bio | MIRROR Thailand
จากการสังเกตเทรนด์การถือกระเป๋าของผู้หญิงสมัยนี้ที่มีทั้งกระเป๋าใหญ่หรือถุงผ้าไว้ใส่ของ และกระเป๋าเล็กดีไซน์สวยที่เข้ากับลุคต่างๆ ทำให้ ‘หยิน-ฝันดาว แบ้สกุล’ @yinyinbae  ตั้งข้อสงสัยว่าจะทำอย่างไรถึงจะมีกระเป๋าใบเดียวที่ทำหน้าที่ทั้ง ‘ใส่ของได้เยอะ’ และมีความ ‘สวยงาม’ ไปในตัว ก่อให้เกิด @fundaoera กระเป๋าหนังดีไซน์เด่นด้วย Iconic Double Cross ที่ถูกใจสาวแฟชั่นสายเดอะแบก คุณภาพทนทาน มีความคลาสสิกใช้ได้นานๆ ไม่มีเบื่อ ซึ่งเป็นความยั่งยืนทางแฟชั่นในมุมมองของเธอ

และใช่เลย ความตั้งใจของเธอ ตั้งแต่การเรียนทำกระเป๋าที่มิลาน วัสดุคุณภาพเยี่ยมที่นำเข้าจากอิตาลี แต่ยังคงเชื่อมือในช่างฝีมือไทย ทำให้กระเป๋า Fundao ดังไกลถึงต่างประเทศ และล่าสุดทางแบรนด์ก็ได้ร่วมแสดงในโชว์ Paris Fashion Week 2024 และ Milan Fashion Week 2025 อีกด้วย!

“จุดเริ่มต้นของแบรนด์ Fundao มาจากความชอบของหยินในวัยเด็ก ที่ทุกความสำเร็จมักขอ ‘กระเป๋า’ เป็นของรางวัลจากคุณพ่อคุณแม่เสมอ” นี่จึงเป็นความฝังใจที่เธอได้ผูกความสุขไว้กับกระเป๋า เธอจึงใฝ่ฝันมาว่าอยากเป็นดีไซเนอร์กระเป๋าตั้งแต่เล็ก “หยินเลยคิดว่าชีวิตนี้ถ้าได้ทำงานกับสิ่งที่เรารัก พอเรียนจบปริญาตรีก็เลยไปเรียนต่อปริญญาโทที่มิลานเกี่ยวกับการตัดเย็บกระเป๋าโดยตรง หยินคิดว่าการเป็นดีไซเนอร์ที่ดีได้ คือควรมีความรู้อย่างลึกซึ้งในศาสตร์ของการทำกระเป๋า”

เรียบง่าย ไม่ต้องมีโลโก้ใหญ่โตที่ตะโกนอะไรมากมาย แต่เห็นแล้วก็รู้เลยว่าคือแบรนด์ Fundao เป็นโจทย์ความตั้งใจในการทำดีไซน์สายไขว้ที่ดูแล้วเหมือนเลข 8 หรือสัญลักษณ์ของอินฟินิตี้ ซึ่งเธอตั้งใจอยากส่งต่อความหลงใหลในธรรมชาติที่เชื่อมโยงกับมนุษย์ 

แล้วธรรมชาติมีเรื่องราวอะไรที่ส่งต่อแรงบันดาลใจผ่านเบื้องหลังการคิดออกแบบของกระเป๋าที่ดูเรียบง่าย แต่มีโครงสร้างภายในอันแสนซับซ้อนที่ใช้เวลาในกระบวนการคิด ทดลอง และออกแบบ มากเกือบปี ถ้าพร้อมแล้วก็สามารถ อ่านบทสัมภาษณ์เต็มๆ ของกระเป๋า Fundao ต่อได้ใน Link in Bio

ภาพ: @yoon_satit 
#MirrorThailand #MirrorThaiBrands #Fundaobag #Fundaoera  #Fundao
.
.
.
https://mirrorthailand.com/style/fashion/102430

จากการสังเกตเทรนด์การถือกระเป๋าของผู้หญิงสมัยนี้ที่มีทั้งกระเป๋าใหญ่หรือถุงผ้าไว้ใส่ของ และกระเป๋าเล็กดีไซน์สวยที่เข้ากับลุคต่างๆ ทำให้ ‘หยิน-ฝันดาว แบ้สกุล’ @yinyinbae ตั้งข้อสงสัยว่าจะทำอย่างไรถึงจะมีกระเป๋าใบเดียวที่ทำหน้าที่ทั้ง ‘ใส่ของได้เยอะ’ และมีความ ‘สวยงาม’ ไปในตัว ก่อให้เกิด @fundaoera กระเป๋าหนังดีไซน์เด่นด้วย Iconic Double Cross ที่ถูกใจสาวแฟชั่นสายเดอะแบก คุณภาพทนทาน มีความคลาสสิกใช้ได้นานๆ ไม่มีเบื่อ ซึ่งเป็นความยั่งยืนทางแฟชั่นในมุมมองของเธอ และใช่เลย ความตั้งใจของเธอ ตั้งแต่การเรียนทำกระเป๋าที่มิลาน วัสดุคุณภาพเยี่ยมที่นำเข้าจากอิตาลี แต่ยังคงเชื่อมือในช่างฝีมือไทย ทำให้กระเป๋า Fundao ดังไกลถึงต่างประเทศ และล่าสุดทางแบรนด์ก็ได้ร่วมแสดงในโชว์ Paris Fashion Week 2024 และ Milan Fashion Week 2025 อีกด้วย! “จุดเริ่มต้นของแบรนด์ Fundao มาจากความชอบของหยินในวัยเด็ก ที่ทุกความสำเร็จมักขอ ‘กระเป๋า’ เป็นของรางวัลจากคุณพ่อคุณแม่เสมอ” นี่จึงเป็นความฝังใจที่เธอได้ผูกความสุขไว้กับกระเป๋า เธอจึงใฝ่ฝันมาว่าอยากเป็นดีไซเนอร์กระเป๋าตั้งแต่เล็ก “หยินเลยคิดว่าชีวิตนี้ถ้าได้ทำงานกับสิ่งที่เรารัก พอเรียนจบปริญาตรีก็เลยไปเรียนต่อปริญญาโทที่มิลานเกี่ยวกับการตัดเย็บกระเป๋าโดยตรง หยินคิดว่าการเป็นดีไซเนอร์ที่ดีได้ คือควรมีความรู้อย่างลึกซึ้งในศาสตร์ของการทำกระเป๋า” เรียบง่าย ไม่ต้องมีโลโก้ใหญ่โตที่ตะโกนอะไรมากมาย แต่เห็นแล้วก็รู้เลยว่าคือแบรนด์ Fundao เป็นโจทย์ความตั้งใจในการทำดีไซน์สายไขว้ที่ดูแล้วเหมือนเลข 8 หรือสัญลักษณ์ของอินฟินิตี้ ซึ่งเธอตั้งใจอยากส่งต่อความหลงใหลในธรรมชาติที่เชื่อมโยงกับมนุษย์ แล้วธรรมชาติมีเรื่องราวอะไรที่ส่งต่อแรงบันดาลใจผ่านเบื้องหลังการคิดออกแบบของกระเป๋าที่ดูเรียบง่าย แต่มีโครงสร้างภายในอันแสนซับซ้อนที่ใช้เวลาในกระบวนการคิด ทดลอง และออกแบบ มากเกือบปี ถ้าพร้อมแล้วก็สามารถ อ่านบทสัมภาษณ์เต็มๆ ของกระเป๋า Fundao ต่อได้ใน Link in Bio ภาพ: @yoon_satit #MirrorThailand #MirrorThaiBrands #Fundaobag #Fundaoera #Fundao . . . https://mirrorthailand.com/style/fashion/102430

การกดไลก์รูปผู้หญิงคนอื่น ทั้งที่มีแฟนอยู่แล้ว นับเป็นปัญหาความสัมพันธ์ที่ถูกนำมาถกเถียงบ่อยครั้งในสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งมีความคิดเห็นเกิดขึ้นหลากหลายมุมมอง เช่น บางคนมองว่าเป็นการกระทำที่ไม่ควรทำ เพราะเหมือนไม่ให้เกียรติแฟน หรือบางคนรู้สึกตั้งคำถามกับตัวเองว่าดีพอไหม สวยพอไหม? ขณะที่บางส่วนมองว่า ผู้หญิงคิดมากและก้าวก่ายเกินไป จนบางครั้งนำไปสู่การรบกวนและว่าร้ายคนอื่น ซึ่งส่งผลเสียต่อความสัมพันธ์ และชีวิตส่วนตัวของทั้งสองฝ่าย

