แม้แฟนคลับจำนวนมากจะร่วมยินดีกับชีวิตรักของไอดอล แต่สำหรับบางคนก็ยังรู้สึกเดือดร้อนกับชีวิตส่วนตัวของเขาอยู่ดี

ไอดอลมีแฟนผิดตรงไหน? จากกรณีคาริน่า aespa ออกมาขอโทษที่มีแฟน ขณะที่ เจนนี่ BLACKPINK ถูกตั้งคำถามว่าทำไมไม่ขอโทษบ้าง

แม้แฟนคลับจำนวนมากจะร่วมยินดีกับชีวิตรักของไอดอล แต่สำหรับบางคนก็ยังรู้สึกเดือดร้อนกับชีวิตส่วนตัวของเขาอยู่ดี และไม่ว่าจะเลือกขอโทษหรือไม่ขอโทษ ไอดอลทุกคนที่มีความรัก ก็ไม่ได้ทำอะไรผิด หรือควรต้องรู้สึกผิดที่กำลังเริ่มต้นความสัมพันธ์กับใครสักคน และแม้เหตุการณ์นี้จะกระทบกับสุขภาพจิตไอดอลเต็มๆ แถมยังมีตัวอย่างไอดอลที่ต้องทุกข์ทรมานกับเรื่องนี้อยู่หลายครั้ง แต่ดูเหมือนแฟนคลับเกาหลีใต้บางกลุ่มก็ไม่ได้เรียนรู้อะไรจากผลกระทบร้ายๆ นี้บางคนถูกกดดันจากการถูกด่าอย่างหนัก จนต้องตัดสินใจออกมาขอโทษแม้จะไม่ได้ผิดอะไรเลยก็ตาม หรือบางคนก็ตัดสินใจไม่อธิบายถึงความสัมพันธ์ของตัวเองตั้งแต่ต้น เพราะนั่นถือเป็นเรื่องส่วนตัว และถือเป็นสิทธิส่วนบุคคลที่เธอจะปกป้องความเป็นส่วนตัวของตัวเอง ซึ่งเรื่องนี้อธิบายได้ดีจากกรณีของ 2 ไอดอลหญิงจาก 2 วงเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังอย่าง คาริน่า aespa&nbsp;และ เจนนี่ BLACKPINK&nbsp;ที่สะท้อนให้เห็นการถูกกดดันอย่างยิ่งเพียงเพราะเธอมีความรัก&nbsp;คาริน่า aespa หรือ พี่น่าของแฟนๆ เธอเขียนจดหมายขอโทษด้วยลายมือตัวเองลงบนอินสตาแกรมส่วนตัว เนื่องจากเธอกำลังเดตอยู่กับนักแสดงหนุ่ม อีแจอุค ซึ่งได้สร้างความปวดใจให้กับแฟนคลับที่รักเธอจำนวนมาก เพราะแฟนคลับส่วนหนึ่งก็พร้อมที่จะเข้าใจ และยึดหลักความเป็นจริงที่ว่า เธอไม่ผิดที่จะมีความรัก และไม่อยากให้ออกมาขอโทษแบบนี้ เพราะเธอก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง ไม่ได้ทำอะไรผิด ทว่าเรื่องน่าเศร้าที่เกิดขึ้นนี้ ก็เกิดขึ้นเพราะมีแฟนคลับอีกจำนวนหนึ่ง ‘ผิดหวัง’ ที่เธอเดต ทั้งคนที่ถล่ม hate speech ผ่านคอมเมนต์บนอินสตาแกรมส่วนตัวของเธอ และหนักถึงขั้นที่มีแฟนคลับกลุ่มหนึ่งเช่ารถติดป้าย LED ที่มีข้อความตำหนิเธอ ขับวนอยู่บริเวณตึก SM Entertainment เพื่อให้เธอรู้สึกอับอาย และย่ำแย่ ทั้ง “เธอทำลายอาชีพของตัวเองแล้วแหละ” / “นี่เธอยังไม่พอใจกับความรักที่แฟนๆ มอบให้เธออีกเหรอ?” / “ทำไมถึงตัดสินใจจะทรยศแฟนๆ ล่ะ? ออกมาโทษซะ หรือเธออยากจะเห็นยอดขายอัลบั้มตก และที่นั่งแถวหน้าในคอนเสิร์ตของเธอมันว่างล่ะ? / “เธอควรจะรู้สึกเสียใจกับตัวเองมากกว่าที่แฟนๆ ของเธอเสียใจด้วยซ้ำนะ เธอทำงานหนักมา 7 ปี แต่เธอทำพลาดกับอาชีพของตัวเอง ความมุ่งมั่นของเธอทั้งหมด ตอนนี้มันถูกกังขาแล้วล่ะ เพราะข่าวลือเรื่องเดตของเธอเพียงครั้งเดียว พอใจยังล่ะ?&nbsp;วัฒนธรรมแฟนคลับที่มองตัวเองเป็น ‘เจ้าของ’ ไอดอล ทำให้ตัวเองคิดว่ามีสิทธิ์ในชีวิตของพวกเขานับเป็นความผิดเพี้ยนที่เกิดขึ้นในสังคมที่ส่งต่อกันมาตั้งไอดอลเจนฯ แรกๆ จนถึงตอนนี้มีถึง 5 เจนฯ แล้วก็ยังมีความเชื่อนี้อยู่ ซึ่งจริงๆ แล้วไม่มีใครสามารถเป็นเจ้าของชีวิตใคร ไม่เว้นแต่พ่อแม่ที่ไม่ได้เป็นเจ้าของชีวิตลูก หรือคนรักที่ไม่ได้เป็นเจ้าของชีวิตกันและกัน ยิ่งการที่ค่ายต้นสังกัดของคาริน่า ไม่ได้ออกมาปกป้องเธอจากการโดน hate speech แต่อย่างใด ก็ยิ่งทำให้หลายคนมองว่าเธอเป็น ‘คนผิด’ ที่ต้องยอมรับผลที่ตามมาจากการมีคนรักให้ได้ ขณะที่ต้นสังกัดของ อีแจอุค ประกาศเตรียมดำเนินการทางกฎหมายกับคนที่โพสต์ข้อความ hate speech และเผยแพร่เฟกนิวส์ต่างๆ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่ในครั้งนี้ ซึ่งทำให้เห็นว่า หากค่ายต้นสังกัดของคาริน่าออกมาช่วยปกป้องเธอ เธออาจจะไม่ต้องรู้สึกผิดจนต้องออกมาขอโทษแบบนี้เลยก็ได้&nbsp;เช่นเดียวกับกรณีของ เจนนี่ BLACKPINK ที่ถูกพูดถึงผ่านข่าวการขอโทษของคาริน่า