She-Hulk คอย ‘Reflect’ สะท้อนความจริงที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงในสังคม

Marvel Studios’ She-Hulk: Attorney at Law ซีรีส์พลังหญิงที่ “สะท้อนความจริง” ที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงในสังคม  รวมถึง ‘เรื่องชวนโมโห’ ในชีวิตผู้หญิง และการไม่ยอมละทิ้งอาชีพเพื่อเป็นฮีโร่

ถ้าเจนนิเฟอร์ วอลเตอร์ส หรือ She-Hulk อยู่ไทย เราจะรีบขอคิวสัมภาษณ์เธอ – นี่คือความคิดตลกๆ ที่แล่นเข้ามาในหัวเป็นอย่างแรกหลังได้ดู ซีรีส์ Marvel Studios’ She-Hulk: Attorney at Law และเจนนิเฟอร์ วอลเตอร์ส ได้กลายเป็นอีกหนึ่งฮีโร่หญิงคนโปรดของเราเป็นที่เรียบร้อย&nbsp;.แม้ Marvel Studios’ She-Hulk: Attorney at Law จะถูกเล่าด้วยน้ำเสียงสนุกสนาน ยิงมุกตลกให้คนดูยิ้มได้ตลอด แต่จุดเด่น และเสน่ห์ที่ผู้กำกับ และ Marvel Studio ตั้งใจใส่ลงไป คือการแทรกประเด็นความเป็นหญิงในแง่มุมต่างๆ ซึ่งไม่ต่างจากที่เราคอยนำเสนอให้ผู้อ่านมาโดยตลอด.Marvel Studios’ She-Hulk: Attorney at Law เป็นเรื่องราวของ เจนนิเฟอร์ วอลเตอร์ส รับบทโดย ทาเทียน่า มาสลานี (Tatiana Maslany) ทนายความสาวโสดวัย 30 กว่า ที่ได้กลายร่างเป็น ชี-ฮัลค์ (She-Hulk) หลังประสบอุบัติเหตุจนได้รับเลือดของญาติยักษ์เขียว บรูซ แบนเนอร์ หรือ ฮัลค์ รับบทโดย มาร์ก รัฟฟาโล (Marc Ruffalo) โดยบังเอิญ นั่นทำให้เธอต้องเรียนรู้พลังฮีโร่ที่ได้มา ขณะเดียวกันก็ไม่อยากเสียหน้าที่การงานที่รักไปเหมือนที่ฮีโร่หลายคนยอมสละ เธอจึงกลายมาเป็นทนายที่เชี่ยวชาญคดีความของเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ ที่เป็นจุดตรงกลางระหว่างการเป็นฮีโร่ และทนายความ.(มีเปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของซีรีส์) <img src="https://media.thairath.co.th/image/taVMzr4lrPMnmaF9HQqKgFHUu1My5c2Lt4QFmx0Ga0oe9vA1.jpg" data-id="100593" data-url="https://media.thairath.co.th/image/taVMzr4lrPMnmaF9HQqKgFHUu1My5c2Lt4QFmx0Ga0oe9vA1.jpg" style="width: 375px;" class="fr-fic fr-dib"> “คืองี้บรูซ ฉันควบคุมอารมณ์โกรธเก่งอยู่แล้ว ฉันต้องคุมตลอด อย่างโดนจิ๊กโก๋แซว ตอนมีผู้ชายห่วยๆ มาสั่งสอนงานที่ฉันถนัด ฉันต้องควบคุมอารมณ์ทุกวัน เพราะถ้าไม่ทำ จะโดนตราหน้าว่าใช้อารมณ์ คุยด้วยยาก ดีไม่ดีอาจโดนฆ่าเลยก็ได้” หนึ่งในประเด็นสำคัญของฮัลค์คงหนีไม่พ้นการควบคุมอารมณ์ให้อยู่ และสิ่งที่ซีรีส์บอกกับเราก็คือ มีสิ่งหนึ่งที่ส่งผลกระทบกับอารมณ์ผู้หญิงได้ในระดับชีวิตประจำวัน.