24 พฤษภาคมที่ผ่านมา ไม่มีใครคิดฝันว่าเด็กหนุ่มวัย 18 คนหนึ่งจะบุกเข้าโรงเรียนประถมในเมืองยูแวลดี รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา แล้วกราดยิงจนมีเด็กเสียชีวิต 19 คนและครูอีกสองคน นับเป็นการสังหารหมู่ในโรงเรียนที่มีผู้เสียชีวิตมากเป็นอันดับสามของสหรัฐฯ รองจากการสังหารหมู่ที่มหาวิทยาลัยเวอร์จิเนียเทคเมื่อปี 2007 และการสังหารหมู่ที่โรงเรียนประถมแซนดีฮุคเมื่อปี 2012
โศกนาฏกรรมนี้ทำให้ประเด็นกฎหมายควบคุมการใช้ปืนถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงในสังคมอีกครั้ง ว่ากฎหมายการควบคุมปืนนั้นหละหลวมหรือจำเป็นต้องเกิดการปรับแก้หรือไม่ เนื่องจากรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมมาตราที่ 2 ของสหรัฐฯ (Second Amendment) อนุญาตให้ชาวอเมริกันมีสิทธิครอบครองอาวุธปืนโดยมีจุดประสงค์เพื่อป้องกันตัวเอง (โดยมาตราดังกล่าวถูกเขียนขึ้นมาสมัยอเมริกายังมีสงครามกลางเมือง ซึ่งการครอบครองอาวุธปืนนั้นยังเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับชาวอเมริกันในยุคนั้น) และนี่เป็นหัวข้อถกเถียงที่ดำรงอยู่คู่กับสังคมอเมริกามานานแสนนาน และมักจะกลายเป็นวาระสำคัญเมื่อเกิดเหตุรุนแรงขึ้น
หนึ่งในคนที่เคยออกมาตั้งคำถามกับกฎหมายการควบคุมอาวุธปืนคือ เจมี ลี เคอร์ติส นักแสดงที่เราเพิ่งได้เห็นหน้าค่าตาของเธอจาก Everything Everywhere All at Once (2022) ในบทเจ้าหน้าที่สรรพากรที่ตามจิกจองล้างจองผลาญภาษีจากครอบครัวร้านซักแห้ง หรือย้อนกลับไปไม่กี่ปีก่อน ใครจะลืมความยอดเยี่ยมเมื่อเธอรับบทลูกสาวคนโตกับในตระกูลมีอันจะกินกับคดีฆาตกรรมปริศนาจาก Knives Out (2019) ได้กัน
และในปี 2018 ภายหลังจากโศกนาฏกรรมการสังหารหมู่ที่โรงเรียนมัธยมซานตาเฟ่ รัฐเท็กซัส เธอออกมาแสดงความคิดเห็นผ่านทวิตเตอร์ของเธอว่า ต้องเกิดการปฏิรูปกฎหมายว่าด้วยการครอบครองอาวุธปืนเสียที ซึ่งไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้น หลุยส์ คาเซียโน จากสำนักข่าวฟ็อกซ์นิวส์นำทวีตเธอไปเขียนวิจารณ์เป็นบทความขนาดยาว เนื้อหาว่าด้วยการบอกว่าเคอร์ติสก็เป็นหนึ่งในคนดังที่ 'มือถือสากปากถือศีล' (hypocritical) ที่ปากบอกอยากให้มีการแบนอาวุธปืนหรือแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการครอบครองอาวุธ แต่ตัวเองก็ยังรับบทเป็นตัวละครที่ใช้ปืนเก่งกาจเป็นว่าเล่นในภาพยนตร์หลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะจากแฟรนไชส์ธริลเลอร์ Halloween ที่เธอแสดงเป็น ลอรี พี่เลี้ยงเด็กที่ต้องหาทางเอาชีวิตรอดจากฆาตกรต่อเนื่องจอมโรคจิตที่หวังฆ่าคนทั้งบางในคืนวันฮาโลวีน! (บทนี้เป็นบทหนังยาวเรื่องแรกของเคอร์ติส และแจ้งเกิดเธอให้ดังระดับประเทศยิ่งกว่าพลุเมื่อหนังประสบความสำเร็จถล่มทลายด้วยรายได้ 70 ล้านเหรียญฯ จากทุนสร้างเพียงสามแสนเหรียญฯ ยังผลให้มีภาคต่องอกตามมาเรื่อยๆ อีกหลายภาค)
