“ฉันสงสัยว่าโลกจะรู้สึกอย่างไรถ้า Kitty Oppenheimer เป็นคนสร้างระเบิดลูกนี้ขึ้นมา” Emily Blunt พูดถึงบท ‘คิตตี้’ ในภาพยนตร์ Oppenheimer ที่ถูกคาดหวังให้เป็นเพียง ‘แม่และเมียที่ดี’ ให้กับบิดาแห่งระเบิดปรมาณู

Emily Blunt พูดถึงบท ‘คิตตี้’ นักชีววิทยา ที่ถูกคาดหวังให้เป็นเพียง ‘แม่และเมียที่ดี’ ให้กับบิดาแห่งระเบิดปรมาณู

ช่วงนี้โรงภาพยนตร์คึกคักมากเป็นพิเศษ เพราะนอกจากจะมี <a href="https://www.mirrorthailand.com/tags/Barbie" rel="noopener noreferrer" target="_blank">Barbie</a> ที่ทุกคนตีตั๋วเข้าไปดูจนรายได้ถล่มทลายแล้ว ยังมีภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ฝีมือ คริสโตเฟอร์ โนแลน (Christopher Nolan) อย่าง ‘Oppenheimer’ ที่ตีคู่กันมาติดๆ แน่นอนว่านี่เป็นหนังอัตชีวประวัติเกี่ยวกับบิดาแห่งระเบิดปรมาณู หรือ จูเลียส โรเบิร์ต ออพเพนไฮเมอร์ (J. Robert Oppenheimer) ซึ่งเป็นคนรันโครงการแมนฮัตตัน (Manhattan Project) พัฒนาระเบิดนิวเคลียร์ลูกแรกของโลก เขาถูกชื่นชมในฐานะอัจฉริยะ ขณะเดียวกันก็ถูกมองว่าเป็นคนที่มีส่วนทำให้ผู้คนจำนวนมากต้องจากไปเพราะอาวุธที่เขาสร้างขึ้น และนั่นทำให้เขาเกิดแผลใจขนาดใหญ่ที่ยากจะข้ามผ่าน เรื่องราวจะเป็นอย่างไรคงต้องไปดูกันเองในโรงภาพยนตร์ ทว่า นอกจากชีวิตของออพเพนไฮเมอร์ที่เป็นตำนาน อีกหนึ่งตัวละครที่น่าพูดถึงในภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งไม่ว่าจะในหนังหรือในชีวิตจริงเธอมีบทบาทเป็นแค่เงาของผู้ชาย เงาของสามีเธอ แม้ตัวตนจริงๆ จะเป็นคนที่มีความสามารถ และเก่งกาจมากขนาดไหน นั่นคือ&nbsp;‘คิตตี้’&nbsp;ภรรยาของออพเพนไฮเมอร์ รับบทโดย เอมิลี่ บลันท์ (Emily Blunt) ซึ่งตัวเธอเองก็มีเรื่องอยากจะพูดทั้งในฐานะ<a href="https://www.mirrorthailand.com/tags/%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B8%B4%E0%B8%87" rel="noopener noreferrer" target="_blank">ผู้หญิง</a> ในฐานะ<a href="https://www.mirrorthailand.com/tags/%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88" rel="noopener noreferrer" target="_blank">แม่</a>ในชีวิตจริง และในฐานะคิตตี้ แม่ที่ถูกตราหน้าว่าไม่ใช่แม่ที่เพอร์เฟกต์ ในขณะที่คนเป็น ‘พ่อ’ ไม่ถูกตำหนิในมาตรฐานเดียวกัน<img src="https://media.thairath.co.th/image/o2FKEDtT7SApwWYAtgwAy5WT50zdU6aWRJppbXb19Bce9vA1.jpg" data-id="101098" data-url="https://media.thairath.co.th/image/o2FKEDtT7SApwWYAtgwAy5WT50zdU6aWRJppbXb19Bce9vA1.jpg" style="width: auto;" class="fr-fic fr-dib">“มันเป็นช่วงเวลาที่เกิดความบิดเบี้ยวในชีวิตผู้หญิงหลายคน ขณะที่พวกเธอพยายามปั้นตัวเองให้เป็นแม่บ้านที่สมบูรณ์แบบ แต่คิตตี้เป็นแม่ที่ย่ำแย่มาก