หากพิจารณารูปแบบการกดไลก์รูปผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่แฟน อาจสามารถแบ่งออกเป็น 4 กรณีหลัก ได้แก่ การกดไลก์รูปของ ‘ผู้หญิงที่รู้จักกันอยู่แล้ว’ เช่น เพื่อนสมัยเรียน หรือเพื่อนร่วมงาน ถัดไปคือ ‘ผู้หญิงที่มีชื่อเสียง’ เช่น นักแสดง ไอดอล ศิลปิน หรืออินฟลูเอนเซอร์ ลำดับต่อมาคือ ‘ผู้หญิงที่ไม่รู้จัก แต่โดดเด่นเรื่องหน้าตา รูปร่าง หรือการแต่งกาย’ เช่น ผู้หญิงทั่วไปที่หน้าตาดี แต่งตัวเซ็กซี่ หรือใส่ชุดว่ายน้ำ สุดท้ายคือ ‘ผู้หญิงที่เป็นคนคุยหรือแฟนเก่า’ หรือเคยมีความสัมพันธ์ร่วมกันมา

ครั้งนี้เราจึงชวนผู้หญิง 3 คนที่คบหากับแฟนเป็นระยะเวลานานมาพูดคุยถึงประเด็นดังกล่าวว่า การกดไลก์รูปผู้หญิงคนอื่น ทั้งที่มีแฟนอยู่แล้ว ถือเป็น Red Flag ในความสัมพันธ์ที่ควรหนีให้ห่างไหม แล้วทำไมผู้หญิงหลายคนจึงไม่พอใจที่แฟนทำแบบนี้ เหตุผลที่แท้จริงคืออะไรกันแน่ รวมถึงพวกเธอแก้ไขปัญหานี้อย่างไร โดยที่ยังรักษาทั้งชีวิตคู่และสภาพจิตใจของตัวเองไปพร้อมกัน

หมายเหตุ: บทสัมภาษณ์นี้เป็นเพียงการสำรวจความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่างบางส่วนเท่านั้น เพราะที่จริงแล้ว เรื่องความสัมพันธ์มีความสลับซับซ้อนมากกว่านี้ ซึ่งแต่ละคนอาจเผชิญกับปัญหาที่แตกต่างกัน อีกทั้งยังอาจมีปัญหาอื่นๆ สะสมร่วมอยู่ด้วย

สุดท้าย การกดไลก์รูปผู้หญิงคนอื่น ทั้งที่มีแฟนอยู่แล้ว จะเป็น Red Flag ในความสัมพันธ์หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นบริบทของสถานการณ์ ลักษณะรูปแบบการกดไลก์ พฤติกรรมอื่นๆ ของอีกฝ่าย รวมถึงพื้นฐานความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคนด้วยเช่นกัน

หากเรื่องนี้กลายเป็นปัญหาที่กระทบต่อความสัมพันธ์ ทำให้ทั้งสองผิดใจกัน หรือส่งผลให้คนรักเป็นทุกข์ และตกอยู่ในความกังวล สิ่งที่ควรทำคือการพูดคุยและเปิดใจรับฟังความคิดเห็นโดยปราศจากอคติส่วนตัว เพื่อแก้ไขปัญหานี้ร่วมกันโดยไม่ทำร้ายจิตใจของอีกฝ่าย พร้อมกับรักษาขอบเขตพื้นที่อิสระของตนเองและสังคมรอบข้าง

อ่านแง่มุมทั้งหมดได้ที่ลิ้งก์หน้า bio

#RedFlag #ปัญหาความสัมพันธ์ #Relationship #Self #MIRRORThailand
.
.
.
https://mirrorthailand.com/self/relationship/102432

การกดไลก์รูปผู้หญิงคนอื่น ทั้งที่มีแฟนอยู่แล้ว นับเป็นปัญหาความสัมพันธ์ที่ถูกนำมาถกเถียงบ่อยครั้งในสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งมีความคิดเห็นเกิดขึ้นหลากหลายมุมมอง เช่น บางคนมองว่าเป็นการกระทำที่ไม่ควรทำ เพราะเหมือนไม่ให้เกียรติแฟน หรือบางคนรู้สึกตั้งคำถามกับตัวเองว่าดีพอไหม สวยพอไหม? ขณะที่บางส่วนมองว่า ผู้หญิงคิดมากและก้าวก่ายเกินไป จนบางครั้งนำไปสู่การรบกวนและว่าร้ายคนอื่น ซึ่งส่งผลเสียต่อความสัมพันธ์ และชีวิตส่วนตัวของทั้งสองฝ่าย หากพิจารณารูปแบบการกดไลก์รูปผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่แฟน อาจสามารถแบ่งออกเป็น 4 กรณีหลัก ได้แก่ การกดไลก์รูปของ ‘ผู้หญิงที่รู้จักกันอยู่แล้ว’ เช่น เพื่อนสมัยเรียน หรือเพื่อนร่วมงาน ถัดไปคือ ‘ผู้หญิงที่มีชื่อเสียง’ เช่น นักแสดง ไอดอล ศิลปิน หรืออินฟลูเอนเซอร์ ลำดับต่อมาคือ ‘ผู้หญิงที่ไม่รู้จัก แต่โดดเด่นเรื่องหน้าตา รูปร่าง หรือการแต่งกาย’ เช่น ผู้หญิงทั่วไปที่หน้าตาดี แต่งตัวเซ็กซี่ หรือใส่ชุดว่ายน้ำ สุดท้ายคือ ‘ผู้หญิงที่เป็นคนคุยหรือแฟนเก่า’ หรือเคยมีความสัมพันธ์ร่วมกันมา ครั้งนี้เราจึงชวนผู้หญิง 3 คนที่คบหากับแฟนเป็นระยะเวลานานมาพูดคุยถึงประเด็นดังกล่าวว่า การกดไลก์รูปผู้หญิงคนอื่น ทั้งที่มีแฟนอยู่แล้ว ถือเป็น Red Flag ในความสัมพันธ์ที่ควรหนีให้ห่างไหม แล้วทำไมผู้หญิงหลายคนจึงไม่พอใจที่แฟนทำแบบนี้ เหตุผลที่แท้จริงคืออะไรกันแน่ รวมถึงพวกเธอแก้ไขปัญหานี้อย่างไร โดยที่ยังรักษาทั้งชีวิตคู่และสภาพจิตใจของตัวเองไปพร้อมกัน หมายเหตุ: บทสัมภาษณ์นี้เป็นเพียงการสำรวจความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่างบางส่วนเท่านั้น เพราะที่จริงแล้ว เรื่องความสัมพันธ์มีความสลับซับซ้อนมากกว่านี้ ซึ่งแต่ละคนอาจเผชิญกับปัญหาที่แตกต่างกัน อีกทั้งยังอาจมีปัญหาอื่นๆ สะสมร่วมอยู่ด้วย สุดท้าย การกดไลก์รูปผู้หญิงคนอื่น ทั้งที่มีแฟนอยู่แล้ว จะเป็น Red Flag ในความสัมพันธ์หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นบริบทของสถานการณ์ ลักษณะรูปแบบการกดไลก์ พฤติกรรมอื่นๆ ของอีกฝ่าย รวมถึงพื้นฐานความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคนด้วยเช่นกัน หากเรื่องนี้กลายเป็นปัญหาที่กระทบต่อความสัมพันธ์ ทำให้ทั้งสองผิดใจกัน หรือส่งผลให้คนรักเป็นทุกข์ และตกอยู่ในความกังวล สิ่งที่ควรทำคือการพูดคุยและเปิดใจรับฟังความคิดเห็นโดยปราศจากอคติส่วนตัว เพื่อแก้ไขปัญหานี้ร่วมกันโดยไม่ทำร้ายจิตใจของอีกฝ่าย พร้อมกับรักษาขอบเขตพื้นที่อิสระของตนเองและสังคมรอบข้าง อ่านแง่มุมทั้งหมดได้ที่ลิ้งก์หน้า bio #RedFlag #ปัญหาความสัมพันธ์ #Relationship #Self #MIRRORThailand . . . https://mirrorthailand.com/self/relationship/102432

“เป็นผู้หญิงก็มีเรื่องต่างๆ ให้เจ็บปวดพอแล้ว…ฉะนั้น (ให้บราตัวนี้) ร้องอู้วววว โดยไม่ต้องร้องโอ๊ยกันเถอะ!” นับเป็นวิดีโอโปรโมตบรารุ่นใหม่ของแบรนด์ ‘SKIMS’ ที่เสวและฮอตสุดๆ เมื่อนางแบบสาว Carolina Marie Robertson พูดทิ้งท้ายประโยคดังกล่าว หลังจากปรากฏตัวด้วยการใส่ ‘บราเจาะหัวนมปลอม’ เดินเข้ามาในบาร์เพื่อสะกดทุกสายตาจนคนอ้าปากค้างในความเซ็กซี่ ตามคอนเซ็ปต์ “Get the ooh without the ouch” ของบรารุ่น Ultimate Pierced Nipple Push-Up Bra ที่ต่อยอดมาจากบราหัวนมรุ่นฮิตของทางแบรนด์ เพราะบราตัวนี้จะไม่ใช่แค่หัวนมปลอมที่นูนขึ้นมาบนบราอย่างเดียวแล้วนะ แต่ชีจะมีจิวติดหัวนมนูนขึ้นมาตั้งชูชัน เพิ่มความแซ่บ โดยไม่ต้องเจาะจริงๆ ด้วย!

