Body Dysmorphic Disorder (BDD) หรือโรคคิดไปเองว่าตัวเองน่าเกลียดอาจส่งผลเป็นซึมเศร้าหรือฆ่าตัวตายได้

อาการบ้าหรือกลัวการส่องกระจก อาจเป็น "โรคคิดว่าตัวเองน่าเกลียด"

โรคคิดไปเองว่าตัวเองน่าเกลียด หรือ Body Dysmorphic Disorder (BDD) เป็นโรคอย่างหนึ่งซึ่งซีเรียสจริงจังและอาจส่งผลถึงขั้นซึมเศร้าหรือฆ่าตัวตายได้ อาการอย่างหนึ่งที่บ่งบอกได้ว่าใครกำลังเข้าข่าย BDD มีความเกี่ยวเนื่องกับกระจกหรือวัสดุที่สะท้อนได้ ซึ่งจะมีทั้งผู้ป่วยที่ติดการส่องกระจกเป็นเวลานานๆ และผู้ป่วยที่กลัวการเห็นตัวเองในกระจกหรือวัสดุที่สะท้อนเห็นตัวเองสำหรับอาการบ้าส่องกระจก (Somatoform disorders) อาจฟังดูขำๆ ถ้านึกภาพเพื่อนสักคนหรือตัวเราเองที่เห็นกระจกหน่อยเป็นไม่ได้ ต้องหันไปส่องเพื่อเช็คว่าตัวเองดูดีรึเปล่า แต่สำหรับคนที่ป่วยเป็น BDD อาการจะร้ายแรงกว่านั้น&nbsp;ในงานวิจัยจากประเทศอังกฤษที่ศึกษาจากผู้ป่วย 10 คน มีคนหนึ่งที่เคยใช้เวลาส่องกระจกอยู่นานถึง 11 ชั่วโมง และนั่นก็ไม่ได้นำมาซึ่งความสุข ตรงกันข้ามกลับทำให้ตัวเองยิ่งรู้สึกต่ำต้อยด้อยค่า แต่ก็ยังต้องส่องมันต่อไป ซึ่งนักวิจัยมองว่าแรงจูงใจที่ทำให้พวกเขาส่องกระจกนั้นทั้งซับซ้อนและชวนสับสน บางกรณีก็เกิดจากมาโซคิสม์หรือการเสพติดความเจ็บปวดด้วย&nbsp;อีกด้านหนึ่งคืออาการกลัวการส่องกระจก (Spectrophobia) ที่ผู้ป่วยจะกลัวจนต้องพยายามหลีกเลี่ยงการส่องกระจกทุกวิถีทาง จริงๆ แล้ว Spectrophobia แบ่งออกเป็น 3 แบบด้วยกัน คือ&nbsp;<ol><li>กลัวการเห็นตัวเองในกระจก ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับ BDD&nbsp;</li><li>กลัวเงาสะท้อน ไม่ว่าจะเป็นเงาของอะไรก็ตาม ไม่จำเป็นต้องเป็นเงาตัวเองก็ได้</li><li>กลัวเห็นผีในกระจก โดยแต่ละแบบส่งผลร้ายแรงต่างกันขึ้นอยู่กับตัวบุคคล บางเคสอาจกลัวจนถึงขั้นออกอาการมือสั่น ปากสั่น หายใจถี่ เหงื่อออก ฯลฯ</li></ol>สำหรับใครที่ป่วยเป็น BDD เพียงคำยืนยันของคนรอบตัวว่า “เธอดูดีแล้ว” ไม่สามารถช่วยพวกเขาได้ ต้องเป็นหน้าที่ของจิตแพทย์ในการบำบัดรักษา โดยภาควิชาจิตเวชศาสตร์ รพ. รามาธิบดี ระบุว่าคนที่ป่วยเป็น BDD ถ้าไม่ได้รับการบำบัดรักษาจะนำไปสู่การสร้างความรุนแรงกับร่างกายตัวเอง เช่นการศัลยกรรมอย่างหนัก จนถึงการใช้สารกระตุ้นเพื่อบิลด์ร่างกายให้เป็นไปตามที่ต้องการ ทั้งอาจนำไปสู่ eating disorder และ ปัญหาสุขภาพจิตอื่นๆ ด้วยความยากคือ ยังไม่ค่อยมีคนที่พบแพทย์เพราะอาการนี้โดยตรง แต่มักมาพร้อมกับโรควิตกังวลหรือโรคซึมเศร้า โดยมี BDD เป็นส่วนประกอบหนึ่ง ทีนี้ในเอกสารของภาควิชาเลยได้เสนอคำถามคัดกรองเบื้องต้นไว้ดังนี้<ol><li>คุณเคยคิดมากเกี่ยวกับรูปลักษณ์ตัวเองหรือไม่</li><li>มีส่วนไหนของร่างกายที่คุณรู้สึกว่าทำให้คุณดูน่าเกลียดจนไม่มีใครคบหรือไม่</li><li>ในแต่ละวันคุณใช้เวลาเท่าไหร่ในการคิดเกี่ยวกับส่วนนั้น</li><li>คุณตรวจสอบส่วนที่ไม่ชอบวันละกี่ครั้ง ผ่านกระจกหรือการสัมผัสมัน</li><li>คุณกังวลเกี่ยวกับส่วนนั้นเวลาต้องเข้าสังคมบ่อยแค่ไหน มันทำให้คุณหลีกเลี่ยงการเข้าสังคมหรือไม่</li><li>ส่วนนั้นส่งผลต่อการนัดเดตหรือความสัมพันธ์กับเพื่อนหรือไม่</li><li>ส่วนนั้นส่งผลต่อความสามารถในการทำงาน การเรียน หรือบทบาทหน้าที่หรือไม่</li></ol>จากคำถามเบื้องต้นเหล่านี้ ใครคิดว่าตัวเองเข้าข่าย ลองพบแพทย์ได้นะ อ้างอิง : <a href="https://med.mahidol.ac.th/ramamental/sites/default/files/public/pdf/Overview%20of%20body%20dysmorphic%20disorder.pdf" rel="noopener noreferrer" target="_blank">med.mahidol&nbsp;</a>, <a href="https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/25947231/" rel="noopener noreferrer" target="_blank">pubmed</a> , <a href="https://www.verywellmind.com/what-is-the-fear-of-mirrors-2671890" rel="noopener noreferrer" target="_blank">verywellmind</a>

