แมรี เคต คอร์เน็ตต์ (Mary Kate Cornett) คือนักศึกษาวัย 19 ปีจากมหาวิทยาลัยมิสซิสซิปปี ที่ใช้ชีวิตอยู่ดีๆ ก็มีคนดังในโลกกีฬา เอาเธอไปพาดพิงว่าเธอมีอะไรกับพ่อของแฟนตัวเอง

Mary Kate Cornett หญิงสาวที่ตกเป็นเหยื่อของ ‘ข่าวลือ’ และวัฒนธรรม ‘คลั่งความบริสุทธิ์’ ของอเมริกา

ปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน อาจจะเรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่บัดซบที่สุดของ แมรี เคต คอร์เน็ตต์ (Mary Kate Cornett) นักศึกษาวัย 19 ปีจากมหาวิทยาลัยมิสซิสซิปปี เมื่อเธอใช้ชีวิตอยู่ดีๆ ก็มีคนดังในโลกกีฬา เอาเธอไปพาดพิงว่าเธอมีอะไรกับพ่อของแฟนตัวเอง จนถูกซุบซิบนินทา หนักไปกว่านั้นคือถึงขั้นมีคนส่งข้อความมาคุกคามเธอหลายร้อยข้อความ จนเธอต้องเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ ย้ายออกจากหอพักในมหาวิทยาลัยเพื่อไปเก็บตัวที่อื่นให้พ้นจากสายตาของคนรอบตัว&nbsp;ข่าวลือที่ทำชีวิตของเธอวุ่นวาย ปั่นป่วนนี้เกิดขึ้นแค่จากความคึกคะนอง พูดสนุกปากของ แพต แม็กอาฟี (Pat McAfee) อดีตนักกีฬาอเมริกันฟุตบอลลีก NFL ที่ภายหลังผันตัวมาจัดรายการวิเคราะห์กีฬาช่อง The Pat McAfee Show ออกฉายทางช่องกีฬาชื่อดังอย่าง ESPN และโดยมากแล้ว สิ่งที่แม็กอาฟีเล่าในรายการมักเป็นเรื่องความเคลื่อนไหวในแวดวงกีฬาอเมริกันฟุตบอลเป็นหลัก กระทั่งเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้า ที่เขาเกริ่นถึงการคัดเลือกตัวผู้เล่นหน้าใหม่เข้าลีก NFL ด้วยการเล่าถึง ‘ข่าวลือ’ ที่เขาได้ยินมาจากเหล่านักศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัย ว่าด้วยเด็กสาวคนหนึ่งที่นอกใจแฟนหนุ่มของเธอ ไปมีอะไรกับพ่อของเขาแทน (!!)&nbsp;“มีรายงานจากทุกคนบนอินเตอร์เน็ตเลย ว่าคุณพ่อแอบไปมีเซ็กซ์กับแฟนของลูกชายตัวเอง” แม็กอาฟีบอกในรายการ “แล้วกลายเป็นเรื่องใหญ่โตแล้ว เป็นสถานการณ์ยอดแย่เลยจะบอกให้”และแม้แม็กอาฟีจะไม่ได้เอ่ยชื่อใครเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะตัวหญิงสาวหรือแฟนหนุ่ม แต่ทันทีที่เขาตัดคลิปช่วงนั้นแชร์ลงแพล็ตฟอร์ม X ของเขาที่มียอดผู้ติดตามว่า 3.2 ล้านคน พร้อมคำบรรยายว่า “เกิดอะไรขึ้นที่ โอเล่ มิสส์ (ชื่อลำลองของมหาวิทยาลัยมิสซิสซิปปี)” พร้อมอีโมจิหน้าหัวเราะ คลิปที่ว่าก็กลายเป็นไวรัล มีคนพยายามถามหาว่าแม็กอาฟีเล่าเรื่องของใคร หลายคนขุดเอาชื่อนักกีฬาที่มีสิทธิเข้ารับการคัดเลือก NFL มากางดูเพื่อเดาว่าใครเป็นต้นเรื่อง และหวยก็ลงที่คอร์เน็ตต์ ที่แม้ไม่มีหลักฐานอะไร แต่อินเตอร์เน็ตก็ปั่นจนมีคนเชื่อเป็นตุเป็นตะว่า เธอนอกใจแฟนหนุ่มนักกีฬาไปมีเซ็กซ์กับพ่อของเขาคอร์เน็ตต์เล่าว่า เธอไม่รู้เรื่องข่าวลือนี้จนกระทั่งพบว่าคนในมหาวิทยาลัยเริ่มมองเธอแปลกๆ จนไปเห็นชื่อตัวเองติดเทรนด์บน X ทั้งมีคนโพสต์รูปและข้อมูลส่วนตัวของเธอชัดเจน แน่นอนว่าคอร์เน็ตต์ออกมาปฏิเสธอย่างรวดเร็ว แต่ก็เปล่าประโยชน์ ไม่มีอะไรหยุดยั้งข่าวลือที่สะพัดราวกับไฟลามทุ่งได้ ระดับที่ตำรวจระบุว่าเธอตกอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงและต้องอพยพจากหอพักในมหาวิทยาลัยเพราะถูกคนแปลกหน้าเข้ามาคุกคาม