SKIMS อธิบายว่า นี่เป็นบราเว้าลึกผ้าไมโครไฟเบอร์นุ่มพิเศษ ดันทรงให้อวบอึ๋มด้วยฟองน้ำทรงหยดน้ำที่มีน้ำหนักเบา และออกแบบมาเพื่อให้ ‘มองเห็นได้ชัดๆ’ ด้วยดีเทล ‘หัวนม’ ที่ยกขึ้นมาอย่างโดดเด่น พร้อม ‘จิวเจาะหัวนม’ เคลือบไนลอน ซึ่งสามารถถอดเข้า-ออกได้ เพื่อเป็นทางเลือก ดังนั้น ซื้อ 1 ตัว ก็จะได้ 2 ลุค ทั้งวันที่อยากเด่นแค่หัวนม ก็ไม่ต้องใส่จิว และวันที่อยากได้ลุคที่คนเห็นว่าเราเจาะหัวนม (แบบแอ๊บๆ) ก็ใส่ได้เลยเก๋ๆ มาในราคา 2,650 บาท 

“อยากให้มีสิ่งนี้ตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว ก่อนฉันจะไปเจาะจริงๆ ฮ่าๆ” / “ฉันถอดจิวออกมาหลายปีก่อน และไม่คิดจะเจาะใหม่อีกแล้ว นี่ทำให้ฉันอยากจะหวนคืนอดีตนะเนี่ย” / “ฉันชอบมัน เพราะมันทำมาเพื่อสาวๆ ที่ยังไม่ชัวร์ว่าจะเจาะดีหรือเปล่า” / “ถูกกกกกกกก ลุยค่าาาาาา นี่สำหรับเพื่อนสาวที่มีความอดทนต่ำต่อความเจ็บปวด” ฯลฯ  กระแสตอบรับดีๆ ที่ SKIMS ได้รับหลังจากลงโปรโมตบราตัวนี้ นอกจากนี้ อย่างที่รู้กันว่า ที่ผ่านมาบราหัวนมรุ่นฮิตของ SKIMS ไม่ได้ได้รับฟีดแบคเชิงบวกเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่อยากจะใส่เสื้อผ้าแล้วโชว์หัวนม (แต่ยังอยากใส่บราให้เป็นทรง) เพราะยังได้รับคำชื่นชมจากผู้หญิงที่เคยผ่านการผ่าตัดมะเร็งเต้านมด้วยว่า ทำให้พวกเธอรู้สึกมั่นใจมากขึ้น 

บราเจาะหัวนมปลอมครั้งนี้ก็เช่นกัน ยกตัวอย่าง Abigail Glavy ที่ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า “ในฐานะคนที่เคยสูญเสียหัวนม (และเต้านม) ไปกับมะเร็งเต้านม และอยากจะเจาะหัวนมมาตลอดก่อนที่จะตรวจพบโรคนี้ บราตัวนี้คือที่ และฉันจะซื้อมันค่ะ!!!!” 

ใครอยากลองใช้ชีวิตแบบมีจิวหัวนมโดยไม่เจ็บตัว มาทางนี้ได้เลอ! อ่านทั้งหมดที่ลิ้งก์หน้า bio

#skims #ultimatepiercednipplepushupbra #เจาะหัวนม #MIRRORThailand
.
.
.
https://mirrorthailand.com/style/fashion/102428

“เป็นผู้หญิงก็มีเรื่องต่างๆ ให้เจ็บปวดพอแล้ว…ฉะนั้น (ให้บราตัวนี้) ร้องอู้วววว โดยไม่ต้องร้องโอ๊ยกันเถอะ!” นับเป็นวิดีโอโปรโมตบรารุ่นใหม่ของแบรนด์ ‘SKIMS’ ที่เสวและฮอตสุดๆ เมื่อนางแบบสาว Carolina Marie Robertson พูดทิ้งท้ายประโยคดังกล่าว หลังจากปรากฏตัวด้วยการใส่ ‘บราเจาะหัวนมปลอม’ เดินเข้ามาในบาร์เพื่อสะกดทุกสายตาจนคนอ้าปากค้างในความเซ็กซี่ ตามคอนเซ็ปต์ “Get the ooh without the ouch” ของบรารุ่น Ultimate Pierced Nipple Push-Up Bra ที่ต่อยอดมาจากบราหัวนมรุ่นฮิตของทางแบรนด์ เพราะบราตัวนี้จะไม่ใช่แค่หัวนมปลอมที่นูนขึ้นมาบนบราอย่างเดียวแล้วนะ แต่ชีจะมีจิวติดหัวนมนูนขึ้นมาตั้งชูชัน เพิ่มความแซ่บ โดยไม่ต้องเจาะจริงๆ ด้วย! SKIMS อธิบายว่า นี่เป็นบราเว้าลึกผ้าไมโครไฟเบอร์นุ่มพิเศษ ดันทรงให้อวบอึ๋มด้วยฟองน้ำทรงหยดน้ำที่มีน้ำหนักเบา และออกแบบมาเพื่อให้ ‘มองเห็นได้ชัดๆ’ ด้วยดีเทล ‘หัวนม’ ที่ยกขึ้นมาอย่างโดดเด่น พร้อม ‘จิวเจาะหัวนม’ เคลือบไนลอน ซึ่งสามารถถอดเข้า-ออกได้ เพื่อเป็นทางเลือก ดังนั้น ซื้อ 1 ตัว ก็จะได้ 2 ลุค ทั้งวันที่อยากเด่นแค่หัวนม ก็ไม่ต้องใส่จิว และวันที่อยากได้ลุคที่คนเห็นว่าเราเจาะหัวนม (แบบแอ๊บๆ) ก็ใส่ได้เลยเก๋ๆ มาในราคา 2,650 บาท “อยากให้มีสิ่งนี้ตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว ก่อนฉันจะไปเจาะจริงๆ ฮ่าๆ” / “ฉันถอดจิวออกมาหลายปีก่อน และไม่คิดจะเจาะใหม่อีกแล้ว นี่ทำให้ฉันอยากจะหวนคืนอดีตนะเนี่ย” / “ฉันชอบมัน เพราะมันทำมาเพื่อสาวๆ ที่ยังไม่ชัวร์ว่าจะเจาะดีหรือเปล่า” / “ถูกกกกกกกก ลุยค่าาาาาา นี่สำหรับเพื่อนสาวที่มีความอดทนต่ำต่อความเจ็บปวด” ฯลฯ กระแสตอบรับดีๆ ที่ SKIMS ได้รับหลังจากลงโปรโมตบราตัวนี้ นอกจากนี้ อย่างที่รู้กันว่า ที่ผ่านมาบราหัวนมรุ่นฮิตของ SKIMS ไม่ได้ได้รับฟีดแบคเชิงบวกเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่อยากจะใส่เสื้อผ้าแล้วโชว์หัวนม (แต่ยังอยากใส่บราให้เป็นทรง) เพราะยังได้รับคำชื่นชมจากผู้หญิงที่เคยผ่านการผ่าตัดมะเร็งเต้านมด้วยว่า ทำให้พวกเธอรู้สึกมั่นใจมากขึ้น บราเจาะหัวนมปลอมครั้งนี้ก็เช่นกัน ยกตัวอย่าง Abigail Glavy ที่ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า “ในฐานะคนที่เคยสูญเสียหัวนม (และเต้านม) ไปกับมะเร็งเต้านม และอยากจะเจาะหัวนมมาตลอดก่อนที่จะตรวจพบโรคนี้ บราตัวนี้คือที่ และฉันจะซื้อมันค่ะ!!!!” ใครอยากลองใช้ชีวิตแบบมีจิวหัวนมโดยไม่เจ็บตัว มาทางนี้ได้เลอ! อ่านทั้งหมดที่ลิ้งก์หน้า bio #skims #ultimatepiercednipplepushupbra #เจาะหัวนม #MIRRORThailand . . . https://mirrorthailand.com/style/fashion/102428

Lost in DOMLAND  งานนี้ไม่ได้ชวนมาฟัง ไม่ได้ชวนมาดม แต่ชวนมาดู
นี่คือผลผลิตของ 👃🏼 อุดม แต้พานิช ที่ใช้เวลาไปกับศิลปะมากมายที่เขาทำทุกวัน ต่อเนื่องมา 30 ปี ที่ไร้กฎเกณฑ์ทางศิลปะ แต่คือความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความอึกทึกของวัยเด็กและความเงียบงันของใจผู้ใหญ่ ที่ถมช่องว่างในรอยต่อระหว่างเจเนอเรชั่นเก่าและใหม่ ผ่านสีสัน พื้นผิว และจินตนาการ

😈 สัตว์ประหลาดมากมายไม่ได้มีความหมายอะไรให้ตีความ แต่มี ‘เทพทำใจ’ หัวกล้วย 🍌 ที่เป็นเครื่องมือเตือนสติว่า 

‘ชีวิตคือของเรา จะเลือกให้มันซับซ้อน หรือปล่อยให้มันง่าย?”

