Ally Louks ดอกเตอร์ผู้ทำธีสิสเรื่อง ‘กลิ่น’ แต่กลับถูกชาวเน็ตชายถล่ม ว่าไม่เหมาะกับโลกวิชาการ ทั้งยังถูกไล่ให้ไปแต่งงานมีลูก

“ตื่นเต้นมากๆ เลยที่จะประกาศว่าสอบธีสิสผ่านฉลุย และจบปริญญาเอกแล้วจ้า”อัลลี ลูคส์ (Ally Louks) ดอกเตอร์หมาดๆ แห่งมหาวิทยาลัยแคมบริดจ์ โพสต์ข้อความด้านบนนี้กับรูปเธอกอดธีสิสเล่มเก่งของตัวเองลงแอพลิเคชั่น x แล้วแนบบทคัดย่อเกี่ยวกับงานวิจัยของเธอที่ชื่อ ‘Olfactory Ethics: The Politics of Smell in Modern and Contemporary Prose’ ซึ่งว่าด้วย ‘กลิ่น’ กับแง่มุมโครงสร้างทางสังคมและการเมือง เบื้องต้น มีคนมาแสดงความยินดีกับเธอมากมาย ไปจนถึงมีคนเข้ามาขอคำแนะนำเรื่องการเรียนต่อและการเลือกหัวข้อวิจัย ซึ่งลูคส์ก็ให้คำแนะนำอย่างตรงไปตรงมาและเป็นประโยชน์กับหลายๆ คนกลับไปแต่แทนที่จะเป็นเรื่องราวดีๆ ที่คนสามารถแสดงความยินดีต่อกันได้อย่างเป็นปกติสุข ในเวลาต่อมา คอมเมนต์ที่ปรากฏอยู่ใต้ข้อความของเธอก็เริ่มเต็มไปด้วยข้อความทำนองว่า “โคตรไร้สาระ เลือกงานวิจัยได้ไร้ประโยชน์สิ้นดี”, “โอ้โห ผู้หญิงในสนามงานวิจัยกับงานวิชาการนี่ไปด้วยกันไม่ได้จริงๆ” ตลอดจน “เป็นหัวข้อที่เปลืองทรัพยากร เวลาและพลังงานของมหาวิทยาลัยไปโดยเปล่าประโยชน์สุดๆ”มากไปกว่านั้น หลายคนยัง ‘ลองเชิง’ เธอด้วยการถามว่า “ไหนลองบอกขั้นตอนการทำวิจัยของคุณให้ฟังหน่อยสิว่าคุณทำจริงๆ หรือเปล่า หรือแค่โม้ไปเรื่อย” และ “ลองอธิบายงานของคุณอย่างรวบรัดที ทำเป็นหรือเปล่า” รวมทั้ง “แค่นี้ก็ทำมาเป็นอวด นึกว่าเก่งมากหรือไงแม่คุณ” ส่วนจำนวนไม่น้อยก็พิมพ์ออกมาตรงๆ ว่า “เอาจริงนะ งานวิชาการนี่ไม่ใช่พื้นที่ของผู้หญิงหรอก” หนักหนาที่สุดคือ ลูคส์บอกว่ามีหลายคนส่งข้อความส่วนตัวมาหาเธอ ทั้งเชิงชู้สาวไปจนถึงข่มขู่และจะทำร้ายร่างกาย (!!)คำถามคือ เป็นไปได้อย่างไร กับการที่หญิงสาวคนหนึ่งประกาศความสำเร็จในที่ทางของตัวเอง และไม่ได้ไปสร้างความเดือดร้อนให้ใครด้วย กลับโดนค่อนขอด ตั้งคำถามกังขาถึงความสามารถ ไปจนถึงการถูกคุกคามทางเพศไม่กี่สัปดาห์หลังจากนั้น ลูคส์เขียนบทความลงเว็บไซต์ New Statesman ซึ่งเป็นเว็บไซต์ว่าด้วยการเมืองและวัฒนธรรมในลอนดอน ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นบนโลกอินเตอร์เน็ตแค่เพราะเธอประกาศว่าเธอเรียนจบปริญญาเอกแล้ว “มีคนแปลกหน้ามาแสดงความยินดีใต้โพสต์ของฉันมากมายเลย อย่างไรก็ตาม โพสต์นั้นมันก็เดินทางไปถึงกลุ่มคนที่ไม่ยินดีกับฉันเท่าไหร่นักด้วย ฉันถูกรุมล้อมด้วยความเห็นที่ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับงานวิจัยของฉัน การเมืองเบื้องหลังเรื่องนี้ และ ‘ชีวิตที่ฉันเลือก’ ของฉันเอง หนึ่งในความเห็นที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดบอกว่า ‘คุณน่าจะใช้เวลาในชีวิตได้มีคุณภาพกว่านี้ด้วยการแต่งงานและมีลูกนะ’&nbsp;“ฉันไม่ได้หวั่นไหวต่อคำวิจารณ์แง่ลบ ที่ว่าการเรียนปริญญาเอกของฉันเป็นการเปลืองเงินและเวลาโดยใช่เหตุ หรือที่ว่าหัวข้องานวิจัยที่เลือกมันง่ายไป หรือดู ‘โว้ก’ ไป และไม่ว่าอย่างไร เราก็ไม่ค่อยได้คำนึงถึงกลิ่นกันอย่างจริงจังนัก และงานวิจัยนี้ก็มีเพื่อพิสูจน์ว่าการครุ่นคิดถึงกลิ่นนั้นเป็นเรื่องจำเป็น อย่างไรก็ตาม ฉันเป็นกังวลเมื่อเห็นว่าความเกลียดชังจากคนจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ชายชาวอเมริกัน ที่มีมุมมองสุดโต่งต่อแวดวงวิชาการและผู้หญิงนั้นมันลึกซึ้งแค่ไหน อย่าง ‘ผู้หญิงคนนี้แหละคือเหตุผลว่าทำไมทุกสิ่งทุกอย่างมันถึงแย่ลง’ หรือ ‘ผู้หญิงคนนี้ได้ปริญญาเอก และเท่าที่ดูจากรูปร่างหน้าตา แม่นี่คงเชื่อว่ามันจะนำพาเธอไปสู่ไลฟ์สไตล์หรูๆ ได้’ อันที่จริง ฉันไม่ควรประหลาดใจอะไรหรอก ก็ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่มาจากการเลือกตั้งเพิ่งให้คำมั่นสัญญาว่าจะยุบกระทรวงศึกษาธิการ อันสะท้อนให้เห็นว่า แวดวงวิชาการมีคุณค่าในสายตาของเขาแค่ไหน”ลูคส์ยังให้สัมภาษณ์ในรายการ As It Happens รายการทอล์คโชว์สัญชาติแคนาดาถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า “เอาจริงๆ นะคะ ฉันสบายดีมาก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ส่งผลอะไรกับฉันหรอกเพราะมันไม่เกี่ยวกับฉันหรืองานของฉันเลย” เธอว่า “แต่ก็เห็นแหละว่ามันมาจากความเกลียดชังต่อผู้หญิง โดยเฉพาะเรื่องที่ว่า ฉันเป็นผู้หญิงอายุยังน้อยที่ประสบความสำเร็จน่ะ”เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับลูคส์นั้น ไม่มากก็น้อย ฉายให้เห็นมุมมองที่ชายชาวอเมริกันมีต่อความสำเร็จของผู้หญิง การรู้สึกว่าตัวเองต้องแสดงความเห็นใจร้าย ด้อยค่าหรือเหยียดหยามความสำเร็จของอีกฝ่าย น่าเศร้าที่ลูคส์ไม่ใช่คนแรกที่ต้องเผชิญความเห็นเหล่านี้ เพราะหากเราไล่เรียงดูประวัติศาสตร์ที่ผ่านๆ มา คนดังผู้หญิงหลายคนไม่ว่าจะ เทย์เลอร์ สวิฟต์ (Taylor Swift), บิลลี ไอลิช (Billie Eilish) หรือในแวดวงการเมืองอย่าง อเล็กซานเดรีย โอคาซีโอ-คอร์เทซ (Alexandria Ocasio-Cortez) ไปจนแวดวงกีฬา เช่น ซีโมน ไบลส์ (Simone Biles) ฯลฯ ต่างก็เคยต้องรับมือกับคำวิจารณ์ที่ว่าพวกเธอไม่เก่งพอ, ไม่แน่จริง หรือกังขาความสามารถที่ผ่านการพิสูจน์มาแล้วหลายต่อหลายครั้ง และนี่ก็ดูจะเป็นหนึ่งในปัญหาที่อเมริกาต้องหาทางแก้ไขในระยะยาวต่อไปอ้างอิง<a href="https://www.cbc.ca/radio/asithappens/politics-of-smell-phd-1.7402557" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.cbc.ca/radio/asithappens/politics-of-smell-phd-1.7402557</a>&nbsp;<a href="https://www.independent.co.uk/life-style/ally-louks-phd-cambridge-university-statement-b2660090.html" rel="noopener noreferrer noopener noreferrer" target="_blank">https://www.independent.co.uk/life-style/ally-louks-phd-cambridge-university-statement-b2660090.html</a>&nbsp;<a href="https://www.newstatesman.com/politics/media/2024/12/causing-a-stink-reflections-on-my-viral-phd" rel="noopener noreferrer noopener noreferrer noopener noreferrer" target="_blank">https://www.newstatesman.com/politics/media/2024/12/causing-a-stink-reflections-on-my-viral-phd</a>&nbsp;<a href="https://www.forbes.com/sites/callumbooth/2024/12/02/the-online-reaction-to-the-politics-of-smell-phd-examined/" rel="noopener noreferrer noopener noreferrer noopener noreferrer noopener noreferrer" target="_blank">https://www.forbes.com/sites/callumbooth/2024/12/02/the-online-reaction-to-the-politics-of-smell-phd-examined/</a>&nbsp;<a href="https://x.com/DrAllyLouks/status/1861872149373297078" rel="noopener noreferrer noopener noreferrer noopener noreferrer noopener noreferrer noopener noreferrer" target="_blank">https://x.com/DrAllyLouks/status/1861872149373297078</a>&nbsp;

