Anya Taylor-Joy กับการต่อรองที่จะเล่นฉาก Female Rage ในทุกผลงานการแสดง เพื่อบอกว่าบางครั้งผู้หญิงก็ไม่ได้เศร้า แต่พวกเธอโกรธต่างหาก!
Anya Taylor-Joy กับการต่อรองที่จะเล่นฉาก Female Rage ในทุกผลงานการแสดง เพื่อบอกว่าบางครั้งผู้หญิงก็ไม่ได้เศร้า แต่พวกเธอโกรธต่างหาก!

Anya Taylor-Joy กับการต่อรองที่จะเล่นฉาก Female Rage ในทุกผลงานการแสดง เพื่อบอกว่าบางครั้งผู้หญิงก็ไม่ได้เศร้า แต่พวกเธอโกรธต่างหาก!

by MIRROR TEAM 29 May 2024

แชร์บทความนี้

เพื่อที่จะถ่ายทอดการแสดงออกมาให้ทั้งเจ้าตัวและผู้ชมอินที่สุด ทำถึงที่สุด และเข้าใจ ‘ความเป็นหญิง’ ให้ได้มากที่สุด นักแสดงสาวมากความสามารถ อันยา เทย์เลอร์-จอย (Anya Taylor-Joy) จึงทำการบ้านอย่างหนักสำหรับทุกๆ บทบาทที่เธอได้รับเล่นในภาพยนตร์เรื่องต่างๆ โดยเฉพาะการต่อรองกับผู้กำกับเพื่อฉาก ‘Female Rage’ หรือการสาดอารมณ์ความโกรธเกรี้ยวของผู้หญิง ไม่ว่าจะ Furiosa หนังแอ็กชันสุดมันที่เพิ่งฉายไปหมาดๆ The Queen’s Gambit ซีรีส์ดราม่าชีวิตของหญิงสาวในวงการหมากรุก ยังมี The Witch, The Menu และ The Northman ฯลฯ ที่อันยามักจะเพิ่มการใส่อารมณ์ที่ดุเดือด เข้มข้น รุนแรงในสถานการณ์ต่างๆ ลงไปในตัวละครหญิงที่เล่น 

จุดมุ่งหมายของเธอไม่ใช่การสนับสนุนความรุนแรง แต่อันยาเพียงต้องการสื่อสารให้คนได้รับรู้ว่า ผู้หญิงก็เป็นคนธรรมดาเหมือนเพศอื่นๆ ที่แสดงอารมณ์โกรธออกมาได้มากกว่าแค่ร้องไห้สวยๆ หรือถูกคาดหวังให้กดอารมณ์เอาไว้ อย่าแสดงออกมาให้เห็นอย่างประเจิดประเจ้อ เดี๋ยวจะดูไม่งาม

ในบทสัมภาษณ์ของนิตยสาร GQ อันยาอธิบายถึงการยืนหยัดที่จะใส่อารมณ์โกรธเกรี้ยวของผู้หญิงไว้ว่า “ฉันค่อยๆ เป็นที่รู้จักในฐานะคนที่ต่อสู้เพื่อ feminine rage มาบ้าง ก็แปลกๆ ดีค่ะ ซึ่งตัวฉันเองไม่ได้สนับสนุนความรุนแรงหรอกนะคะ ก็แค่สนับสนุนให้ผู้หญิงถูกมองเป็น ‘มนุษย์’ คนนึง พวกเรามีปฏิกิริยาโต้ตอบอื่นๆ ที่ไม่ได้มีแค่ท่าทางสวยสดงดงาม หรือเรียบร้อยเสมอไป”

มาพูดถึงเรื่องล่าสุดที่อันยาเล่นกันก่อนอย่าง Furiosa : A Mad Max Saga ที่ว่าด้วยเรื่องราวการเอาตัวรอด และการเติบโตของเด็กสาวที่ชื่อว่าฟูริโอซ่า ก่อนจะกลายเป็นนักรบหญิงสุดเก่งกาจ ซึ่งอันยาบอกว่าตัวละครนี้ได้ปลดล็อกบางอย่างในตัวเธอ และนั่นยังรวมถึงการอนุญาตให้ตัวเองได้รู้สึก และได้โกรธ เธอกล่าวกับ GQ ว่า “ลึกๆ แล้วฉันมักจะคิดว่า ‘ฉันทำอะไรผิดไปนะ คุณถึงปฏิบัติตัวต่อฉันไม่ดีแบบนั้น หรือนั่นเป็นเพราะฉันมันเป็นตัวปัญหา’ ซึ่งฉันรู้สึกขอบคุณฟูริโอซ่ามากๆ เพราะมันมีโมเมนต์หนึ่งที่ฉันเริ่มโกรธ จนสามีของฉันเขาก็แบบว่า ‘ผมไม่เคยเห็นคุณเป็นแบบนี้เลยนะเนี่ย’ ฉันก็แบบ ‘ฉันดีใจอะ! ฉันดีใจที่ฉันโกรธสักที!’ เพราะฉะนั้น ถ้ามีใครมาทำตัวไม่ดีกับฉันตอนนี้ ฉันจะ ‘เฮ้ fuck you!’ นั่นจะทำให้ฉันรู้สึกดีค่ะ” 