เรื่อง sexual harassment เป็นหนึ่งประเด็นที่ซีรีส์เลือกจะใส่ลงไปตั้งแต่ EP.1 และเล่าอย่างเข้าใจง่าย อย่างการที่บางคนอาจคิดว่าการถูกแซว หรือ cat calling เป็นเรื่องขำๆ และไม่ควรถูกมองว่าเป็นการล่วงละเมิดทางเพศ แต่จริงๆ จะไม่รวมได้อย่างไร เมื่อคำพูดเหล่านั้นส่อถึงเจตนาทางเพศ และสามารถสร้างความหวาดกลัวหรือความไม่สบายใจให้กับคนที่โดนได้ เหมือนกับครั้งแรกที่เจนนิเฟอร์ วอลเตอร์ส เพิ่งฟื้นจากการแปลงร่างเป็นชี-ฮัลค์ ตอนที่เธอไปบาร์แห่งหนึ่งก็ถูกแก๊งหนุ่มๆ หลายคน เข้ามาทักทาย “ไงคนสวย” เธอตัดสินใจเลี่ยงจะพูดคุยด้วยการแกล้งเอ่ยปากว่า “เหมือนแฟนมารับแล้ว” พร้อมเดินหนี แต่ก็ยังถูกพวกผู้ชายซัดกลับว่า “ทำไม สูงส่งนักรึไง” และนั่นแหละ ทำให้เธอที่ยังควบคุมพลังไม่ได้ ฟิวส์ขาดทันที.ฉากสั้นๆ นี้ โดนเส้นเราเต็มๆ มันทำให้นึกถึงเหตุการณ์ที่ผู้หญิงไทย หรือต่างชาติ ยังคงโดนแซวแบบนี้กันบ่อยจนเป็นปกติ แต่จริงๆ มันไม่ปกติ หลายคนยังคงต้องหลบหลีกเวลาเดินผ่านกลุ่มผู้ชายเยอะๆ เหมือนที่เวลาผู้หญิงไทยขึ้นแท็กซี่ หรือเดินซอยเปลี่ยวแล้วต้องคอยแกล้งโทรหาแฟน (บางคนอาจจะไม่ได้มีแฟนจริงๆ ด้วยซ้ำ) เพื่อป้องกันตัวเองเนื่องจากกลัวจะเป็นอันตราย หนำซ้ำ หลายคนก็ไม่เคยเข้าใจเรื่อง consent เมื่อนางเอกจะปฏิเสธกลับถูกมองว่าเล่นตัว เช่นเดียวกับที่เคยเห็นในข่าวที่ผู้ชายจีบแล้วผู้หญิงไม่เล่นด้วยก็รู้สึกเสียหน้าและเริ่มกระทำความรุนแรง – และแน่นอน ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีพลังอย่าง She-Hulk.ในทางกลับกัน หากเพศสภาพหญิงโมโหเวลาถูกเพศสภาพชายทำไม่ดีใส่ พวกเธอก็จะถูกมองว่า ‘เจ้าอารมณ์ ขี้ดราม่า’ ไปเสียอย่างนั้น อย่างที่ตัวละครบรูซบอกกับเจนนิเฟอร์ วอลเตอร์สว่าต้องมั่นใจว่าเธอมีทักษะแบกรับความเครียด จัดระเบียบอารมณ์ โดยเฉพาะความโกรธได้ จึงจะปล่อยให้กลับไปใช้ชีวิตได้ จนเธอต้องตอบกลับเขาด้วยโควตที่เรายกมาด้านบนนั่นแหละ และสิ่งที่ซีรีส์ชวนให้เราตั้งคำถามกันต่อก็คือ ไม่ว่าคนผิดคือคนที่โมโหหรือคนที่ละเมิดสิทธิคนอื่น แต่คนโมโหต้องเป็นฝ่ายจัดการกับตัวเองอยู่ดี ซึ่งนี่ก็เสียดสีสังคมไม่น้อยเลย.She-Hulk คอย ‘Embrace’ โอบกอดมนุษย์ทุกคน โดยไม่ผลักใครออก: สิ่งที่ประทับใจอีกอย่างในซีรีส์คือความ inclusive ของนิยามความเป็นหญิงที่รวมผู้หญิงหลากหลายแบบไว้ ยกตัวอย่างฉากที่เธอเพิ่งประสบอุบัติเหตุ รถหักเลี้ยว จนทำให้เธอได้เลือดของบรูซจนกลายเป็นชี-ฮัลค์ เธอตื่นมาด้วยสภาพมอมแมม เดินเข้าไปที่ร้าน ไอดีล สปอตบาร์ เพราะจะล้างไม้ล้างมือ และในห้องน้ำหญิง แก๊งสาวๆ ในห้องน้ำที่มีทั้งสาวผิวดำ สาวผิวขาว สาวผิวน้ำตาล และสาวข้ามเพศ เห็นเจนในสภาพเละเทะ ก็กรูเข้ามาถามอย่างเป็นห่วง.“เธอโดนอะไรมา” / “ใครทำเธออย่างนี้” / “เจ็บตรงไหนไหม” / “ไม่ด่วนสรุป แต่ใครทำเธอแบบนี้คือเขาไม่แคร์เธอ” / “ไปเลิกกับหมอนั่น หรือยัยนั่น เพศไหนก็ช่าง” / “ต้องใส่รองเท้า นี่ห้องน้ำผับฉันมีนี่ เอานี่ไป” ทำให้เราเห็นว่านอกจากจะมีคาแรกเตอร์ผู้หญิงที่มีความหลากหลายแล้ว ยังมีเรื่องของการที่พวกเธอไม่ตัดสินรสนิยมทางเพศของเจน รวมถึงยังคอยซัพพอร์ต และเป็นห่วงเจนแม้จะไม่รู้จักกันมาก่อน ถือว่าเป็นฉากเพื่อนหญิงพลังหญิงที่น่าประทับใจเลยทีเดียว.