สามารถซื้อบัตรที่ 7-11 ทุกสาขา
📍 The Pinnacle Hall ชั้น 8 ไอคอนสยาม 
ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน – 3 สิงหาคม 2568 
เวลา 11.00-19.00 น.

แวะพบกับของที่ระลึกน่ารัก ๆ จากนิทรรศการพร้อม Pop-up Café สุดพิเศษ Domland x Oh My Godmother กับขนมและเครื่องดื่มที่รังสรรค์ขึ้นเพื่อ Lost in DOMLAND โดยเฉพาะ!

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง
IG: @domdingdong และ @trendygallery.art

#LostinDOMLAND #UdomTaephanich #TrendyGallery
#MIRRORThailand

Lost in DOMLAND งานนี้ไม่ได้ชวนมาฟัง ไม่ได้ชวนมาดม แต่ชวนมาดู นี่คือผลผลิตของ 👃🏼 อุดม แต้พานิช ที่ใช้เวลาไปกับศิลปะมากมายที่เขาทำทุกวัน ต่อเนื่องมา 30 ปี ที่ไร้กฎเกณฑ์ทางศิลปะ แต่คือความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความอึกทึกของวัยเด็กและความเงียบงันของใจผู้ใหญ่ ที่ถมช่องว่างในรอยต่อระหว่างเจเนอเรชั่นเก่าและใหม่ ผ่านสีสัน พื้นผิว และจินตนาการ 😈 สัตว์ประหลาดมากมายไม่ได้มีความหมายอะไรให้ตีความ แต่มี ‘เทพทำใจ’ หัวกล้วย 🍌 ที่เป็นเครื่องมือเตือนสติว่า ‘ชีวิตคือของเรา จะเลือกให้มันซับซ้อน หรือปล่อยให้มันง่าย?” สามารถซื้อบัตรที่ 7-11 ทุกสาขา 📍 The Pinnacle Hall ชั้น 8 ไอคอนสยาม ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน – 3 สิงหาคม 2568 เวลา 11.00-19.00 น. แวะพบกับของที่ระลึกน่ารัก ๆ จากนิทรรศการพร้อม Pop-up Café สุดพิเศษ Domland x Oh My Godmother กับขนมและเครื่องดื่มที่รังสรรค์ขึ้นเพื่อ Lost in DOMLAND โดยเฉพาะ! ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง IG: @domdingdong และ @trendygallery.art #LostinDOMLAND #UdomTaephanich #TrendyGallery #MIRRORThailand

คนที่มีร่างกายอยู่ภายใต้ร่มของบุคคล Intersex ที่ผ่านมา ถูกแพทย์และครอบครัวบีบให้เลือกระหว่างเพศชายหรือเพศหญิง ในวัยและวันเวลาที่หลาย ๆ คนยังอยู่ในกระบวนการทำความเข้าใจร่างกายและความต้องการของตัวเอง ทำให้บางคนที่โชคไม่ดีถูกเลือกในสิ่งที่ไม่ตรงกับตัวตนที่อยากเป็น ได้รับผลกระทบตามมาทั้งทางร่างกายและจิตใจ (บทสนทนานี้เป็นส่วนหนึ่งของรายการ Gender Friendly EP.18)
.
ในอีพีนี้ได้รับเกียรติจาก พรีส - ณฐกมล ศิวะศิลป ทนายความตัวแทนจากกลุ่ม Thai Intersex Rights ที่จะมาร่วมสร้างความเข้าใจเพื่อไม่ทำให้แพทย์, ครอบครัว, สถาบันการศึกษา หรือแม้แต่คนในสังคมต้องเป็นผู้ร้ายในสมการนี้ 
.
พบกับรุ้ง วรางทิพย์ สัจจทิพวรรณ เจ้าของแบรนด์ผ้าอนามัยออร์แกนิก ‘Ira Concept’ และฟาโรห์ the common thread ติดตามรายการ ‘Gender Friendly’ รายการพอดแคสต์ที่ชวนเพื่อนต่างเพศมาพูดคุยประเด็นที่สังคมเห็นต่าง ในบรรยากาศเปิดกว้างและเป็นมิตร ได้ทาง YouTube: Mirror Thailand
.
#Intersex #PrideMonth #LGBTQ #LGBTQIA+ #ความเท่าเทียมทางเพศ #ฟาโรห์ #TheCommonThread #รุ้ง #IraConcept #GenderFriendly #MirrorPodcast #MirrorThailand #MovinOn #UNDP

คนที่มีร่างกายอยู่ภายใต้ร่มของบุคคล Intersex ที่ผ่านมา ถูกแพทย์และครอบครัวบีบให้เลือกระหว่างเพศชายหรือเพศหญิง ในวัยและวันเวลาที่หลาย ๆ คนยังอยู่ในกระบวนการทำความเข้าใจร่างกายและความต้องการของตัวเอง ทำให้บางคนที่โชคไม่ดีถูกเลือกในสิ่งที่ไม่ตรงกับตัวตนที่อยากเป็น ได้รับผลกระทบตามมาทั้งทางร่างกายและจิตใจ (บทสนทนานี้เป็นส่วนหนึ่งของรายการ Gender Friendly EP.18) . ในอีพีนี้ได้รับเกียรติจาก พรีส - ณฐกมล ศิวะศิลป ทนายความตัวแทนจากกลุ่ม Thai Intersex Rights ที่จะมาร่วมสร้างความเข้าใจเพื่อไม่ทำให้แพทย์, ครอบครัว, สถาบันการศึกษา หรือแม้แต่คนในสังคมต้องเป็นผู้ร้ายในสมการนี้ . พบกับรุ้ง วรางทิพย์ สัจจทิพวรรณ เจ้าของแบรนด์ผ้าอนามัยออร์แกนิก ‘Ira Concept’ และฟาโรห์ the common thread ติดตามรายการ ‘Gender Friendly’ รายการพอดแคสต์ที่ชวนเพื่อนต่างเพศมาพูดคุยประเด็นที่สังคมเห็นต่าง ในบรรยากาศเปิดกว้างและเป็นมิตร ได้ทาง YouTube: Mirror Thailand . #Intersex #PrideMonth #LGBTQ #LGBTQIA+ #ความเท่าเทียมทางเพศ #ฟาโรห์ #TheCommonThread #รุ้ง #IraConcept #GenderFriendly #MirrorPodcast #MirrorThailand #MovinOn #UNDP

“เคยมีเพื่อนผู้หญิงมาพูดกับเราว่า ติ๊นา ทำไมเกิดมาเป็นผู้หญิงแล้วไม่เป็นผู้หญิง โคตรเสียชาติเกิดเลย”

หลายๆ ครั้งคำพูดที่ทำร้ายความรู้สึกของเรา ก็มักมาจากคนใกล้ตัวที่อาจจะพูดออกมาโดยไม่ได้คิดถึงใจคนฟัง โดยเฉพาะการใช้เรื่องเพศมาตัดสินหรือตีตราคนๆ นึง ว่าถ้าเพศนี้ต้องเป็นคนแบบนั้นแบบนี้ โดยยังไม่รับฟังหรือเปิดใจยอมรับตัวตนจริงๆ 

