ภาวะนี้จะหายดีก็ต่อเมื่ออาการเสพติดความผูกพันเดิมๆ หมดไปแล้วเท่านั้น

อกหักเป็นเรื่องของสารในสมอง และกฎห้ามติดต่อ 90 วันอาจช่วยได้

การเลิกรากันนั้นไม่เคยง่าย และนักวิชาการหลายคนก็สนใจสภาวะนี้จนต้องทำการศึกษาอย่างจริงจัง เช่นว่าเมื่อเลิกกันแล้ว ทำไมบางคนตัดใจไม่ได้แถมพยายามทำทุกทางให้กลับไปคืนดีกัน&nbsp;เฮเลน ฟิชเชอร์ (Helen Fisher) นักมานุษยวิทยาชาวอเมริกัน ผู้ลงลึกเรื่องความรักความสัมพันธ์ เรียกช่วงเวลาหลังเลิกราว่าเป็นช่วงแห่ง ‘การประท้วง’ ซึ่งในระหว่างนั้น ฝ่ายที่ถูกปฏิเสธจะหมกมุ่นอยู่กับการเอาชนะอีกฝ่ายให้จงได้ เฮเลน ฟิชเชอร์ และทีมวิจัย ศึกษาจากคน 15 คนที่เพิ่งถูกคนรักปฏิเสธ โดยให้พวกเขาเข้าเครื่องสแกนสมองแบบเอ็มอาร์ไอ (MRI) แล้วให้พวกเขาดูภาพอดีตคนรักที่ต่อให้เลิกกันไปพักหนึ่งแล้ว ภาพสแกนทำให้เห็นว่าสมองส่วนเหล่านี้เปิดทำงานในทันที ได้แก่ส่วนที่ควบคุมความรู้สึกได้รับและสูญเสีย ส่วนที่ควบคุมอารมณ์และความหลงใหล และส่วนที่เกี่ยวข้องกับความรักโรแมนติกโดยตรง ซึ่งเธอสรุปผลการตรวจสอบนี้ว่า “ต่อให้ถูกปฏิเสธคุณก็ไม่อาจจะหยุดรักเขา แต่กลับรักยิ่งกว่าเดิมด้วยซ้ำ”&nbsp;นอกจากนี้ยังพบสารสื่อประสาทนอร์อิพิเนฟริน (Norepinephrine) ที่สูงขึ้นในคนอกหัก โดยสารนอร์อิพิเนฟรินนี้ส่งผลต่อระดับความเครียด ภาวะซึมเศร้า และจะกระตุ้นให้ใครคนนั้นต้องการความช่วยเหลือ นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมในช่วงอกหัก ผู้คนจะยิ่งดราม่าเป็นพิเศษและทำทุกทางเพื่อจะกลับไปรักกันให้ได้&nbsp;เธอเปรียบเทียบให้เห็นภาพชัดขึ้นด้วยการยกตัวอย่างพฤติกรรมของลูกหมา “ภาวะอกหักก็เหมือนกับเวลาที่ลูกหมาโดนแยกออกจากแม่ทั้งที่ยังไม่หย่านม แล้วจับมันไปไว้ตัวเดียวในห้อง มันมักจะวิ่งไปรอบๆ เป็นวงกลม ทั้งเห่าและครางหงิงๆ ไม่หยุด” และภาวะนี้จะหายดีก็ต่อเมื่ออาการเสพติดความผูกพันเดิมๆ หมดไปแล้วเท่านั้นและเธอก็เสนอว่าวิธีที่ดีที่สุดในการออกจากสภาวะนี้ก็คือการลองคบคนใหม่ที่จะทำให้ลดความรู้สึกอยากกลับไปหาคนเก่าได้เร็วที่สุด ทั้งยังเสนอ ‘กฎห้ามติดต่อ’ ที่จะต้องทิ้งข้าวของที่มีความทรงจำร่วมกัน ไม่รับสาย ไม่เจอหน้า และหยุดดูโซเชียลมีเดียของเขาโดยสิ้นเชิง ซึ่งจากผลการศึกษาของเธอก็พิสูจน์ว่าต้องอยู่ในกฎนี้อย่างเคร่งครัดอย่างน้อยก็ 90 วัน ถึงจะหลุดจากสภาวะเสพติดความผูกพันเก่าๆ ได้&nbsp;ไหนใครอกหักอยู่ ลองใช้กฎข้อนี้ดูก็ได้นะ&nbsp;.อ้างอิง : <a href="https://www.bbc.com/future/article/20200608-why-is-it-so-hard-to-forgive-an-ex" rel="noopener noreferrer" target="_blank">bbc</a>