ขณะที่เรื่องการเรียกร้องเรื่องสิทธิสตรี ซีรีส์เรื่องนี้ก็ทำงานได้อย่างไม่เลว ทั้งการที่เจนตั้งคำถามว่าทีมอเวนเจอร์สมีประกันสุขภาพไหม มีสิทธิลาคลอด หรือบำนาญอะไรหรือเปล่า เพราะแม้จะเป็นฮีโร่ก็ควรได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานเช่นกัน แค่นั้นยังไม่พอ ยังเผยสภาพสังคมในตอนนี้ที่ ‘บางคน’ ยังคิดว่าการมีฮีโร่หญิงเยอะๆ ในจักรวาลมาร์เวลเป็นการยัดเยียด หรือคิดว่ามันมากเกินไป ด้วยการใส่ความคิดเห็นของชาวเน็ตในซีรีส์ที่พูดถึงการปรากฏตัวของชี-ฮัลค์ว่า “เอาความผู้ชายของฮัลค์ออกแล้วใส่ให้ผู้หญิงเนี่ยนะ” / “ไม่เข้าใจ ไหงเปลี่ยนซูเปอร์ฮีโร่เป็นหญิงหมด” / “ไม่ติดเรื่องฮีโร่หญิง แต่ซ้ำรอยทำไม”.ถ้าว่าตามตรง จริงๆ แล้วฮีโร่หญิงเพิ่งจะมาบูมช่วงที่กระแสความเท่าเทียมทางเพศเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่ปีมานี้ และก่อนหน้านี้ก็มีแต่ซีรีส์ หรือหนังเดี่ยวผู้ชายอยู่เต็มเมือง แถมตอนนี้มันก็ยังเยอะกว่าตัวละครผู้หญิงอยู่เหมือนเดิม ฉะนั้นหากจะบอกว่ายัดเยียด อาจต้องกลับไปคิดใหม่ว่าเป็นเพราะตัวเองไม่ถูกใจหรือลึกๆ มีอคติทางเพศเกี่ยวกับผู้หญิงอยู่หรือเปล่า?.She-Hulk คอย ‘Empower’ ส่งต่อพลังบวกให้ทุกคนเชื่อมั่นในคุณค่าภายในตัวเอง: ประเด็นสุดท้ายที่ขาดไม่ได้ เพราะแทบจะเป็นหัวใจหลักของซีรีส์เรื่องนี้ คือการที่เจนนิเฟอร์ วอลเตอร์ส เลือกที่จะยืนยันกับตัวเองว่า เธอจะไม่ยอมเสียอาชีพทนายไป แม้จะกลายเป็นซุปเปอร์ฮีโร่แล้วก็ตาม ถึงช่วงแรกบรูซพยายามเกลี่ยกล่อมเธอก็ตาม.เจนยอมบรูซแค่การเข้ารับการฝึกทั้งด้านควบคุมพลัง และสติ ที่สุดท้ายเธอควบคุมได้ดีทั้งสองทาง ซึ่งเหนือความคาดการณ์ของบรูซด้วยซ้ำ แม้บรูซยังดึงดันว่าเธอไม่สามารถทำงานทนายความได้ขณะที่เป็นฮีโร่ แต่เธอก็ยืนยันว่าทำได้ เพราะเธอไม่อยากอยู่ไกลครอบครัว ตัดขาดความสัมพันธ์ หรือทอดทิ้งชีวิตทั้งหมด เราจึงนับถือในตัวเจน ที่กล้าจะยืนหยัดในพลังของตัวเองมากถึงขนาดนี้ และแน่นอนเจนบาลานซ์ความฝันกับความเป็นจริงได้อย่างสุดปัง.ไม่แปลกที่เธอจะเรียกตัวเองว่าเจนนิเฟอร์ วอลเตอร์ส ตลอดทั้งเรื่อง แม้คนอื่นจะเรียกเธอว่า ชี-ฮัลค์เพราะเธอคือเธอ แม้ตัวเปลี่ยนไป แต่เธอยังอยากถูกจดจำเป็นคนเดิม และไม่อยากให้ใครลืมเธอในฐานะทนายความ.ทั้งหมดที่ว่ามา คงตอบได้ว่าทำไมเจนนิเฟอร์ วอลเตอร์ส ถึงทำให้เรารักได้ และเราก็เชื่อว่าหากทุกคนลองเปิดใจดูซีรีส์เรื่องนี้ ก็จะรักเจนเหมือนที่เรารักแน่นอน.สามารถติดตามดูซีรีส์ Marvel Studios’ She-Hulk: Attorney at Law ทั้งซับไทย และพากย์ไทย บน Disney+ Hotstar ที่ <a href="https://www.hotstar.com/th/tv/shehulk-attorney-at-law/1260103788" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.hotstar.com/th/tv/shehulk-attorney-at-law/1260103788&nbsp;</a>.

