ชวนย้อนดูสองบทบาทของนักแสดงสาวมาแรงแห่งอังกฤษ Aimee Lou Wood จากบท เอมี่ แห่ง Sex Education สู่ เชลซี แห่ง The White Lotus SS 3

สำรวจสองบทบาท ‘หญิงสาวที่ดูเพ้อๆ ฝันๆ ไม่คิดอะไรมาก แต่กำลังเผชิญความยากลำบากในความเป็นหญิง’ ของ Aimee Lou Wood

ตามขนบของ The White Lotus ซีรีส์ที่สำรวจเรื่องราวความเหลื่อมล้ำทางชนชั้น, เชื้อชาติและความเป็นอื่น ผ่านตัวละครร่ำรวยที่เข้าไปพักในโรงแรมหรู จะต้องมีตัวละครตลกโป๊งเหน่งอย่างน้อยหนึ่งคนที่เป็นแขกเหรื่อทิปหนัก จ่ายเงินมาเข้าพักที่โรงแรมต่างถิ่น และในซีซั่นที่สามซึ่งออกฉายเอพิโซดแรกเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมานี้ ‘เชลซี’ ตัวละครสาวอารมณ์ดีจากเกาะอังกฤษก็ทำหน้าที่นี้ได้อย่างน่ารักน่าชัง อันจะเห็นได้จากประโยคอธิบายตัวเองอย่าง “เรื่องนี้มันก็ยากสำหรับฉันเหมือนกันนะ ริค อย่าลืมสิว่าฉันราศีเมษ” ที่แสนจะ ‘เจนซี’ แถมว่าไปแล้วก็อาจหาตรรกะอะไรมาจับไม่ได้ ทั้งยังชวนเหวอไปกว่านั้นเมื่อเธอกำลังสนทนาอยู่กับแฟนที่อายุมากกว่าเธอร่วมยี่สิบปี ที่วิธีมองโลก การทำความเข้าใจสถานการณ์รอบตัวแตกต่างกันสุดขั้ว<img src="https://media.thairath.co.th/image/myGnpos1a2h1MeP1UY3lPhIybYVrCav2Ju8CBs1a2hSdaTZPkUUe9vA1.png" data-id="102206" data-url="https://media.thairath.co.th/image/myGnpos1a2h1MeP1UY3lPhIybYVrCav2Ju8CBs1a2hSdaTZPkUUe9vA1.png" style="width: auto;" class="fr-fic fr-dib">และ เอมี ลู วูด (Aimee Lou Wood) ก็คือนักแสดงสาวที่มารับบทเป็นเชลซี โดยก่อนนี้ เราๆ ทั้งหลายน่าจะคุ้นเคยเธอจาก Sex Education (2019–2023) จากบท เอมี สาวใจดีค่อนไปทางเพ้อๆ แถมมักพูดอะไรชวนให้มึนหัวอยู่เรื่อย หากแต่เธอก็เป็นที่รักของผู้คนรอบตัวอย่างที่สุด และบทนี้ก็ส่งให้เธอคว้ารางวัลบาฟต้า (BAFTA -เทียบได้กับออสการ์สาขารายการโทรทัศน์ของประเทศอังกฤษ) มาแล้ว ทั้งมันได้ส่งเธอให้เป็นนักแสดง ‘ดาวดัง’ ฝั่งซีรีส์แทบจะในทันที อย่างไรก็ดี วูดเล่าว่าหากย้อนกลับไปสมัยเรียนการแสดง เธอพบว่าเส้นทางนี้ยากกว่าที่เธอคิดมหาศาล “สมัยนั้นฉันขยับร่างกายผิดที่ผิดทางไปหมด เพราะงั้นเวลาซ้อมละคร แล้วต้องแสดงความรู้สึกผ่านร่างกายตัวเอง ฉันรู้สึกเหมือนกำลังจะร้องไห้ทุกที เกลียดความรู้สึกเป็นอื่นกับร่างกายตัวเองเป็นบ้าเลย”สำหรับวูด ความรู้สึกที่ว่านี้อธิบายได้ไม่ชัดนัก หากแต่มันก็ไม่ใช่สิ่งใหม่ เพราะเธอเคยต้องรับมือกับภาวะไม่พอใจรูปร่างหน้าตาของตัวเองมาโดยตลอด “ใกล้ๆ จะมีภาวะการกินผิดปกติเลยล่ะ (eating disorders) ร่างกายกลายเป็นศัตรูตัวฉกาจ แล้วตอนนั้นที่มีภาวะแบบนี้ก็เหมือนตัวตนของฉันแยกออกจากร่างกายโดยสิ้นเชิง” วูดเล่า “เหมือนฉันเป็นอื่นกับร่างกายตัวเอง เอาแต่หมกมุ่นเฝ้ามองมัน ดีใจเป็นบ้าที่หลุดพ้นจากภาวะนั้นมาได้”อย่างไรก็ตาม สำหรับ Sex Education ซีรีส์ที่พูดเรื่องการข้ามพ้นวัยผ่านเรื่องทางเพศ ทั้งเพศสภาพแลพเพศสัมพันธ์ นับเป็นซีรีส์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดเรื่องหนึ่ง โดยหนึ่งในฉากที่หลายคนยกย่องว่าเขียนออกมาได้จริงใจและหมดจดอย่างยิ่งคือระหว่างซีซั่นที่สอง