เอลซัลวาดอร์คือหนึ่งในประเทศที่มีกฎหมายต่อต้านการทำแท้งที่แรงที่สุดในโลก รัฐสั่งห้ามไม่ให้ผู้หญิงทำแท้งในทุกกรณี

“ไม่ควรมีใครติดคุกเพราะทำแท้ง” หญิงเอลซัลวาดอร์ติดคุก 30 ปี เพราะยุติการตั้งครรภ์

ขณะที่หลายประเทศเปิดกว้างกับการทำแท้งมากขึ้น รวมถึงประเทศไทยเองที่มีการแก้ข้อกฎหมายให้ใครก็ตามที่อายุต่ำกว่า 18 สามารถเข้ารับการยุติการตั้งครรภ์จากแพทย์ได้โดยไม่ต้องผ่านเงื่อนไขใดๆ แต่ในบางประเทศ กฎหมายต่อต้านการทำแท้งยังคงเคร่งครัด และฝั่งที่เชื่อในสิทธิเสรีภาพในร่างกายตนยังคงต้องสู้กันต่อซาร่า โรเจลล์ หญิงสาวชาวเอลซัลวาดอร์ คือคนหนึ่งที่ต้องเผชิญความโหดร้ายของข้อกฎหมายนี้ เธอถูกจับในปี 2012 หลังจากที่ตัดสินใจยุติการตั้งครรภ์ ตอนนั้นเธอถูกตัดสินจำคุก 30 ปี และต้องใช้ชีวิตอยู่ในคุกมาตลอด จนกระทั่งองค์กรเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสตรีช่วยกันต่อสู้จนเธอได้รับการลดหย่อนโทษเหลือ 10 ปี และได้รับอิสระเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เธอบอกว่ายังมีเพื่อนอีกหลายคนที่ต้องอยู่ในนั้นจากข้อกฎหมายเดียวกัน และเธอต้องการต่อสู้เพื่อให้ทุกคนพ้นมลทินจากเรื่องนี้เพราะ “ไม่มีใครควรติดคุกเพราะทำแท้ง”เอลซัลวาดอร์คือหนึ่งในประเทศที่มีกฎหมายต่อต้านการทำแท้งที่แรงที่สุดในโลก รัฐสั่งห้ามไม่ให้ผู้หญิงทำแท้งในทุกกรณี ไม่ว่าการตั้งท้องนั้นจะส่งผลต่อสุขภาพของผู้เป็นแม่ หรือกระทั่งมาจากการถูกข่มขืน&nbsp;ตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา มีผู้หญิงที่ถูกจับจากการทำแท้งกว่า 129 คน ในข้อหาฆาตกรรม โดยที่บางคนจำเป็นต้องทำเพราะฐานะยากจนสุดขีด และหลายคนก็ถูกจับใส่กุญแจมือทั้งที่ยังอยู่บนเตียงคลินิกและถูกส่งเข้าคุกทันที แม้จะมีการพิจารณาให้ผู้ต้องหาในคดีนี้ได้รับอิสระมาแล้วจำนวนหนึ่ง แต่กระบวนการก็ยังคงยุ่งยาก และศาลพิจารณาเป็นรายคดีไป ทำให้ยังมีผู้หญิงอีกส่วนหนึ่งถูกพิจารณาจำคุก&nbsp;เรื่องการทำแท้งนับเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่เป็นข้อถกเถียงในหลายประเทศ ฝั่งที่เป็นมิตรกับการทำแท้ง มองว่าผู้มีมดลูกควรตัดสินใจเกี่ยวกับร่างกายตัวเองได้ ขณะที่อีกฝั่งหนึ่งยึดถือศีลธรรมของสังคมที่มีรากฐานมาจากความเชื่อทางศาสนา ดังนั้นการต่อสู้ของฝั่งสิทธิสตรีจึงอาจไม่ใช่เพียงการเรียกร้องให้แก้กฎหมาย แต่ยังรวมไปถึงการสื่อสารเพื่อลบอคติที่สังคมมีต่อการทำแท้งด้วย ซึ่งดูจะเป็นเรื่องที่ยากอย่างยิ่งสำหรับในบางสังคมอ้างอิง : <a href="https://www.bbc.com/news/world-latin-america-57384064" rel="noopener noreferrer" target="_blank">BBC</a>, <a href="https://www.buzzfeednews.com/article/karlazabludovsky/el-salvador-abortion-laws-imprisoned-freed" rel="noopener noreferrer" target="_blank">buzzfeednews</a>

ในประเทศจีนมีวัฒนธรรมย่อมๆ ของหนุ่มสาว ที่จัด ‘ปาร์ตี้วันลาออก’ ขึ้นมา เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการทวงคืนอิสระ และความสุขในชีวิตของตัวเองกลับมาอีกครั้ง ท่ามกลางค่านิยมสังคมและครอบครัวที่คาดหวังให้ลูกหลาน “จงทำงานให้หนัก” เพื่อความสำเร็จในชีวิต

สุขสันต์วันลาออก! เมื่อหนุ่มสาวชาวจีนหันมาจัดปาร์ตี้ฉลองวันลาออก เพื่อคืนความสุขให้กับตัวเอง และเลิกบูชาค่านิยมการทำงานหนักจนใจพัง

การคุกคามทางเพศในที่ทำงานยังคงเป็นเรื่องใหญ่ที่สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกองค์กร อย่างเช่น กรณีหน่วยงานด้านสาธารณสุข ในอังกฤษเมื่อเร็วๆ นี้ ที่มีรายงานออกมาว่าเจ้าหน้าที่ชาวต่างชาติที่ทำงานด้านการดูแลผู้ป่วย ถูกล่วงละเมิดทางเพศอย่างต่อเนื่อง แต่กลับไม่มีใครกล้าปริปากพูด ด้วยความกลัวว่าจะเสียวีซ่าทำงาน และสุดท้ายจะทำให้พวกเขาตกที่นั่งลำบาก เพราะเป็นเพียงแรงงานชาวต่างชาติ

แรงงานต่างชาติในอังกฤษจำนวนมาก ถูกนายจ้างล่วงละเมิดทางเพศ แต่หลายคนกลับไม่สามารถร้องเรียน เพราะกลัวถูกเพิกถอนวีซ่า

‘โอรีนี ไคปารา’ (Oriini Kaipara) คือผู้ประกาศข่าวหญิงคนแรกในโลกที่มีรอยสักอันเป็นเอกลักษณ์ของชนเผ่าเมารีที่เรียกว่า ‘โมโก’ หรือ ‘Moko Kauae’ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมเก่าแก่ของชาวเมารี

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

CONVERSATION

VDO

Social Issues

“ไม่ควรมีใครติดคุกเพราะทำแท้ง” หญิงเอลซัลวาดอร์ติดคุก 30 ปี เพราะยุติการตั้งครรภ์

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

SERENE

RELATED

HOT TOPICS