ขณะที่โซเชียลมีเดียส่วนตัวของเธอก็ถูกถล่มเละ มีคนเรียกเธอด้วยคำหยาบคายไปจนถึงไล่ให้ไปตาย หนักกว่านั้นคือมีคนส่งข้อความลักษณะเดียวกันนี้ไปหาคุณตาวัย 89 ปีของเธอด้วย แถมบ้านแม่ของคอร์เน็ตต์ก็มีคนไปบุกด้อมๆ มองๆ จนครอบครัวของเธอไม่เป็นอันทำอะไร&nbsp;“การที่ชีวิตพังเพราะคนที่ไม่รู้จักคุณด้วยซ้ำนี่เป็นความรู้สึกที่แย่ที่สุดในโลกเลยจริงๆ นะ” คอร์เน็ตต์บอก “มันทำให้คุณรู้สึกโดดเดี่ยว เป็นประสบการณ์ที่แย่เป็นบ้าเลยจริงๆ”ทั้งเธอ แฟนหนุ่มและพ่อของแฟนเธอต่างตกใจสุดขีดกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น “เกินจะเชื่อจริงๆ ข่าวมันสะพัดไปเร็วมาก” เธอบอก “ฉันเครียดจัด รู้สึกหมดเรี่ยวหมดแรงและโดดเดี่ยวสุดๆ เพราะมีคนมากมายที่มารุมเกลียดฉันในเรื่องที่ฉันไม่รู้ไม่เห็นด้วยซ้ำ”คอนสแตนซ์ กราดี (Constance Grady) นักเขียนเผยแพร่บทความของเธอลงสำนักข่าว Vox โดยเธอชี้ว่า นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของข่าวลือที่ทำลายชีวิตคนคนหนึ่ง หากแต่มันแนบชิดมากับแนวคิด ‘ความบริสุทธิ์ผุดผ่อง’ (Purity culture) ด้วย ทั้งนี้ แนวคิดแบบ Purity culture คือการเน้นย้ำว่าผู้หญิงต้องรักนวลสงวนตัวและต้องไม่มีเพศสัมพันธ์ก่อนวันแต่งงาน การที่ผู้หญิงมีความต้องการทางเพศถือเป็นความผิดหรือเป็นเรื่องบาป พวกเธอต้องระวังเรื่องกิริยามารยาท ต้องระวังเรื่องการแต่งตัวไม่ให้ดู ‘ยั่วยวน’ ด้านหนึ่ง มันจึงเป็นแนวคิดที่กดผู้หญิงในอเมริกามาเนิ่นนานกว่าที่หลายคนคิด กราดีอธิบายว่า ที่ผ่านมาสังคมอเมริกันหมกมุ่นอยู่กับความบริสุทธิ์ทางเพศของผู้หญิง ในรายการโทรทัศน์หรือวิทยุเมื่อยุค 2000s หรือคือเมื่อสองทศวรรษก่อน ที่เรือนร่างหรือความเป็นผู้หญิงมักถูกนำมาเป็น ‘ความบันเทิง’ ของคนดู ไม่ว่าจะเป็นการเอาเรื่องซุบซิบ, ข่าวลือของคนดังหญิงมาเล่าให้กลายเป็นเรื่องตลก ที่บ่อยครั้งก็นำไปสู่ความรุนแรงหรือการถูกคุกคาม มิหนำซ้ำ การหยิบเอาเรื่องเหล่านี้มาเล่า -โดยส่วนมากแล้วจากเจ้าของรายการผู้ชายอย่างแม็กอาฟี- ก็มักเล่าผ่านท่าทีหยาบคายก้าวร้าวด้วยสิ่งที่น่าจับตาคือ ช่องรายการกีฬาที่มีกลุ่มผู้ฟังเป็นผู้ชาย มักใช้เรื่องราวทางเพศของผู้หญิงมาเล่าในฐานะเรื่องซุบซิบหรือเป็นแง่มุมหนึ่งของความบันเทิง กราดีชี้ว่า ที่ผ่านมา คนดังผู้หญิงหลายคนมักตกเป็นเป้าของการพูดถึงอยู่เนืองๆ มีทั้งที่ระบุชื่อและพูดถึงลอยๆ โดยไม่ชี้ชัดว่าเป็นใคร แต่จุดร่วมอย่างหนึ่งคือพวกเขามักหยิบเรื่องราวของหญิงสาวเหล่านี้มาเล่าในท่าทีขบขันหรือทำให้พวกเธออับอาย และบรรยากาศเหล่านี้ก็ยิ่งโหมรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อสื่อไม่ได้อยู่แค่ในโทรทัศน์ หากแต่ยังอยู่ในพื้นที่อินเตอร์เน็ตที่ยากจะควบคุม เช่น X ซึ่งแค่แม็กอาฟีโพสต์คลิปดังกล่าวสั้นๆ ก็เรียกความสนใจให้คนไปขุด เดากันสะเปะสะปะว่าใครคือเจ้าของเรื่อง และหวยก็มาออกที่คอร์เน็ตต์กราดีชี้ว่า สิ่งที่แนบเป็นเนื้อเดียวกันกับความบริสุทธิ์ที่ชาวอเมริกัน โดยเฉพาะฝั่งขวา หมกมุ่น คือการพูดถึงเรื่องเหล่านี้ด้วยท่าทีหยาบคายเถื่อนถ่อยและหยามหมิ่น “พวกเขาบีบให้ผู้หญิงต้องบริสุทธิ์ตลอดเวลา ไม่อย่างนั้น