ปัจจุบันยังมีอีกหนึ่งคำถามที่อาจถูกหยิบยกขึ้นมาในบทสนทนาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ นั่นคือ “คุณมี Attachment Style แบบไหน?” เพราะคำตอบที่ได้จากคำถามนี้อาจเป็นเหมือนเครื่องมือที่ช่วยให้เราเข้าใจมากขึ้น ไม่เพียงแค่ว่า อีกฝ่ายเป็นคนแบบใดในความสัมพันธ์ แต่ยังทำให้เราเข้าใจตัวเองมากขึ้นในความสัมพันธ์นั้นๆ ด้วย

“คุณมี Attachment Style แบบไหน?” ทำความรู้จัก ‘4 รูปแบบความผูกพัน’ ที่ช่วยให้เราได้ทบทวนตัวเอง และเข้าใจอีกฝ่าย เพื่อดูแลความสัมพันธ์ให้ดียิ่งกว่าเดิม

จากผลิตภัณฑ์เสริมความงาม จนถึงเสื้อผ้าแฟชั่น และของแต่งบ้านสุดเก๋ ตอนนี้ Harry Styles เริ่มต้นเจาะตลาดผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาวะทางเพศด้วยสองไอเท็มล่าสุดกับไลน์ Pleasing Yourself ไวเบรเตอร์สองหัว และเจลหล่อลื่นซิลิโคนพรีเมียม ที่ร่วมพัฒนากับนักเพศวิทยา Zoe Ligon กับความตั้งใจให้คนสร้างความสุขด้วยตัวเอง โดยไม่ตัดสินและไม่รู้สึกผิด ภายใต้สโลแกน ‘Please Yourself Like You Mean It'  หรือ 'โปรดมอบความสุขให้ตัวเองอย่างตั้งใจ'

‘Please Yourself Like You Mean It' 
Harry Styles กับการออกเซ็กซ์ทอย Pleasing Yourself ที่อยากให้ ‘เซ็กซ์’ เป็นพื้นที่แห่งการเข้าใจตัวเอง 

อาจเป็นคำถามในใจของใครหลายคนเมื่อเห็นดีว่าตัวแม่อยู่บนเวที ไม่ว่าจะเป็น Beyonce ที่มี Sasha Fiece เป็นสาวแซ่บบนเวที, Adele ที่มี Sasha Carter โดยหยิบ Sasha ของ Beyonce มาผสมกับนักร้องคันทรี่อย่าง Jane Carter ช่วยเพิ่มความมั่นใจขณะร้องเพลง หรือ Lisa ที่มีอัตตาตัวตนมากถึง 5 คน ที่พกพลังความเฟียซมาแบบเต็มเปี่ยมในหลายสไตล์ สาวๆ เหล่านี้มีอาวุธในการแสดงความมั่นใจที่เหมือนกัน นั่นก็คือ ‘Alter Ego’ หรือ อีก ‘ตัวตนหนึ่ง’ นั่นเอง

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Mind

อกหักเป็นเรื่องของสารในสมอง และกฎห้ามติดต่อ 90 วันอาจช่วยได้

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

WANNIPA JUNPUDSA

RELATED

HOT TOPICS