LadyMirror รู้ทุกเรื่องของผู้หญิง | แฟชั่น ไลฟ์สไตล์ บิวตี้ ความงาม และอื่นๆ

‘แอเรียล’ 2023 เงือกผู้สละเสียงแลกชีวิตที่ถูกรับฟัง เด็กสาวเจนฯ ใหม่ ที่ยืนยันสิทธิในการเลือกทางเดิน และเชื่อว่าความหลากหลายทำให้โลกน่าอยู่

คาแรกเตอร์ ‘แอเรียล’ ในเวอร์ชันภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชั่น ‘The Little Mermaid’ เงือกน้อยผจญภัย ไม่ได้ต่างจากในแอนิเมชันปี 1986 มากนัก เธอยังคงเป็นเด็กสาวที่กล้าหาญ กล้าคิด กล้าทำ และมุ่งมั่นที่จะทำตามเสียงหัวใจ เพียงแต่สิ่งที่ผู้ชมจะได้เห็นจากภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชั่นปี 2023 นี้ คือมิติ และความคิดที่กว้างขึ้นของตัวละคร ทั้งเหตุผลที่เธออยากท่องโลกงามอย่างกล้าได้ กล้าเสีย แม้จะรู้เต็มอกว่ามนุษย์เคยมีวีรกรรมไม่ดีต่อชาวเงือก เหตุผลว่าทำไมเธอถึงยอมสละเสียงหนีพ่อขึ้นบก แม้จะไม่รู้เลยว่าจะพบเจอกับอะไรบ้างเมื่อมีขา หรือเหตุผลว่าทำไมต้องเป็นเจ้าชายอีริคที่อาจไม่ใช่เพียงรักแรกพบ แต่คนคนนี้อาจเป็นรักที่เธอพร้อมเข้าใจเขา และเขาพร้อมเข้าใจเธอ

หลังดูภาพยนตร์เรื่องนี้จบ เราสามารถพูดได้เต็มปากว่า แอเรียลเป็นตัวแทนของเด็กสาวที่ต้องการถูกรับฟัง และอยากมี support system โดยคนรอบตัว ไม่จะเป็นครอบครัว เพื่อน คนรัก หรือแม้แต่เพื่อนร่วมโลก ซึ่งเชื่อว่าไม่ต้องเป็นแอเรียล ใครๆ ก็อยากจะมีแบบนั้น

*มีเปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของภาพยนตร์

หากใครได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้แล้ว ในช่วงท้ายของเรื่อง ที่คิงไทรตันพูดถึงความกล้าหาญของแอเรียลว่า เธอยอมสละเสียงเพื่อให้คนรับฟังเธอ ซึ่ง ‘การรับฟัง’ แทบจะเป็นคีย์เวิร์ดของทั้งเรื่องเลยก็ว่าได้ เพราะเสียงอันไพเราะของเธอถือเป็นความสามารถพิเศษที่เธอมี และหากมองให้ลึกกว่านั้น มันคือตัวตนของแอเรียล ที่เธอยอมแลกไป เพื่อให้ได้มาซึ่งอิสระของตัวเอง และเป็นแรงกระเพื่อมให้สังคมหันมาเข้าใจเสียงของคนรุ่นใหม่ และความต้องการของพวกเขา อาจพูดได้ว่าเธอสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทั้งต่อตัวเอง ต่อคนรอบตัว และต่อสังคม ฉะนั้นแอเรียลไม่ได้ต่างอะไรจากเด็กเจนฯ ใหม่ ที่เรียกร้องสิทธิบางอย่างในปัจจุบัน โดยพร้อมแลกกับความเสี่ยงมากมาย เพื่อให้ผู้คนหันมารับฟัง

