แม้โดยทั่วไปไอคิวของผู้หญิงและผู้ชายจะไม่ต่างกัน แต่นักวิจัยพบว่า ผู้ชายมักมองตัวเองฉลาดเกินจริง ขณะที่ผู้หญิงจะมองว่าตัวเองไม่เก่งเท่าที่ตัวเองเป็น 

งานวิจัยเผย ผู้หญิงมักประเมินตัวเองต่ำไป ขณะที่ผู้ชายมักมั่นใจว่าฉลาดกว่าที่เป็น

แม้โดยทั่วไปไอคิวของผู้หญิงและผู้ชายจะไม่ต่างกัน แต่นักวิจัยพบว่า ผู้ชายมักมองตัวเองฉลาดเกินจริง ขณะที่ผู้หญิงจะมองว่าตัวเองไม่เก่งเท่าที่ตัวเองเป็น ซึ่งเราคงไม่อาจเหมาว่านี่คือความจริงแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เราเพียงหยิบยกผลวิจัยมาบอกเล่า เผื่อให้บางคนได้ลองสังเกตตัวเองว่าเป็นเหมือนกับกลุ่มตัวอย่างในงานวิจัยชิ้นนี้หรือเปล่า และมันส่งผลกับชีวิตเราแค่ไหน อย่างไรบ้าง?&nbsp;.งานวิจัย Gender Differences in Self-Estimated Intelligence: Exploring the Male Hubris, Female Humility Problem โดย David Reilly, David L. Neumann และ Glenda Andrews อธิบายว่า ถ้าเรามีเพศกำเนิด (เกิดมา) เป็นชาย หรือเป็นเพศไหนก็ได้ แต่มีบุคลิกที่สะท้อน ‘ความเป็นชาย’ (masculine traits) เช่น มีความเป็นผู้นำ แข็งแรง หรือกล้าหาญ เรามีแนวโน้มจะประเมินค่าไอคิวของตัวเองให้เกินความเป็นจริง.การศึกษาเดียวกันยังบอกด้วยว่า self-esteem หรือการเห็นคุณค่าในตัวเอง ก็เป็นอีกส่วนสำคัญที่จะทำให้มองว่าตัวเราฉลาดหรือไม่ฉลาดด้วย โดยพบว่าผู้ชายในการศึกษานี้มี self-esteem มากกว่าผู้หญิง.แต่ใครจะมองว่าตัวเองเก่งแค่ไหน ก็ยังไม่น่าสนใจเท่ากับเมื่อเรามองหรือ ‘เชื่อ’ อย่างนั้นแล้วมันส่งผลอย่างไรกับเราบ้าง.สำหรับคนดูหนัง ภาพของตัวละครที่ทำหน้าตามุ่งมั่น แล้วรวมพลัง ตั้งใจ บอกตัวเองว่า ‘ฉันทำได้สิ...คนอย่างฉันต้องทำได้’ เวลาเจออุปสรรค คือฉากที่เราเห็นกันบ่อยๆ หลักจิตวิทยาที่บอกตัวเองว่าต้องทำได้ แล้วสุดท้ายก็ทำได้จริงๆ คือเหตุผลว่าทำไม ‘ความเชื่อ’ ที่แต่ละเพศมีต่อความฉลาดหรือความสามารถของตัวเองถึงเป็นเรื่องสำคัญ.ในทางตรง เมื่อผู้หญิงไม่ค่อยเชื่อมั่นในความสามารถของตัวเอง ก็มีโอกาสที่พวกเธอจะเลือกทำสิ่งที่ท้าทายน้อยกว่า เช่น เลือกวิชาเรียนที่ง่ายกว่า (เป็นเหตุผลว่าทำไมเรามีผู้หญิงในสายงานวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ และเทคโนโลยีน้อย) หรือไม่กล้าสมัครงานในตำแหน่งสูงๆ ที่พวกเธอคิดว่าจะทำไม่ได้ ทั้งที่จริงๆ มีคุณสมบัติพร้อม.ในทางอ้อม หากอ้างอิงจากงานวิจัย Sex Differences in Parental Estimates of Their Children's Intelligence โดย Adrian Furnham และ Lucinda Gasson ซึ่งพบว่าพ่อแม่ส่วนใหญ่มักเชื่อว่าลูกชายฉลาดกว่าลูกสาว ก็ทำให้นึกต่อไปได้ทันทีว่า ถ้าเชื่อแบบนี้ โอกาสที่พ่อแม่จะทุ่มเทสนับสนุนเรื่องการศึกษา หากิจกรรมเสริมทักษะ ที่เปิดโอกาสให้เด็กผู้หญิงได้ค้นหา และพัฒนาตัวเองก็น่าจะน้อยลงไปด้วย.นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมการสนับสนุน ส่งเสริม ให้กำลังใจ และการแสดงออกว่าเชื่อมั่นในศักยภาพของผู้หญิงในทุกช่วงวัยถึงสำคัญมาก และเป็นเหตุผลว่าทำไมผู้หญิงถึงยิ่งต้องเชื่อมั่นตัวเอง...เพราะศักยภาพและความสามารถน่ะ คุณมีอยู่ในตัวแล้ว แค่ไม่เชื่อว่าตัวเองมีก็เท่านั้น!&nbsp;อ้างอิง: https://neurosciencenews.com/male-female-iq-20228/?fbclid=IwAR3omXSgEjcVvd68kNbFlv5ZKCJ47KZAqw-JT9GsFum3w1BUtUy2-19S7c4: https://www.frontiersin.oFrontiers | Gender Differences in Self-Estimated Intelligence: Exploring the Male Hubris, Female Humility Problemrg/articles/10.3389/fpsyg.2022.812483/full: https://link.springer.com/article/10.1023/A:1018772830511