พบกับเรื่องราวของ ติ๊นา - ศุภนาฎ จิตตลีลา ที่ตามหาความสุขของตัวเองจนพบอีกครั้งหลังผ่านเหตุการณ์สำคัญที่เข้ามาเป็นบททดสอบชีวิตของเธอจนพบกับตัวเองในเวอร์ชันที่ดีขึ้นกว่าเดิม ติดตามรายการ Sisterhood พอดแคสต์ที่จะเป็นพื้นที่ปลอดภัยและไม่มีการตัดสินกัน ดำเนินรายการโดย แนท - ธนวลัย วัชรพล ได้ทาง YouTube : Mirror Thailand

#PrideMonth #ติ๊นาศุภนาฎ #คู่จิ้นยูริ #หญิงรักหญิง #ซีรีส์ยูริ #Sapphic #ChannelVThailand #Sisterhood #MIRRORpodcast #MIRRORthailand #NatVach #ธนวลัยวัชรพล #WomanEmpower #Culture

“เคยมีเพื่อนผู้หญิงมาพูดกับเราว่า ติ๊นา ทำไมเกิดมาเป็นผู้หญิงแล้วไม่เป็นผู้หญิง โคตรเสียชาติเกิดเลย” หลายๆ ครั้งคำพูดที่ทำร้ายความรู้สึกของเรา ก็มักมาจากคนใกล้ตัวที่อาจจะพูดออกมาโดยไม่ได้คิดถึงใจคนฟัง โดยเฉพาะการใช้เรื่องเพศมาตัดสินหรือตีตราคนๆ นึง ว่าถ้าเพศนี้ต้องเป็นคนแบบนั้นแบบนี้ โดยยังไม่รับฟังหรือเปิดใจยอมรับตัวตนจริงๆ พบกับเรื่องราวของ ติ๊นา - ศุภนาฎ จิตตลีลา ที่ตามหาความสุขของตัวเองจนพบอีกครั้งหลังผ่านเหตุการณ์สำคัญที่เข้ามาเป็นบททดสอบชีวิตของเธอจนพบกับตัวเองในเวอร์ชันที่ดีขึ้นกว่าเดิม ติดตามรายการ Sisterhood พอดแคสต์ที่จะเป็นพื้นที่ปลอดภัยและไม่มีการตัดสินกัน ดำเนินรายการโดย แนท - ธนวลัย วัชรพล ได้ทาง YouTube : Mirror Thailand #PrideMonth #ติ๊นาศุภนาฎ #คู่จิ้นยูริ #หญิงรักหญิง #ซีรีส์ยูริ #Sapphic #ChannelVThailand #Sisterhood #MIRRORpodcast #MIRRORthailand #NatVach #ธนวลัยวัชรพล #WomanEmpower #Culture

“ดากานดา ฉันรักแกว่ะ”
“แกมาทำอะไรเอาตอนนี้”

ประโยคฝังใจจากภาพยนตร์เรื่อง ‘เพื่อนสนิท’ ที่สะท้อนความสัมพันธ์แบบ What if ได้เป็นอย่างดี เพราะคำตอบของ ‘ดากานดา’ ในวันนั้น กลายเป็นคำถามที่ติดอยู่ในใจตัวละครและผู้ชมมาตลอดหลายสิบปี ถ้าไข่ย้อยบอกรักดากานดาตั้งแต่ในเต็นท์ เรื่องราวทุกอย่างจะเปลี่ยนไปไหม ถ้าไข่ย้อยกล้าทำอะไรมากกว่านี้ เพื่อไม่ให้เพื่อนจีบดากานดาล่ะ วันนี้ทั้งคู่จะไม่เป็นอย่างเพลง ‘I'm ok // not ok’ หรือเปล่า?

หากใครได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้จะทราบว่า ทั้งดากานดาและไข่ย้อยต่างรู้สึกดีต่อกัน ซึ่งดากานดาเองก็เฝ้ารอคำสารภาพจากไข่ย้อยมาโดยตลอด แต่กว่าไข่ย้อยจะกล้าสารภาพความในใจกับดากานดา ทุกอย่างก็สายไปเสียแล้ว ไม่ใช่ว่าทั้งคู่ไม่ใจตรงกัน ไม่ใช่เพราะจังหวะเวลาไม่เข้าข้างพวกเขา แต่เพราะไม่มีใครกล้าเริ่มต้นเอ่ยปากพูดคำว่ารักออกมาก่อน ทั้งที่มีโอกาสมากมาย จนกระทั่งมีคนอื่นมาแทรกกลางระหว่างความสัมพันธ์นี้

ความไม่ชัดเจนในวันนั้นกลายเป็นความเสียดายที่ติดค้างภายในใจตลอดกาล เพราะคนเราย้อนกลับเวลากลับไปแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดในอดีตไม่ได้ ปมคำถาม What if หรือ ‘จะเกิดอะไรขึ้น ถ้า…’ จึงไม่มีวันถูกคลี่คลายลง

จากภาพยนตร์เรื่อง ‘เพื่อนสนิท’ ซึ่งเล่าถึงเรื่องราวความรักที่ไม่สมหวังของคู่เพื่อนสนิทอย่าง ‘ไข่ย้อย’ (หรือ ‘หมู’) และ ‘ดากานดา’ ซึ่งได้พบเจอและสนิทกันในคณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สู่บทเพลง ‘I'm ok // not ok’ ของ BOYdPOD และ Billkin ที่นำตัวละครทั้งสองกลับมาเจอกันอีกครั้ง หลังผ่านไป 20 ปี ทำให้ผู้ชมได้หวนกลับไปนึกถึงความทรงจำเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้ รวมถึง ‘ใครบางคน’ ที่ซ่อนอยู่ในหนังด้วยเช่นกัน

สำหรับบางคน การอกหักจากความรักที่ไม่เคยเริ่มต้น จึงอาจเจ็บปวดกว่าการผิดหวังจากรักที่เคยลองทำทุกอย่างอย่างเต็มที่แล้ว เพราะมันไม่ใช่แค่ความเสียใจที่ความสัมพันธ์จบลง แต่คือความเสียดายที่ยังค้างคาอยู่ในใจว่า  ถ้าวันนั้นเราตัดสินใจอีกแบบ ทุกอย่างจะแตกต่างไปจากตอนนี้ไหม?

เมื่อไม่เคยข้ามเส้นไปเป็นคนรัก ‘หมู’ จึงยังคงเป็น ‘ไข่ย้อย’ เพื่อนสนิทที่คอยช่วยเหลือ และอยู่เคียงข้างดากานดาเสมอมา ส่วน ‘ดากานดา’ เองก็ยังเป็นหญิงผู้เป็นที่รักสำหรับไข่ย้อยตลอดไป

ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ความทรงจำที่สวยงามยังคงเด่นชัดอยู่ในใจ เพราะเรื่องราวของทั้งคู่จบลงตั้งแต่จดหมายฉบับสุดท้ายของไข่ย้อย และไม่เคยมีจดหมายฉบับใหม่เกิดขึ้นอีกเลย

อ่านแง่มุมทั้งหมดได้ที่ลิ้งก์หน้า bio

#เพื่อนสนิท #ImOk_NotOk #BOYdPODxBillkin #Culture #MIRRORThailand
.
.
.
https://mirrorthailand.com/culture/films/102431

