Mask Girl (2023) คืออีกหนึ่งซีรีส์เกาหลีที่มาแรงสุดๆ ทางเน็ตฟลิกซ์ ซีรีส์ได้ขุดลึกลงไปในสังคมเกาหลีที่กำลังบิดเบี้ยวและกัดกินผู้คน ตั้งแต่เรื่องของ ‘รูปลักษณ์’ ที่ทำให้ใครบางคนถูกสังคมกีดกันออกไปจนต้องหันไปอยู่แต่ในโลกของตัวเองหรือกระทั่งกลายเป็นฆาตกร

Mask Girl ซีรีส์เกาหลีที่ขุดลึกลงไปถึงต้นตอของประโยค “ศัตรูของผู้หญิง ก็คือผู้หญิงอีกคน”

*มีการเปิดเผยเนื้อหาซีรีส์Mask Girl (2023) คืออีกหนึ่งซีรีส์เกาหลีที่มาแรงสุดๆ ทางเน็ตฟลิกซ์ ณ เวลานี้ เป็นเพราะตัวเนื้อเรื่องดาร์กคอเมดี้ที่ดำเนินไปอย่างน่าสนใจ เปลี่ยนมุมมองและวิธีเล่าไปในแต่ละอีพีได้อย่างชวนติดตาม ยิ่งกว่านั้นยังอัดแน่นไปด้วยประเด็นน่าปวดหัวในสังคมที่น่าจะกระแทกใจทั้งคนเกาหลีใต้และคนนอกเกาหลีใต้ได้อย่างจัง&nbsp;ท่ามกลางความสนุกของเนื้อเรื่อง ซีรีส์ได้ขุดลึกลงไปในสังคมเกาหลีใต้ที่บิดเบี้ยวและกำลังกัดกินผู้คน ตั้งแต่เรื่องของ ‘รูปลักษณ์’ ที่ทำให้ใครบางคนถูกสังคมกีดกันออกไปจนต้องหันไปอยู่แต่ในโลกของตัวเอง ขณะที่ใครบางคนก็ถูกหมายปองด้วยความลุ่มหลงจนบางครั้งก็กลายเป็นภัยกับตัวเอง รวมถึงหลายสิ่งอย่างที่ทิ่มแทงผู้คนโดยทั่วถึงกัน ทั้งเรื่องการมองร่างกายผู้หญิงเป็นวัตถุทางเพศ ความคาดหวังของครอบครัวที่มีต่อลูกหลานตัวเอง การบูลลี่ในโรงเรียน การให้ค่าคนไม่เท่ากัน ความอยุติธรรมในพื้นที่ของรัฐ จนถึงความบ้าคลั่งของโลกอินเทอร์เน็ต ฯลฯที่น่าสนใจคือ หากไม่นับตัวละครชายอย่างไอ้หนุ่มพูดเกาหลีคำอังกฤษคำที่พยายามชักชวนแกมบังคับพาเธอไปเข้าโรงแรม และ จูโอนัม–หนุ่มโอตาคุผู้แอบตามหลงรัก Mask Girl และเป็นตัวต้นเรื่องที่ผลักให้เธอต้องเข้าสู่โลกของการฆาตกรรม ตัวละครที่เหลือที่ต้องเดินเรื่อง ขับเคี่ยว ฟาดฟันกัน ล้วนแต่เป็นผู้หญิง ซึ่งพวกเธอสู้กันได้อย่างถึงที่สุดจนทำให้เราต้องดูรวดเดียวจบเพราะอยากรู้ว่าเรื่องราวสุดบานปลายนี้จะไปจบลงที่ตรงไหนและหากต้องชม Mask Girl นอกจากทีมทำหนังแล้ว เรายังต้องย้อนไปชื่นชมนักเขียนเว็บตูนที่เป็นตัวบทออริจินัลของเรื่องนี้ด้วย และทั้งคู่ก็คือ แมมี (Mae-mi) และ ฮีเซ (Hee-se) นั่นเอง ซึ่งหลังจากที่ซีรีส์กลายเป็นกระแส ที่เกาหลีใต้จึงมีการหยิบเอาบทสัมภาษณ์ของนักเขียนทั้งสองที่เคยกล่าวเอาไว้มาพูดถึงอีกครั้ง&nbsp;“มันยากมากที่จะอินกับประโยคที่ว่า ‘ศัตรูของผู้หญิงก็คือผู้หญิงอีกคน’ และสำหรับ Mask Girl เราต้องการขุดลึก ลงไปในมุมมองที่ว่านี้ค่ะ” พวกเธอกล่าว พร้อมขยายความอีกว่า “เพราะว่าทั้งตัวละครหลัก ตัวละครหนุน จนถึงตัวร้าย ล้วนแต่เป็นผู้หญิงค่ะ มันหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะต้องกลายเป็นศัตรูของผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ซึ่งเราต้องขอโทษด้วยหากทำให้ใครไม่สบายใจ แต่เราตั้งใจจะเล่าเรื่องของ ‘หญิงชั่ว’ ที่น่าทึ่งค่ะ”‘ศัตรูของผู้หญิงก็คือผู้หญิงอีกคน’ หากมองเผินๆ ประโยคนี้คล้ายจะสะท้อนภาพที่หลายคนเรียกว่าเป็น toxic femininity หรือภาพของผู้หญิงที่อิจฉาริษยาและตีกันเอง แต่อันที่จริงหากเราได้ดู Mask Girl จนจบ หลายคนน่าจะเข้าใจตรงกันว่าอะไรที่ทำให้พวกเธอจำต้องสู้กันเอง ซึ่งการต่อสู้ของพวกเธอทุกคนล้วนแต่เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ทั้งหมด (ไม่ว่าเราจะเห็นด้วยกับสิ่งที่พวกเธอทำหรือไม่ก็ตาม) และแม้ตามท้องเรื่องพวกเธอล้วนแต่สามารถถูกประนามหยามเหยียดว่าเป็น ‘หญิงชั่ว’ ได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แต่ซีรีส์ก็ได้พาเราเข้าไปทำความเข้าใจต้นทางของการตัดสินใจเลือกใช้ชีวิตอย่างนั้น ซึ่งก็คือหนทางรอดในสังคมที่ผู้ไร้อำนาจมักถูกเหยียบจมดิน และผู้ไร้อำนาจในเรื่องนี้ก็ไม่ใช่ใครนอกจาก ผู้หญิง โดยเฉพาะคนที่มีหน้าตาไม่ตรงบิวตี้สแตนดาร์ด จนพวกเธอต้องหาทางหลุดพ้นไปจากสถานะนี้ของตัวเองอย่างสุดความสามารถ พวกเธอไม่ใช่เหยื่อผู้ใสซื่อบริสุทธิ์ บางครั้งพวกเธอก็ตัดสินใจทำอะไรพังๆ ด้วยตัวเอง แต่ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าหากพวกเธอมีอำนาจอยู่กับตัวเองมากกว่านี้หรือได้รับการรับฟังจากสังคมมากกว่านี้ หลายๆ สถานการณ์คงไม่เป็นอย่างในเรื่องเราจึงเห็นภาพของ คิมโมมี ที่พยายามหาพื้นที่ที่ตนเองจะกลายเป็นที่รักของผู้คน ไม่ใช่เป็นแค่ผู้หญิงจืดชืดสักคนหนึ่งในออฟฟิศที่แทบไม่มีใครใส่ใจและได้แต่เมาท์คนอื่น เธอกลายเป็น Mask Girl ที่แฟนๆ คลั่งไคล้ และแม้หน้าจะไม่ตรงบิวตี้สแตนดาร์ด แต่ร่างกายของเธอก็ยังทำให้ตัวเองถูกคุกคามทางเพศอยู่ดี และเราจึงได้เห็น คิมคยองจา แม่ของจูโอนัมผู้ยึดเอาลูกเป็นสรณะ ผู้รู้ตัวอยู่ลึกๆ ว่าตัวเองมีความคาดหวังสูงลิบต่อลูก และลูกไม่สามารถทำตามความคาดหวังนั้นได้ เธอทำได้เพียงการหลอกตัวเองไปเรื่อยๆ พร้อมกับที่รู้สึกเจ็บปวดอยู่ข้างใน หนำซ้ำ ยังไม่ทันจะได้เห็นว่าต่อไปตัวเองจะสามารถต่อติดกับลูกได้หรือห่างกันออกไปอีกแค่ไหน ลูกก็ดันมาตายไปเสียก่อน สิ่งเดียวที่สามารถเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวให้เธอได้จึงเป็นการแก้แค้นเพื่อชดเชยความรู้สึกว่างเปล่าเมื่อไม่มีลูกไว้คอยยึดเหนี่ยวอีกแล้ว จนเรื่องราวต่างๆ เกิดขึ้น&nbsp;ยิ่งกว่านั้น ท่ามกลางการต่อสู้ของผู้หญิงด้วยกัน ระหว่างทางเรายังได้เห็นมิตรภาพที่งดงามของผู้หญิงที่ผ่านอะไรๆ มาเหมือนกัน จึงเข้าใจกันและอยากปกป้องกัน เรียกว่าเป็นภาพเพื่อนหญิงพลังหญิงที่น่าประทับใจมากๆ เรายังได้เห็นสายใยความเป็นแม่ลูก-ยายหลาน ที่แม้จะไม่เคยได้แสดงออกด้วยความห่วงใยใกล้ชิดในชีวิตประจำวัน แต่เราก็ได้เห็นกันในที่สุดว่าสายใยนี้ตัดไม่ขาด ซึ่งใช่หรือไม่ว่าพวกเธอล้วนแต่เป็นผู้หญิง ที่แท้จริงก็เข้าใจอยู่ลึกๆ ว่าอีกฝ่ายเผชิญกับอะไรมาบ้าง? และพยายามแก้ไขสิ่งที่เคยผิดพลาดเท่าที่จะทำได้&nbsp;ดังนั้นแล้ว หากย้อนกลับไปอ่านสิ่งที่ผู้เขียนเว็บตูนทั้งสองคนเคยกล่าวไว้อีกครั้ง นับว่าพวกเธอทำมันออกมาได้อย่างสำเร็จงดงามทีเดียวอ้างอิง<a href="https://kbizoom.com/mask-girl-webtoons-authors-revealed-why-all-villain-characters-are-female/" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://kbizoom.com/mask-girl-webtoons-authors-revealed-why-all-villain-characters-are-female/</a> &nbsp;&nbsp;