ชวนมองประเด็นครอบครัวและความรัก ผ่านปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างแม่สามีกับลูกสะใภ้ ในซีรีส์เรื่อง ‘When Life Gives You Tangerines’

“ฉันคือนายใหญ่ของบ้านเรา
แต่สำหรับบ้านนั้น ฉันคือชั้นผู้น้อย” ภาพสะท้อนชีวิตจริงของลูกสะใภ้ เมื่อ (ว่าที่ )สามียังเป็นลูกแหง่ไม่กล้าขัดใจแม่ จากซีรีส์ When Life Gives You Tangerines

อีกหนึ่งสเตทเมนต์ที่ช่วยยืนยันการเติบโตทางความคิดของ Danielle, Este และ Alana วง HAIM ทรีโอสาว 3 พี่น้องจากแคลิฟอร์เนียตอนใต้ ที่กลับมาเขย่ามุมมองเรื่องความสัมพันธ์ของเราด้วย ‘Relationship’ ซิงเกิลล่าสุดในอัลบั้มใหม่ของพวกเธอที่เพิ่งปล่อยมาให้ฟังกันเมื่อเร็วๆ นี้

Relationship เพลงจากสาวๆ วง HAIM ที่ตั้งคำถามถึงอาการติดแหง็กในความสัมพันธ์ของคนยุคนี้

A Bright Room ถ่ายทอดชีวิตของช่างภาพที่ใช้ร่วมกับครอบครัวที่ต่างจากความหมายหรือภาพของคำว่าครอบครัวในแบบเดิม นั่นคือความสัมพันธ์ของคนรักที่มีมากกว่า 2 คน

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Films

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

PATCHSITA PAIBULSIRI

RELATED

HOT TOPICS