นักศึกษาหญิงชาวอิหร่านถูกเจ้าหน้าที่จับกุม หลังจากเธอตัดสินใจถอดฮิญาบ ปล่อยผมสยาย และเปลื้องผ้าให้เหลือแต่ชุดชั้นใน เดินไปรอบๆ มหาวิทยาลัยของเธอ เพื่อประท้วงต่อต้านกฏบังคับอันเคร่งครัดที่ให้ผู้หญิงทุกคนในประเทศแต่งกายอย่างมิดชิดตั้งแต่หัวจรดเท้าตามหลักศาสนาอิสลาม

นักศึกษาหญิงชาวอิหร่านถอดฮิญาบ เปลื้องผ้าประท้วง ในมหาวิทยาลัย เพื่อต่อต้านกฏที่บังคับให้ผู้หญิงต้องปกปิดทั้งร่างกายและเส้นผม จนถูกจับกุมและยังไม่รู้ว่าตอนนี้เธออยู่ไหน

เมื่อถึงช่วงหนึ่งในชีวิต การไม่สามารถมีลูกได้อาจกลายเป็นบาดแผลสำหรับผู้หญิงหลายคน และมิเชลล์ โหย่ว (Michelle Yeoh) ก็คือหนึ่งในนั้น โดยเธอเพิ่งออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ในรายการ BBC Woman’s Hour ว่าเธออยากมีลูกมาตลอด แต่ก็ไม่สามารถมีได้ เธอเข้าปรึกษาแพทย์และรับการรักษาภาวะมีบุตรยาก แต่ก็ยังไม่สำเร็จ และนั่นก็ทำให้เธอรู้สึกว่าแม้ตัวเองจะประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน แต่ในด้านความเป็นผู้หญิง เธอกลับล้มเหลว

Michelle Yeoh เปิดเผยว่าการไม่สามารถมีลูกได้
คือความเจ็บปวดใหญ่ในชีวิต

ด้วยสังคมชายเป็นใหญ่ที่ชัดเจนและพลังแรงในเกาหลีใต้ ทำให้ผู้หญิงสาวหลายคนในประเทศพากันใช้ชีวิตตามวิถี 4 No หรือ 4B Movement ที่เป็นการหันหลังให้กับบทบาทของเพศหญิงตามแบบที่สังคมกำหนด ซึ่งก็ได้แก่ ‘biyeonae’ (ไม่ออกเดต) ‘bisekseu’ (ไม่มีเซ็กซ์) ‘bihon’ (ไม่แต่งงาน) และ ‘bichulsan’ (ไม่มีลูก) แต่ล่าสุดนี้ ดูเหมือนสาวอเมริกันก็เริ่มจะหันเข้าสู่วิถี 4B กันบ้างแล้ว หลังจากที่โดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นสัญญาณของการก้าวถอยหลังเรื่องสิทธิสตรีไปโดยปริยาย


MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Mind

งานวิจัยเผย ผู้หญิงมักประเมินตัวเองต่ำไป ขณะที่ผู้ชายมักมั่นใจว่าฉลาดกว่าที่เป็น

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

WASOONTHARA

RELATED

HOT TOPICS