คุณอาจจะคุ้นหน้า ซีโมน แอชลีย์ (Simone Ashley) มาบ้างแล้วจากซีรีส์ Sex Education ในบทเพื่อนสาวสุดป่วง จากบทหนึ่งในพี่น้องนางเลือกแห่ง The Little Mermaid หรืออาจจะจากบทบาท เคต ชาร์มา หญิงสาวจากอินเดียที่ย้ายมายังอังกฤษจาก Bridgerton แต่นี่เป็นครั้งแรก ที่เธอได้รับบทนำจริงๆ สักที

Simone Ashley กับการรับบทนำใน Picture This (2025) หนังโรแมนติกคอเมดี้
สัญชาติอังกฤษเรื่องแรกที่นำแสดงโดยคนเชื้อสายอินเดีย

คุณอาจจะคุ้นหน้า ซีโมน แอชลีย์ (Simone Ashley) มาบ้างแล้วจากซีรีส์ Sex Education (2019-2023) ในบทเพื่อนสาวสุดป่วง จากบทหนึ่งในพี่น้องนางเลือกแห่ง The Little Mermaid (2023) หรืออาจจะจากบทบาท เคต ชาร์มา หญิงสาวจากอินเดียที่ย้ายมายังอังกฤษจาก Bridgerton (2020-ปัจจุบัน) ตลอดจนถ้าคุณสนใจแวดวงแฟชั่น ไม่มากก็น้อยคุณน่าจะเห็นรูปแอชลีย์ปรากฏตัวบนพรมแดง หรือที่นั่งแถวหน้าของแบรนด์ชั้นนำต่างๆ แถมที่ชวนกรี๊ดกว่านั้นคือ เธอกำลังจะได้แสดงใน The Devil Wears Prada 2 (2026) ภาคต่อของหนังแฟชั่นสุดเริ่ดที่เคยสร้างปรากฏการณ์มาแล้วเมื่อปี 2006แอชลีย์เกิดและโตในครอบครัวผู้อพยพชาวอินเดีย ที่เธออธิบายว่าเป็น “ครอบครัวอินเดียรุ่นแรกที่ย้ายมายังอังกฤษ” และปักหลักทำงานมั่นคง ขณะที่แอชลีย์ตัวน้อยฉายแววสนใจด้านศิลปะตั้งแต่เด็กด้วยการเรียนดนตรี, เต้นและการแสดง “โชคดีมากเลยค่ะที่พ่อแม่สนับสนุนฉันสุดๆ ในทุกทางเลย” เธอบอก และช่วงวัยรุ่น เธอใช้ชีวิตอยู่ในแคลิฟอร์เนีย, สหรัฐอเมริกา ตะลุยดูหนังของ เควนติน ทารันติโน (Quentin Tarantino) ผู้กำกับหนังออร์เตอร์ชาวอเมริกัน เรียนการแสดงเพิ่มเติมพร้อมๆ กับที่เซ็นสัญญากับโมเดลลิ่งนางแบบ และเริ่มกัดฟันความฝันทำงานในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ทันทีแอชลีย์เริ่มรับงานแสดงเล็กๆ น้อยๆ ตามซีรีส์สัญชาติอังกฤษ หากแต่ที่ทำให้เธอเริ่มเป็นที่รู้จักคือบท โอลิเวีย นักเรียนสาววัยรุ่นจอมป่วนแห่ง Sex Education และมาดังเปรี้ยงสุดๆ จาก Bridgerton เพราะใครกันที่ดูซีรีส์เรื่องนี้แล้วจะไม่พูดถึงนักแสดงสาวเชื้อสายอินเดียที่ตรึงคนดูอยู่หมัดตั้งแต่การปรากฏตัวครั้งแรก ส่งให้แอชลีย์ติดหนึ่งในรายชื่อ ‘นักแสดงอังกฤษที่น่าจับตา’ ของนิตยสาร Variety เมื่อปี 2021<img src="https://media.thairath.co.th/image/or0rql6fj3UEulMBkYHI61Bx3iDkaoATf4H1YrCiYXse9vA1.jpg" data-id="102511" data-url="https://media.thairath.co.th/image/or0rql6fj3UEulMBkYHI61Bx3iDkaoATf4H1YrCiYXse9vA1.jpg" style="width: auto;" class="fr-fic fr-dib">กระนั้น เรื่องน่าเศร้าคือแอชลีย์ยังต้องผจญกับความคิดเห็นของหลายๆ คนที่มองว่าผิวของเธอเข้มเกินไป หรือสตูดิโอควรหาคนผิวสว่างกว่านี้มาแสดงหนัง หรือบางครั้ง คำถามนั้นก็มาในรูปลักษณ์สุภาพแต่ก็ให้ความรู้สึกเชิงลบ เช่น แอชลีย์เล่าว่าเธอถูกถามว่าเธอรู้สึกอย่างไรที่มีสีผิวแบบนี้ (ซึ่งจริงๆ ก็ชวนให้สงสัยอย่างยิ่งว่า มันเป็นประเด็นอะไรให้ต้องถามด้วยซ้ำ) แต่ถามว่าเธอยี่หระไหม คำตอบคือไม่“ฉันว่าผิวสีน้ำตาลเข้มแบบนี้สวยจะตาย!” เธอบอกอย่างรื่นเริง “เวลาคนถามว่าฉันรู้สึกยังไงที่มีสีผิวแบบนี้ ฉันก็จะบอกว่า ก็สวยดีนะ ฉันว่าผิวฉันก็สวยดีนี่นา และจะบอกให้ว่าฉันนี่แหละจะยืนหยัดเพื่อสาวๆ ผิวน้ำตาลทุกคนเอง ทุกคนเลย เราต่างก็สวยในแบบของเราทั้งนั้น อย่าให้ใครมาบอกเป็นอื่นเชียว”โปรเจ็กต์ล่าสุดของแอชลีย์คือการรับบทนำใน Picture This (2025) หนังโรแมนติกคอเมดี้ที่นอกจากเธอจะรับบทนำแล้ว ยังเป็นครั้งแรกที่เธอรับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์ด้วย