‘สี่สาวชาวกี’ (The Ki Sisters) เขียนและวาดโดย bumbae กำลังเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ของครอบครัวหญิงล้วนที่ผู้หญิงลุกขึ้นมาดูแลบ้านกันเอง เป็นหัวหน้าครอบครัว และคอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ผ่านคาแรกเตอร์ 4 สาวที่หลากหลาย

การเดินทางออกจากโลกหญิงล้วนของ ‘กีเจนนี’ ในเว็บตูน ‘สี่สาวชาวกี’ จากมีม Queen never cry เพื่อเรียนรู้ว่าผู้ชายในสังคมมีอยู่หลายแบบ และอาจไม่ได้น่ารักหรือใจดีเหมือนพ่อทุกคน

ขอยกให้มีมนี้เป็นมีมตัวแม่แห่งยุคไปเลย กับมีมจากตัวละครเว็บตูนผู้เป็นคุณแม่สาวผมบลอนด์หน้าเฟียซปากจือ ที่พูดกับลูกน้อยของตัวเองว่า “Queen never cry” จนลูกที่กำลังร้องไห้หยุดร้องแล้วเปลี่ยนสีหน้ามาทำหน้าเฟียซตามแม่ทันที ซึ่งจริตแซ่บๆ นี้ของเธอ ก็ทำเอาไวรัลไปทั่วโลก และหลายคนก็ถามหากันอย่างรวดเร็วว่า นี่มันเว็บตูนเรื่องอะไร เริ่ดเกินเจ๊! โดยจริงๆ แล้วสองแม่ลูกคู่นี้ เป็นตัวละครเสริมทัพความวายป่วงในเว็บตูนสายฮาสัญชาติเกาหลีใต้ ‘สี่สาวชาวกี’ (The Ki Sisters) เขียนและวาดโดย bumbae ที่ใครได้อ่านแล้ว ก็ต่างบอกต่อกันแทบทุกคนว่า อ่านๆ อยู่ระวังกรามค้างนะ เพราะตลกทุกตอน คอนเฟิร์ม ซึ่งตอนนี้ก็มีฉบับภาษาไทยใน WEBTOON เป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วยหลังจากที่เราโหลดมาอ่านดูบ้าง ต้องบอกว่าเบื้องหลังความฮาที่มีอยู่แทบจะทุกหน้าและทุกบทสนทนาของสี่สาวตระกูลกี กลับมีแก่นเรื่องหลักที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย เพราะเว็บตูนเรื่องนี้กำลังเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ของครอบครัวหญิงล้วนที่ผู้หญิงลุกขึ้นมาดูแลบ้านกันเอง เป็นหัวหน้าครอบครัว และคอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ผ่านคาแรกเตอร์ 4 สาวที่หลากหลาย ไม่ซ้ำกัน แต่รักและหวังดีต่อกันมาก พร้อมๆ บอกกับผู้อ่านว่า อย่าตัดสินสี่สาวตระกูลกีจากภายนอก แม้พวกเธอจะดูน่ากลัว คนต้องหลบให้ แต่จริงๆ ไม่มีพิษมีภัยอะไรเลยสักนิด ที่สำคัญยังมุ่งเน้นไปที่ ชีวิตใหม่ของ ‘ผู้หญิง’ คนหนึ่งที่กำลังก้าวออกจากโลกหญิงล้วน ที่มีผู้ชายที่รู้จักแค่พ่อ ซึ่งใจดี พูดน้อย และเป็นมิตร ไปสู่โลกข้างนอกที่เต็มไปด้วยผู้ชายหลากหลายแบบและยากจะคาดเดาเนื้อเรื่องโดยย่อ เริ่มต้น ณ คฤหาสน์บรรยากาศหลอนชวนขนหัวลุก ซึ่งเป็นบ้านของพี่น้องตระกูลกี ประกอบไปด้วย พี่คนโต กีจางนยอ พี่คนรอง กีซัลกโย พี่คนที่สาม กีแจริม และน้องคนเล็ก กีเจนนี โดยตระกูลนี้จะมีวัฒนธรรมเฉพาะกลุ่มนั่นคือการจัดประชุมครอบครัวทุกวันพฤหัสบดี และความวุ่นวายก็เกิดขึ้น เมื่ออยู่มาวันหนึ่ง กีเจนนี ที่เรียนโฮมสคูลมาตลอด ได้เดินมาบอกพี่สาวว่า เธอต้องการจะมีแฟน และเธอตั้งใจจะไปสมัครเข้าเรียนที่โรงเรียนเดียวกับหนุ่มน้อยที่เธอปิ๊งโดยบังเอิญ เพื่อทำการจีบเขาคนนั้นมาเป็นแฟนให้ได้!