เรื่องตลก 69 เดอะซีรีส์ รีเมกจากภาพยนตร์ชื่อเดียวกัน กำกับโดย เป็นเอก รัตนเรือง โดยในเวอร์ชันของใหม่-ดาวิกา บน Netflix จะเป็นการตีความใหม่ที่เสียดสีความตลกร้ายในสังคมปัจจุบันนี้แทน

ชีวิตเละเทะที่ต้องรอดของ ‘ตุ้ม’  เรื่องตลก 69 เดอะซีรีส์ กับฉากหลังเรื่อง การเมือง และความไม่ปลอดภัยในฐานะผู้หญิง

“ถ้าเจอวันแย่ๆ ท่องไว้มันก็แค่ 24 ชั่วโมง” ประโยคนี้ปรากฏอยู่ในเรื่องตลก 69 เดอะซีรีส์ (6ixtynin9 The Series) แต่จะเป็นซีนไหน หรือตรงไหน เราจะปล่อยให้ทุกคนไปดูกันเอาเอง ซึ่งหลังจากที่ดูครบ 6 ตอนรวดแล้ว เราคิดว่าประโยคดังกล่าวมีความหมายที่ลึกซึ้ง และแทบจะเป็นการใช้ชีวิตของ ‘ตุ้ม’ (รับบทโดย ใหม่-ดาวิกา) ที่ผ่านไปแต่ละวันด้วยการเมินเฉยเรื่องเฮงซวย และพยายามจัดการปัญหาตรงหน้าโดยไม่ลนลาน ที่พาให้สุดท้ายตุ้มก็ ‘ตู้ม!’ ระเบิดความอัดอั้นที่เก็บไว้ตั้งแต่ต้นออกมาอยู่ดี เรื่องตลก 69 เดอะซีรีส์ รีเมกจากภาพยนตร์ชื่อเดียวกัน กำกับโดย เป็นเอก รัตนเรือง ที่ฉายในปี 2542 ซึ่งตอนนั้นบทตุ้ม รับบทโดย หมิว-ลลิตา พอมาเป็นเวอร์ชันของใหม่-ดาวิกา ก็ได้ผู้กำกับคนเดิมมากำกับอยู่ แต่เป็นการตีความใหม่ที่เสียดสีความตลกร้ายในสังคมปัจจุบันนี้แทน ซีรีส์เรื่องนี้เล่าถึงชีวิตพังๆ ของตุ้ม พนักงานดีเด่นประจำบริษัท ธนฉัตรประกันภัย จำกัด ที่ถูกเลย์ออฟออกจากพิษโรคระบาด และอยู่มาวันหนึ่งเธอก็ได้รับกล่องเงินล้านปริศนา ที่ทำให้เธอเลือกเก็บมันไว้ นำไปสู่โศกนาฏกรรม และเรื่องตลกร้ายในชีวิตของเธอมากมายตามมา ทุกสิ่งทุกอย่างในซีรีส์ ล้วนมี <a href="https://mirrorthailand.com/tags/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87" rel="noopener noreferrer" target="_blank">‘การเมือง’</a> มาเกี่ยวข้อง เพราะสภาพสังคมอันไม่ปกติที่ตุ้มเจอ การเมืองก็นับเป็นต้นตอของปัญหา ตั้งแต่เศรษฐกิจตกต่ำเพราะโควิด-19 ถ้ารัฐบาลบริหารได้ดีกว่าที่เป็น การผ่านพ้นวิกฤตินี้ก็อาจไม่พินาศขนาดนี้ จนไม่ทำให้ตุ้มต้องโดนจ้างออกจากงาน โดยที่ตามกฎหมายแล้วต้องได้เงินชดเชย 10 เดือน แต่เธอก็ไม่ได้ และคนเป็นผู้น้อยอย่างเธอก็ต้องยอมจำนนจากความไม่เป็นธรรม และเลือกเข้าสู่เส้นทางเก็บเงินหน้าห้อง อันเป็นที่มาของเรื่องราวบ้าๆ ไปจนจบเรื่อง หรือกระทั่งการใช้ชีวิตในฐานะ<a href="https://mirrorthailand.com/tags/%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B8%B4%E0%B8%87" rel="noopener noreferrer" target="_blank">ผู้หญิง</a>ที่อยู่หอพักคนเดียว ที่ตลอด 6 ตอน มีผู้ชายหน้าไหนก็ไม่รู้สามารถเข้า-ออกห้องเธอได้อย่างง่ายๆ ไร้ความปลอดภัยอยู่ราวๆ 6 ครั้ง โดยที่เจ้าของหอพัก หรือเพื่อนบ้านรอบๆ แทบจะไม่ได้สนใจ หรือไม่จับสังเกต นี่ก็ล้วนเป็นความไม่ปกติของบ้านเมืองที่ผลักให้คนสนใจแต่ ‘เรื่องตัวเอง’ แต่มีการชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านเป็นสีสันชีวิตเฉยๆ ซึ่งก็นับเป็นสิ่งที่ผลักให้ผู้หญิงที่อยู่คนเดียวต้องมีสกิลเอาตัวรอดสูง และตุ้มก็เป็นคนนั้นที่เก่งเรื่องเอาตัวรอด ที่ไม่ฆ่า ก็ถูกฆ่า ไม่เอาเงินตรงหน้า ก็อดตาย ใหม่-ดาวิกา ลดน้ำหนักเพื่อแสดงเป็นตุ้ม จนเธอโดน <a href="https://mirrorthailand.com/tags/Body%20Shaming" rel="noopener noreferrer" target="_blank">body shaming</a> เรื่องความผอมอย่างหนักในโลกอินเทอร์เน็ต (ซึ่งจริงๆ เธอไม่ควรจะโดนเลยด้วยซ้ำ) ในซีรีส์จะเห็นว่าชีวิตที่เปลี่ยนไปของตุ้ม จากคนที่กินร้านอาหารญี่ปุ่น และเข้าซูเปอร์มาร์เก็ตเพื่อซื้อไวน์และเนื้อไปกินที่บ้าน เมื่อตกงาน เธอซื้อแต่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หรือบางครั้งก็นั่งกินก๋วยเตี๋ยวข้างทางแทน สิ่งที่น่าสนใจในซีรีส์เรื่องนี้คือการสะท้อนความเหลื่อมล้ำในสังคมผ่านตัวละครตุ้ม ที่อาจจะเป็นใครสักคนที่ดิ้นรนเพื่ออยู่ให้รอดช่วงวิกฤติประเทศได้อย่างตลกร้าย และที่ตลกร้ายกว่าคือคนรวยๆ ก็อาจตัดสินโชคชะตาของชนชั้นแรงงานด้วยการเสี่ยงดวง แม้ตุ้มจะเป็นพนักงานดีเด่นของบริษัท แต่บริษัทก็เลือกจะใช้การ ‘เขย่าเซียมซี’ เพื่อเลือกคนจ้างออก เมื่อบางนายทุนก็ไม่ได้สนใจเรื่องผลงานของพนักงาน หรือสนใจชีวิตของพนักงานจริงๆ เพราะเกณฑ์ที่เลือกใช้ไม่ได้มาจากการคิดวิเคราะห์อย่างดี แต่เป็นกิจกรรมวาไรตี้ที่ใช้ดวงเสี่ยงแทน ชีวิตชนชั้นแรงงานก็ได้กลายเป็นเรื่องไม่จริงจังของผู้มีอำนาจไปเสียได้ ซึ่งเราจะเห็นความตลกร้ายผ่านกิจกรรมคนรวยนี้อยู่ตลอด เพราะกล่องเงินล้านที่มีคนมาวางผิดห้อง ก็เป็นเงินจากค่าล้มมวย ซึ่งเป็นกิจกรรมคนรวยที่ผิดกฎหมาย ที่เสี่ยโต้งและครรชิต เจ้าของค่ายมวย ตกลงกันไว้ มีหลายแวบที่ตุ้มนำเงินเข้ามาในห้อง กลับไปวางหน้าห้อง และเก็บมาใหม่ เพราะเธอคิดว่าทางเดียวที่จะรอดในการใช้ชีวิตคือการเก็บเงินล้านนี้ไว้กับตัว และนั่นทำให้ลูกน้องของเสี่ยโต้งและครรชิต วนเวียนมาที่ห้องของเธอ เพื่อตามหาเงินนั้น จนต้องมีการฆาตกรรมเกิดขึ้น สิ่งที่ล้อไปกับสถานการณ์เอาตัวรอดจากเส้นทางการขโมยเงินของตุ้มที่เราว่าน่าสนใจ และควรหยิบมาพูดคือความไม่ปลอดภัยในฐานะผู้หญิง เราจะเห็นว่า ลูกน้อง 2 คนจากค่ายมวยครรชิต ที่ถูกตุ้มฆ่า ก็สามารถพังประตูเข้ามาในห้องเธอได้อย่างง่ายดาย แม้จะมีคนเดินผ่านหน้าห้อง และประตูก็เปิดทิ้งไว้อย่างนั้นสักพัก เสียงการต่อสู้ก็ดัง แต่ก็แทบจะไม่มีใครนึกสงสัย หรืออยากเข้ามาช่วยเธอเลย ประมาณ 6 ครั้งได้ ที่ห้องของตุ้มถูกผู้ชายหน้าไหนก็ไม่รู้เข้ามา ตั้งแต่หนุ่มไอทีสายหื่นร่วมหอพัก ที่ทำทีช่วยถือของและถือวิสาสะเข้ามาในห้องของเธอ ซึ่งเป็นคนเดียวกับที่ชอบ sex phone มาหาเธออยู่เป็นประจำ จนถึงหลังเกิดการฆาตกรรมต่างๆ ก็มีผู้ชายมากมายเข้ามา ลูกน้องของคนนั้น คนนี้ เข้ามาหยิบของในห้องเธอออกไป เข้ามาซ่อนตัวอยู่ในตู้เสื้อผ้า