ครั้งแรกที่ประเทศอังกฤษมีการตัดสินคดี ‘Cyber Farting’ หรือการคุกคามด้วยการตดทางออนไลน์

คนทำมองเป็นเรื่องขำ แต่คนโดนไม่ได้ตลกด้วย…คดี ‘Cyber Farting’ ครั้งแรกในอังกฤษ เมื่อศาลตัดสินความผิด กรณีหญิงสาวคุกคามแฟนเก่าแฟนตัวเองด้วยการอัด ‘คลิปตด’ ส่งให้รัวๆ

กิจกรรมการรุมด่าคนทางอินเทอร์เน็ตกลายเป็นกิจกรรมระบายความเครียดชั้นยอดสำหรับหลายคนไปแล้ว ซึ่งทั้งหมดนี้นอกจากจะท็อกซิกอย่างยิ่ง ยังเป็นภาพสะท้อนที่ชัดเจนว่าชาวเน็ตไทยจำนวนมากยังขาดทักษะที่จำเป็นในยุคโซเชียลมีเดียอย่าง Media Literacy

กรณีแสตมป์ อภิวัชร กับภาพสะท้อนชาวเน็ตไทย ที่คลั่งวัฒนธรรมทัวร์ลง โหยหาการตัดสิน/ลงโทษ แต่ดันขาด Media Literacy

ท่ามกลางความสูญเสียมหาศาลจากเหตุการณ์ไฟป่าในลอสแอนเจลิส เหล่าหัวหอกของฝ่ายขวาในอเมริกาก็ได้ถือโอกาสในการกล่าวโทษแนวคิดของฝั่งตรงข้ามที่พวกเขาไม่เห็นด้วย ว่าเป็นตัวฉุดรั้งให้องค์กรต่างๆ ทำงานล้มเหลว เพราะเอาแต่โฟกัสเรื่อง DEI หรือ Diversity, Equity and Inclusivity

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Social Issues

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MAN ON FILM

RELATED

HOT TOPICS