บางคนอาจประทับใจ เทรซี เอลลิส รอสส์ (Tracee Ellis Ross) จากบทบาทวิสัญญีแพทย์หญิงแห่งซีรีส์ Black-ish หรือบทพี่สาวผู้สุขุม ใจกว้างจาก American Fiction แต่อีกหลายคนประทับใจที่ตัวตนของเธอ

 Tracee Ellis Ross ผู้ไม่เคยกลัวที่จะบอกว่าตัวเองเป็นเฟมินิสต์

บางคนอาจประทับใจ เทรซี เอลลิส รอสส์ (Tracee Ellis Ross) จากบทบาทวิสัญญีแพทย์หญิงสุดจ๊าบในซีรีส์ Black-ish (2014–2022) ที่ส่งเธอคว้ารางวัลนำหญิงยอดเยี่ยมของซีรีส์ประเภทมิวสิคัล-คอมิดี้ บนเวที Golden Globe มาแล้วบางคนอาจประทับใจเธอจากบทพี่สาวผู้สุขุม ใจกว้างจาก American Fiction (2023) หนังที่เข้าชิงออสการ์ห้าสาขา และคว้าสาขาเขียนบทยอดเยี่ยมกลับมาครองและอีกหลายคน ก็อาจประทับใจรอสส์จากตัวตนของเธอ ทั้งการขึ้นพูดเรื่องความเป็นหญิงและการถูกกดทับบนเวที TED Talk หรือการให้สัมภาษณ์อีกหลายต่อหลายครั้งที่แสนจะจริงใจและตรงประเด็นอย่างที่สุด เช่น "การเป็นเฟมินิสต์มันไม่ซับซ้อนอะไรเลย มันคือการที่คุณเชื่อว่าทุกคนควรเท่าเทียมกันแค่นั้นเอง!"<img src="https://media.thairath.co.th/image/bq9rddGfr9FbXFGjwk4s1a2hFtc0SjQSoPhXV2jIvjzoG2ce9vA1.jpg" data-id="101796" data-url="https://media.thairath.co.th/image/bq9rddGfr9FbXFGjwk4s1a2hFtc0SjQSoPhXV2jIvjzoG2ce9vA1.jpg" style="width: auto;" class="fr-fic fr-dib">รอสส์เข้าวงการมาตั้งแต่ช่วงปลายยุค 90s และมาดังเปรี้ยงเอาจริงๆ ก็จากการรับบทเป็นนักกฎหมายสาวผู้เฝ้ามองหารักแท้ในซีรีส์ Girlfriends (2000–2008) แล้วจึงตามมาด้วย Black-ish ที่นอกเหนือจากตัวซีรีส์จะว่าด้วยชีวิตและวัฒนธรรมของคนดำแล้ว มันยังสำรวจเส้นเรื่องความเป็นหญิงไว้ได้อย่างน่าสนใจ และบอกเล่าประเด็นนี้ผ่านตัวละครวิสัญญีแพทย์ที่รับบทโดยรอสส์ โดยตัวละครของเธอนั้นผลักดันให้ลูกๆ ทำงานที่ตัวเองอย่างทำ เป็นสิ่งที่ตัวเองอยากเป็นโดยไม่ต้องสนใจบทบาททางเพศหรือสายตาที่สังคมกำหนด โดยเฉพาะในแวดวงคนดำที่มักกำหนดโครงสร้างชัดเจนว่าผู้หญิงควรทำงานแบบไหน และผู้ชายควรทำงานใดครั้งหนึ่ง รอสส์ไปออกรายการ Larry King Now Ora TV พิธีกรยิงคำถามใส่เธอว่า "ระยะหลังๆ นักแสดงและคนดังรุ่นใหม่ๆ ถูกถามเกี่ยวกับประเด็นเฟมินิสม์บ่อยขึ้น และพวกเขาก็มีท่าทีระวังหรือไม่ก็หวาดกลัวต่อการใช้คำนี้อย่างมาก คุณมองประเด็นนี้ยังไงคะ"รอสส์ตอบแทบจะในทันทีว่า "จริงเหรอ! พูดกันชัดๆ ตรงนี้เลยว่าฉันไม่ได้กลัวแบบเดียวกับพวกเขาแน่ๆ" เธอหัวเราะ ก่อนจะขยายความว่า "จริงๆ นิยามหรือความเข้าใจคำว่าเฟมินิสม์ของพวกเขาอาจไม่เหมือนฉันก็ได้นะ เพราะสำหรับฉัน เฟมินิสม์มันพัฒนาแตกย่อยออกไปหลายรูปแบบมาก ตอนเริ่มแรก เฟมินิสม์เริ่มจากการลุกขึ้นหาตำแหน่งแห่งที่ให้ตัวเองในสังคมปิตาธิปไตย แต่คิดว่าตอนนี้สถานการณ์คงเปลี่ยนไปบ้างแล้ว ฉันชอบคำว่านีโอ-เฟมินิสม์นะ และฉันก็ไม่เคยอยากเป็นผู้ชายเลยด้วย ฉันเป็นผู้หญิง มีอำนาจของตัวเองในฐานะผู้หญิง และนี่คือประสบการณ์ของฉัน แต่แนวคิดกับการขยายแนวคิดของความเป็นหญิง (womanhood) กับเฟมินิสม์ก็ยังเป็นประเด็นที่ถกกันได้อีกหลายแง่มุม หรือกับประเด็นเพศสภาพ (gender) ในประเทศเราก็ถูกพัฒนาและพูดคุยมากมายอย่างที่พวกเราคนไหนคงไม่เคยจินตนาการถึง"ปี 2018 รอสส์ขึ้นพูดบนเวที TED Talk เธอเล่าถึงเพื่อนผู้หญิงของเธอที่ยืนขวางทางเดินผู้ชายคนหนึ่ง และแทนที่เขาจะขอทางเธอดีๆ ฝ่ายหลังกลับ 'ผลัก' ตัวเธอออกจากจุดที่เธอยืนเพื่อที่เขาจะได้เดินผ่านไป รอสส์เล่าว่าเพื่อนของเธอโกรธมาก