“แฟนเราเพิ่งรู้ว่าการทำแท้งถูกกฎหมายแล้ว” เพื่อนนักเขียนของเราบอกเล่าหลังจากที่เธอเพิ่งไปร่วมงาน ‘Bangkok Abortion 2023 ทำแท้งในแสงสว่าง’ โดยกลุ่มทำทาง เมื่อวันเสาร์ที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา

Bangkok Abortion 2023 งานว่าด้วยการทำแท้ง ที่หยิบเอาสารพัดประเด็นมากางให้เห็นภาพ และจำเป็นต้องมีอีกในปีถัดๆ ไป

“เธอรู้ไหมนะว่าตอนนี้ทำแท้งถูกกฎหมายแล้ว” เราถามแฟนตอนกลับมาเล่าให้ฟังถึงงานที่เพิ่งไปมา และเป็นอย่างที่คาด เขายังไม่รู้ว่าตอนนี้ประเทศไทยอนุญาตให้ประชาชนยุติการตั้งครรภ์ได้อย่างถูกกฎหมาย และบรรจุมันเป็นส่วนหนึ่งของสวัสดิการบัตรทอง ระบบ สปสช. และประกันสังคมแล้ว แม้จะยังอยู่ภายใต้เงื่อนไขหลายประการ และยังมีปัญหาค้างคาอย่างกฎหมายอาญามาตรา 301 ที่ว่า "หญิงใดทำให้ตนเองแท้งลูก หรือยอมให้ผู้อื่นทำให้ตนแท้งลูกขณะมีอายุครรภ์เกิน 12 สัปดาห์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ" แต่การทำแท้งก็ไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมายอีกต่อไปคำตอบนี้สะท้อนปัญหาหลายประการที่ถูกยกมาเทกระจาดในงาน Bangkok Abortion 2023 ทำแท้งในแสงสว่าง ณ Kinjai Contemporary ที่จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 โดยกลุ่มทำทาง ซึ่งเคลื่อนไหวเรื่องสิทธิในการทำแท้งมาอย่างยาวนาน ทั้งเรื่องที่ผู้หญิงจำนวนมากยังไม่รู้ว่าตอนนี้การทำแท้งถูกกฎหมาย (เราเองก็รู้ก่อนหน้านี้ไม่นาน เพราะเสิร์ชหาข้อมูลอย่างอื่นแล้วเจอโดยบังเอิญ) นับประสาอะไรกับผู้ชายหลายคนที่แทบไม่มีโอกาสหาข้อมูลเรื่องการทำแท้ง เว้นแต่จะประสบปัญหาด้วยตัวเอง และแน่นอนว่ามีประชาชนอีกมากที่ไม่ทราบ ไม่อย่างนั้นคงไม่มีคนในละแวกไปแจ้งตำรวจว่ามีคลินิกทำแท้งมาเปิด ให้มาตรวจสอบ แล้วตำรวจในพื้นที่ก็ดันบ้าจี้มาที่งานจริงๆ เพื่อจะพบว่าเป็นป้าย “คลินิกทำแท้งปลอดภัย” ที่ผู้จัดงานนำมาติดไว้เป็นกิมมิกเท่านั้นเองเช่นนี้ ในงานจึงมีข้อมูลดิบ และเรื่องเล่ามากมายติดไว้บนผนังแทบทุกด้านของพื้นที่จัดงานทั้ง 3 ชั้น บอกเล่าผ่านโต๊ะตัวเล็กที่มีกระดาษและปากกาให้ผู้เข้าร่วมงานเขียนถึงเพื่อนในชีวิตจริงที่เคยผ่านการทำแท้งว่าเธอเป็นคนที่น่ารัก และมีค่ากับโลกนี้เพียงใด เพื่อลบการตีตราว่าคนทำแท้งเป็นคนไม่ดี, ห้องที่บอกเล่าเส้นทางอันยาวนานนับ 13 ปีของกลุ่มทำทาง ตั้งแต่วันแรกจนปัจจุบัน โดยให้เครดิตคนทำงานทุกคนตามช่วงเวลาที่เข้ามาเป็นทำงาน จนเห็นได้ว่ากลุ่มเดินได้ด้วยพลังของคนธรรมดาอย่างแท้จริง และห้องที่พูดถึงอิทธิพลของแนวคิดบุญบาปที่ทำให้การทำแท้งเป็นเรื่องน่ากลัว จนถึงป้ายผ้าพิมพ์ถ้อยคำของผู้หญิงที่ผ่านประสบการณ์การทำแท้งมา เราค่อยๆ ซึมซับข้อมูลเหล่านี้ และเข้าใจว่านี่ไม่ใช่นิทรรศการป๊อปๆ เก๋ๆ ที่ออกแบบมาเพื่อให้คนมาทำคอนเทนต์แบบที่เราคิดไว้ ก่อนที่เราจะขึ้นไปถึงชั้น 