“ดากานดา ฉันรักแกว่ะ” “แกมาทำอะไรเอาตอนนี้” ประโยคฝังใจจากภาพยนตร์เรื่อง ‘เพื่อนสนิท’ ที่สะท้อนความสัมพันธ์แบบ What if ได้เป็นอย่างดี เพราะคำตอบของ ‘ดากานดา’ ในวันนั้น กลายเป็นคำถามที่ติดอยู่ในใจตัวละครและผู้ชมมาตลอดหลายสิบปี ถ้าไข่ย้อยบอกรักดากานดาตั้งแต่ในเต็นท์ เรื่องราวทุกอย่างจะเปลี่ยนไปไหม ถ้าไข่ย้อยกล้าทำอะไรมากกว่านี้ เพื่อไม่ให้เพื่อนจีบดากานดาล่ะ วันนี้ทั้งคู่จะไม่เป็นอย่างเพลง ‘I'm ok // not ok’ หรือเปล่า? หากใครได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้จะทราบว่า ทั้งดากานดาและไข่ย้อยต่างรู้สึกดีต่อกัน ซึ่งดากานดาเองก็เฝ้ารอคำสารภาพจากไข่ย้อยมาโดยตลอด แต่กว่าไข่ย้อยจะกล้าสารภาพความในใจกับดากานดา ทุกอย่างก็สายไปเสียแล้ว ไม่ใช่ว่าทั้งคู่ไม่ใจตรงกัน ไม่ใช่เพราะจังหวะเวลาไม่เข้าข้างพวกเขา แต่เพราะไม่มีใครกล้าเริ่มต้นเอ่ยปากพูดคำว่ารักออกมาก่อน ทั้งที่มีโอกาสมากมาย จนกระทั่งมีคนอื่นมาแทรกกลางระหว่างความสัมพันธ์นี้ ความไม่ชัดเจนในวันนั้นกลายเป็นความเสียดายที่ติดค้างภายในใจตลอดกาล เพราะคนเราย้อนกลับเวลากลับไปแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดในอดีตไม่ได้ ปมคำถาม What if หรือ ‘จะเกิดอะไรขึ้น ถ้า…’ จึงไม่มีวันถูกคลี่คลายลง จากภาพยนตร์เรื่อง ‘เพื่อนสนิท’ ซึ่งเล่าถึงเรื่องราวความรักที่ไม่สมหวังของคู่เพื่อนสนิทอย่าง ‘ไข่ย้อย’ (หรือ ‘หมู’) และ ‘ดากานดา’ ซึ่งได้พบเจอและสนิทกันในคณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สู่บทเพลง ‘I'm ok // not ok’ ของ BOYdPOD และ Billkin ที่นำตัวละครทั้งสองกลับมาเจอกันอีกครั้ง หลังผ่านไป 20 ปี ทำให้ผู้ชมได้หวนกลับไปนึกถึงความทรงจำเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้ รวมถึง ‘ใครบางคน’ ที่ซ่อนอยู่ในหนังด้วยเช่นกัน สำหรับบางคน การอกหักจากความรักที่ไม่เคยเริ่มต้น จึงอาจเจ็บปวดกว่าการผิดหวังจากรักที่เคยลองทำทุกอย่างอย่างเต็มที่แล้ว เพราะมันไม่ใช่แค่ความเสียใจที่ความสัมพันธ์จบลง แต่คือความเสียดายที่ยังค้างคาอยู่ในใจว่า ถ้าวันนั้นเราตัดสินใจอีกแบบ ทุกอย่างจะแตกต่างไปจากตอนนี้ไหม? เมื่อไม่เคยข้ามเส้นไปเป็นคนรัก ‘หมู’ จึงยังคงเป็น ‘ไข่ย้อย’ เพื่อนสนิทที่คอยช่วยเหลือ และอยู่เคียงข้างดากานดาเสมอมา ส่วน ‘ดากานดา’ เองก็ยังเป็นหญิงผู้เป็นที่รักสำหรับไข่ย้อยตลอดไป ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ความทรงจำที่สวยงามยังคงเด่นชัดอยู่ในใจ เพราะเรื่องราวของทั้งคู่จบลงตั้งแต่จดหมายฉบับสุดท้ายของไข่ย้อย และไม่เคยมีจดหมายฉบับใหม่เกิดขึ้นอีกเลย อ่านแง่มุมทั้งหมดได้ที่ลิ้งก์หน้า bio #เพื่อนสนิท #ImOk_NotOk #BOYdPODxBillkin #Culture #MIRRORThailand . . . https://mirrorthailand.com/culture/films/102431

ถึงเวลาแล้วหรือยัง? ที่คำว่า ‘HIV’ หรือ ‘เอดส์’ จะไม่ถูกใช้เป็นคำด่า หรือเป็นเครื่องมือลดคุณค่าความเป็นมนุษย์ของใครอีกต่อไป เพราะการเหมารวม ตีตรา หรือเลือกปฏิบัติ ไม่เพียงสะท้อนความไม่เข้าใจเรื่อง HIV แต่ยังตอกย้ำอคติที่ไม่ควรมีในสังคมอีกแล้ว

วันนี้ เราอยู่ในยุคที่วิทยาศาสตร์ก้าวหน้า จนทำให้ผู้มีเชื้อ HIV สามารถใช้ชีวิตได้อย่างคนทั่วไป
แล้วสังคมเราล่ะ พร้อมก้าวไปข้างหน้าด้วยกันหรือยัง?

มาร่วมรับฟังเสียงจาก จำรอง แพงหนองยาง รองผู้อำนวยการมูลนิธิเพื่อนพนักงานบริการ (SWING)
ที่จะพาเราแก้ความเข้าใจผิด และสร้างความเข้าใจใหม่ ให้การตีตราและเลือกปฏิบัติกับผู้มี HIV ค่อยๆ หายไปจากสังคมไทย

#HIV #AIDS #BreakingTheStigma #Wellness #WellnessJourney #MirrorThailand #Self #Pridemonth #Pridemonth2025 #AllVoicesOnePride #เฉลิมฉลองความหลากหลายให้ทุกเสียงมีพื้นที่

ถึงเวลาแล้วหรือยัง? ที่คำว่า ‘HIV’ หรือ ‘เอดส์’ จะไม่ถูกใช้เป็นคำด่า หรือเป็นเครื่องมือลดคุณค่าความเป็นมนุษย์ของใครอีกต่อไป เพราะการเหมารวม ตีตรา หรือเลือกปฏิบัติ ไม่เพียงสะท้อนความไม่เข้าใจเรื่อง HIV แต่ยังตอกย้ำอคติที่ไม่ควรมีในสังคมอีกแล้ว วันนี้ เราอยู่ในยุคที่วิทยาศาสตร์ก้าวหน้า จนทำให้ผู้มีเชื้อ HIV สามารถใช้ชีวิตได้อย่างคนทั่วไป แล้วสังคมเราล่ะ พร้อมก้าวไปข้างหน้าด้วยกันหรือยัง? มาร่วมรับฟังเสียงจาก จำรอง แพงหนองยาง รองผู้อำนวยการมูลนิธิเพื่อนพนักงานบริการ (SWING) ที่จะพาเราแก้ความเข้าใจผิด และสร้างความเข้าใจใหม่ ให้การตีตราและเลือกปฏิบัติกับผู้มี HIV ค่อยๆ หายไปจากสังคมไทย #HIV #AIDS #BreakingTheStigma #Wellness #WellnessJourney #MirrorThailand #Self #Pridemonth #Pridemonth2025 #AllVoicesOnePride #เฉลิมฉลองความหลากหลายให้ทุกเสียงมีพื้นที่

‘เปเปอร์ พีรดา’ เป็นทั้งอินฟลูฯ สาวแต่งตัวเก่ง แถมยังเต้นเก่ง ขวัญใจใครหลายๆ คน และเป็นนักแสดง ที่ฝากผลงานไว้กับคาแรกเตอร์สาวซ่านักช็อต ‘ไฟฟ้า’ จากซีรีส์ GELBOYS ซึ่งเธอบอกว่า การได้สวมบทเป็นตัวละครหนึ่ง เหมือนได้ค้นพบอีกมิติหนึ่งในตัวเอง ไม่ว่าจะอารมณ์ที่แตกต่างออกไป หรือสถานการณ์ที่มีทั้งรีเลตกับชีวิตและไม่เคยพบเจอมาก่อน และนั่นทำให้เธอได้เรียนรู้ความเป็นมนุษย์ที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น

เปเปอร์ ตั้งใจว่าจะไม่รับเล่นบทที่ส่งต่ออคติทางเพศ เพราะไม่อยากจะทำให้เพศของตัวเองดูไม่ดีในสายตาใคร ดังนั้น เรื่องที่เธอรับเล่น จึงล้วนเป็นเรื่องที่ ‘ให้บางอย่าง’ กับคนดู หรืออย่างน้อยที่สุดก็มองว่าเพศของเธอเป็นปกติธรรมดาทั่วไป 

ไม่ว่าจะบท ‘ไฟฟ้า’ นักเรียนหญิงข้ามเพศ ที่ได้ไว้ผมยาวไปโรงเรียน ซึ่งเธอรับเล่นเพราะรีเลตกับชีวิต หลังจากที่หลายคนจำเธอได้จากฉายา นางฟ้าอัสสัมชัญ และเธอก็ดีใจที่น้องๆ ยุคนี้หลายๆ คน สามารถไว้ผมไปโรงเรียนได้ มีเวลาโฟกัสที่การเรียนและตัวเองได้จริงๆ ไม่ต้องกังวลอีกแล้ว 

หรือจะ ‘เกรซ’ นักเรียนหญิงข้ามเพศ ที่ได้แต่งกายชุดนักเรียนหญิงตามเพศสภาพ จากซีรีส์ LoveSick 2024 ที่รับเล่นเพราะอยากส่งเสียงออกไปว่า จะดีกว่าไหม ถ้านักเรียนได้แต่งกายตามเพศสภาพของตน ซึ่งการได้เป็นตัวเอง จะส่งผลดีต่อสุขภาพจิตในระยะยาว