แม้หลายคนจะรู้สึกว่าความโกรธของเธอนั้นไม่จำเป็นเพราะเขาก็ไม่มีเจตนาจะทำร้ายหรือคุกคามเธอ หากแต่รอสส์ก็มองประเด็นนี้อย่างเข้าใจว่า ถึงที่สุดมันคือการแตะต้องตัวกันโดยปราศจากการให้ความยินยอม มิหนำซ้ำยังทำเหมือนกับว่าหญิงสาวเป็นเพียงสิ่งของที่เขาต้องขยับออกจากที่เพื่อให้เดินผ่านไปได้ (แม้จริงๆ จะเอ่ยปากขอได้ก็ตาม) "มันเหมือนคุณยืนไถโทรศัพท์อยู่ แล้วจู่ๆ ก็มีคนเดินมาดึงโทรศัพท์ออกไปจากมือของคุณ บอกว่า 'ไม่เอาน่า จะมาหัวเสียทำไม ขอยืมมาโทรทำธุระนิดเดียวเอง เสร็จแล้วก็เดี๋ยวคืนให้จนได้แหละ' แล้วลองนึกว่ามีคนดึงโทรศัพท์ออกไปจากมือคุณวันละครั้ง หรืออาจจะสองครั้งต่อวัน เดาเวลาไม่ได้ด้วย" เธอว่า<img src="https://media.thairath.co.th/image/EFUgF5Np1V2ck0NoNMQJKd7jf7xs7Cm9A4UPMybLGMIWowe9vA1.png" data-id="101796" data-url="https://media.thairath.co.th/image/EFUgF5Np1V2ck0NoNMQJKd7jf7xs7Cm9A4UPMybLGMIWowe9vA1.png" style="width: auto;" class="fr-fic fr-dib">"ฉันคิดว่าผู้หญิงเราต้องรับมือกับภาวะที่ผู้ชายสรุปเอาเองว่าพวกเขารู้เรื่องต่างๆ มากกว่าพวกเรา ผู้หญิงเป็นเสมือนทรัพย์สินของสามีผู้เป็นเจ้าของที่ดิน แล้วก็ต้องมีชายผิวขาวแก่ๆ สักคนมาคอยบงการชีวิตของเรา ที่ผ่านมา ร่างกายของผู้หญิงถูกใช้ในฐานะวัตถุเพื่อสนองตอบต่อความปรารถนา แทนที่จะเป็นเรือนร่างที่เราเลือกใช้มันได้อย่างอิสระ และมันก็เป็นชีวิตที่เราต่างรู้กันดีว่า ไม่ว่าเราจะเล่นตามกติกาที่พวกเขาตั้งไว้หรือไม่ เราก็ต้องอดทนกับการถูกล่วงละเมิดหรือเลวร้ายกว่านั้น มันยังเป็นชีวิตที่เรือนร่างของเราในฐานะทรัพย์สินก็อาจถูกทุบตีและถูกทำร้ายราวกับเป็นสิ่งของที่ไม่ควรค่าแก่การได้รับการให้เกียรติ และก็ยังเป็นชีวิตที่เราไม่อาจแสดงออกถึงความโกรธต่อเนื้อตัวพวกเรา ดังนั้น อย่าแปลกใจเลยที่เราจะโกรธ ยิ่งถ้าคุยกันเรื่องประวัติศาสตร์เชื้อชาติแล้วคงเป็นอีกเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว เพราะมันจะซับซ้อนทบเท่าทวีคูณ"รอสส์ยังถูกพูดถึงอย่างมากจากบทสัมภาษณ์นิตยสาร Marie Claire เมื่อเธอชี้ว่า เธอในวัย 50 ปีไม่เคยเสียใจเลยที่ตัดสินใจไม่มีลูก "ตอนนี้ฉันอาจไม่มีความสามารถในการจะมีลูกแล้ว แต่ฉันก็ไม่คิดว่าการมีลูกเป็นนิยามอย่างเดียวของความอุดมสมบูรณ์ในชีวิตเราหรอก และไม่เชื่อด้วยว่านี่เป็นนิยามเดียวของผู้หญิงน่ะ""ทำไมล่ะ! การเป็นผู้หญิงที่อายุมากกว่า 45 ปีที่ตัดสินใจจะไม่แต่งงานและไม่มีลูกน่ะน่าสนใจจะตาย ฉันเป็นเพื่อนที่ดี เป็นลูกสาวที่เจ๋ง เป็นคนทำงานที่เก่ง ชื่อเสียงต่างๆ ก็ไม่แย่ แถมยังเป็นคนเอาขยะออกไปทิ้งสม่ำเสมอและรีไซเคิลอีกแน่ะ อ้อ ฉันเคยชนะลูกโลกทองคำด้วยนะ" เธอปิดท้ายบทสัมภาษณ์ด้วยอารมณ์ขัน ทว่า ก็ดูเป็นการเชื้อเชิญให้คนมองผู้หญิงในมิติต่างๆ มากไปกว่าแค่การเป็นแม่และเมีย -ซึ่งเธอเลือกด้วยตัวเองว่าจะไม่เป็นทั้งสองอย่าง และนั่นก็ไม่ได้ทำให้คุณค่าของรอสส์ลดลงแต่อย่างใด อ้างอิงhttps://www.marieclaire.com/celebrity/tracee-ellis-ross-child-free-journey/https://www.glamourmagazine.co.uk/article/tracee-ellis-ross-perimenopause-fertilityhttps://www.huffpost.com/entry/tracee-ellis-ross-is-certainly-a-proud-feminist_n_56f29682e4b04c4c37609753https://www.ted.com/talks/tracee_ellis_ross_a_woman_s_fury_holds_lifetimes_of_wisdom?language=enhttps://youtu.be/6R1DQF6-Wns?si=5IKmhO5MGKfipsT8