เป็นเรื่องธรรมดาที่การเลิกราใดๆ ย่อมทิ้งร่องรอยบางอย่างให้กับคนในความสัมพันธ์นั้นๆ ไว้เสมอ และความรู้สึกที่ท่วมท้นมากมายหลังจากนั้นก็ยังอาจสร้างความเสียศูนย์ให้กับชีวิตที่เหลือของเราไปอีกนานเท่าไรก็ไม่รู้  

Don’t look back in anger? ‘เพราะฉันเจ็บ ฉันจึงต้องด่า’ ชวนทำความเข้าใจจิตวิทยาของความเกรี้ยวกราด และการก่นด่าที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง ‘ความโกรธ’ ของผู้หญิง

ถึงแม้ว่าทุกวันนี้ในหลายๆ สังคมจะค่อนข้างเปิดกว้างเรื่องความหลากหลายของอัตลักษณ์ทางเพศ ไปจนถึงการสมรสอย่างเท่าเทียมกันของคนทุกเพศมากขึ้น แต่กระแสหนึ่งจากโลกโซเชียลฯ เมื่อไม่นานมานี้เองที่หลายคนพูดถึงการแต่งงานแบบที่เรียกว่า Lavender Marriage จนกลายเป็นเทรนด์ใหม่ของความสัมพันธ์ในยุคนี้ ซึ่งเราว่าทั้งน่าสนใจและน่าตั้งคำถามว่าเพราะเหตุใดคนรุ่นใหม่จำนวนหนึ่งถึงกลับไปให้คุณค่าและโอบรับกับสิ่งนี้กันนะ 

Lavender Marriage เมื่อคนเพศหลากหลายเลือกแต่งงานตามเพศกำเนิด
ไม่ใช่แค่เพื่อปิดบังความเควียร์ 
แต่ยังเป็น ‘ทางเลือก’ ใหม่ๆ ที่อาจตอบโจทย์รูปแบบความสัมพันธ์ในโลกยากๆ ใบนี้

มีคนจำนวนมากที่ถูกคนหลงตัวเองเข้ามาควบคุมชีวิตโดยไม่รู้ตัว เมื่อรู้ตัวอีกที ตัวเองก็เจ็บปวดบ่อยๆ แต่หันไปทางไหนก็เจอแต่เขาคนนั้นและหนีไม่พ้นการโทษตัวเอง ซึ่งสถานการณ์ทำนองนี้นับเป็นการถูกล่วงละเมิดอย่างหนึ่ง ในชื่อ Narcissistic Abuse

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Mind

อาการบ้าหรือกลัวการส่องกระจก อาจเป็น "โรคคิดว่าตัวเองน่าเกลียด"

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

WANNIPA JUNPUDSA

RELATED

HOT TOPICS