ซึ่งเจนนี่ก็เป็นไอดอลหนึ่งคนที่มีข่าวเดต และทุกครั้งที่เธอมีข่าวเดต เธอก็มักจะถูกโจมตี และถูกด่าอยู่หลายครั้ง ซึ่งในหลายครั้งๆ ก็ใช้ข้อความเหยียดเพศ หรือหยิบยกเอาการที่เธอมีลุคสาวมั่นใจในตัวเอง กล้าแต่งตัว และกล้าแสดงออกของเธอมาตำหนิ และด้อยค่า โดยที่ก่อนหน้านี้ อดีตค่ายต้นสังกัดของเธออย่าง YG Entertainment ก็ไม่ได้มีมาตรการจัดการกับคอมเมนต์เชิงลบอย่างชัดเจนออกมา และทำให้แฟนคลับของเจนนี่เป็นห่วงความรู้สึกของเธออยู่หลายครั้งและจากเรื่องราวของคาริน่า ทำให้เจนนี่ถูกผู้สื่อข่าวเกาหลีใต้จาก Xports News เขียนบทความเปรียบเทียบถึงการเคลื่อนไหวหลังมีข่าวเดต โดยเนื้อความกล่าวถึงการเลือกขอโทษแฟนๆ ของคาริน่า ขณะเดียวกันเจนนี่เลือกตัดสินใจเงียบในสถานการณ์เดียวกัน เช่น “หนึ่งในไอดอลผู้ตอบสนองต่อข่าวลือการออกเดตซึ่งถูกพิจารณาคือ เจนนี่ BLACKPINK”“ไอดอลที่เงียบนั้นต่างจากคาริน่าโดยสิ้นเชิง เธอเข้าถึงแฟนๆ ของเธออย่างจริงใจและขอให้แฟนๆ เข้าใจ นี่คือเหตุผลว่าทำไมแฟนๆ ถึงประหลาดใจกับสิ่งที่ไอดอลคนอื่นตอบสนองต่อ (ข่าว) ความสัมพันธ์ของพวกเขา” และในบทความนั้นก็มีการเขียนระบุชัดเจนถึงข่าวเดตของเธอกับวี BTS ซึ่งแฟนคลับของเจนนี่ ก็ได้ออกมาปกป้องเธอจากการถูกเขียนถึงในลักษณะเชิงเปรียบเทียบนี้ว่า“แล้วทำไมเจนนี่ต้องขอโทษด้วย?” / นี่เป็นสิ่งที่ต้องขอโทษเพื่อ? / นักข่าวคนนี้นั่นแหละที่จำเป็นต้องเป็นคนขอโทษ / ทำไมการเดตถึงกลายเป็นเรื่องแย่ขนาดนี้พวกเขาจำเป็นต้องขอโทษ? / คุณควรไปโฟกัสที่พวกเซเลบที่ก่ออาชญากรรมแทนนะ ฯลฯ ซึ่งนี่เป็นภาพของการที่ผู้มีอำนาจทางสื่อพยายามที่จะโน้มน้าวให้ผู้คนมองว่าการเดตของไอดอลเป็นเรื่องผิด และราวกับว่าการที่คาริน่าออกมาขอโทษนั้นเป็นเรื่องถูกแล้ว และตั้งคำถามต่อเจนนี่ว่าเธอทำถูกหรือเปล่า ซึ่งจริงๆ แล้ว พวกเธอไม่ได้ผิดอะไรเลยมาตั้งแต่เริ่มเดตกับใครสักคนแล้วด้วยซ้ำ และไม่ใช่เรื่องที่ ‘คนอื่น’ จะมีสิทธิ์ชี้ผิด ชี้ถูก ในการเลือกที่จะมีความสัมพันธ์ของพวกเธอแม้แต่นิดเดียว2 สาวไอดอล เป็นเพียงตัวอย่างในปี 2024 ที่ถูกพูดถึงขึ้นมาเกี่ยวกับการเดตในช่วงเวลานี้ แต่ที่ผ่านมาในอดีต มีไอดอลอีกหลายคน ไม่ว่าจะเพศไหนก็แล้วแต่ ที่ถูกตั้งคำถาม ถูกโจมตี และรู้สึกผิด หรือรู้สึกว่าจำเป็นต้องขอโทษซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งในอนาคต ก็คงจะมีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นอีกเป็นแน่ หากสังคมยังไม่มองไอดอลเป็น ‘คนธรรมดา’ เหมือนคนอาชีพอื่นๆ ที่เจ็บปวดกับคำพูดของคนได้ และมีความรักเพื่อปลอบประโลมใจของพวกเขาได้ หากแฟนคลับสามารถจะมีแฟนได้ ไอดอลก็ต้องสามารถมีแฟนได้นะ ใจเขาใจเรากันเถอะอ้างอิง:<a href="https://www.bbc.com/news/world-asia-68487232" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.bbc.com/news/world-asia-68487232</a> &nbsp;<a href="https://www.koreatimes.co.kr/www2/common/viewpage.asp?newsIdx=370151&categoryCode=398" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.koreatimes.co.kr/www2/common/viewpage.asp?newsIdx=370151&amp;categoryCode=398</a> &nbsp;<a href="https://www.koreaboo.com/news/blackpink-jennie-aespa-karina-dating-rumor-comparison/" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.koreaboo.com/news/blackpink-jennie-aespa-karina-dating-rumor-comparison/</a>&nbsp;<a href="https://www.allkpop.com/article/2024/03/korean-reporter-receives-backlash-for-comparing-karina-and-jennies-dating-news" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.allkpop.com/article/2024/03/korean-reporter-receives-backlash-for-comparing-karina-and-jennies-dating-news</a>&nbsp;