พวกเธอก็จะถูกนำมาพูดถึงด้วยท่าทีหยาบคายและทำราวกับพวกเธอเป็นวัตถุแบบนี้” เธอเขียน&nbsp;สิ่งที่กราดีพยายามชี้ให้เห็นคือ เหล่าชายอนุรักษนิยมจำนวนมากน้อยหมกมุ่นอยู่กับความบริสุทธิ์ของเพศหญิง มากไปกว่านั้น พื้นฐานหนึ่งคือพวกเขามักโจมตีหญิงสาวที่มีคนรัก ความบริสุทธิของพวกเธอกลายเป็นสิ่งที่ถูกหยิบมาเป็นประเด็นและถูกจับตาตัดสิน ยิ่งกรณีของคอร์เน็ตต์ การที่เธอเป็นเด็กสาวหน้าตาดี มีแฟนหนุ่มในรั้วมหาวิทยาลัย ก็กลายเป็นวัตถุดิบให้พวกเขาเอามาฝอยในรายการ แม้จะไม่มีการเอ่ยชื่อ แต่การเล่าเรื่องของหญิงสาวที่ไปมีอะไรกับพ่อของแฟน ก็ดูเป็นการหยามเหยียดผู้หญิงและสนองแฟนตาซีในหัวของพวกเขาด้วยกราดียังพิจารณาว่า สิ่งที่น่าผิดหวังคือเมื่อหลายปีก่อน สังคมอเมริกันเคยผ่านวาทกรรมใหญ่อย่าง #MeToo ที่พูดถึงการปลดแอกความกดดันทางเพศที่ผู้หญิงต้องแบกมาเนิ่นนานแล้ว แต่เวลานี้ เรายังกลับได้ยินการเผยแพร่ข่าวลือมั่วๆ เพื่อสนองเรื่องราวทางเพศของผู้ดำเนินรายการชายจนมีผู้ได้รับผลกระทบ ซึ่งสิ่งนี้มิใช่อะไรอื่น นอกเหนือไปเสียจากว่า ความเชื่อเรื่อง “ผู้หญิงเป็นวัตถุ” ที่แนบชิดมากับแนวคิดแบบ Purity culture ยังฝักรากลึกอยู่ในอเมริกา ที่หากเด็กสาว (หน้าตาดี) สักคนมีแฟน พวกเธอก็พร้อมจะถูกตีตราว่า “ไม่บริสุทธิ์” และกลายเป็นเหยื่อของข่าวลือ ของการเต้าข่าวเพื่อเสริมสร้างแฟนตาซีโดยปราศจากความรับผิดชอบ &nbsp;หรือต่อให้มองพ้นไปจากวัฒนธรรมที่หมกมุ่นต่อความบริสุทธิ์ของผู้หญิง กรณีของคอร์เน็ตต์ยังฉายภาพความไม่รับผิดชอบของสื่อ ที่กระจายข่าวลือจนมีคนได้รับความเดือดร้อน ทั้งยังฉายภาพความบ้าคลั่งของโลกอินเตอร์เน็ตที่พร้อมจับแพะชนแกะ โยงข่าวลือเพื่อหาเหยื่อสักคน และยิ่งหากเป็นประเด็นเกี่ยวกับเรื่องเพศ เหยื่อที่ว่านั้นก็มักเป็นผู้หญิง ที่ก็ต้องดิ้นรนยืนหยัดต่อข้อเท็จจริงด้วยตัวเอง ในเรื่องที่พวกเธอไม่ได้เป็นคนเริ่มหรือไม่ได้ก่อ เสมอมาและเสมอไปอ้างอิง<a href="https://www.vox.com/culture/407079/pat-mcafee-espn-ole-miss-controversy-mary-kate-cornett" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.vox.com/culture/407079/pat-mcafee-espn-ole-miss-controversy-mary-kate-cornett</a> &nbsp;<a href="https://theconversation.com/the-impact-of-christian-purity-culture-is-still-being-felt-including-in-britain-182907" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://theconversation.com/the-impact-of-christian-purity-culture-is-still-being-felt-including-in-britain-182907</a>&nbsp;<a href="https://www.nbcnews.com/news/us-news/university-mississippi-student-speaks-about-viral-rumor-rcna199330" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.nbcnews.com/news/us-news/university-mississippi-student-speaks-about-viral-rumor-rcna199330</a>&nbsp;<a href="https://www.nytimes.com/athletic/6244679/2025/04/01/mary-kate-cornett-pat-mcafee-the-pulse/" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.nytimes.com/athletic/6244679/2025/04/01/mary-kate-cornett-pat-mcafee-the-pulse/</a>&nbsp;

