แต่จริงๆ อาจไม่ได้อิน ทำเพื่อการตลาดก็เท่านั้น

Gender Washing เมื่อแบรนด์ใหญ่ขอชุบตัวใหม่เป็นเพื่อนหญิงพลังหญิง 

กระแสเฟมินิสม์มาแรงขนาดนี้ แน่นอนว่าต้องมีคนขอเกาะขอโหน ที่เห็นได้ชัดเจนมากๆ คือเหล่าบริษัท ห้างร้าน หรือแบรนด์ใหญ่ๆ ที่ต้องการแสดงตัวว่าฉันก็เป็นเพื่อนหญิงพลังหญิงคนหนึ่งนะเธอ เพื่อหลอกให้ผู้บริโภคอย่างเราๆ วางใจว่ากำลังสนับสนุนแบรนด์ที่มีจุดยืน มีศีลธรรม ขยัน call out ทั้งที่จริงๆ แล้วสินค้า บริการ หรือหลักการการทำงานของพวกเขานั้นไม่ได้สอดคล้องกับเฟมินิสม์แม้สักนิดการกระทำหลอกๆ เช่นนี้มีชื่อเรียกว่า ‘Gender Washing’ หรือ ‘Feminism Washing’แม้ยังไม่มีผู้ศึกษาเรื่องนี้อย่างครอบคลุมและสรุปนิยามและประเภทของมันออกมาอย่างเป็นทางการ โรซี่ วอลเตอร์ส (Rosie Walters) ศาสตราจารย์ประจำ Cardiff University และนักวิจัยเรื่องพลังของเด็กสาวในการเมืองระดับนานาชาติ เสนอว่า Gender Washing นั้นสามารถแบ่งได้เป็น 7 ประเภทด้วยกัน1. Selective Disclosure - พูดความจริงไม่หมด เช่น ฉายสปอตไลต์ให้ผู้บริหารหญิงปีละครั้งใน International Women Day แต่เวลาทำงานจริงๆ ก็เหยียดเพศเหมือนเดิมนั่นแหละ2. Empty Gender Policy - ออกนโยบายหรือโครงการใหญ่โตสนับสนุนผู้หญิง แต่สุดท้ายทำไม่ได้จริง3. Dubious Labeling - ทำทีเป็นแปะโบว์สีชมพูบอกว่าใส่ใจประเด็นของผู้หญิงนะจ๊ะ แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรมากกว่าการแปะสติกเกอร์4. Useful Partnership - ให้เงินสนับสนุนองค์กรที่ขับเคลื่อนด้านเฟมินิสม์ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ว่าตัวเองใส่ใจความยุติธรรมทางเพศ5. Voluntary Codes - ออกกฎต่อต้านการกระทำเหยียดเพศ แต่ไม่ได้บังคับใช้จริงหรอก6. Changing the Narrative - จ้างเอเจนซี่ทำแคมเปญยิ่งใหญ่กลบข่าวฉาวเรื่องการเลือกปฏิบัติทางเพศ ผู้บริโภคจะได้ลืมๆ ไปเสีย (มีศัพท์เรียกการทำแบบนี้ในวงการโฆษณาว่า ‘Femvertising’ ด้วยนะ)7. Reassuring Branding - ลงทุนกับการสร้างแบรนด์ดิ้งให้ตัวเองดูเหมือนสนับสนุนพลังผู้หญิง แต่ความจริงไม่ใช่เช่นนั้นแม้บางคนจะสองจิตสองใจว่า เอ อาจจะมีผู้หญิงบางคนได้รับประโยชน์จากสิ่งที่แบรนด์เหล่านี้ทำก็ได้นะ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการวัดผลเรื่องนี้นั้นทำได้ยาก สวนทางกับประโยชน์ที่เห็นชัดเจนว่าบริษัทหรือแบรนด์เหล่านี้ได้รับ แค่โพสต์สเตตัสเฟซบุ๊กว่า Happy International Day หรือแปะรูปโบว์สีชมพูนิดเดียว ก็ได้ยอดไลค์ ยอดแชร์ หรือกระทั่งยอดขายได้ง่ายๆ แล้ว โดยไม่จำเป็นต้องเชื่อหรือปฏิบัติตามหลักการเฟมินิสม์จริงๆ สักนิดเอาเป็นว่า อย่างน้อยๆ หลังอ่านบทความนี้ คุณอาจจะสังเกตเห็น Gender Washing ได้ชัดเจนขึ้น แยกแยะระหว่างแบรนด์ที่แค่ทำพีอาร์และแบรนด์ที่ตั้งใจจริงออกได้ง่ายขึ้น เพราะสุดท้ายแล้วถ้าผู้บริโภคอย่างเราๆ รู้เท่าทันและไม่เล่นตามเกมของพวกเขา เสียงและความต้องการของเราจะต้องถูกรับฟังอย่างแน่นอน อ้างอิง : <a href="http://theconversation.com/gender-washing-seven-kinds-of-marketing-hypocrisy-about-empowering-women-162777" rel="noopener noreferrer" target="_blank">theconversation</a>, <a href="http://thestar.com.my/lifestyle/style/2021/03/17/what-is-039feminism-washing039-and-is-the-style-industry-guilty-of-it" rel="noopener noreferrer" target="_blank">thestar</a>, <a href="https://www.news24.com/w24/selfcare/wellness/mind/femvertising-a-step-in-the-right-direction-or-just-faux-feminism-20190718" rel="noopener noreferrer" target="_blank">news24</a>