เข้ามาสูบบุหรี่ ยืนฉี่ในห้องน้ำ ซึ่งล้วนเป็นการสะเดาะลูกบิดเข้ามาง่ายๆ ลองคิดว่าเป็นในชีวิตจริง มีใครก็ไม่รู้เข้ามาในห้องโดยที่หอพักไม่ได้เป็นหูเป็นตาให้ เพราะคิดว่าไม่อยากยุ่งเรื่องชาวบ้าน ถ้าคนคิดแบบนี้กันหมด ความปลอดภัยของคนในสังคมจะอยู่ตรงไหนกันล่ะ? และเมื่อซีรีส์ต้องการจะสื่อสารเรื่องการเมือง เป็นเอก ก็เลือกเล่าออกมาอย่างตรงไปตรงมาว่า ซีรีส์เรื่องนี้พูดถึงการเมือง ขณะเดียวกันก็เล่าเรื่องของคนที่ดิ้นรนใช้ชีวิตรอดอย่างตุ้ม ท่ามกลางการเมืองที่ร้อนระอุในปัจจุบัน มีหลายฉากที่ซีรีส์เลือกให้ตุ้มดูข่าวภาพการชุมนุมของประเทศไทย ที่ คฝ. ฉีดน้ำแรงดันสูงใส่ประชาชน ประชาชนชูสามนิ้ว พร้อมกับประโยค “ขี้ข้าเผด็จการ” ซึ่งตุ้มรับรู้ดีว่าสภาพสังคมตอนนี้เป็นอย่างไร แต่เรื่องราวชีวิตของเธอก็หนักใช่ย่อย และทำให้เห็นว่าเธอเลือกจัดการปัญหาของตัวเองก่อนจะสนใจการเมือง ซึ่งเราก็ว่ามีอยู่หลายคนที่รับรู้สถานการณ์การเมือง แต่เรื่องในชีวิตตัวเองก็หนักพอ จึงอาจจะเลือกเมินเฉยกับมัน สุดท้ายไม่ว่าตุ้มจะเมินเฉยกับการเมืองเท่าไร แต่สุดท้าย สิ่งที่ทำให้ชีวิตเธอมาถึงจุดนี้ได้ ก็ยังคงเป็นการเมืองอยู่ดี ยังมีความย้อนแย้งของประเทศไทย เกี่ยวกับคำว่าประชาธิปไตย ที่บางครั้งก็ไม่ได้แปลว่าคนที่แสวงหาประชาธิปไตยจะเป็นคนดีหมดจด หรือกระทั่งบางทีก็กลายเป็นเครื่องมือของคนมีอำนาจ นอกจากครรชิตจะเปิดค่ายมวยแล้ว เขายังรับทำหนังสือเดินทางออกนอกประเทศ ซึ่งหนึ่งในลูกค้า ก็ดันเป็นตำรวจเสียเอง ซึ่งตำรวจก็ได้เข้ามาคุยกับครรชิตถึงการที่เขาไปเป็นท่อน้ำเลี้ยงให้กับม็อบว่าผู้ใหญ่ไม่สบายใจ “ด้วยความเคารพนะครับผู้กอง ถ้าผมเห็นว่าสิ่งที่ม็อบพวกนี้ทำอยู่เนี่ย มันไปสร้างความเดือดร้อนวุ่นวายให้บ้านเมือง ผมไม่มีวันสนับสนุนเด็ดขาดครับ แต่ในกรณีของเด็กพวกนี้เนี่ย ผมเห็นว่ามันเป็นกิจกรรมที่ค่อนข้างสร้างสรรค์อยู่นะครับ เขานัดกันมาแสดงสิ่งที่เขาคิดให้ผู้นำบ้านเมืองเห็น สามสี่ชั่วโมงแล้วก็กลับบ้าน แถมตอนกลับมีเก็บขยะให้ด้วย” “คนรุ่นนี้เขาฉลาดกว่าพวกเราเยอะ เขาเห็นว่าถ้าทำอย่างที่ท่านผู้นำว่าเนี่ย ชีวิตของพวกเขาก็จะวนเวียนอยู่ในวงจรเดิมๆ เหมือนที่คนรุ่นพ่อ รุ่นแม่เขาประสบมา” นี่คือสิ่งที่ครรชิตบอกตำรวจ ซึ่งนับว่าย้อนแย้งกับเรื่องผิดกฎหมายที่เขาทำมากมายโดยสิ้นเชิง และชวนให้คิดต่อถึงการสนับสนุนกลุ่มคนเรียกร้องประชาธิปไตยอย่างยิ่ง กลับมาที่ตุ้ม ท้ายที่สุด สิ่งที่ตุ้มทำในการเลือกเก็บเงินปริศนาหน้าห้องมาเป็นของตัวเอง เพื่อหวังจะมีชีวิตรอดเป็นเรื่องผิด แต่หากคิดไปไกลกว่านั้น สิ่งที่ทำให้เธอ หรือใครก็ตามในสังคม ทำเรื่องไม่ดี เพราะรัฐบาลไม่สามารถช่วยเหลือพวกเขาได้ในโมงยามอันคับขัน ตกลงตุ้มผิดคนเดียว หรือตัวต้นเรื่องมันเป็นที่ใคร? บทสรุปของตุ้มที่เธอสู้เพื่อให้รอดมาตลอด 6 ตอนจะเป็นแบบไหน อยากให้ทุกคนลองไปดูกัน