เธอไม่ได้เป็นแม่บ้านที่ดี และเธอก็ไม่ได้ปรารถนาจะเป็นด้วย” เอมิลี่ บลันท์ พูดถึงตัวละครคิตตี้กับ The Guardian ไว้ เพราะขณะที่คิตตี้เป็นทั้งนักพฤกษศาสตร์ นักชีววิทยา และเคยเป็นนักเคลื่อนไหวในพรรคคอมมิวนิสต์สหรัฐฯ แต่เมื่อมีบทบาทความเป็น ‘แม่’ เข้ามา ชีวิตของเธอก็ถูกคาดหวังให้เป็นแค่แม่และเมีย ซึ่งหากมีการสอบว่าคิตตี้เป็นแม่ที่ดีตามขนบไหม เธอคงสอบตกก่อน ตั้งแต่ที่เธอติดเหล้า สูบบุหรี่จัด และบางฉากคนดูก็คงตั้งคำถามขึ้นมาว่า “ทำไมไม่ดูแลลูกให้ดี” ซึ่งคำถามนี้อาจไม่เกิดขึ้นกับตัวออพเพนไฮเมอร์ “สมองอันชาญฉลาดนั้น ถูกทิ้งไว้ที่โต๊ะรีดผ้า ฉันรู้จักผู้หญิงหลายคนที่มีอายุประมาณหนึ่งซึ่งโกรธชีวิตที่ถูกนิยามให้เป็นแค่แม่ของใครบางคน หรือเมียของใครบางคน และฉันมีความเห็นอกเห็นใจต่อเรื่องนั้น” เอมิลี่ บลันท์ บอกว่าตัวละครคิตตี้ “ไม่มีความเข้าใจโดยสัญชาตญาณต่อเด็กเลย” และโนแลนก็เลือกนำเสนอฉาก “ที่ฉันดูเป็นแม่ที่แย่ที่สุดในโลก” ถึงจะเป็นแบบนั้นแต่เธอก็บอกว่าไม่อยากให้ตีตราคิตตี้ว่าเป็นคนขี้เหล้า เพราะการเอาชีวิตรอดในลอส อะลามอส ต้องใช้บุหรี่และมาร์ตินี่เป็นเรื่องเข้าใจได้ ซึ่งเอมิลี่ตั้งข้อสงสัยว่า ขณะที่พอเป็นกรณีโรเบิร์ต เขาก็ถูกปล่อยผ่าน ไม่โดนอะไร เพราะความเป็นอัจฉริยะ และอาจจะเป็นเพราะเรื่องเพศด้วย? “ฉันก็คิดแบบนั้นนะ ฉันสงสัยว่าโลกจะรู้สึกอย่างไรถ้าคิตตี้ ออพเพนไฮเมอร์ เป็นคนสร้างระเบิดลูกนี้ขึ้นมา” “ผู้หญิงจำนวนมากมีแนวโน้มที่จะพยายามเต้นอยู่รอบๆ สิ่งต่างๆ เพราะพวกเรามักไม่ได้มีพื้นที่ให้พูดอย่างตรงไปตรงมา หรือคุณจะถูกมองว่าเป็นคนทะเยอทะยาน หรือใช้อารมณ์มากเกินไป หากมีใครบางคนพูดถึงสิ่งที่ออกมาจากใจด้วยความคิดเห็นที่มุ่งมั่น” อย่างที่เอมิลี่ บลันท์ บอก หากผู้หญิงสักคนจะเป็นคนเก่ง เธอก็ยังโดนสบประมาทอยู่ดี และความตลกร้ายคือ หากเธอไม่เก่งในเรื่องที่สังคมคิดว่าควรจะเก่งอย่างการเป็น ‘แม่’ เธอก็จะโดนด่าอยู่ดี และนี่คือความไม่เท่ากันทางเพศที่เกิดขึ้นจริงทั้งในภาพยนตร์เรื่องนี้และในชีวิตจริง และในฐานะนักแสดงหญิง เอมิลี่ บลันท์ อยากฝากบอกว่า “ฉันคิดว่ายังคงมีความกดดันให้ต้องทำตัวให้น่าคบ อบอุ่น และเข้าอกเข้าใจ ซึ่งผู้ชายไม่ได้แบกมาตรฐานเดียวกันนี้ ไม่มีใครสนใจหรอกค่ะว่า Leonardo DiCaprio จะน่าคบไหมใน The Wolf of Wall Street” อ้างอิง: <a href="https://www.theguardian.com/film/2023/jul/21/emily-blunt-women-pressured-oppenheimer" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.theguardian.com/film/2023/jul/21/emily-blunt-women-pressured-oppenheimer</a>&nbsp; <a href="https://www.theguardian.com/film/2023/jul/21/emily-blunt-women-pressured-oppenheimer" target="_blank" rel="noopener noreferrer"></a>