แอเรียลในเวอร์ชันที่แสดงโดย Halle Bailey นี้ รักการผจญภัย และอยากรู้จักมนุษย์มากขึ้นให้ดีอย่างถ่องแท้ เธอเก็บรวบรวม และซ่อนสิ่งของ เครื่องใช้ หรือแม้แต่ตำราหนังสือของมนุษย์ที่ร่วงหล่นมายังโลกใต้สมุทรไว้ในพื้นที่ที่แม้แต่พ่อก็จะไม่เห็น ซึ่งก็แสดงให้เห็นว่าเธอมีความเป็นตัวเองสูงที่อยากเรียนรู้เรื่องรอบตัวให้มากขึ้นกว่าเดิม แต่ไม่สามารถโชว์สิ่งเหล่านั้นให้พ่อเห็นได้ เนื่องจากอคติที่พ่อมีต่อมนุษย์ ตรงนี้ก็คงเหมือนเด็กๆ รุ่นใหม่หลายคนในบางครอบครัวที่ไม่เปิดใจยอมรับตัวตน หรือความชอบของลูก เพราะเชื่อว่าการวางกรอบให้ลูกเป็นสิ่งที่ดีที่สุด แต่จริงๆ แล้วมันคือการทำร้ายลูกทางอ้อม

แอเรียลมีความรู้เรื่องบนบกมากกว่าพี่สาวของเธอ จนบางครั้งพี่สาวก็ยังต้องถามว่า เธอรู้มันได้อย่างไร และเราเชื่อว่าจุดจบของเรื่องที่แอเรียลได้เป็นมนุษย์ และได้ทำตามความฝันของตัวเอง ก็จะเป็นจุดเปลี่ยนให้เหล่าพี่ๆ ของเธอ ได้หลุดพ้นจากกรอบของครอบครัวที่พ่อวางไว้เหมือนกัน

“ลูกแค่อยากรู้จักพวกเขาให้มากขึ้น” แอเรียลยืนยันกับคิงไทรตันเสมอ ว่าที่สนใจในมนุษย์น่ะมีเหตุผล เธออยากรู้จักพวกเขา เพราะเธอไม่เชื่อว่ามนุษย์ทุกคนจะเหมือนกัน ไม่ได้ดีหมด และไม่ได้เลวหมด เพราะ “ขนาดพวกเรายังแตกต่างกันเลย” เหมือนที่เธอเปรียบชาวเงือกกับมนุษย์ให้พ่อฟัง ว่าไม่มีใครเหมือนกันได้หรอก แต่พ่อที่มีปมในอดีตเรื่องที่มนุษย์ทำร้ายภรรยา (แม่ของแอเรียล) ก็ไม่ยอมฟังแต่อย่างใด ตรงนี้ก็คงเหมือนกับคนในสังคมเรา ที่บางครั้งก็เกิดภาพเหมารวมกันโดยไม่รู้ตัว แต่สิ่งหนึ่งที่ชื่นชมแอเรียลเลยก็คือ แม้แม่ของเธอจะเสียชีวิตเพราะน้ำมือมนุษย์ แต่เธอก็ยังมี empathy ต่อมนุษย์อยู่ดี เพราะคนที่ทำร้ายแม่ มันก็แค่ว่าคนคนนั้นเลว แต่ใช่ว่าทุกคนจะเลวเหมือนกันหมด

และความแตกต่างหลากหลายที่แอเรียลว่า แน่นอน ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ย้ำชัดว่า ไม่ว่าเราจะแตกต่างกันแค่ไหน ทั้งเพศ ผิว เชื้อชาติ หรือวัฒนธรรม แต่เราจะอยู่ร่วมกันได้ ถ้าเรารับฟังซึ่งกันและกัน ซึ่งเราไม่แปลกใจว่าทำไมแอเรียลถึงรักเจ้าชายอีริค เพราะเธอได้เจอคนที่มีภูมิหลังคล้ายกัน และเธอเชื่อว่าคนคนนี้จะเป็นคนที่เข้าใจเธอ และรับฟังเธอได้ อีริคในเวอร์ชันนี้ มีความคิดของตัวเองมากกว่าในแอนิเมชัน ไม่ได้เป็นเพียงเจ้าชายรูปงาม ยืนหล่อๆ ตามหารักแท้ แต่อีริคที่แสดงโดย Jonah Hauer-King ต่างโดนแม่ของเขากดดันให้อยู่กับร่องกับรอย ทั้งการวางตัวให้สมกับเป็นเจ้าชาย การทำหน้าที่ให้สมกับเป็นเจ้าชาย หรือแม้แต่การกักขังลูกไว้ไม่ให้ออกผจญภัย เพราะกลัวลูกเสี่ยงอันตราย ซึ่งไม่ได้ต่างอะไรจากแอเรียลเลย นั่นทำให้แอเรียลเข้าอกเข้าใจเขามาก

