงาม และนั่นจึงทำให้เหล่าตัวละครหญิงในซีรีส์โดดเด่นไม่แพ้ตัวละครชาย มีชีวิตจิตใจและทางเลือกเป็นของตัวเอง และเป็นมนุษย์เท่าที่จะเป็นได้

หลากเฉดสีหลายทางเลือกของผู้หญิงจาก The White Lotus SS3

สำหรับการรีเมคหนังในสมัยนี้ คนดูมีความคิดเห็นอยู่ 2 อย่าง แบบแรกคือ ทำตามต้นฉบับเป๊ะที่ดูแล้วก็เพลินตา ที่รู้อยู่แล้วว่าเริ่มต้นและจบอย่างไร แบบสองคือเปลี่ยนทุกอย่างจนไม่เหลือแฟนตาซีภาพจำในวัยเด็กให้ฟินกันต่อ ไม่ว่าจะเป็นการนำความหลากหลายมาใส่จนเกินธรรมชาติ ที่ดูแล้วก็นับว่าเป็นโจทย์ยากของคนทำหนังว่าคนดูสมัยนี้ต้องการอะไรจากหนังรีเมคกันแน่

30 ปีผ่านไป หนังเรื่อง Clueless 
จะต่อยอดต่อไปอย่างไร? กับนางเอก
คุณหนูคนเดิม Alicia Silverstone

หากเลือกได้ เราคงอยากให้ผีเกย์อย่าง ‘ตี่ตี๋’ (พีพี กฤษฏ์) ในหนัง ‘ซองแดงแต่งผี’ ได้มีความสุขและปลดล็อกทุกความรู้สึกตั้งแต่เขายังมีชีวิตอยู่ เพราะสิ่งที่ทำให้มนุษย์ทุกคนอยู่ร่วมกันได้ จริงๆ ง่ายมาก ถ้าทุกคนรู้จักเห็นอกเห็นใจกัน และใจกว้างพอที่จะ ‘รับฟัง’ กันมากขึ้น

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Social Issues

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

PATCHSITA PAIBULSIRI

RELATED

HOT TOPICS