Black Mirror ซีรีส์แนวดิสโทเปียสุดดาร์กที่นอกจากจะเก่งเรื่องเสียดสีและตีแผ่ด้านมืดของเทคโนโลยีซึ่งย้อนกลับมาทำลายมนุษย์ ในซีซั่นล่าสุดนี้ ไม่ใช่แค่พิษภัยจากเทคโนโลยีเท่านั้นที่น่ากลัว แต่ผลร้ายจาก ‘ความเป็นชาย’ (Toxic Masculinity) ยังสามารถสร้างหายนะให้กับมนุษย์ได้ไม่ต่างกัน


Black Mirror : Beyond the Sea ซีรีส์ที่สะท้อนว่าอีโก้ของ ‘ความเป็นชาย’ สร้างหายนะได้พอๆ กับเทคโนโลยี

*มีการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญของซีรีส์ Black Mirror EP.3 : Beyond the Sea&nbsp;Black Mirror ซีรีส์แนวดิสโทเปียสุดดาร์กที่นอกจากจะเก่งเรื่องเสียดสี ประชดประชันตี และตีแผ่ด้านมืดของเทคโนโลยีซึ่งย้อนกลับมาทำลายมนุษย์อย่างไม่หยุดหย่อนแล้ว ในซีซั่นล่าสุดนี้ ไม่ใช่แค่พิษภัยจากเทคโนโลยีเท่านั้นที่น่ากลัว แต่ผลร้ายจาก ‘ความเป็นชาย’ (Toxic Masculinity) ยังสามารถสร้างหายนะให้กับมนุษย์ได้ไม่ต่างกันBeyond the Sea คือตอนหนึ่งในซีรีส์ Black Mirror ที่นำเสนอโลกในเวอร์ชั่นต่างออกไปว่าจะเป็นอย่างไรหากเมื่อปี 1969 โลกเรามีวิทยาการที่ทำให้มนุษย์อวกาศขึ้นไปปฏิบัติภารกิจอยู่ตรงไหนสักแห่งนอกโลก แล้วยังสามารถ ‘อยู่’ บนพื้นโลกข้างล่างนี้ได้เหมือนกับคนปกติทั่วไป ยังใช้ชีวิตกับครอบครัวได้ เดินเหินไปไหนมาไหนได้ ในรูปแบบของหุ่นยนตร์จำลองที่สร้างให้เหมือนร่างก๊อปปี้ของตัวเองเป๊ะๆ โดยที่สมอง และจิตใจก็ยังเป็นของตัวเองอยู่ด้วยการเชื่อมต่อกับอะไรบางอย่างที่เรียกว่าลิ้งค์&nbsp;แต่ว่าเรื่องมันไม่ได้ง่ายอย่างนั้น เพราะถึงเทคโนโลยีจะล้ำหน้ากว่ายุคสมัยไปไกลเเค่ไหน จิตของมนุษย์ก็ยังคงเป็นเรื่องซับซ้อนและไม่อาจควบคุมได้ แล้วการเล่นกับข้างในอันซับซ้อนของมนุษย์ที่เกินกว่าอำนาจของเครื่องจักรกลใดๆ จะควบคุมได้นี้เองก็ทำให้เกิดความเสียหายใหญ่หลวงตามมาเดวิด และ คลิฟฟ์ เป็นนักบินอวกาศ 2 คนผู้กำลังทำภารกิจเหงาๆ สักแห่งในห้วงอวกาศที่ว่านั้น พร้อมกับหุ่นยนตร์จำลองของพวกเขาก็กำลังใช้ชีวิตอยู่บนโลกข้างล่าง ทุกอย่างดำเนินไปอย่างปกติสุข จนกระทั่งวันหนึ่งแก๊งลัทธิประหลาด (ที่เหมือนถอดแบบมาจากชาร์ลส์ แมนสัน (Charles Manson) ฆาตรกรผู้โด่งดังในยุค 1960s) ได้บุกเข้าไปฆ่าครอบครัวของเดวิดอย่างโหดเหี้ยมถึงในบ้าน และทำลายร่างก๊อปปี้ของเขาจนไม่เหลือชิ้นดี เพราะเชื่อว่าการมีหุ่นยนตร์กินอยู่หลับนอน เดินไปเดินมาหน้าตาเฉยเหมือนมนุษย์ปกติบนโลกนั้นเป็นเรื่องผิดธรรมชาติ สมควรต้องถูกกำจัดทิ้ง&nbsp;โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับครอบครัว ทำให้เดวิดเหลือเพียงแค่ร่างจริงของตัวเองติดแหง็กอยู่กับความเศร้าโศกเพียงลำพัง ในอวกาศอันไกลโพ้น ไม่สามารถกลับมาที่โลกโดยใช้ร่างจำลองได้อีก ความเสียใจเริ่มกัดกินเขาหนักขึ้น จนเพื่อนร่วมชะตากรรมอย่างคลิฟฟ์ตัดสินใจหยิบยื่นข้อเสนอให้เดวิด ‘ยืม’ ร่างจำลองของตัวเองชั่วคราวเพื่อลงมาพักที่บ้านของเขา เผื่อว่ามันจะช่วยเยียวยาเดวิดจากความทุกข์ได้บ้างเเค่ได้สัมผัสการมีชีวิตอยู่อีกครั้ง เดวิดก็เริ่มหลงรักบรรยากาศแถบชนบทที่บ้านของคลิฟฟ์ และการวาดรูปบรรยากาศนั้นก็ช่วยเยียวยาเขาได้มาก