Mike White บาลานซ์น้ำเสียงในเรื่องเล่าของแต่ละคนได้อย่างกลมกล่อม โอบกอดทุกตัวละครของเขาเอาไว้อย่างงดงาม และนั่นจึงทำให้เหล่าตัวละครหญิงในซีรีส์โดดเด่นไม่แพ้ตัวละครชาย มีชีวิตจิตใจและทางเลือกเป็นของตัวเอง และเป็นมนุษย์เท่าที่จะเป็นได้

หลากเฉดสีหลายทางเลือกของผู้หญิงจาก The White Lotus SS3

ซีรีส์ ‘Resident Playbook’ เดินทางมาถึงตอนที่ 6 แล้ว โดยในตอนนี้ได้นำเสนอ ‘ความยากลำบากของการเป็นแม่’ ผ่าน 3 เคสตัวอย่างในสถานการณ์ที่แตกต่างกัน นับตั้งแต่ผู้หญิงที่พยายามตั้งครรภ์
กำลังตั้งครรภ์ ไปจนถึงช่วงคลอดบุตร ว่าพวกเธอต้องเผชิญกับความเจ็บปวดใดบ้าง

ความยากลำบากของการเป็นแม่ 3 เคสตัวอย่างจาก ‘Resident Playbook’ ซีรีส์ที่ว่าด้วยชีวิตการทำงานของเหล่าแพทย์ประจำบ้านด้านสูตินรีเวช

Common People คือเอพิโสดแรกซึ่งอาจเรียกได้ว่าปวดใจที่สุดอีกเอพิโสดหนึ่งของมหากาพย์ Black Mirror ซีรีส์ว่าด้วยด้านมืดของเทคโนโลยี ที่สร้างต่อเนื่องมาหลายปีจนมาถึงซีซั่นที่ 7 และมันก็ยังคงยืนยันที่จะพูดเรื่องผลร้ายของโลกอนาคตอันใกล้กับเทคโนโลยีสุดล้ำต่อไปอย่างไม่ย่อท้อ แถมเล่นกับประเด็นมืดหม่นไม่แผ่ว ตามสไตล์ผู้สร้างทีมเดิมอย่าง Charlie Brooker 

Common People : ที่สุดแล้วความเหลื่อมล้ำจะตามเราเจอ ตอนหนึ่งของซีรีส์ Black Mirror ที่ว่าด้วยความเหลื่อมล้ำของเทคโนโลยี ซึ่งไม่ว่าจะอยู่หรือตาย ก็ทำให้มนุษย์ไม่มีวัน ‘เท่ากัน’ 

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Entertainment

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

PATCHSITA PAIBULSIRI

RELATED

HOT TOPICS