ผู้อ่านจะได้เห็นภารกิจที่กีเจนนีเรียกว่า ‘ภารกิจออกล่าผู้ชาย’ aka ภารกิจตามหารักแท้ ไปพร้อมๆ กับการสะท้อนตัวตนของเธอที่ไม่ประสาเรื่องผู้ชายเลยแม้แต่นิด เพราะวัยรุ่นสาวคนนี้ ไม่เคยผ่านการจับมือกับชายใด เข้าหาผู้ไม่เป็น แต่กลับเป็นคนเฉลียวฉลาดและดูจะเอาตัวรอดเก่งมากกว่าที่คิด ถึงอย่างนั้นพี่สาวทั้ง 3 คน ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ และตั้งใจจะคอยปกป้องและช่วยน้องสาวจากโลกอันโหดร้ายข้างนอกที่เธอไม่เคยออกจากกรอบเลย ด้วยวิธีคิดที่เพี้ยนๆ แต่ก็มีสาระอยู่เหมือนกัน ซึ่งในจุดนี้ ก็เหมือนกับการที่ผู้เขียนสะท้อนชีวิตของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่กับคนรอบข้างที่เป็นผู้หญิงมาโดยตลอด ให้บรรยากาศคล้ายๆ เด็กสาวที่เรียนโรงเรียนประจำหญิงล้วน แล้ววันหนึ่งก็ต้องหาทางปรับตัวให้เข้ากับสังคมด้านนอกที่มีมนุษย์เพศชายอยู่เต็มไปหมด ที่เธออาจจะรู้ไม่เท่าทันความคิดของพวกเขา และถึงแม้เธอไม่รู้สึกว่าต้องกลัวผู้ชาย หรือกล้าเข้าหาผู้ชายโดยไม่คิดอะไรมาก ทว่า น่าคิดตามอยู่เหมือนกันว่า ในวันที่เธอเจอผู้ชายที่ไม่ได้น่ารักเหมือนพ่อของเธอ เธอจะมีการรับมือกับสถานการณ์ตรงหน้าอย่างไร หรือการที่เธอผิดหวังจากผู้ชายที่เธอคิดว่าคงไม่มีพิษมีภัย เธอจะรู้สึกแบบไหน นั่นเป็นสารที่ชวนให้ผู้อ่านร่วมเป็นกำลังใจให้เธอ ท่ามกลางมุกตลกโบ๊ะบ๊ะที่มีอยู่ตลอดในแต่ละตอนในช่วงแรก ทั้งสี่สาวจะถูกมองว่าน่ากลัว น่าเกรงขาม เพราะคาแรกเตอร์ร้ายๆ หน้านิ่งๆ ยิ้มแสยะ ที่มาพร้อมเสื้อผ้าคุมโทนสีดำ เวลากีเจนนีเข้าหาผู้ชายเพียงเพราะแค่อยากมีแฟนดูบ้าง เธอก็เลือกจะไปจ้องหน้าเขาแบบหลอนๆ จนผู้ชายวิ่งหนี การปรับตัวของเธอในรั้วโรงเรียนให้ดูเป็นมิตรมากขึ้นจึงเริ่มต้นขึ้น เพื่อตามหาชายหนุ่มคนนั้นที่เธออยากจะเจอ แม้ชายคนนั้นเธอจะ ‘ไม่รู้จัก’ มาก่อนเลยก็ตาม ซึ่งลึกๆ แล้ว แปลว่าจริงๆ เธอก็พร้อมจะไว้ใจคนได้อย่างง่ายดาย เพราะคิดแค่ว่าเขาดูเป็นมิตร และน่ารักดีเราจะได้เห็นการปกป้องน้องสาวจากโลกใบใหม่ ที่พี่สาวทั้งสามมีคำแนะนำต่างกันออกไป พี่คนโต กีจางนยอ วัย 34 ปี ผู้เป็นเหมือนหัวหน้าครอบครัวที่คอยทำงานเลี้ยงดูทุกคนในบ้าน ก็แนะนำให้พกมีดไปโรงเรียนเลยจบๆ! เพราะการอยู่ตามลำพัง อาจมีอันตรายเข้ามาแบบไม่คาดฝัน ซึ่งจริงๆ ก็สะท้อนความรุนแรงที่ผู้หญิงต้องเผชิญในสังคมอยู่ และบังคับให้บางครั้งผู้หญิงก็ต้องหาวิธีป้องกันตัวไว้ ส่วนพี่คนรอง กีซัลกโย วัย 28 ปี ก็แนะนำให้พกความแกลมไปโรงเรียน! ทำตัวให้เริ่ด สวย ตะลึงเข้าไว้ แต่ถ้าทำอะไรพลาดขึ้นมาก็…พกระเบิดไปด้วย จะได้ระเบิดตัวเองไปเลย จบ และพี่คนที่สาม กีแจริม ที่แนะนำอะไรไปคนก็ไม่ค่อยฟัง เพราะเธอค่อนข้างจะสติหลุด แต่คำแนะนำของเธอกลับเรียบง่าย อย่างการแนะนำให้พกรองเท้าใส่ในอาคารและพกเครื่องเขียนไปเรียนยังมีการพูดถึงคุณพ่อของทั้งสี่สาว ที่แม้จะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่บางครั้งเขาก็แวะเวียนมาหาพวกเธออยู่บ้าง โดยคาแรกเตอร์คุณพ่อ จะเป็นผู้ชายขี้เขิน ขี้อาย นุ่มนิ่ม อินโทรเวิร์ต แต่มีภาพลักษณ์น่าเกรงขาม น่ากลัว ดุดัน เหมือนกับลูกๆ ของเขา ซึ่งก็ยังคงคอนเซ็ปต์เดิมว่า บ้านนี้ใครเห็นก็ไม่อยากยุ่งด้วย เพราะดูน่ากลัว ดูมีรังสีความร้ายๆ อยู่เต็มไปหมด ซึ่งคิดอีกมุมหนึ่งก็คือ เป็นการถูกตัดสินจากภาพลักษณ์ภายนอกสุดๆ เพราะจริงๆ บ้านนี้แทบไม่มีพิษไม่มีภัยอะไรเลย ออกแนวเพี้ยนๆ เสียด้วยซ้ำ โดยคุณพ่อก็ได้มอบของขวัญวันเข้าเรียนให้กับกีเจนนีเป็นแว่นตาที่ทำให้ดวงตาดูเป็นมิตรมากขึ้น คนจะได้กล้าเข้าหาเธอมากขึ้นอะไรทำนองนั้น&nbsp;พวกเราคงต้องลุ้นกันในเว็บตูนกันต่อว่า การเดินทางครั้งใหม่ของกีเจนนีในรั้วโรงเรียนจะทำให้เธอเจอผู้ชายแบบไหนกันบ้าง หนุ่มที่เธอหมายปองจะดีแบบที่เธอคิดหรือไม่? เขาจะชอบเธอกลับไหม? ความรู้สึกตอนมีแฟนจะเป็นแบบที่เธอหวังหรือเปล่า? ถ้ารสชาติความสัมพันธ์มันไม่ได้ราบรื่นตลอดแบบที่เธอคิด เธอจะเป็นอย่างไร? กระทั่งตอนนี้ที่เธอได้เจอกับผู้ชายบางคนที่เข้ามาจีบโดยพยายามเข้ามาช่วยเหลือเธอ เพราะคิดว่า ผู้หญิงต้องให้ผู้ชายช่วยเหลือบ้าง แต่กีเจนนีดันเก่งไปหมด เขาเลยเลือกวิธีการอวดรวยเข้าหาไปเลยเพื่อแสดงความแข็งแกร่ง ทว่ากีเจนนีกลับขำใส่กับสิ่งที่เขาทำไปเลยดื้อๆ ซึ่งก็ต้องบอกว่า แม้กีเจนนีจะไม่ประสาเรื่องผู้ชาย แต่ดูเหมือนเธอจะไม่ซื้อ เวลาใครมาทำตัวชายเป็นใหญ่ใส่เธออยู่เหมือนกัน เพราะมันดูตลก! กิมมิคเล็กๆ เหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่นักเขียนได้ใส่ลงไปเพื่อชวนให้คนอ่านและสังคมเกาหลีใต้ได้คิดตามต่อว่า การที่ผู้ชายทำตัวเป็นใหญ่ใส่ผู้หญิง มันไม่เวิร์คเสียเท่าไหร่ โดยเฉพาะเมื่อทำพฤติกรรมนั้นใส่ผู้หญิงที่ไม่ได้รู้สึกว่าเพศหญิงต้องเป็นรองใครอย่างสาวๆ ตระกูลนี้ แต่ในอีกด้าน ผู้ชายคนนี้ก็อาจเป็นคนที่เข้าหาผู้หญิง ‘ไม่เป็น’ เหมือนที่กีเจนนีเข้าหาผู้ชายไม่เป็นเฉยๆ ก็เป็นได้เหมือนกัน เพราะลึกๆ แล้ว เขาก็ดูไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไรกับเธอเลย…เรื่องราวของสี่สาวจะเป็นอย่างไรต่อไป และกีเจนนีจะได้มีแฟนคนแรกหรือไม่ ติดตามกันได้ที่ WEBTOON ตอนใหม่จะลงทุกๆ วันศุกร์นะ มาคอยเอาใจช่วยให้กีเจนนีเรียนรู้เรื่องความรักและความสัมพันธ์กันเถอะ