คุณอาจจะคุ้นหน้า ซีโมน แอชลีย์ (Simone Ashley) มาบ้างแล้วจากซีรีส์ Sex Education ในบทเพื่อนสาวสุดป่วง จากบทหนึ่งในพี่น้องนางเลือกแห่ง The Little Mermaid หรืออาจจะจากบทบาท เคต ชาร์มา หญิงสาวจากอินเดียที่ย้ายมายังอังกฤษจาก Bridgerton แต่นี่เป็นครั้งแรก ที่เธอได้รับบทนำจริงๆ สักที

Simone Ashley กับการรับบทนำใน Picture This (2025) หนังโรแมนติกคอเมดี้
สัญชาติอังกฤษเรื่องแรกที่นำแสดงโดยคนเชื้อสายอินเดีย

“นี่คืออัลบั้มที่ฉันใส่ตัวตนของตัวเองอย่างแท้จริง”

“อัลบั้มนี้ฉันมีจุดมุ่งหมายที่จะปลดปล่อยตัวเองอย่างเต็มร้อย ระเบิดโลกที่อยู่ในใจให้ออกมา” การกลับมาของ LORDE ในอัลบั้ม Virgin ที่สำหรับเธอแล้วคือ ‘ภารกิจ’ การเยียวยาตัวเองในทุกช่วงวัย

‘Freakier Friday ศุกร์สยองสี่ร่างสลับรุ่น’ คือหนังภาคต่อของ Freaky Friday หนังตลกร้ายครอบครัวที่ฉายครั้งแรกเมื่อปี 2003 ซึ่งล่าสุดมันได้กลับมาพร้อมลูกหลานตัวละครใหม่ๆ อีกมากมายที่การันตีเลยว่าจะทวีความอลเวงให้สนุกยิ่งขึ้น

22 ปี Freakier Friday หนังตลกร้ายในตำนานกับการเล่าเรื่องครอบครัวยุคใหม่
ที่ยำรวมมิตรความชุลมุนของคนเจนฯ Baby Bloomer, Gen X, Millenials และ Gen Z ได้อย่างกลมกล่อม

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Entertainment

Tracee Ellis Ross ผู้ไม่เคยกลัวที่จะบอกว่าตัวเองเป็นเฟมินิสต์

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MAN ON FILM

RELATED

HOT TOPICS