ทำความรู้จักกับผู้เข้าร่วมบางส่วนในรายการ ‘Better Late Than Single’ ซึ่งมีความกล้าและความพยายามที่จะออกจาก Comfort Zone ของตัวเอง เพื่อมีแฟนครั้งแรกในชีวิต เพราะพวกเขาไม่ใช่แค่ ‘โสดด้วยความสามารถ’ แต่ยังมีเรื่องราวเบื้องหลังตัวตน เหตุผลส่วนตัว และปัญหาที่ค้างคาในใจ

ไม่ใช่แค่โสดด้วยความสามารถ… ชวนดูสารพัดเหตุผลที่ทำให้บางคนไม่อาจเริ่มต้นความสัมพันธ์กับใครสักคนได้เสียที จาก ‘Better Late Than Single’ รายการเรียลลิตี้เดตรวมคนโสดที่ไม่เคยมีแฟนตลอดชีวิต

‘ผีใช้ได้ค่ะ (A Useful Ghost)’ กับเรื่องราวสุดเสียดสีและตลกร้ายของคนที่ถูกทำให้อยู่ในสถานะผีจึงต้องลงมือทำอะไรสักอย่างเพื่อให้ได้เป็นคนสมชื่อ และผีที่ต้องลงมือทำอะไรเช่นกันเพื่อให้ถูกยอมรับเฉกเช่นคนที่มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์คนหนึ่ง

ถ้าเราไม่สู้หรือยอมจำนน บางทีการเป็น ‘คน’ ก็อาจไร้ตัวตน ไม่ต่างจาก ‘ผี’...นิยาม ‘ผี’ แบบฉบับหนัง ‘ผีใช้ได้ค่ะ (A Useful Ghost)’ ที่ชวนให้ทุกคนไม่ลืมว่า ‘การเมืองอยู่ทุกที่’ ตั้งแต่ในบ้าน ความสัมพันธ์ ที่ทำงาน อากาศที่หายใจ ยันสังคมที่อยู่ จะเพิกเฉยแค่ไหน ก็หนีมันไม่พ้น

นอกเหนือจากการสู้รบของไทยและกัมพูชาที่เกิดขึ้น ข่าวคราวความไม่สงบในประเทศเพื่อนบ้านอีกฟากฝั่งอย่างเมียนมา ก็ยังคงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นคู่ขนานกัน และนานวันเข้าดูเหมือนจะยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกับที่เรามักจะเห็นชาวเมียนมาอพยพย้ายถิ่นฐานเข้ามาหลบลี้อาศัยในประเทศไทยมากขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา If only it is seen, thus, from afar คือนิทรรศการกลุ่มที่ศิลปินเมียนมากว่า 8 ชีวิต ร่วมเล่าเรื่องราวของการที่พวกเขาจำเป็นต้องพลัดถิ่นฐาน และบางครั้งระหว่างทางนั้นก็ทำเอาตัวตนของพวกเขาหล่นหาย 

If only it is seen, thus, from afar
หากเพียงมองเห็น แม้จากที่ไกล... นิทรรศการที่ว่าด้วยการเกิดดับและตื่นรู้ 
กับการมีอยู่ในฐานะมนุษย์ของ 8 ศิลปินเควียร์เมียนมาพลัดถิ่น

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Films

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MIRROR TEAM

RELATED

HOT TOPICS