เชื่อว่าไม่ใช่แค่อันยาที่เคยรู้สึกว่าต้องเก็บอารมณ์ความรู้สึกเอาไว้ หรือพยายามไม่โกรธคนอื่น จนบางครั้งก็กลายเป็นโบยตีตัวเอง เพราะส่วนหนึ่งสังคมยังคาดหวังให้ผู้หญิงแสดงออกทางอารมณ์ให้น้อยที่สุด เดี๋ยวจะถูกมองว่าก้าวร้าว ซึ่งจริงๆ แล้ว ถ้าผู้ชายรู้สึกโกรธได้ ผู้หญิงก็ต้องรู้สึกโกรธได้ ไม่ต่างกันเลย อันยาค่อยๆ เรียนรู้เรื่องนี้ไปพร้อมๆ กับการแสดงในบทบาทต่างๆ ที่เธอได้รับ เริ่มจาก ภาพยนตร์ The Witch ซึ่งมีฉากที่เธอต้องร้องไห้ แต่น้ำตาก็ไม่ไหลสักที จน “ท้ายที่สุด ฉันก็พูดออกมาว่า ‘เธอโกรธ เธอโคตรโมโหเลย เธอถูกเบลมครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งที่เธอไม่ได้ทำอะไรเลย เราต้องหยุดให้เธอร้องไห้ได้แล้ว’” อันยาใส่อารมณ์โกรธลงไปในฉากนั้น และทำให้ภาพยนตร์สมบูรณ์แบบมากขึ้นได้จริงๆ 

หรือฉากหนึ่งในภาพยนตร์ The Menu ที่ตัวละครของอันยาพบว่าคู่เดตของเธอตั้งใจพาเธอไปตาย ซึ่งในบทคือเธอต้องร้องไห้ออกมาด้วยน้ำตาหยดเดียวที่ไหลลงมาที่แก้ม ซึ่งสถานการณ์แบบนั้นในชีวิตจริง อารมณ์ของผู้หญิงคงจะมีมากกว่านั้นเป็นแน่ อันยาจึงตัดสินใจบอกผู้กำกับและนักแสดงร่วมถึงความต้องการของเธอ เธอให้สัมภาษณ์ว่า “ฉันบอกไปว่า ‘ฉันขออธิบายให้ฟังสักหน่อย ฉันจะกระโดดข้ามโต๊ะ และพยายามฆ่าเขาด้วยมือเปล่าของฉันค่ะ” เช่นเดียวกับเรื่อง The Northman ที่อันยาตัดสินใจเพิ่มความโกรธเกรี้ยวเข้าไปในฉากที่ตัวละครของเธอกำลังถูกบังคับให้นอนกับผู้ชายโดยที่เธอไม่ยินยอมพร้อมใจ ซึ่งไอเดียของอันยาคือการเอาเลือดประจำเดือนของตัวละครมาป้ายที่มือและตบหน้าไปที่ผู้ชายคนนั้น ซึ่งถือเป็นการแสดงอันทรงพลังและน่าจดจำมากๆ ของเธอเลยก็ว่าได้

ขณะที่บทจะร้องไห้ เธอก็ร้องไห้ออกมาอย่างมีนัยสำคัญ ใน The Queen’s Gambit ซีรีส์ทาง Netflix ปี 2020 อันยาบอกว่า เธอรู้สึกเหมือนเป็นพี่สาวของตัวละคร เบธ ฮาร์มอน ที่เธอเล่น และเธอบอกว่าการร้องไห้ของเบธนั้นแตกต่างออกไป อันยากล่าวว่า “นั่นเป็นครั้งแรกที่ฉันร้องไห้ให้ตัวเองต่อหน้ากล้องเลยค่ะ หลังจากที่เบธทำให้โอกาสครั้งใหญ่ของตัวเองพังจนป่นปี้ เธอเมาค้าง และมันเป็นช่วงเวลาแห่งการทำลายชีวิตตัวเอง” ตัวละครนี้จึงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้อันยาเข้าใจอาการเกลียดตัวเอง (self-loathing) มากขึ้น

อันยาจึงถือเป็นนักแสดงหญิงที่ตั้งใจทำการบ้านกับทุกตัวละครที่เธอรับเล่น เธอมักจะพยายามทำความเข้าใจสิ่งที่ตัวละครคิดในแต่ละสถานการณ์ โดยยึดโยงจากสายตาของเธอที่บางครั้งก็อยู่นอกเหนือจากสายตาที่ผู้กำกับหรือคนเขียนบทมอง จนทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนไอเดีย และเกิดเป็นผลงานการแสดงที่น่าประทับใจหลายต่อหลายชิ้น นับว่าเป็นอีกหนึ่งกระบวนการการทำงานที่น่าสนใจมากทีเดียว

อ้างอิง:

แชร์บทความนี้

RELATED

HOT TOPICS

...

...