เมื่อเอมี ซึ่งตัวละครของวูด ถูกชายแปลกหน้าลวนลามบนรถประจำทางที่เธอโดยสารไปโรงเรียน และเธอก็พะวงโทษตัวเองว่าอาจเป็นเพราะเธอเผลอไปยิ้มให้อีกฝ่าย ทำให้เขาคิดว่าเธอกำลัง ‘ทอดสะพาน’ หรือมีใจให้ และลงมือลวนลามเธอจนเธอไม่กล้าขึ้นรถโดยสารสายนั้นไปโรงเรียนอีกเลย<img src="https://media.thairath.co.th/image/aVtNJRtBSZCZyzeMtFzMFnj21Y1erqKtTSfs1a2hreVP1HYe9vA1.png" data-id="102206" data-url="https://media.thairath.co.th/image/aVtNJRtBSZCZyzeMtFzMFnj21Y1erqKtTSfs1a2hreVP1HYe9vA1.png" style="width: auto;" class="fr-fic fr-dib">Sex Education เล่าถึงฉากนี้อย่างมีหัวใจ โดยมีฉากที่เอมีถ่ายทอดความรู้สึกของเธอให้นักบำบัดทางเพศฟังว่า “หนูเคยชอบร่างกายหนูนะ ชอบที่ได้มีเซ็กซ์ แต่หลังจากเหตุการณ์นี้ขึ้น หนูกลับไม่ชอบความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับร่างกายตัวเองเลย ไม่อยากมองมัน ไม่ชอบให้แฟนหนูมาจับตัวหนูด้วย” เธอว่า “ทำไมหนูถึงต้องไปยิ้มให้ไอ้ผู้ชายน่าขยะแขยงบนรถบัสคันนั้นกันนะ แล้วทำให้เขาคิดว่าจะเอาไอ้จู๋มาถูตัวหนูได้”นักบำบัดยิ้มให้เธอ และถามกลับว่า “หนูคิดว่าถ้าหนูไม่ยิ้มให้เขา เขาจะไม่คุกคามหนูหรือ” ซึ่งเอมีตอบว่าไม่รู้ อีกฝ่ายจึงชวนสนทนาต่อว่า “แต่ที่ผ่านมา หนูก็ยิ้มให้คนแปลกหน้ามากมายนี่ แล้วมันทำให้พวกเขาเข้ามาคุกคามหนูหรือเปล่าล่ะ จำคำฉันไว้นะเอมี สิ่งที่ผู้ชายคนนั้นทำกับเธอบนรถประจำทาง ไม่ได้เกี่ยวเลยว่าเธอยิ้มให้เขาหรือไม่ และไม่ได้เกี่ยวกับตัวตนของหนูเลย มันเกี่ยวกับตัวเขาทั้งนั้น ดังนั้น มันจึงไม่ใช่ความผิดของหนูอย่างแน่นอน”ทั้งหลังจากนั้น เมื่อเอมีตื่นเช้าเพื่อไปโรงเรียนด้วยรถประจำทางคันเก่าอีกหน เธอก็พบว่าเพื่อนร่วมชั้นผู้หญิงของเธอ ทั้งเพื่อนสนิท ทั้งเพื่อนร่วมห้อง หรือทั้งคนที่เคยทะเลาะกัน ต่างมายืนรอขึ้นรถประจำทางคันเดียวกันกับเธอ และ ‘ร่วมกัน’ ขึ้นรถประจำทางคันนั้นเพื่อไม่ให้เธอโดดเดี่ยว และจะว่าไป มันก็เป็นหนึ่งในฉากที่ทรงพลังและงดงามที่สุดฉากหนึ่งของซีรีส์ทั้งซีซั่น โดยที่แทบไม่ต้องมีบทพูดใดๆ เพราะมันฉายให้เห็นการประคับประคองหัวใจระหว่างเพื่อนผู้หญิงด้วยกัน หรือแม้แต่ว่า พวกเธอต่างเข้าใจการถูกล่วงละเมิดไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง และพร้อมจะปกป้องไม่ให้ใครตกเป็นเหยื่ออีก“ฉันคิดว่าผู้หญิงส่วนใหญ่ต่างเคยโดนคุกคามในที่สาธารณะ หรือไม่ก็เคยโดนผู้ชายคุกคามมาก่อน” วูดบอก “โชคร้ายจริงๆ “อันที่จริง ฉากนี้ดัดแปลงมาจากประสบการณ์จริงของ ลอรี นันน์ (Laurie Nunn) ซึ่งเป็นผู้สร้างซีรีส์นี้ค่ะ เธอเคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อนและถ่ายทอดมันออกมาเป็นบทหนังได้ดีมากๆ เลย”และสำหรับ The White Lotus วูดก็พบว่าบทบาทตัวละครเชลซีที่เธอแสดงนั้นน่าสนใจไม่น้อย ความที่ธีมของเรื่องเพ่งพินิจไปที่ความเหลื่อมล้ำในสังคม ไม่เพียงแต่แขกผู้มาเยือนโรงแรมเท่านั้น หากแต่ยังเป็นความเหลื่อมล้ำ แตกต่างระหว่างแขกด้วยกันเองด้วย อันจะเห็นได้จากซีซั่นแรกที่สาวผิวดำรู้สึกว่าตัวเองเป็น ‘ไม้ประดับ’ ให้เพื่อนผิวขาว หรือการห้ำหั่นกันระหว่างชายหนุ่มสองคนในซีซั่นที่สองมาถึงซีซันสาม ตัวละครของวูดเป็นสาวอังกฤษที่เติบโตในครอบครัวชนชั้นแรงงาน คบหากับหนุ่มรุ่นใหญ่ผู้ร่ำรวยและบึ้งตึง ซึ่งวูดพบว่าสิ่งที่เชื่อมร้อยเธอกับตัวละครเชลซีคือการมาจากแมนเชลเตอร์เหมือนกัน, มาจากชนชั้นแรงงานเหมือนกัน และความเป็น ‘คนธรรมดา’ ท่ามกลางคนรวย เนื่องจากตัวละครคนอื่นล้วนเป็นเศรษฐีที่มาหย่อนใจในประเทศไทย ตลอดจนการเป็นคนอังกฤษท่ามกลางทีมนักแสดงอเมริกัน&nbsp;“นักแสดงคนอื่นๆ อาศัยอยู่ในฮอลลีวูดกันนะคะ ฉันนี่ยังอยู่ในแฟลตเล็กๆ ทางใต้ของลอนดอนอยู่เลย แถมยังเลือดอังกฤษข้นคลั่กเพราะไม่มั่นใจในตัวเองเสียเลย จนไม่แน่ใจว่าจะรับมือกับคนอื่นๆ ที่เขามั่นใจมากมายขนาดนั้นได้ยังไง“ทางเดียวที่ทำได้คือเล่นมุกใส่ตัวเองไปเลย อย่างแฟนๆ ซีรีส์ The White Lotus บางคนชอบพูดถึงฉันกับฟันหน้าของฉัน ว่าฉันไม่ได้ทำวีเนียร์หรือฉีดโบท็อกซ์มา ซึ่งเอาเข้าจริงๆ พอฟังแบบนี้แล้วก็รู้สึกเหมือนได้เป็นคนดื้อดีอยู่เหมือนกันนะ”ทั้งนี้ ความน่าสนใจและเป็นหนึ่งในจุดขายของ The White Lotus คือการที่ทุกซีซั่นต้องมีคนตายอย่างน้อยหนึ่งคน (!!) ไม่ว่าจะตายด้วยอุบัติเหตุเฟอะฟะหรือตายจากการฆาตกรรม ซึ่งก็ไม่แน่ว่าตัวละครเชลซีของวูดจะเกี่ยวข้องกับเรื่องราวเหล่านี้มากแค่ไหน หรือตัวละครของเธอจะสะท้อนภาพความเหลื่อมล้ำและเป็นอื่นระหว่างชาวตะวันตกด้วยกันอย่างไรอีก ก็เป็นเรื่องที่ต้องจับตาดูเอพิโซดต่อๆ ไปของซีรีส์ที่ว่าด้วยเรื่องสุดวายป่วงในโรงแรม The White Lotusอ้างอิง<a href="https://www.hollywoodreporter.com/tv/tv-features/aimee-lou-wood-interview-white-lotus-1236146153/" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.hollywoodreporter.com/tv/tv-features/aimee-lou-wood-interview-white-lotus-1236146153/</a>&nbsp;<a href="https://www.stylist.co.uk/fashion/aimee-lou-wood-sex-eductation-actress-uncle-vanya-theatre-break-ups-insecurities/367539" rel="noopener noreferrer noopener noreferrer" target="_blank">https://www.stylist.co.uk/fashion/aimee-lou-wood-sex-eductation-actress-uncle-vanya-theatre-break-ups-insecurities/367539</a>&nbsp;<a href="https://www.theguardian.com/stage/2023/feb/12/aimee-lou-wood-interview-sex-education-actor-cabaret" rel="noopener noreferrer noopener noreferrer noopener noreferrer" target="_blank">https://www.theguardian.com/stage/2023/feb/12/aimee-lou-wood-interview-sex-education-actor-cabaret</a>&nbsp;<a href="https://www.theguardian.com/tv-and-radio/2021/aug/28/sex-education-series-three-aimee-lou-wood-interview" rel="noopener noreferrer noopener noreferrer noopener noreferrer noopener noreferrer" target="_blank">https://www.theguardian.com/tv-and-radio/2021/aug/28/sex-education-series-three-aimee-lou-wood-interview</a>&nbsp;Photo Hollie Fernando/The Guardian