เหตุผลสำคัญที่ทำให้เธออยากร่วมสร้างหนังเรื่องนี้คือ มันเป็นหนังที่ว่าด้วยชีวิตของ เปีย (แอชลีย์) สาวเชื้อสายอินเดียที่เป็นเจ้าของสตูดิโอและทำแต่งานจนหัวหมุน ระหว่างที่ครอบครัวพยายามทำตัวเป็นแม่สื่อจับคู่ให้เธอได้แต่งงานอยู่นั้น ชาร์ลี (ฮีโร ไฟน์ส ทิฟฟิน) แฟนคนแรกของชีวิตก็โผล่เข้ามาแบบงงๆ&nbsp;“ตัวละครหลักเป็นผู้หญิงจากเอเชียใต้ แถมทะเยอทะยานในหน้าที่การงานขนาดนี้ ทำไมฉันจะไม่อยากรับบทล่ะ” แอชลีย์ ผู้เติบโตมากับหนังรอมคอมยุค 90s ตอบอย่างตื่นเต้น “คือตั้งแต่โตมา ฉันยังไม่เคยเห็นผู้หญิงที่หน้าตาแบบฉันได้รับบทนำในหนังรอมคอมบ้างเลย) ฉันถึงได้ภูมิใจมากๆ ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของหนังเรื่องนี้ ได้ทำหนังเรื่องนี้เพื่อเด็กสาวผิวน้ำตาลทั้งหลาย เราสมควรได้เห็นว่า ผู้หญิงสีผิวแบบเราก็ถูกรักได้เหมือนกันนะ”และด้วยเหตุนี้ แอชลีย์จึงเชื่อว่าการมีนักแสดงสีผิวหลากหลายบนสื่อทั้งซีรีส์และภาพยนตร์ เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง “มันสำคัญมากนะคะ โดยเฉพาะกับคนรุ่นใหม่ สิ่งที่เราเห็นนั้นมันทรงพลังเหลือเกิน ยิ่งเราเห็นตัวตนของเราบนจอเท่าไหร่ ยิ่งเห็นความหลากหลายมากแค่ไหน มันยิ่งช่วยให้เราเชื่อมโยงกับโลกได้มากขึ้น และมันยังส่งผลต่อวิธีที่เรามองตัวเอง ต่อความทะเยอทะยานของเราในฐานะปัจเจกด้วยนะ ฉันถึงได้ภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งในแก๊งสาวผิวเข้มยังไงล่ะ!”กระนั้น แอชลีย์ก็มองโลกตามความเป็นจริงว่า แม้ฮอลลีวูดและอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในอังกฤษ จะเปิดพื้นที่ให้นักแสดงหลากเชื้อชาติ หลากสีผิวมากแล้วก็ตาม แต่การมีนักแสดงผิวเข้มหรือมีเชื้อสายเอเชียที่รับบทนำนั้น ก็ยังเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก “มันก็แค่เป็นสิ่งที่เราต้องทำงานกันต่อไปน่ะ และฉันก็ภูมิใจมากๆ ด้วยที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนประเด็นนี้” เธอบอกปีที่ผ่านมา แอชลีย์เพิ่งได้รับรางวัลนักแสดงที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง (Gamechanging Actor) จากนิตยสาร Glamour และเธอขึ้นกล่าวอย่างจับใจว่า “สำหรับเด็กหญิงทุกคนที่กำลังดูอยู่นะคะโดยเฉพาะกับคนที่สีผิวเหมือนกันกับฉัน ฉันหวังว่าพวกหนูจะดูฉัน เชื่อมั่น เข้าใจ ว่าพวกหนูเองก็สมควรขึ้นมาบนเวทีนี้ด้วยกันกับฉันนะ ที่มีไมโครโฟนแบบนี้เลย เสียงของหนูจะได้ดังและฟังชัด&nbsp;“และเชื่อฉันนะ ว่าฉันรักสีผิวของฉันมาก ฉันคิดว่ามันดูเข้มแข็ง ฉันคิดว่ามันสวย และฉันคิดว่ามันช่างมีค่าและเหมาะสมเหลือเกิน ถึงเด็กผู้หญิงทั้งหลาย ถ้ามีคนมาบอกพวกหนูว่า บางเรื่องมันเป็นไปไม่ได้หรอกเพราะว่าหนูเป็นผู้หญิง ฉันหวังว่าหนูจะมองไปที่กระจก ยกแขนขึ้นมาข้างหนึ่ง แล้วก็ยกอีกข้าง ยืดอกขึ้นแล้วพูดว่า ‘ฉันทำได้’ นะ”<img src="https://media.thairath.co.th/image/or0rql6fj3UEulMBkYHI62HRO5vcC3p1V2tHhnoDB1OGYoe9vA1.jpg" data-id="102511" data-url="https://media.thairath.co.th/image/or0rql6fj3UEulMBkYHI62HRO5vcC3p1V2tHhnoDB1OGYoe9vA1.jpg" style="width: auto;" class="fr-fic fr-dib">อ้างอิงhttps://www.youtube.com/shorts/fq-zwTXDX8Q &nbsp;https://www.celebitchy.com/763230/simone_ashley_elle/ &nbsp;https://www.definedmagazine.com/simone-ashley&nbsp;https://monacolife.net/interview-simone-ashley-on-bridgerton-diversity-and-future-projects/&nbsp;https://www.glamourmagazine.co.uk/article/simone-ashley-interview-2024-glamour-women-of-the-year-awards&nbsp;