แต่ก็แลกกับการที่เขาต้องกลับมาในร่างคลิฟฟ์อีกหลายครั้งเพื่อวาดรูปให้เสร็จ ทั้งคลิฟฟ์ และลาน่า-ภรรยาของเขาก็เลยต้องเลยตามเลย แม้จะไม่เต็มใจนัก&nbsp;เมื่อร่างของคลิฟฟ์ถูกแทนที่ด้วยชีวิตจิตใจของเดวิด ชายหนุ่มผู้มีชีวิตชีวา เอ็นจอยกับความงามในชีวิต มีความโรแมนติกที่ทั้งเปราะบางและอ่อนไหวในเวลาเดียวกัน&nbsp;เสี้ยววินาทีหนึ่งลาน่า รู้สึกเหมือนกับเธอได้สามีตัวเองคืนมาอีกครั้ง เพราะตลอดเวลาที่ร่างจำลองของคลิฟฟ์ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันบนโลก เธอกลับรู้สึกโดดเดี่ยวเหมือนอยู่ลำพังไปวันๆ ชีวิตชนบทห่างไกลจากชีวิตเดิมที่เธอเคยรู้จัก บวกกับชีวิตคู่ที่แสนจะแห้งแล้ง เดวิดในร่างของคลิฟฟ์ที่มีความรู้สึกเหมือน ‘มนุษย์’ มากกว่าคลิฟฟ์ตัวจริงที่ทั้งแข็งทื่อ และไร้ความละเอียดอ่อนจนไม่สามารถสัมผัสความรู้สึกเปลี่ยวเหงาในใจเธอ ทำให้ทั้งคู่รู้สึกดีต่อกัน เดวิดเองก็มองเห็นจุดอ่อนข้อนี้ เขาลุกล้ำข้ามเส้นของความเป็น ‘แขก’ ในบ้านคนอื่นด้วยการฉวยโอกาสกับลาน่าที่กำลังอ่อนไหว โดยไม่ได้ขอ Consent จากเธอ แล้วทุกอย่างก็พังลงเมื่อคลิฟฟ์พบว่าเดวิดคิดไม่ซื่อกับภรรยาของเขาด้วยการจินตนาการถึงเธอในแบบโป๊เปลือย เขายื่นคำขาดห้ามเดวิดยืมร่าง สวมรอยใช้ชีวิตเขา อยู่กับภรรยาเขา ในบ้านของเขาอีกต่อไป&nbsp;ถึงแม้ว่าหนังจะเผยให้เห็นความดำมืดในจิตใจมนุษย์อย่างเดวิด ที่พยายามใช้ช่องว่างของเทคโนโลยีทำลายความสัมพันธ์ในครอบครัวคลิฟฟ์ อีกทั้งยังใช้ Toxic Masculinity เพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ต้องการ แต่ทว่าแท้จริงแล้ว Toxic Masculinity ที่น่ากลัวกว่านั้นอาจอยู่ในตัวคลิฟฟ์มาตั้งแต่ต้น ตั้งแต่วิธีที่เขาปกครองครอบครัวอย่างเคร่งครัด เป็นระเบียบแต่ก็ห่างเหินไร้หัวใจ เขาพาครอบครัวย้ายมาอยู่ในชนบทเพราะเชื่อว่าคือสิ่งที่ดีที่สุดที่เขา ‘เลือกให้’ โดยไม่สนใจว่าภรรยาอย่างลาน่าจะว้าเหว่และต้องต่อสู้กับมันมากแค่ไหน หรือแม้แต่ตอนที่ลูกชายของเขาเองถูกคนแปลกหน้าอย่างเดวิดใช้ความรุนแรงโดยพลการ เขาก็ยังเพิกเฉย ไม่ปกป้องครอบครัวอย่างที่ควรจะทำ แถมเห็นดีเห็นงามต่อความรุนแรงนั้นอีกด้วยกระทั่งวันหนึ่งตัวแปรอย่างเดวิดเข้ามาตอกย้ำความจริงเหล่านี้กับคลิฟฟ์ว่า “เมียนายเป็นผู้หญิงที่เหงามาก เธอตัวคนเดียว ไม่มีความสุข ไม่เคยถูกสัมผัส นายมีทุกอย่าง แต่ไม่เคยเห็นคุณค่า ไม่รู้เลยว่าตัวเองมีอะไร” อีโก้ใน ‘ความเป็นชาย’ ของคลิฟฟ์ กลับสูงท่วมท้นเกินกว่าที่เขาจะยอมรับมัน แล้วเขาก็ใช้ Toxic Masculinity ในการสู้กลับอีกที อาจไม่ใช่เพราะต้องการปกป้องครอบครัวจากการถูกคุกคาม หากแต่กำลังปกป้อง ‘ศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย’ ของตัวเองที่กำลังถูกชายอื่นหยามเหยียด นั่นทำให้คลิฟฟ์กลายเป็น ‘หุ่นยนตร์’ โดยสมบูรณ์ตั้งแต่แรก ทั้งในความหมายของร่างกายและจิดใจ&nbsp;ซีนสุดท้ายของ Beyond the Sea ไม่เพียงปล่อยเราไว้กับความรู้สึกเคว้งคว้าง ยังทำให้เราเริ่มเข้าใจว่าแท้จริงแล้วอำนาจของเทคโนโลยีหรืออีโก้หนาทึบของความเป็นชายที่ทำให้ครอบครัวนี้ต้องพังทลาย &nbsp;

