แอนน์ แฮทธาเวย์ และ เจสสิกา แชนเทส โคจรมาพบกัน ที่ต่างฝ่ายต่างรับบทเป็น ‘แม่’ ของลูก ในภาพยนตร์ดราม่า ระทึกขวัญ ที่สุดแสนจะปั่นประสาทคนดู อย่าง Mothers’ Instinct หรือ สันดานแม่

Mothers’ Instinct : สันดานแม่ เรื่องของผู้หญิงที่ต้องสู้กันเอง เพื่อพิสูจน์ความเป็นแม่ที่ดี และกล่าวโทษกันเองว่าใครเป็นแม่ที่แย่

นี่ถือเป็นการฟาดฟันทางการแสดงที่ถึงเครื่องถึงใจ เมื่อ 2 นักแสดงตัวแม่แห่งวงการฮอลลีวูดอย่าง แอนน์ แฮทธาเวย์&nbsp;และ เจสสิกา แชนเทส โคจรมาพบกัน ที่ต่างฝ่ายต่างรับบทเป็น <a href="https://mirrorthailand.com/tags/%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88" rel="noopener noreferrer" target="_blank">‘แม่’</a> ของลูก ในภาพยนตร์ดราม่า ระทึกขวัญ ที่สุดแสนจะปั่นประสาทคนดู อย่าง Mothers’ Instinct หรือ สันดานแม่ Mothers’ Instinct เล่าเรื่องราวของ เซลีน (แอนน์ แฮทธาเวย์) และ อลิซ (เจสสิกา แชนเทส) คู่เพื่อนซี้ที่สนิทกันมาก อยู่บ้านติดกัน และไว้ใจกันถึงขนาดมีกุญแจบ้านของกันและกัน เพื่อจะได้ช่วยเหลือกันในทุกสถานการณ์ แต่แล้ววันหนึ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ แม็กซ์ ลูกชายของเซลีน เสียชีวิตลงด้วยอุบัติเหตุพลัดตกจากระเบียงบ้าน อลิซ ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ และพยายามจะช่วยลูกชายของเซลีน แต่ช่วยไว้ไม่ทัน กลับถูกเซลีน และสามีของเซลีน ‘โทษ’ ว่าเป็นความผิดของเธอ…ราวกับว่าเธอขาดคุณสมบัติของการมีสันดานแม่ หรือสัญชาตญาณของแม่ ที่ไม่สามารถดูแลลูก (ของเพื่อนรัก ที่ก็เหมือนลูกตัวเอง) ได้ และตัวเซลีนเองก็จมอยู่กับความโศกเศร้าจากการสูญเสียลูกชาย จนทำให้เกิดสงครามประสาทเกิดขึ้น ที่ทำให้จากเพื่อนสนิทที่รักกันมากที่สุด กลายเป็นคนที่ต้องระแวงกันไปมา จนเกิดโศกนาฏกรรมอันน่าหดหู่ในตอนท้ายสุดของเรื่องหัวใจหลักของ Mothers’ Instinct จึงเป็นการค่อยๆ กะเทาะตัวตนของความเป็นแม่ของทั้งคู่ออกมาให้ผู้ชมได้เห็นและทำความเข้าใจ คนหนึ่งเริ่มต้นจากการไม่ได้อยากเป็นแม่ แต่เมื่อเป็นแล้วก็ถูกกดดันให้ต้องเป็นแม่ที่ดีที่สุดจนต้องละทิ้งความฝันของตัวเอง ส่วนอีกคนเป็นผู้หญิงที่พร้อมจะเป็นแม่คนสุดหัวใจ พร้อมอุทิศชีวิตเพื่อเป็นแม่ แต่กลับมีปัญหาทางสุขภาพที่ทำให้เธอมีลูกได้แค่คนเดียว และครั้งเดียว แม้จะอยากมีอีกก็ตาม ซึ่งถึงแม้ทั้งคู่จะมีความคิดที่ต่างกัน แต่สุดท้ายพวกเธอก็อยากจะทำหน้าที่ ‘แม่’ ที่ดูแลลูกให้ดีที่สุดอย่างไม่ขาดตกบกพร่องเหมือนกัน โดยสมการนี้ไม่มีคนเป็น ‘พ่อ’ เข้ามาร่วมรับแรงกดดันครั้งใหญ่นี้ด้วยเลย<img src="https://media.thairath.co.th/image/p1V2p2UaUPK55jfU5fVSaqhHEPwrZo8GrCm3WDyYPbT4h0e9vA1.jpg" data-id="101539" data-url="https://media.thairath.co.th/image/p1V2p2UaUPK55jfU5fVSaqhHEPwrZo8GrCm3WDyYPbT4h0e9vA1.jpg" style="width: auto;" class="fr-fic fr-dib">อลิซ เป็นตัวแทนของผู้หญิงที่มีแพสชั่นในตัวเอง เธอทำงานในกองบก.