Pocahontas ก็เป็นหนึ่งในการ์ตูนดิสนีย์เพียงไม่กี่เรื่องที่โชคร้ายหน่อยตรงที่ว่ามันเต็มไปด้วยประเด็นเปราะบางซึ่งอาจทำให้แฟนๆ ไม่น่าจะได้เห็นมันในเวอร์ชั่นคนแสดงในเร็วๆ นี้ก็จริง แต่อยู่ๆ เพลงซาวด์แทร็กอย่าง Colors of the Wind จากการ์ตูนเรื่องนี้ที่ฉายครั้งแรกเมื่อปี 1995 ก็กลับกลายเป็นเพลงการ์ตูนดิสนีย์ที่คนรุ่นใหม่หลายคนบอกว่าพวกเขา ‘อิน’ กับมันอย่างไม่น่าเชื่อ! 

Colors of the Wind เพลงจากการ์ตูน Pocahontas อายุ 30 ปีที่อยู่ๆ ก็โดนใจคนเจนฯ Z เพราะมันอาจพูดถึงสถานการณ์โลกและผู้คนยุคนี้ได้อย่างร่วมสมัย 

ภาพยนตร์แฟชั่นแห่งยุค 2000s อย่าง The Devil Wears Prada กำลังเปิดกล้องถ่ายทำภาคต่อแล้ว โดยยังคงได้แรงบันดาลใจมาจากหนังสือขายดีของ Lauren Weisberger ผู้ซึ่งเธอเคยเป็นอดีตผู้ช่วยในชีวิตจริงของ Anna Wintour 

อัปเดตภาคต่อหนังแฟชั่นแห่งยุค! The Devil Wears Prada 2 กับการเปลี่ยนผ่านสู่โลกดิจิทัลและวิกฤติของสื่อแฟชั่น ที่แฟนๆ หวังว่ามันจะโอบรับความแตกต่าง และใจดีกับทุกคนมากขึ้น

 Pride Month ที่ผ่านมา กิจกรรมที่ถูกนำเสนออาจเป็นภาพของการเฉลิมฉลองที่พูดถึง LGBTQ+ ในมิติเชิงสังคม อย่างการส่งเสียงถึงภาครัฐฯ เรื่องของกฎหมาย นโยบาย ความเคลื่อนไหวด้านความหลากหลายที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมต่างๆ แต่น้อยนักที่กิจกรรม Pride จะพูดถึง ‘ภายใน’ ที่ลึกลงไปกว่านั้นอย่างเรื่องของ ‘จิตวิญญาณ’ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งมิติที่อาจยังไม่ค่อยถูกพูดถึงมากนักในสังคม 

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Entertainment

Simone Ashley กับการรับบทนำใน Picture This (2025) หนังโรแมนติกคอเมดี้ สัญชาติอังกฤษเรื่องแรกที่นำแสดงโดยคนเชื้อสายอินเดีย

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MAN ON FILM

RELATED

HOT TOPICS