Tyler Webb เพิ่งยอมรับต่อศาลว่าเขายุยงให้ผู้หญิงคนหนึ่งที่รู้จักกันทางอินเทอร์เน็ตให้ทำร้ายตัวเองอีกทั้งยังสนับสนุนให้เธอพยายามฆ่าตัวตาย แต่ยังนับว่าโชคดีที่เธอทำไม่สำเร็จ ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้ไทเลอร์กลายเป็นคนแรกของประเทศอังกฤษ ที่ถูกดำเนินคดีในข้อหา ‘ยุยงทางออนไลน์ให้ผู้อื่นทำร้ายตัวเองขั้นรุนแรง’ และ ‘ยุยงให้ผู้อื่นฆ่าตัวตาย’ ภายใต้กฎหมายความปลอดภัยทางออนไลน์ปี 2023 

Tyler Webb ชายคนแรกในอังกฤษ
ที่มีความผิดในข้อหา ‘ยุยงทางออนไลน์
ให้ผู้อื่นฆ่าตัวตาย’ หลังจากที่เขายุให้ผู้หญิงที่เจอกันทางเน็ต กรีดข้อมือและผูกคอตาย

เวอร์จิเนีย จุฟเฟร (Virginia Giuffre) คือหนึ่งในเหยื่อคนแรกๆ ที่ออกมาเปิดเผยเรื่องการค้าประเวณีเด็กของนักการเงินผู้มีอิทธิพลอย่างเจฟฟรีย์ เอปสตีน (Jeffey Epstein) เธอระบุว่าเอปสตีนและผู้ช่วยล่อลวงให้เธอค้าประเวณีตอนที่เธออายุเพียง 16 ปี 

Virginia Giuffre หนึ่งในผู้เปิดโปงการค้าประเวณีเด็กของ Jeffrey Epstein จบชีวิตตัวเองในวัย 41 ปี

กรณีของ Gisèle Pelicot หญิงชาวฝรั่งเศสวัย 72 ผู้ถูกสามีซึ่งใช้ชีวิตคู่ด้วยกันมานานกว่า 50 ปี วางยานอนหลับและให้ชายหลายคนร่วมกันล่วงละเมิดทางเพศเธอขณะไม่ได้สติ นับว่าเป็นอีกหนึ่งคดีใหญ่จากเมื่อปีที่แล้วที่สร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วทุกวงการไม่น้อยไปกว่า กรณี #Metoo ที่กระตุ้นให้เกิดการถกเถียงไปทั่วโลก

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Social Issues

Mary Kate Cornett หญิงสาวที่ตกเป็นเหยื่อของ ‘ข่าวลือ’ และวัฒนธรรม ‘คลั่งความบริสุทธิ์’ ของอเมริกา

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MAN ON FILM

RELATED

HOT TOPICS