หนังสือพิมพ์เจ้าหนึ่ง และเห็นได้ชัดว่าเธอยังรักอาชีพนี้อย่างสุดหัวใจ แต่แล้วเมื่อมีลูก สามีก็อยากให้เธอลาออกมาทำอาชีพแม่เต็มตัว แม้เธอจะมีความคิดหาลู่ทางที่จะกลับไปทำงาน แต่ทุกครั้งที่พูดขึ้นมา ดูเหมือนสามีเธอจะไม่เข้าใจ และคัดค้านความคิดนี้ เพราะลึกๆ เขาคิดว่า แล้วใครล่ะจะดูแลลูก? นั่นทำให้เธอต้องล้มเลิกความฝัน และอยู่กับความเครียด กังวล และเป็นห่วงลูกมาก คอยระแวงทุกสิ่งอย่าง เพื่อให้ลูกปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง โดยที่สามีไม่เห็นต้องแบกรับอะไรหนักหนาขนาดนี้เลย ซึ่งอลิซก็คล้ายๆ กับผู้หญิงหลายคนในชีวิตจริง ที่แม้จะมีความสามารถ และมีสิ่งที่อยากจะทำ แต่ก็ต้องถูกเบลอตัวตนของตัวเอง จนเหลือแค่การเป็น ‘แม่’ อย่างเดียวเซลีน เป็นตัวแทนของผู้หญิงที่รักที่จะเป็นแม่ และเต็มใจที่จะเลี้ยงลูก เธออยากมีลูกมาก แต่ด้วยปัญหาทางสุขภาพ ทำให้เธอมีลูกยาก และแพทย์บอกว่าสามารถมีได้แค่คนเดียว นั่นทำให้เธอพยายามที่จะเป็นแม่ที่ดูแลลูกให้ดีที่สุด และหลายครั้งเธอก็พยายามจะยื่นมือเข้าไปช่วยเลี้ยงดูลูกของอลิซด้วยอีกแรง จนมีฉากที่เธอเชียร์ให้อลิซกลับไปทำงานหนังสือพิมพ์ เพราะนั่นเป็นความฝันของเพื่อนรัก แล้วเธอจะดูแลลูกให้เอง แต่อย่างที่บอกว่าเมื่อเธอมีสัญชาตญาณของการเป็นแม่ในอุดมคติของสังคม ที่รักเด็ก และทุ่มเทชีวิตให้ลูกแบบสุดๆ พอลูกชายเสียชีวิตลง นอกจากจะโทษตัวเองที่เป็นแม่ที่ไม่ได้เรื่องแล้ว ยังพาลไปโกรธเพื่อนสนิทที่เธออาจคิดว่า ผู้หญิงคนนี้ไม่มีสัญชาตญาณความเป็นแม่ ทั้งที่เป็นผู้เห็นเหตุการณ์ ทำไมถึงช่วยเหลือลูกของเธอไว้ไม่ได้?!<img src="https://media.thairath.co.th/image/p1V2p2UaUPK55jfU5fVSaqhHJ69gwaObxNp1V2Ikkgs1a2hKeex3Ue9vA1.jpg" data-id="101539" data-url="https://media.thairath.co.th/image/p1V2p2UaUPK55jfU5fVSaqhHJ69gwaObxNp1V2Ikkgs1a2hKeex3Ue9vA1.jpg" style="width: auto;" class="fr-fic fr-dib">หนังเรื่องนี้จึงเป็นเหมือนเวทีการสู้รบของผู้หญิง 2 คน ที่ต่างโทษกันไปมา ซึ่งรางวัลของผู้ชนะครั้งนี้คือการได้เป็นแม่ที่สมบูรณ์แบบ โดยที่ไม่มีการตั้งคำถามถึงผู้ชายในเรื่องเลยว่า แล้วคนเป็นพ่อต้องสมบูรณ์แบบไหม? และไม่จำเป็นต้องดูแลลูกเลยเหรอ?&nbsp;ขณะที่เซลีนกล่าวโทษว่าอลิซเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เธอสูญเสียลูกชายไป สามีของเซลีนก็มีท่าทีโกรธเคืองอลิซเช่นกัน ว่าทำไมถึงไม่สามารถดูแลลูกของเขาได้ (?) ส่วนอลิซที่ต้องใช้ชีวิตอย่างหวาดระแวงมากขึ้น จากที่ตัวเองเป็นโรคแพนิกอยู่แล้วจากเหตุการณ์ในอดีต มาถึงตอนนี้เธอก็เหมือนจะเป็นหนักขึ้น เพราะทุกย่างก้าวของเซลีนกลายเป็นสิ่งที่เธอต้องคอยจ้องมอง และคอยสอดส่องเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายอะไรขึ้นกับลูกชาย ซึ่งมวลรวมความอึดอัดนี้จะทำให้ผู้ชมลุ้นกันอย่างหนักว่าสุดท้ายเรื่องมันจะจบอย่างไร ขณะที่สามีของอลิซ วันๆ ก็เอาแต่คิดว่าอลิซประสาทเสียไปเอง วิตกกังวลไปเอง เครียดมากเกินไป และมองว่าเธอสติแตกไปแล้ว ซึ่งนั่นเป็นผลพวงจากการที่เขาไม่เข้าใจแรงกดดัน หรือความเครียดของผู้หญิงที่ต้องดูแลลูก ‘คนเดียว’ เลย ที่สำคัญเขายังคาดหวังให้อลิซมีลูกให้เขาเพิ่มอีกด้วย<img src="https://media.thairath.co.th/image/p1V2p2UaUPK55jfU5fVSaqhHFRl1wSp1V2GnAdMssCxsUkWqke9vA1.jpg" data-id="101539" data-url="https://media.thairath.co.th/image/p1V2p2UaUPK55jfU5fVSaqhHFRl1wSp1V2GnAdMssCxsUkWqke9vA1.jpg" style="width: auto;" class="fr-fic fr-dib">ตอนจบของหนังเรื่องนี้ คลายปมทั้งหมดได้อย่างน่าหดหู่ใจ และทางเลือกสุดท้ายของอลิซ และเซลีน ก็ทำให้เห็นถึงคำว่า ‘สันดานแม่’ อย่างแท้จริง แม้ว่าบางทางออกจะเป็นเรื่องที่ผิด แต่ก็เสียดสีประโยคสุดคลาสสิกที่ผู้หญิงถูกคาดหวังมาโดยตลอดว่า “เป็นแม่ต้องทำทุกอย่างได้เพื่อลูก” ได้อย่างน่าปวดใจ&nbsp;