4 ซึ่งเป็นห้องสำหรับกิจกรรมทอล์กโชว์ และเซสชั่นเสวนา ซึ่งเป็นไฮไลต์ของงาน<img src="https://media.thairath.co.th/image/1nrqLXUx2g5rLZTbeDbpiHsJmUR22J0pdGUz5wzbs1a2hage9vA1.png" data-id="101195" data-url="https://media.thairath.co.th/image/1nrqLXUx2g5rLZTbeDbpiHsJmUR22J0pdGUz5wzbs1a2hage9vA1.png" style="width: auto;" class="fr-fic fr-dib"><img src="https://media.thairath.co.th/image/1nrqLXUx2g5rLZTbeDbpiDkFA1Geyp1V2x1niMvYlJn7S8e9vA1.png" data-id="101195" data-url="https://media.thairath.co.th/image/1nrqLXUx2g5rLZTbeDbpiDkFA1Geyp1V2x1niMvYlJn7S8e9vA1.png" style="width: auto;" class="fr-fic fr-dib">เหล่าผู้หญิงทั้งที่เคย และไม่เคยมีประสบการณ์ตรง ทยอยกันขึ้นมาบอกเล่าเรื่องราวที่ครอบคลุมตั้งแต่เรื่องทำแท้ง และประเด็นรายล้อม อย่างสิทธิในเนื้อตัวของผู้หญิง และสุขภาวะทางเพศ ที่แม้จะไม่ได้ออกแบบเนื้อหา และมัดประเด็นมาดีนัก แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเปิดพื้นที่สาธารณะให้ผู้หญิงได้มารวมตัวกันพูดเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องดี และสิ่งที่สปีกเกอร์ได้แบ่งปันก็ถือเป็นเนื้อเป็นหนังในตัวมันเองแขก-ลักขณา ปันวิชัย หรือ คำ ผกา พูดถึงการที่รัฐบงการร่างกายของพลเมืองผ่านการศึกษา และสาธารณสุขภายใต้ข้ออ้างของความห่วงใย รัฐเข้ามากำกับร่างกายของเราเกือบทุกขณะจิต ไม่ว่าจะแนบเนียนหรือไม่ การที่ทุกวันนี้เราเรียกร้องให้รัฐดูแลผ่านกฎหมาย ก็หมายความว่ารัฐมีส่วนในการดูแลร่างกายเรา และมีบทบาทในเนื้อตัวเรา แล้วผ่านนโยบายประชากร และการวางแผนครอบครัว ฉะนั้นเราจะบอกว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวโดยสมบูรณ์ไม่ได้หากเรายังต้องการสวัสดิการจากรัฐ และอันที่จริงก็ไม่จำเป็นต้องพยายามออกจากเงื้อมมือรัฐ แต่แค่ถามตัวเองว่า “อยากให้รัฐเสือกแบบไหน” มากกว่าจะบอกว่า “มดลูกเป็นของฉัน รัฐอย่ามายุ่ง” เธอบอกว่า สิ่งที่เธออยากเห็นคือนโยบายสุขอนามัยการเจริญพันธุ์ที่นำคลินิกชุมชนช่วยคนที่อยากมี และพร้อมมีลูกกับคลินิกทำแท้งสำหรับคนตั้งครรภ์โดยอุบัติเหตุ หรือท้องไม่พร้อมมาไว้ที่เดียวกัน เพราะมันเป็นเรื่องเดียวกัน ทำไปด้วยกันได้ และรัฐต้องเข้ามาดูแลโดยเท่าเทียมกัน<img src="https://media.thairath.co.th/image/1nrqLXUx2g5rLZTbeDbpiDK1ZchGLyBr6Or6m89JTh0e9vA1.png" data-id="101195" data-url="https://media.thairath.co.th/image/1nrqLXUx2g5rLZTbeDbpiDK1ZchGLyBr6Or6m89JTh0e9vA1.png" style="width: auto;" class="fr-fic fr-dib"><img src="https://media.thairath.co.th/image/O9cf0gTHrXwt7xhhxYDOFexMadIezWXyVzQbAuQuQuoe9vA1.png" data-id="101195" data-url="https://media.thairath.co.th/image/O9cf0gTHrXwt7xhhxYDOFexMadIezWXyVzQbAuQuQuoe9vA1.png" style="width: auto;" class="fr-fic fr-dib">ช่อ-พรรณิการ์ วานิช จากคณะก้าวหน้า พูดถึงการที่ประเทศไทยมีกฎหมายเกี่ยวกับการทำแท้งแล้ว แต่รัฐ และบุคลากรทางการแพทย์หลายคนกลับไม่ทำตามกฎหมาย แถมยังมีหน้าเรียกร้องให้ประชาชนเคารพกฎหมาย พรรณิการ์ ย้ำว่า โรงพยาบาลรัฐกว่า 1,300 แห่งทั่วประเทศ อยู่ในกรุงเทพฯ 100 แห่ง ทำแท้งได้จริง 11 แห่ง แต่รับทำให้จริงๆ ไม่ถึงด้วยซ้ำ แน่นอนว่าการบริการทางสาธารณสุขในกรุงเทพฯ มีหลายสังกัด และควบคุมไม่ง่าย แต่เอาแค่โรงพยาบาลในสังกัด กทม. ซึ่งรู้ดีว่ามีกฎหมายนี้ เหตุใดจึงไม่ยอมทำให้ นี่คือคำตอบที่ต้องการจาก ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. เพราะประชาชนต้องการเพียงให้รัฐเคารพศักดิ์ศรี และสิทธิของเพื่อนมนุษย์ ผ่านการให้บริการทางการแพทย์ที่ปลอดภัย และให้คนได้ตัดสินอนาคตให้ชีวิตตัวเองเท่านั้นส่วน ทนายแจม-ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส. กทม. เขตสายไหม พรรคก้าวไกล ได้แบ่งปันประสบการณ์ตรงตอนตัดสินใจยุติการตั้งครรภ์เมื่อ 14 ปีก่อน ขณะยังเป็นนักศึกษาที่ตั้งใจเรียน และวางแผนอนาคตตัวเองไว้อย่างดี แต่แม้จะป้องกันอย่างรอบคอบก็ยังเกิดพลาดตั้งครรภ์ เธอบอกว่า คงไม่ได้มีใครออกมาพูดมากนักว่า “ทำแท้งแล้วชีวิตดีจังเลย” แต่เธอย้ำว่า ประชาชนต้องมีสิทธิเลือกมีชีวิตแบบที่อยากมี และอนาคตแบบที่อยากให้เป็น ฉะนั้นจึงอยากให้ร่วมกันออกมาพูด ออกมาส่งเสียงให้ดัง เพื่อสิทธิของผู้หญิงด้วยกันเองนอกจากนี้ยังมีผู้หญิงอีกหลายคนที่มาบอกเล่าเรื่องราวของตัวเองตลอดทั้งคืนอย่าง&nbsp;แหม่ม-นุชนารถ แท่นทอง เครือข่ายสลัมสี่ภาค, รศ.ดร.กฤตยา อาชวนิจกุล เครือข่ายสนับสนุนทางเลือกของผู้หญิงที่ท้องไม่พร้อม, ชุตินาถ ชินอุดมพร ตัวแทนแพทย์รุ่นใหม่, โม Nurses Connect, มันแกว-รุ่งตะวัน ชัยหา, ปั๊บ กลุ่มทำทาง และ เมย์ The Pillow Talksแน่นอนว่าช่วงเวลาสั้นๆ ไม่อาจทำให้เราเห็นเครือข่ายปัญหาที่โยงใยได้อย่างเป็นระบบ และยังไม่เห็นว่าต้องเริ่มแก้ข้อไหนก่อน-หลังอย่างไร แต่การนำปัญหารายข้อมากาง มาแบ มาถกกันในพื้นที่ปลอดภัย ก็ถือเป็นโอกาสดีๆ ที่ผู้หญิงจะได้เสริมพลังกัน และนำสารนี้ออกไปสู่คนนอกห้องไม่ว่าจะเป็นเพศใด เพราะการที่ผู้ร่วมงานเกือบทั้งหมดเป็นผู้หญิง (ผู้ชายในงานแทบจะมีเพียงผู้สื่อข่าว) ทำให้เห็นว่า การทำแท้งยังเป็นเขตแดนของเพศหญิง ทั้งที่การตั้งครรภ์เกิดขึ้นได้เพราะคนสองคน และนี่เป็นเรื่องสิทธิเสรีภาพพื้นฐานของมนุษย์แม้งานครั้งนี้จะมีการจำหน่ายบัตร และจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วม (เข้าใจว่าเพราะตึกแถวที่จัดงานรับน้ำหนักคนได้ไม่มาก) แต่เมื่อมันทำให้เรารู้สึก ‘กลัวการทำแท้งน้อยลง’ ได้อีกคน ก็คงเรียกได้ว่างานนี้ประสบความสำเร็จไม่น้อยเลยขอบคุณภาพโดย ช่างภาพอาสาจากกลุ่มทำทาง &nbsp;