FIVE ME จาก Mirror Thailand รายการที่ชวนแขกรับเชิญมาแชร์ 5 สิ่งที่บ่งบอกความเป็นตัวตนของพวกเขา ได้ชวนเปเปอร์มาเล่าถึงสิ่งที่หล่อหลอมให้เธอเป็นเธออย่างทุกวันนี้ มีตั้งแต่ ‘หูฟังแบบสาย’, ‘หมา’, ‘แว่นกันแดด’, ‘แฟชั่น’ และ ‘ว่ายน้ำ’ พร้อมชวนเธอมาพูดถึงเรื่องราวชีวิตตั้งแต่การโดน judge และอาชีพนักแสดงที่เธอกำลังสนุกกับมัน 

เปเปอร์ย้ำว่า เธอไม่อยากให้คนในสังคมติดภาพสเตริโอไทป์ว่าทรานส์เป็นแค่แบบใดแบบหนึ่ง เพราะทุกคนและตัวเธอเองก็มีหลายมุม มีวันที่เป็นผู้หญิงเท่ๆ มีวันที่เป็นผู้หญิงหวานๆ มีวันที่เป็นผู้หญิงโก้ๆ หรือวันที่เป็นผู้หญิงซ่าๆ ไม่ว่าจะเพศไหน ก็ไม่มีใคร ‘เหมือนกัน’ ทุกคนมีความแตกต่างหลากหลาย ที่เราไม่ควรตัดสินอย่างผิวเผิน

ติดตาม ‘เปเปอร์ พีรดา’ ในรายการ FIVE ME EP.9 ฉบับเต็มได้ทาง YouTube : Mirror Thailand 

#piggynoii #เปเปอร์พีรดา #GELBOYSสถานะกั๊กใจ #FIVEMExPiggynoii #MIRRORThailand

‘เปเปอร์ พีรดา’ เป็นทั้งอินฟลูฯ สาวแต่งตัวเก่ง แถมยังเต้นเก่ง ขวัญใจใครหลายๆ คน และเป็นนักแสดง ที่ฝากผลงานไว้กับคาแรกเตอร์สาวซ่านักช็อต ‘ไฟฟ้า’ จากซีรีส์ GELBOYS ซึ่งเธอบอกว่า การได้สวมบทเป็นตัวละครหนึ่ง เหมือนได้ค้นพบอีกมิติหนึ่งในตัวเอง ไม่ว่าจะอารมณ์ที่แตกต่างออกไป หรือสถานการณ์ที่มีทั้งรีเลตกับชีวิตและไม่เคยพบเจอมาก่อน และนั่นทำให้เธอได้เรียนรู้ความเป็นมนุษย์ที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น เปเปอร์ ตั้งใจว่าจะไม่รับเล่นบทที่ส่งต่ออคติทางเพศ เพราะไม่อยากจะทำให้เพศของตัวเองดูไม่ดีในสายตาใคร ดังนั้น เรื่องที่เธอรับเล่น จึงล้วนเป็นเรื่องที่ ‘ให้บางอย่าง’ กับคนดู หรืออย่างน้อยที่สุดก็มองว่าเพศของเธอเป็นปกติธรรมดาทั่วไป ไม่ว่าจะบท ‘ไฟฟ้า’ นักเรียนหญิงข้ามเพศ ที่ได้ไว้ผมยาวไปโรงเรียน ซึ่งเธอรับเล่นเพราะรีเลตกับชีวิต หลังจากที่หลายคนจำเธอได้จากฉายา นางฟ้าอัสสัมชัญ และเธอก็ดีใจที่น้องๆ ยุคนี้หลายๆ คน สามารถไว้ผมไปโรงเรียนได้ มีเวลาโฟกัสที่การเรียนและตัวเองได้จริงๆ ไม่ต้องกังวลอีกแล้ว หรือจะ ‘เกรซ’ นักเรียนหญิงข้ามเพศ ที่ได้แต่งกายชุดนักเรียนหญิงตามเพศสภาพ จากซีรีส์ LoveSick 2024 ที่รับเล่นเพราะอยากส่งเสียงออกไปว่า จะดีกว่าไหม ถ้านักเรียนได้แต่งกายตามเพศสภาพของตน ซึ่งการได้เป็นตัวเอง จะส่งผลดีต่อสุขภาพจิตในระยะยาว FIVE ME จาก Mirror Thailand รายการที่ชวนแขกรับเชิญมาแชร์ 5 สิ่งที่บ่งบอกความเป็นตัวตนของพวกเขา ได้ชวนเปเปอร์มาเล่าถึงสิ่งที่หล่อหลอมให้เธอเป็นเธออย่างทุกวันนี้ มีตั้งแต่ ‘หูฟังแบบสาย’, ‘หมา’, ‘แว่นกันแดด’, ‘แฟชั่น’ และ ‘ว่ายน้ำ’ พร้อมชวนเธอมาพูดถึงเรื่องราวชีวิตตั้งแต่การโดน judge และอาชีพนักแสดงที่เธอกำลังสนุกกับมัน เปเปอร์ย้ำว่า เธอไม่อยากให้คนในสังคมติดภาพสเตริโอไทป์ว่าทรานส์เป็นแค่แบบใดแบบหนึ่ง เพราะทุกคนและตัวเธอเองก็มีหลายมุม มีวันที่เป็นผู้หญิงเท่ๆ มีวันที่เป็นผู้หญิงหวานๆ มีวันที่เป็นผู้หญิงโก้ๆ หรือวันที่เป็นผู้หญิงซ่าๆ ไม่ว่าจะเพศไหน ก็ไม่มีใคร ‘เหมือนกัน’ ทุกคนมีความแตกต่างหลากหลาย ที่เราไม่ควรตัดสินอย่างผิวเผิน ติดตาม ‘เปเปอร์ พีรดา’ ในรายการ FIVE ME EP.9 ฉบับเต็มได้ทาง YouTube : Mirror Thailand #piggynoii #เปเปอร์พีรดา #GELBOYSสถานะกั๊กใจ #FIVEMExPiggynoii #MIRRORThailand

‘เปเปอร์ พีรดา’ เป็นทั้งอินฟลูฯ สาวแต่งตัวเก่ง แถมยังเต้นเก่ง ขวัญใจใครหลายๆ คน และเป็นนักแสดง ที่ฝากผลงานไว้กับคาแรกเตอร์สาวซ่านักช็อต ‘ไฟฟ้า’ จากซีรีส์ GELBOYS ซึ่งเธอบอกว่า การได้สวมบทเป็นตัวละครหนึ่ง เหมือนได้ค้นพบอีกมิติหนึ่งในตัวเอง ไม่ว่าจะอารมณ์ที่แตกต่างออกไป หรือสถานการณ์ที่มีทั้งรีเลตกับชีวิตและไม่เคยพบเจอมาก่อน และนั่นทำให้เธอได้เรียนรู้ความเป็นมนุษย์ที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น

เปเปอร์ ตั้งใจว่าจะไม่รับเล่นบทที่ส่งต่ออคติทางเพศ เพราะไม่อยากจะทำให้เพศของตัวเองดูไม่ดีในสายตาใคร ดังนั้น เรื่องที่เธอรับเล่น จึงล้วนเป็นเรื่องที่ ‘ให้บางอย่าง’ กับคนดู หรืออย่างน้อยที่สุดก็มองว่าเพศของเธอเป็นปกติธรรมดาทั่วไป 

ไม่ว่าจะบท ‘ไฟฟ้า’ นักเรียนหญิงข้ามเพศ ที่ได้ไว้ผมยาวไปโรงเรียน ซึ่งเธอรับเล่นเพราะรีเลตกับชีวิต หลังจากที่หลายคนจำเธอได้จากฉายา นางฟ้าอัสสัมชัญ และเธอก็ดีใจที่น้องๆ ยุคนี้หลายๆ คน สามารถไว้ผมไปโรงเรียนได้ มีเวลาโฟกัสที่การเรียนและตัวเองได้จริงๆ ไม่ต้องกังวลอีกแล้ว 

หรือจะ ‘เกรซ’ นักเรียนหญิงข้ามเพศ ที่ได้แต่งกายชุดนักเรียนหญิงตามเพศสภาพ จากซีรีส์ LoveSick 2024 ที่รับเล่นเพราะอยากส่งเสียงออกไปว่า จะดีกว่าไหม ถ้านักเรียนได้แต่งกายตามเพศสภาพของตน ซึ่งการได้เป็นตัวเอง จะส่งผลดีต่อสุขภาพจิตในระยะยาว