Love in the Big City ภาพยนตร์โรแมนติก คอมเมดี้จากเกาหลีใต้ที่ฉายภาพมิตรภาพและการเติบโตของ ‘แจฮี’ หญิงสาว ที่มักโดนมองว่า บ้าบิ่น หลุดโลก หลุดกรอบของผู้หญิงที่สังคมกำหนดให้ และ ‘ฮึงซู’ เกย์หนุ่มที่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ เพศวิถีของตน จนสร้างกำแพงสูง และไม่ได้เป็นตัวเอง

Love in the Big City 
เมืองใหญ่ที่ไม่มีพื้นที่ให้เกย์ 
ผู้หญิงนอกขนบ และเหล่าคนนอก 
ที่ ‘การเป็นตัวเอง’ กลับกลายเป็น
จุดอ่อนในชีวิต

อิทธิพลของความหวาดหวั่นต่อความไม่รู้ว่าความตายและชีวิตหลังจากนั้นจะเป็นอย่างไร ถูกถ่ายทอดออกมาในหนังไอคอนิกหลายเรื่องในหลายยุคสมัย ผ่านตัวละครหนึ่งที่เรียกถูกว่า Angel หมายถึง ‘เทพ’ หรือ ‘เทวดา’ ผู้ถูกส่งมาทำภารกิจอะไรบางอย่างเกี่ยวกับความเป็นความตายของมนุษย์บนโลก ตั้งแต่เป็น Messenger ผู้นำพาดวงวิญญาณมนุษย์ที่หมดอายุขัยไปส่งยังโลกหลังความตาย จนถึงเป็นผู้เก็บกวาดความยุ่งเหยิงที่มนุษย์สร้างขึ้น 

Angel / Human / Death ชวนมองหนังไอคอนิกที่พูดถึง Angel หรือการมีอยู่ของเหล่า ‘เทพ’ บนโลกมนุษย์ ผู้ทั้งปลอบประโลม และช่วยให้มนุษย์มองเห็นคุณค่าของชีวิต

หนึ่งในโมเมนต์ที่ทำให้ใครหลายคนอึ้งทึ่งจากรายการ The Graham Norton Show รายการทอล์กโชว์สัญชาติอังกฤษที่ออกฉายทางช่อง BBC One และดำเนินรายการโดย กราแฮม นอร์ตัน (Graham Norton)

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Films

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

PATCHSITA PAIBULSIRI

RELATED

HOT TOPICS