เปิดโปรเจกต์ “วันทอง” หนังเรื่องแรกจาก “Black Dragon Entertainment” ซีอีโอค่าย “จูเลี่ยน จอง” (อดีตผู้บริหารฝ่ายภาพยนตร์ CJ ENM) รับหน้าที่โปรดิวซ์จับมือผู้กำกับ Long Live Love! โดยมี “อิ้งค์-หมาก-กลัฟ-ปริมมี่” รับบทนำ

พบกับ ‘วันทอง 2026’ เมื่อสาวยุคใหม่หลุดเข้าไปในโลกยุคเก่า เพื่อเอาตัวรอดจากความรุนแรงทางเพศในฐานะ ‘นางวันทองสองใจ’

REBEL HEART จากมินิอัลบั้มชุดที่ 3 ของสาวๆ ‘IVE’ บทเพลงที่ปลุกความเข้มแข็งในใจทุกคน ให้กล้าจะถูกเกลียดจากคนที่เขาไม่รักเรา พร้อมๆ กับยังมองเห็นความรักที่คนที่รักเรามอบให้

REBEL HEART หัวใจขบถของ ‘IVE’ เพลงสรรเสริญผู้กล้าทุกคน ที่ยอมถูกเกลียด แลกกับการได้เคารพตัวเอง และได้รักตัวเองอย่างเต็มภาคภูมิ

Nevertheless : The Shapes of Love ความสัมพันธ์ไม่ชัดเจนระหว่างหนุ่มรอยสักผีเสื้อบริเวณหลังคอ ผู้เข้ามาเล่นกับใจหญิงสาวผู้เคยผิดหวังกับความรักจนเกิดเป็นแผลเป็นในใจ ที่ดันกลับมาใจเต้นได้อีกครั้ง เพราะเขาคนนี้ 

ความสัมพันธ์ที่ทำให้คิดอยู่ตลอดว่า
เราเป็นคนสำคัญของเขา แต่อาจไม่สำคัญขนาดนั้น ในซีรีส์ญี่ปุ่น Nevertheless : The Shapes of Love ที่ตับแตกหนักกว่าเวอร์ชันเกาหลี

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Art

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

PATCHSITA PAIBULSIRI

RELATED

HOT TOPICS