ใครที่ได้ฟัง Alligator Bites Never Heal มิกซ์เทปลำดับที่สามของ Doechii ที่เพิ่งปล่อยออกมาเมื่อเดือนสิงหาคมปี 2024 ที่ผ่านมา น่าจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่เปลี่ยนไปจากเพลงของเธอเมื่อสองสามปีก่อนหน้านี้ซึ่งฮิตติดเทรนด์และกลายเป็นไวรัลในติ๊กต่อก

Doechii กับการมูฟออนจากสูตรสำเร็จเพลงไวรัลไปสู่มิกซ์เทปที่จริงใจ จนได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Grammy ถึง 3 สาขา

หนัง Erotic Thriller ในยุคเฟื่องฟูมักจะเป็นหนังที่ถูกเล่าโดยผู้กำกับชายเสียส่วนใหญ่ แต่สำหรับ Halina Reijn ผู้กำกับ-เขียนบทหนังเรื่อง Babygirl ที่หลงใหลเสน่ห์บางอย่างในหนัง Genre นี้ ต้องการหยิบด้านมืดและดิบเถื่อนของผู้หญิงมาพูดอย่างไม่อ้อมค้อม ด้วยความคิดที่ว่า ไม่น่าจะมีใครเข้าใจความอัดอั้นรุนแรงนั้นในตัวของผู้หญิง มากไปกว่าผู้หญิงด้วยกันอีกแล้ว

Babygirl หนังที่สะท้อนอำนาจอันลื่นไหลในความสัมพันธ์ เมื่อบางครั้งผู้หญิงไม่ได้อยากเป็นผู้นำ และอยากเป็นแค่ผู้ตาม

REBEL HEART จากมินิอัลบั้มชุดที่ 3 ของสาวๆ ‘IVE’ บทเพลงที่ปลุกความเข้มแข็งในใจทุกคน ให้กล้าจะถูกเกลียดจากคนที่เขาไม่รักเรา พร้อมๆ กับยังมองเห็นความรักที่คนที่รักเรามอบให้

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Films

Black Mirror : Beyond the Sea ซีรีส์ที่สะท้อนว่าอีโก้ของ ‘ความเป็นชาย’ สร้างหายนะได้พอๆ กับเทคโนโลยี

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

NUT LELAPUTRA

RELATED

HOT TOPICS