Anika Leila สาวผู้รังสรรค์อายแชโดว์ ลิปไลเนอร์ บลัชออน รองพื้น มาสคาร่า และเครื่องสำอางหมดอายุแทบจะทุกประเภทให้กลายเป็นพาเลตสีสุดเก๋ ที่เอามาใช้วาดลวดลาย และระบายสีจากเครื่องสำอางทั้งหมดนี้ เป็นงานศิลปะ

ภาพเพนต์จาก ‘เครื่องสำอางหมดอายุ’ ของ Anika Leila สาวบริติช-อินเดียน ที่หยิบไอเท็มใกล้ทิ้งหรือต้องทิ้งในกระเป๋าเมคอัพมาทำงานศิลปะ

คงไม่เกินจริงเลยหากจะบอกว่าตอนที่หนังเรื่อง Joker ถูกจับมาอาบน้ำแต่งตัว ตีความใหม่ผ่านการเล่าด้วยมุมมองของผู้กำกับ Todd Phillips เมื่อปี 2019 เป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่แฟนหนังทั่วโลกจะหลงรักตัวละครสักตัวที่เป็น Antihero หรือพระเอกที่ขาดความเป็นพระเอกได้มากมายขนาดนี้ อาจเพราะ Joker ในเวอร์ชั่นของ Todd Phillips นั้นมีความเป็น ‘มนุษย์’ มากกว่า Joker ในเวอร์ชั่นไหนๆ ที่เราเคยรู้จัก 

Harley Quinn เวอร์ชั่น Joker : Folie à Deux ลบภาพวายร้ายสาวสุดวายป่วงและกวนประสาท เพราะเธอเป็นเพียงผู้หญิงธรรมดาที่ฝันสลายจากโลกเน่าๆ 

ย้อนไปเมื่อปี 2015 ชิโอริ อิโตะ นักข่าวสาวที่ขณะนั้นอายุ 25 ปี ได้ร่วมโต๊ะรับประทานอาหารกับโนริยูกิ ยามากูชิ ผู้บริหารของ Washington Bureau Tokyo Broadcasting System ผู้เป็นหนึ่งในเพื่อนสนิทของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ โดยเธอเข้าใจว่านั่นคือส่วนหนึ่งของการสัมภาษณ์งาน แต่หลังจากกินข้าวเสร็จเธอพบว่ารู้สึกไม่สบายจนต้องขอเข้าห้องน้ำ จากนั้นเธอก็รู้ตัวอีกทีที่ห้องพักในโรงแรมโดยที่นายยามากูชิได้ข่มขืนเธอไปแล้ว

Shiori Ito : Black Box Diaries
นักข่าวที่ถูกข่มขืนโดยผู้มีอิทธิพล และถูกกระทำซ้ำโดย ‘อำนาจ’ กับความเกลียดชังจากคนญี่ปุ่น จนต้องลุกขึ้นมาทำสารคดีเพื่อบอกเล่าสิ่งที่เธอเผชิญหลังถูกข่มขืน

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Films

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

PATCHSITA PAIBULSIRI

RELATED

HOT TOPICS