ด้วยสังคมชายเป็นใหญ่ที่ชัดเจนและพลังแรงในเกาหลีใต้ ทำให้ผู้หญิงสาวหลายคนในประเทศพากันใช้ชีวิตตามวิถี 4 No หรือ 4B Movement ที่เป็นการหันหลังให้กับบทบาทของเพศหญิงตามแบบที่สังคมกำหนด ซึ่งก็ได้แก่ ‘biyeonae’ (ไม่ออกเดต) ‘bisekseu’ (ไม่มีเซ็กซ์) ‘bihon’ (ไม่แต่งงาน) และ ‘bichulsan’ (ไม่มีลูก) แต่ล่าสุดนี้ ดูเหมือนสาวอเมริกันก็เริ่มจะหันเข้าสู่วิถี 4B กันบ้างแล้ว หลังจากที่โดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นสัญญาณของการก้าวถอยหลังเรื่องสิทธิสตรีไปโดยปริยาย


ผู้หญิงอเมริกันเริ่มคิดเรื่อง 4 No ตามแบบสาวเกาหลีใต้ หลังทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง  ไม่ออกเดต / ไม่มีเซ็กซ์ / ไม่แต่งงาน / ไม่มีลูก


เมื่อถึงช่วงหนึ่งในชีวิต การไม่สามารถมีลูกได้อาจกลายเป็นบาดแผลสำหรับผู้หญิงหลายคน และมิเชลล์ โหย่ว (Michelle Yeoh) ก็คือหนึ่งในนั้น โดยเธอเพิ่งออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ในรายการ BBC Woman’s Hour ว่าเธออยากมีลูกมาตลอด แต่ก็ไม่สามารถมีได้ เธอเข้าปรึกษาแพทย์และรับการรักษาภาวะมีบุตรยาก แต่ก็ยังไม่สำเร็จ และนั่นก็ทำให้เธอรู้สึกว่าแม้ตัวเองจะประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน แต่ในด้านความเป็นผู้หญิง เธอกลับล้มเหลว

Michelle Yeoh เปิดเผยว่าการไม่สามารถมีลูกได้
คือความเจ็บปวดใหญ่ในชีวิต

‘Pink Wheels’ คือกลุ่มตำรวจหญิงชาวปากีสถาน ที่สวมฮิญาบ ขี่สกู๊ตเตอร์สีชมพูจำนวน 10 คัน เข้าไปในเมืองเพื่อรับเรื่องร้องเรียน และช่วยเหลือผู้หญิงที่เผชิญความรุนแรง เนื่องจากเหยื่อหลายคนคิดว่าจะ “ไม่ได้รับความเป็นธรรม” จากตำรวจชายที่ไม่เข้าใจความเจ็บปวดของพวกเธอ 

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Social Issues

Gender Washing เมื่อแบรนด์ใหญ่ขอชุบตัวใหม่เป็นเพื่อนหญิงพลังหญิง

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

KANKANID

RELATED

HOT TOPICS