เวลานี้หนังที่กำลังถูกพูดถึงมากที่สุด คงเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก ‘The Substance’ จากฝีมือการเขียนบทและกำกับของ คอราลี ฟาร์กีต์ (Coralie Fargeat) หนึ่งในผู้กำกับหญิงที่ทำงานกับประเด็นความรุนแรงของผู้หญิงได้ไม่เหมือนใคร จนไม่เพียงคว้ารางวัล Best Screenplay จากเทศกาลหนังเมืองคานส์ปีนี้มาครอง มันยังได้รับเสียงชื่นชมว่าเล่นกับประเด็นความรุนแรงของผู้หญิงได้อย่างเลือดสาด เกรี้ยวกราด และบ้าคลั่งที่สุดด้วย

The Substance โลกจำลองแสนบ้าคลั่ง
ของผู้หญิงที่ต้องดิ้นรนหนีความร่วงโรยภายใต้กับดักของคำว่า ‘เป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุด’

คงไม่เกินจริงเลยหากจะบอกว่าตอนที่หนังเรื่อง Joker ถูกจับมาอาบน้ำแต่งตัว ตีความใหม่ผ่านการเล่าด้วยมุมมองของผู้กำกับ Todd Phillips เมื่อปี 2019 เป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่แฟนหนังทั่วโลกจะหลงรักตัวละครสักตัวที่เป็น Antihero หรือพระเอกที่ขาดความเป็นพระเอกได้มากมายขนาดนี้ อาจเพราะ Joker ในเวอร์ชั่นของ Todd Phillips นั้นมีความเป็น ‘มนุษย์’ มากกว่า Joker ในเวอร์ชั่นไหนๆ ที่เราเคยรู้จัก 

Harley Quinn เวอร์ชั่น Joker : Folie à Deux ลบภาพวายร้ายสาวสุดวายป่วงและกวนประสาท เพราะเธอเป็นเพียงผู้หญิงธรรมดาที่ฝันสลายจากโลกเน่าๆ 

ในยุคแห่ง Diversity & Inclusion ที่โลกต่างโอบรับความแตกต่างหลกหลาย ‘ยืดเปล่า’ (YUEDPAO) แบรนด์เสื้อผ้าที่เกิดขึ้นภายใต้บริษัท เริ่มใหม่ จำกัด ที่ขับเคลื่อนโดยคนรุ่นใหม่มาโดยตลอด จึงขอ Embrace ความหลากหลายผ่านภาพยนตร์สารคดีสั้น ‘รักเรา…ยืดแต่ไม่ย้วย’ นำเสนอเรื่องจริงของความรักแห่งยุคจากคู่รัก 7 คู่ที่เต็มไปด้วยความแตกต่างผ่านหลากหลายมุมมอง รวมถึงแง่มุมของการข้ามผ่านอุปสรรคต่างๆ ที่สะท้อนความสัมพันธ์ ‘ยิ่งยืด ยิ่งพอดี’ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองให้กับความรักเท่าเทียม จากกฎหมายสมรสเท่าเทียมที่กำลังจะมีผลบังคับใช้ในเร็วๆ นี้ 

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Films

Mask Girl ซีรีส์เกาหลีที่ขุดลึกลงไปถึงต้นตอของประโยค “ศัตรูของผู้หญิง ก็คือผู้หญิงอีกคน”

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MIRROR TEAM

RELATED

HOT TOPICS