Love & Death ลิมิเต็ดซีรีส์แนว True-crime สร้างจากเหตุการณ์จริงของ แคนดี้ มอนต์โกเมอรี่ (Candy Montgomery) แม่บ้านธรรมดาๆ คนหนึ่งในเมืองไวลีย์ รัฐเทกซัส ช่วงปลายปี 1970 ผู้ลงมือสับภรรยาของชู้ตัวเองกว่า 41 ครั้งด้วยขวาน

Love & Death โศกนาฏกรรมของแม่บ้านคบชู้ ที่ทั้งท้าทายศีลธรรมและตั้งคำถามถึงบทบาทของผู้หญิง

*มีการเปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของซีรีส์นี่อาจเป็นได้ทั้งคำสารภาพและจุดเริ่มต้นทั้งหมดของโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นใน Love &amp; Death ลิมิเต็ดซีรีส์แนว True-crime สร้างจากเหตุการณ์จริงของ แคนดี้ มอนต์โกเมอรี่ (Candy Montgomery) แม่บ้านธรรมดาๆ คนหนึ่งในเมืองไวลีย์ รัฐเทกซัส ช่วงปลายปี 1970 ผู้ลงมือสับภรรยาของชู้ตัวเองกว่า 41 ครั้งด้วยขวาน จนนำมาสู่คดีสะเทือนขวัญที่ไม่เพียงท้าทายกระบวนการยุติธรรมที่สุดคดีหนึ่งในประวัติศาสตร์ แต่ยังเหมือนกับการเย้ยหยันอุดมคติแบบ American Dream ไม่น้อยอีกด้วย&nbsp;เพราะหากดูจากภายนอก แคนดี้ มอนต์โกเมอรี่ ก็คือภาพสะท้อนของชีวิตแบบ American Dream ดีๆ นี่เอง ทั้งครอบครัวที่เพียบพร้อม การทำหน้าที่ชาวคริสต์ที่ดี และสถานะทางสังคมที่เพอร์เฟกต์ ดูเหมือนเป็นชีวิตน่าอิจฉาจนไม่เห็นว่าจะไม่น่าพอใจตรงไหน แต่ก็เหมือนกับอีกหลายๆ คู่ที่ชีวิตแต่งงานเริ่มเดินมาถึงทางตัน จนถึงจุดที่เธอต้องเลือกระหว่างการอดทนต่อไป หรือจะมอบ ‘ทางเลือก’ อื่นๆ ให้กับตัวเอง แล้ว Love Affair ระหว่างเธอกับสามีของเพื่อนก็เกิดขึ้นจากความ ‘ไม่อยากทน’ นี้เอง เธอเปิดใจกับเพื่อนสนิทซึ่งก็เพิ่งหย่าร้างกับสามีว่า เธอได้ทำทุกอย่างที่ภรรยาควรทำแล้ว ไหนจะบ้าน ลูกๆ อาหาร แต่ไหนล่ะผลตอบแทน… เพราะความสมบูรณ์แบบที่ใครๆ เห็นทั้งหมดนั้นไม่สามารถถมรูโหว่บางช่องในหัวใจได้“พวกผู้ชายน่ะได้ไปทำงาน ได้ใช้ชีวิตอยู่กับงาน ส่วนพวกเราต้องอยู่กับบ้าน นั่นควรจะเพียงพอใช่ไหม ดูลูกๆ ของพวกเราปีนป่ายนั่นสิ พวกเขากล้าเสี่ยงเพื่อไขว่คว้าความตื่นเต้นเพียงน้อยนิด ถึงรู้ว่าเสี่ยงที่จะตกลงมา แต่สีหน้าพวกเขาดูมีชีวิตชีวากว่าพวกเราเสียอีก” แคนดี้ มอนต์โกเมอรี่ บอกกับเพื่อนของเธอ ก่อนเริ่มต้นความสัมพันธ์ลับๆ ที่เต็มไปด้วยความเสี่ยง&nbsp;เราไม่ได้บอกว่าการเลือกของ แคนดี้ มอนต์โกเมอรี่ เป็นเรื่องถูกต้อง แต่เป็นความจริงว่าถ้าหากเทียบกับผู้หญิงในยุคเดียวกันที่อาจเลือกทนอยู่กับชีวิตคู่ที่ไม่มีความสุข มากกว่าเลือกจะตอบสนองความต้องการของตัวเอง แถมยังกล้าที่จะเป็นฝ่ายรุกเข้าหาผู้ชายก่อน ก็นับว่าเธอเป็นผู้หญิงหัวก้าวหน้าคนหนึ่ง&nbsp;เธอเลือกเรียนรู้สิ่งที่ตัวเองสนใจ เลือกทำงานอดิเรกที่ชอบ เลือกจะพาตัวเองออกจากกรอบของความเป็น ‘แม่บ้าน’ อยู่ตลอดเวลา ต่างจากตัว เบ็ตตี้ กอร์ (Betty Gore) ภรรยาของ อัลลัน กอร์ (Allan Gore) ชายที่เธอเป็นชู้ด้วย ซึ่งเป็นแม่บ้านที่มีความคอนเซอร์เวทีฟกว่ามาก ทั้งวิธีที่เธอปฏิบัติต่อสามี วิธีที่เธอเลี้ยงลูก รวมถึงบทบาทหน้าที่ของการเป็นผู้หญิงที่ทำตาม และยอมจำนนอยู่ในกรอบเกณฑ์ของสังคมมากกว่า แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าชีวิตคู่มีปัญหาเรื้อรัง ก็ยังพยายามรักษาภาพความเป็นครอบครัวที่ดีแบบอเมริกันชนต่อไป&nbsp;เช่นเดียวกับสามีของเธอที่รู้ว่าไม่สามารถเข้ากันได้เลยกับภรรยา เพียงแต่เขาพยายามยึดตามครรลองบางอย่าง เพราะไม่อยากเกลียดตัวเองที่ไม่ซื่อสัตย์กับครอบครัว แต่สุดท้ายแล้วก็ทำไม่ได้ สำหรับผู้ชายอย่าง อัลลัน กอร์ จึงไม่อาจเรียกได้เต็มปากว่าเขาเป็นคนดีหรือเลว เขาอาจเป็นมนุษย์เทาๆ คนหนึ่งที่มีความสำนึกชั่วดีมากพอๆ กับความอยากสนองความต้องการของตัวเองเท่านั้น&nbsp;เมื่อความสัมพันธ์ที่ตั้งใจแค่ว่าอยากเติมเต็มความเปลี่ยวเหงาของกันและกันโดยไม่ผูกมัด และไม่ทำให้ใครเดือดร้อน กลายมาเป็นโศกนาฏกรรมที่เกิดการสูญเสีย ดอน ครอว์เดอร์ (Don Crowder) ทนายความฝ่ายจำเลยของ แคนดี้ มอนต์โกเมอรี่ ได้ขอร้องให้สามีของเธอขึ้นให้การต่อศาลว่า เขา ‘ให้อภัย’ ต่อการคบชู้ของเธอ ด้วยเหตุผลว่า “ที่นี่เทกซัส ผู้คนอาจให้อภัยการฆาตกรรมได้ แต่ผิดประเวณีไม่ได้”&nbsp;นั่นยิ่งเป็นการตอกย้ำว่า คนอเมริกันโดยเฉพาะแถบชานเมืองเล็กๆ ในช่วงปี 1970s ยึดมั่นในหลักปฏิบัติของคริสตจักรเมธอดิสต์ข้อหนึ่งที่ว่าด้วยการห้ามผิดประเวณีมากแค่ไหน เพราะไม่ใช่แค่ แคนดี้ มอนต์โกเมอรี่ จะถูกสังคมพิพากษา แต่โบสถ์ซึ่งเป็นที่พึ่งทางศรัทธาของผู้คนก็จะถูกพิพากษาไปด้วย ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ชุมชนชาวคริสต์ยอมให้เกิดขึ้นไม่ได้แม้ในวันที่เผชิญหน้ากับกระบวนการในชั้นศาล แคนดี้ มอนต์โกเมอรี่ ที่ซ่อนความแตกสลายอยู่ข้างใน ก็ยังไม่สามารถทำตัวให้แข็งแกร่งเกินไปได้ เพราะความแข็งแกร่งของเธออาจถูกมองว่าเย็นชา ไร้หัวจิตหัวใจ ตรงข้ามกับการสร้างภาพลักษณ์ให้ตัวเองดูเป็นแม่บ้านขี้อาย แต่งตัวเชยๆ และมีอารมณ์อ่อนไหวเปราะบางที่น่าเห็นใจมากกว่า เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ยิ่งสะท้อนภาพลักษณ์และบทบาทอันจำกัดของผู้หญิงในเวลานั้นที่สุดแล้วคดีอื้อฉาวของ แคนดี้ มอนต์โกเมอรี่ จะถูกตัดสินอย่างไรคงไม่สำคัญ เพราะเธอไม่สามารถกลับมาเป็น ‘ผู้บริสุทธิ์’ ได้อีกแล้วในสายตาของสังคม แต่มันก็ได้ทิ้งคำถามให้กับคนดูอย่างเราเหมือนกันว่าเพราะอะไรกันแน่ การพลั้งมือทำคนตาย การคบชู้ หรือเพียงเพราะทางเลือกที่เธอเลือกให้กับตัวเอง&nbsp;สามารถรับชมลิมิเต็ดซีรีส์ Love &amp; Death ได้ทาง HBO&nbsp;