เคอร์ติสตอบโต้บทความดังกล่าวของคาเซียโนว่า "บ้องตื้นชะมัด พวกนี้แค่พยายามหาเรื่องขึ้นมาโดยไม่เคยมาถามฉันสักคำว่าจริงๆ แล้วฉันมีความเห็นอย่างไรกันแน่ แล้วสิ่งที่ฉันคิดก็อาจทำพวกเขาประหลาดใจก็ได้นะ" เธอบอก "และแน่นอนว่าฉันสนับสนุนบัญญัติว่าด้วยสิทธิพื้นฐานของพลเมือง (Bill of Rights) เต็มตัวเช่นเดียวกับที่สนับสนุนรัฐธรรมนูญมาตราที่ 2 นั่นแหละ ฉันไม่มีปัญหาอะไรกับคนที่ครอบครองปืนหากพวกเขาได้รับการฝึกการใช้งานอาวุธมาแล้ว ได้ใบอนุญาตมาแล้ว ได้รับการตรวจสอบประวัติต่างๆ แล้ว รวมทั้งเรื่องของการควบคุมต่างๆ ด้วย ทั้งพวกเขายังต้องต่อใบอนุญาตแบบเดียวกับที่พวกเราต่อใบขับขี่นี่แหละ กับอาวุธก็เช่นกันสิ"
สำหรับการรับบทเป็นตัวละครที่ใช้ปืนและอาวุธต่างๆ ในหนังสารพัดเรื่อง เคอร์ติสบอกแค่ว่า "พวกเขารู้ดีว่าตัวละครลอรีคือคนที่ใช้ปืนเป็น และฉันว่ามันก็มีปืนหลายประเภทนะที่นำมาใช้ในภาพยนตร์ได้ และฉันคุยกับผู้กำกับเสมอว่าตัวละครต้องใช้อาวุธเพื่อป้องกันตัวเองหรือครอบครัวของเธอเท่านั้น"
"ก็ใช่ว่าฉันเป็นนักแสดงในหนังธริลเลอร์ และฉันก็รับผิดชอบต่อสิ่งที่ตัวเองทำในชีวิตส่วนตัวของฉันเสมอมา แต่ฉันถูกจ้างให้มาแสดง และด้วยความสัตย์นะ ถ้าฉันต้องรับบทเป็นตัวละครที่ไม่สู้คน ฉันคงไม่แสดงหนังหรอก"
"แล้วก็นะ ฉันน่ะภูมิใจในตัวเองเหลือเกินที่ได้รับบทเป็นตัวละครหญิงที่สู้กลับ ทั้งยังสู้อย่างฉลาด เปี่ยมไหวพริบและหลากหลายวิธี แถมตัวละครที่ฉันรับบทเหล่านี้ยังเป็นคนที่สู้เพื่อชีวิตตัวเอง สู้เพื่อคนในครอบครัวของตัวเองด้วย"
เคอร์ติสยังมองว่า แม้ว่าตัวละครลอรีของเธอจะถูกเขียนขึ้นมากว่าสี่สิบปีแล้วนับจากการปรากฏตัวครั้งแรกใน Halloween (1978) แต่มันก็ไม่ได้ผิดยุคผิดสมัย มิหนำซ้ำ เธอยังคิดว่าภาคหลังๆ ของหนังรวมทั้ง Halloween (2018) ยังสอดรับกันดีกับยุคสมัยของผู้หญิงที่ลุกขึ้นมาเรียกร้องและบอกเล่าเรื่องราวของตัวเองด้วย "มันเหมือนความรุนแรงและความโหดร้ายในชีวิตที่ผู้หญิงเผชิญมาโดยตลอด มันบรรจบกับชีวิตของลอรีที่ก็เต็มไปด้วยความรุนแรงและโหดร้ายมาโดยตลอดเช่นกัน" เธอบอก "เราได้เห็นคนหลายกลุ่ม หลายพื้นที่ ลุกขึ้นมาต่อต้านระบบในสังคม ระบบที่พังอยู่และทุกคนต่างก็ออกมาเปล่งเสียง ชี้ให้เห็นว่าระบบนี้มันพัง และความงดงามของมนุษย์อย่างหนึ่งคือเราเปลี่ยนแปลงกันได้ เราผ่านการต่อสู้ เต็มไปด้วยบาดแผล เราโอบรับมันและเติบโต กระดูกของเราได้รับการสมาน เราต่างก้าวต่อไป เช่นเดียวกับตัวละครลอรีเพราะเราต่างบาดเจ็บ ต่างเคยต่อสู้กับปิศาจในชีวิตทั้งนั้น"