สำหรับการประกาศผลรางวัลออสการ์ครั้งที่ 97 ที่เพิ่งผ่านไปนี้ หนึ่งในรางวัลที่ทำให้คนเซอร์ไพรส์มากที่สุดจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก Mikey Madison ที่ได้รับรางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์ Anora โดยผู้กำกับ Sean Baker

Mikey Madison กล่าวสปีชเพื่อ sex worker บนเวทีออสการ์ หลังรับรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์ Anora 

นอกจากความสัมพันธ์สุดปวดหัวของเหล่าวัยรุ่นเล็บเจลแล้ว ในแต่ละอีพีของ Gelboys ซีรีส์จะพาเราไปเห็นบ้านและครอบครัวของแต่ละคนด้วยเสมอ และในบรรดา 4 ตัวละครหลัก เราพบว่า ‘บ้าน’ ของบัว แม้จะเต็มไปด้วยแสงสี ผู้คน และกลุ่มควัน แต่กลับดูเป็นบ้านที่ชวนเหงาและโดดเดี่ยวที่สุด

บัว Gelboys กับความโดดเดี่ยวซึมลึกของเด็กที่โหยหาการถูกมองเห็น

‘JENNIE’ ปล่อย 15 เพลงใน ‘Ruby’ โซโล่อัลบั้มแรกซึ่งกำลังกรุยทางไปสู่การเป็นศิลปินเดี่ยวเต็มตัวอย่างสง่างามและจริงใจ เพราะนี่คืออัลบั้มที่เจนนี่กล่าวไว้ว่า มันจะเป็นตัวแทนความเป็นเธอ บอกเล่าชีวิตส่วนตัวผ่านเนื้อเพลงอย่างแท้จริงที่สุดและตรงไปตรงมาที่สุดเป็น ‘ครั้งแรก’  

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Films

สำรวจสองบทบาท ‘หญิงสาวที่ดูเพ้อๆ ฝันๆ ไม่คิดอะไรมาก แต่กำลังเผชิญความยากลำบากในความเป็นหญิง’ ของ Aimee Lou Wood

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MAN ON FILM

RELATED

HOT TOPICS