แนวคิดปิตาธิปไตยที่ฝังรากลึกเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้หญิงเกาหลีใต้หลายๆ คนเริ่มตัดสินใจใช้ชีวิตแบบ 4 No นั่นคือ ไม่มีเซ็กซ์ ไม่มีแฟน ไม่แต่งงาน และไม่มีลูก ซึ่งหลายคนมองว่าสิ่งนี้ส่งผลโดยตรงต่ออัตราการเกิดที่ต่ำที่สุดในโลกของเกาหลีใต้

ไม่มีเซ็กซ์ ไม่มีแฟน ไม่แต่งงาน ไม่มีลูก : วิถีชีวิตแบบ 4 No ของผู้หญิงเกาหลีใต้ ท่ามกลางผู้ชายที่เกลียดเฟมินิสต์

‘PANK’ หรือ ‘Professional Aunt, No Kids’ ผู้หญิงที่มีสถานะการเงินคล่องตัว ดูแลตัวเองได้ ไม่ได้มองว่าจุดสูงสุดของชีวิตคือการแต่งงานมีลูก เพียงแค่อยากเป็นคุณน้ามืออาชีพ คอยดูแลหลานๆ ที่เธอรัก

การเพิ่มขึ้นของ PANK : Professional Aunt, No Kids น้าสาวสุดคูล ดูแลตัวเองได้ สายเปย์ ชอบเลี้ยงหลาน แต่ไม่ได้อยากแต่งงานหรือมีลูก

กำลังเป็นที่ฮือฮาในประเทศจีนอย่างมากเลยทีเดียว เมื่อภาพการออกแบบสถานีรถไฟหนานจิงเหนือ (North Nanjing) ในเมืองหนานจิง ประเทศจีน ในรูปแบบม็อกอัป ถูกเผยแพร่ออกมาให้ชมกัน ที่ทำเอาคนจีนพูดเป็นเสียงเดียวกันบน Weibo ว่า นี่มัน ‘ผ้าอนามัยยักษ์’ ชัดๆ!

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

CONVERSATION

VDO

Social Issues

Bangkok Abortion 2023 งานว่าด้วยการทำแท้ง ที่หยิบเอาสารพัดประเด็นมากางให้เห็นภาพ และจำเป็นต้องมีอีกในปีถัดๆ ไป

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

WASSACHOL

RELATED

HOT TOPICS