เมื่อ ‘Rachel Zegler’ นักแสดงผู้รับบท ‘สโนว์ไวท์’ โดนกล่าวโทษว่า ‘ขนที่หลัง’ ของเธอ ทำให้ภาพยนตร์ Snow White ไม่ประสบความสำเร็จ เหตุการณ์นี้เป็นอีกหลักฐานประจักษ์ชัดที่สะท้อนให้เห็นว่า Beauty Standard ยังคงทำร้ายผู้หญิง

ขนที่หลังของ Rachel Zegler
ทำให้ดิสนีย์ต้องสูญเงิน 300 ล้าน?? อีกครั้งที่ Beauty Standard ยังคงถูกนำมาใช้ลดทอนคุณค่าของผู้หญิงที่สังคมไม่รัก

ชวนมองประเด็นครอบครัวและความรัก ผ่านปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างแม่สามีกับลูกสะใภ้ ในซีรีส์เรื่อง ‘When Life Gives You Tangerines’

“ฉันคือนายใหญ่ของบ้านเรา
แต่สำหรับบ้านนั้น ฉันคือชั้นผู้น้อย” ภาพสะท้อนชีวิตจริงของลูกสะใภ้ เมื่อ (ว่าที่ )สามียังเป็นลูกแหง่ไม่กล้าขัดใจแม่ จากซีรีส์ When Life Gives You Tangerines

อีกหนึ่งสเตทเมนต์ที่ช่วยยืนยันการเติบโตทางความคิดของ Danielle, Este และ Alana วง HAIM ทรีโอสาว 3 พี่น้องจากแคลิฟอร์เนียตอนใต้ ที่กลับมาเขย่ามุมมองเรื่องความสัมพันธ์ของเราด้วย ‘Relationship’ ซิงเกิลล่าสุดในอัลบั้มใหม่ของพวกเธอที่เพิ่งปล่อยมาให้ฟังกันเมื่อเร็วๆ นี้

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Films

Love & Death โศกนาฏกรรมของแม่บ้านคบชู้ ที่ทั้งท้าทายศีลธรรมและตั้งคำถามถึงบทบาทของผู้หญิง

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

NUT LELAPUTRA

RELATED

HOT TOPICS