ในแวบแรกเราเข้าใจว่า ‘ด้วยรักและหักหลัง’ เป็นเพียงอีกหนึ่งซีรีส์ร้ายๆ แรงๆ ที่เล่าเรื่องการหักหลังในกลุ่มเพื่อนสาว 5 คน แต่ยิ่งเมื่อดูไปก็พบว่าผู้สร้างตั้งใจจะสื่อสารประเด็นสังคมโดยเฉพาะที่เกี่ยวกับผู้หญิงผ่านตัวเรื่องอย่างจริงจัง และน่าดีใจที่น้ำเสียงเหล่านี้ปรากฏในสื่อที่เข้าถึงคนวงกว้างได้มาก นับเป็นการช่วยย้ำความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิในเนื้อตัวร่างกายของผู้หญิงได้เป็นอย่างดี
ด้วยรักและหักหลังเป็นซีรีส์จากค่าย GMM25 ที่พัฒนามาจากนิยายเรื่อง วงกตดอกไม้ และได้ ใบสน ผู้เขียนนิยายเป็นคนเขียนบทด้วยตัวเอง และตัวละครที่เราจะพูดถึงในคราวนี้คือ ‘เมย์’ รับบทโดย ฟ้า-ยงวรี อนิลบล และจากนี้จะมีการเปิดเผยเนื้อหาซีรีส์ส่วนที่เกี่ยวกับเธอ
เมย์เป็นหนึ่งในแก๊งเพื่อน 5 คน ที่มีคาแรกเตอร์ชัดเจนว่าเป็นคนเปิดกว้างเรื่องเซ็กซ์ เธอพร้อมจะมีเซ็กซ์เมื่อเธอต้องการซึ่งจุดนี้นี่เองที่ทำให้ในตัวเรื่องเธอมักถูกจดจำในฐานะผู้หญิงแรด ขณะเดียวกันเมื่อเธอไม่ต้องการ เธอก็พร้อมจะยืนยันปฏิเสธ ครั้งหนึ่งเธอได้มีความสัมพันธ์กับหนุ่มหล่อลูกครึ่งซึ่งในครั้งแรกนั้นเธอยินยอมพร้อมใจ และตกลงใจที่จะมีเซ็กซ์กับเขา แต่ในคืนนั้นเธอกลับถูกแอบถ่ายรูปโป๊ไว้แบล็กเมล์ นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับเมย์
แม้ครั้งแรกจะยินยอมพร้อมใจ แต่ครั้งถัดไป เธอถูกข่มขืนทั้งยังถูกกระทำความรุนแรงด้วย จากจุดนี้นี่เอง ซีรีส์พาเราย้อนไปเห็นอดีตของเธอที่ก็เคยถูกกระทำความรุนแรงทางเพศมาก่อน มิหนำซ้ำ เมื่อไปแจ้งความ ก็ยังถูกตำรวจที่พยายามตั้งคำถามในเชิงกล่าวโทษเธอ เขาไม่เชื่อว่าเมื่อในครั้งแรกเธอยินยอมพร้อมใจเองแล้วครั้งถัดไปมันจะเป็นปัญหาอะไร
เพื่อนร่วมงานที่เห็นภาพของเธอที่ถูกปล่อยออกมาในที่สุดก็ยังกล่าวโทษเมย์ว่า “พี่เคยเตือนแล้วไงว่าแต่งตัวให้มิดชิดหน่อย ล่อเสือล่อตะเข้ขนาดนี้ คนเลยมองว่าเธอง่าย” ซึ่งเป็นสูตรสำเร็จที่เราเห็นกันทั่วไปในสังคม ยังมีคนจำนวนมากที่เผยความคิดเหล่านี้ออกมาผ่านคอมเมนต์ในอินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องตอกย้ำว่ามายด์เซตคนไทยส่วนใหญ่ยังย่ำอยู่กับที่เหลือเกิน
แต่ซีรีส์ก็ไม่ได้ปล่อยเมย์ไว้เพียงลำพังขนาดนั้น ในครั้งแรกที่เมย์ไม่พร้อมจะไปแจ้งความเพราะกลัวจะไม่มีใครเชื่อเธอเนื่องจากลุคของเธอที่ดูมั่นใจเสมอ สรัส เพื่อนสนิทของเธอก็ยืนยันว่าการที่เมย์ “ไม่ยินยอมก็คือไม่ยินยอม” และไม่มีใครมีสิทธิมาทำร้ายเธอได้ เมื่อทั้งคู่ไปแจ้งความและพบว่าตำรวจตั้งคำถามกับเมย์อย่างดูหมิ่นดูแคลน สรัส ที่ตลอดมาเป็นคนขี้กลัว ก็กล้าที่จะพูดใส่หน้าตำรวจว่าสิ่งที่เขาทำเป็นการตอกย้ำซ้ำเติมผู้ถูกกระทำและยังไม่นำไปสู่ความยุติธรรมใดๆ เลย
และเมื่อมีเพื่อนร่วมงานที่ได้เห็นภาพหลุดของเมย์พูดโทษว่าเป็นเพราะเมย์ทำตัวเอง บอสของเมย์ ที่แม้จะเคยแซะเมย์ขำๆ เรื่องการใช้เซ็กซ์แลกผลประโยชน์ในการงาน แต่เมื่อพบว่าเธอถูกทำร้าย เขาถามก่อนเลยว่า “เมย์แจ้งความหรือยัง” ทั้งยังอาสาจะเป็นคนที่ช่วยพาไปแจ้งความให้ เขายังปรามเพื่อนร่วมงานที่โทษเมย์ว่า “ไม่ว่าเราจะแต่งตัวยังไงก็ไม่ใช่ใบอนุญาตให้ใครมาทำกับเราได้นะ สิทธิในร่างกายเป็นของเรา ถ้าใครมาล่วงละเมิด คนที่ทำก็ต้องถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย” ทิ้งท้ายด้วยวรรคเด็ดอย่าง “เราต้องเลิกโทษเหยื่อได้แล้วนะ”
สำหรับใครที่คลุกคลีกับบทสนทนาเรื่องนี้คงไม่รู้สึกว่ามันใหม่ แต่ที่สุดแล้วซีรีส์เรื่องนี้ก็ได้พาประเด็นนี้ไปสู่สายตาอื่นๆ ด้วย ไปสู่กลุ่มคนดูที่วงกว้างขึ้นได้เป็นอย่างดีและควรต้องชื่นชม
ประเด็นสำคัญเลยคือซีรีส์ทำให้เห็นว่าเมย์ไม่ได้ผิดอะไร เธอเพียงแต่ถูกกระทำ แน่นอนว่าเธอเองก็มีด้านที่ร้ายอยู่บ้างตามประสามนุษย์ แต่สิ่งที่เธอต้องเผชิญก็ไม่ใช่บทลงโทษสำหรับพฤติกรรมร้ายๆ เหล่านั้น เธอน่าจะเป็นคนเดียวในกลุ่มด้วยซ้ำที่ไม่ได้ทำร้ายใครก่อนและยังพร้อมจะแก้ไขสิ่งที่ทำลงไปแล้วด้วย ที่ผู้ชมได้เห็นว่ามันเกิดขึ้นกับเมย์ จึงล้วนแต่เป็นความไม่ยุติธรรมล้วนๆ และนั่นก็เป็นสิ่งที่ผู้ถูกกระทำหลายคนเจอในชีวิตจริง ซึ่งมันไม่ควรเกิดขึ้น และเมื่อมันเกิดขึ้นสังคมก็ไม่ควรซ้ำเติมให้ทุกอย่างแย่ลงอีกไม่ใช่หรือ