อีริค เป็นคนที่ไม่เห็นด้วยกับการล่าเงือก หรืออคติต่อเงือกที่หลายคนมี เพราะเขาไม่คิดว่านี่คือสิ่งที่ถูกต้อง แถมยังเป็นเด็กหนุ่มที่อยากศึกษาวัฒนธรรมในที่ต่างๆ เพราะเชื่อว่าความแตกต่างหลากหลายเป็นสิ่งที่ต้องเรียนรู้ในการอยู่ร่วมกัน และแน่นอน เมื่อแอเรียลได้เห็นมุมน่ารักๆ และความคิดดีๆ ของเขาในหลายๆ ฉาก ก็ตกหลุมรักเขาได้ไม่ยาก เพราะสองคนนี้จะเติมเต็มการผจญภัยซึ่งกันและกัน และพากันไปเรียนรู้โลกใบนี้โดยไม่ปล่อยมือกัน เหมือนกับฉากจบที่ทั้งคู่ได้ออกเดินทางไปด้วยกัน

นอกจากนี้ความน่ารักที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลย คือเหล่าเพื่อนของแอเรียลที่ซัพพอร์ตเธอเสมอมา ทั้งเซบาสเตียน ฟลาวเดอร์ และสกัตเติ้ล ซึ่งอาจพูดได้ว่า แอเรียลจะไม่ได้เป็นตัวเองเลย ถ้าเธอไม่มีเพื่อนคอยเคียงข้าง และสนับสนุนกันและกันในยามยาก

ไม่ว่าจะแอเรียล หรือใครก็ตามต่างอยากมีคนรับฟัง เพราะการรับฟังนั้นยิ่งใหญ่ และมีความหมายต่อชีวิตของทุกๆ คน หากครอบครัวรับฟัง ลูกทุกคนจะสามารถพูดทุกเรื่องให้ฟังได้ และกล้าที่จะเผชิญสิ่งต่างๆ เพราะรู้ว่าจะมีคนคอยให้กำลังใจอยู่ที่บ้าน เช่นเดียวกับเพื่อนและคนรัก ที่การรับฟังจะเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่เฮลตี้ ไปจนถึงการรับฟังซึ่งกันและกันของคนในสังคม ที่จะนำไปสู่การเคารพความแตกต่างหลากหลาย และเราเชื่อว่าโลกงามที่แอเรียลฝันถึงจะเกิดขึ้นได้กับทุกคนจริงๆ ถ้าทุกคนรับฟังกัน

Author

PATCHSITA PAIBULSIRI

Content Creator

Related Stories

‘แอเรียล’ 2023 เงือกผู้สละเสียงแลกชีวิตที่ถูกรับฟัง เด็กสาวเจนฯ ใหม่ ที่ยืนยันสิทธิในการเลือกทางเดิน และเชื่อว่าความหลากหลายทำให้โลกน่าอยู่

culture

‘แอเรียล’ 2023 เงือกผู้สละเสียงแลกชีวิตที่ถูกรับฟัง เด็กสาวเจนฯ ใหม่ ที่ยืนยันสิทธิในการเลือกทางเดิน และเชื่อว่าความหลากหลายทำให้โลกน่าอยู่

MIRROR'sGuide