FIVE ME จาก Mirror Thailand รายการที่ชวนแขกรับเชิญมาแชร์ 5 สิ่งที่บ่งบอกความเป็นตัวตนของพวกเขา ได้ชวนเปเปอร์มาเล่าถึงสิ่งที่หล่อหลอมให้เธอเป็นเธออย่างทุกวันนี้ มีตั้งแต่ ‘หูฟังแบบสาย’, ‘หมา’, ‘แว่นกันแดด’, ‘แฟชั่น’ และ ‘ว่ายน้ำ’ พร้อมชวนเธอมาพูดถึงเรื่องราวชีวิตตั้งแต่การโดน judge และอาชีพนักแสดงที่เธอกำลังสนุกกับมัน 

เปเปอร์ย้ำว่า เธอไม่อยากให้คนในสังคมติดภาพสเตริโอไทป์ว่าทรานส์เป็นแค่แบบใดแบบหนึ่ง เพราะทุกคนและตัวเธอเองก็มีหลายมุม มีวันที่เป็นผู้หญิงเท่ๆ มีวันที่เป็นผู้หญิงหวานๆ มีวันที่เป็นผู้หญิงโก้ๆ หรือวันที่เป็นผู้หญิงซ่าๆ ไม่ว่าจะเพศไหน ก็ไม่มีใคร ‘เหมือนกัน’ ทุกคนมีความแตกต่างหลากหลาย ที่เราไม่ควรตัดสินอย่างผิวเผิน

ติดตาม ‘เปเปอร์ พีรดา’ ในรายการ FIVE ME EP.9 ฉบับเต็มได้ทาง YouTube : Mirror Thailand 

#piggynoii #เปเปอร์พีรดา #GELBOYSสถานะกั๊กใจ #FIVEMExPiggynoii #MIRRORThailand

‘เปเปอร์ พีรดา’ เป็นทั้งอินฟลูฯ สาวแต่งตัวเก่ง แถมยังเต้นเก่ง ขวัญใจใครหลายๆ คน และเป็นนักแสดง ที่ฝากผลงานไว้กับคาแรกเตอร์สาวซ่านักช็อต ‘ไฟฟ้า’ จากซีรีส์ GELBOYS ซึ่งเธอบอกว่า การได้สวมบทเป็นตัวละครหนึ่ง เหมือนได้ค้นพบอีกมิติหนึ่งในตัวเอง ไม่ว่าจะอารมณ์ที่แตกต่างออกไป หรือสถานการณ์ที่มีทั้งรีเลตกับชีวิตและไม่เคยพบเจอมาก่อน และนั่นทำให้เธอได้เรียนรู้ความเป็นมนุษย์ที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น เปเปอร์ ตั้งใจว่าจะไม่รับเล่นบทที่ส่งต่ออคติทางเพศ เพราะไม่อยากจะทำให้เพศของตัวเองดูไม่ดีในสายตาใคร ดังนั้น เรื่องที่เธอรับเล่น จึงล้วนเป็นเรื่องที่ ‘ให้บางอย่าง’ กับคนดู หรืออย่างน้อยที่สุดก็มองว่าเพศของเธอเป็นปกติธรรมดาทั่วไป ไม่ว่าจะบท ‘ไฟฟ้า’ นักเรียนหญิงข้ามเพศ ที่ได้ไว้ผมยาวไปโรงเรียน ซึ่งเธอรับเล่นเพราะรีเลตกับชีวิต หลังจากที่หลายคนจำเธอได้จากฉายา นางฟ้าอัสสัมชัญ และเธอก็ดีใจที่น้องๆ ยุคนี้หลายๆ คน สามารถไว้ผมไปโรงเรียนได้ มีเวลาโฟกัสที่การเรียนและตัวเองได้จริงๆ ไม่ต้องกังวลอีกแล้ว หรือจะ ‘เกรซ’ นักเรียนหญิงข้ามเพศ ที่ได้แต่งกายชุดนักเรียนหญิงตามเพศสภาพ จากซีรีส์ LoveSick 2024 ที่รับเล่นเพราะอยากส่งเสียงออกไปว่า จะดีกว่าไหม ถ้านักเรียนได้แต่งกายตามเพศสภาพของตน ซึ่งการได้เป็นตัวเอง จะส่งผลดีต่อสุขภาพจิตในระยะยาว FIVE ME จาก Mirror Thailand รายการที่ชวนแขกรับเชิญมาแชร์ 5 สิ่งที่บ่งบอกความเป็นตัวตนของพวกเขา ได้ชวนเปเปอร์มาเล่าถึงสิ่งที่หล่อหลอมให้เธอเป็นเธออย่างทุกวันนี้ มีตั้งแต่ ‘หูฟังแบบสาย’, ‘หมา’, ‘แว่นกันแดด’, ‘แฟชั่น’ และ ‘ว่ายน้ำ’ พร้อมชวนเธอมาพูดถึงเรื่องราวชีวิตตั้งแต่การโดน judge และอาชีพนักแสดงที่เธอกำลังสนุกกับมัน เปเปอร์ย้ำว่า เธอไม่อยากให้คนในสังคมติดภาพสเตริโอไทป์ว่าทรานส์เป็นแค่แบบใดแบบหนึ่ง เพราะทุกคนและตัวเธอเองก็มีหลายมุม มีวันที่เป็นผู้หญิงเท่ๆ มีวันที่เป็นผู้หญิงหวานๆ มีวันที่เป็นผู้หญิงโก้ๆ หรือวันที่เป็นผู้หญิงซ่าๆ ไม่ว่าจะเพศไหน ก็ไม่มีใคร ‘เหมือนกัน’ ทุกคนมีความแตกต่างหลากหลาย ที่เราไม่ควรตัดสินอย่างผิวเผิน ติดตาม ‘เปเปอร์ พีรดา’ ในรายการ FIVE ME EP.9 ฉบับเต็มได้ทาง YouTube : Mirror Thailand #piggynoii #เปเปอร์พีรดา #GELBOYSสถานะกั๊กใจ #FIVEMExPiggynoii #MIRRORThailand

แทบทุกครั้งเวลาได้ยินข่าวคราวของบรรดาคนดัง ไม่ว่าจะศิลปิน นักดนตรี นักแสดง หรือเอนเตอร์เทนเนอร์ที่จากไปอย่างกระทันหัน ทั้งด้วยการฆ่าตัวตาย หรือเสียชีวิตจากการ Overdose โดยใช้ยานอนหลับ แอลกอฮอลล์ หรือสารเสพติดเกินขนาด เราจะรู้สึกใจหายอยู่เสมอ และพร้อมกับความรู้สึกใจหาย มันก็มักจะมาพร้อมกับความรู้สึกสงสัย และตั้งคำถามอย่างเจ็บปวดอยู่เงียบๆ ว่าเพราะเหตุใดกันนะ พวกเขาจึงจากไปด้วยการจบชีวิตตัวเองลงแบบนั้น ทั้งๆ ที่เบื้องหน้า งานของพวกเขาคือการเป็นผู้มอบความสุข สร้างรอยยิ้ม เรียกเสียงหัวเราะ ผ่านการแสดงอันเก่งฉกาจ บทบาทอันอบอุ่น ผ่านเสียงดนตรีและเนื้อร้องราวกับบทกวีที่เป็นเหมือนเครื่องบรรเทาความทุกข์ให้กับผู้คน 

นั่นอาจเป็นเพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่า ภายใต้ผลงานอันเพอร์เฟ็กต์ บนใบหน้าเปื้อนยิ้มของผู้ทำหน้าที่สร้างความสุขให้คนอื่นเหล่านั้น แอบซ่อนความทุกข์ทนอะไรเอาไว้ข้างในมากมายบ้าง 

ในเดือนมิถุนายนของทุกปี นับเป็นเดือน Men’s Mental Health Awareness Month หรือเดือนแห่งการตระหนักรู้เรื่องสุขภาพจิตของผู้ชาย (ซึ่งอาจมีความแตกต่างกันไปได้ในแต่ละประเทศ เช่น บางประเทศที่กำหนดให้เป็นเดือนพฤศจิกายน) เราจึงอยากชวนทุกคนมาร่วมกันสร้างความตระหนักไปพร้อมกันอีกครั้งว่า สัญญาณของปัญหาสุขภาพจิตเป็นเรื่องสำคัญสำหรับทุกคนที่ไม่อาจมองข้ามก็จริง แต่เพราะเหตุใด พอเป็นเรื่องสุขภาพจิตของผู้ชาย มันกลับเป็นเรื่องยากและมีมิติที่ซับซ้อน จนหลายครั้งทำให้ความทุกข์ทนเจ็บปวดของพวกเขาถูกมองข้าม และลงเอยด้วยโศกนาฏกรรมไม่คาดคิดอยู่เรื่อยไป 

ชวนหาคำตอบผ่านแง่มุมทั้งหมดที่ลิงก์หน้า bio

#Mind #menmentalhealth #Depression #mentalhealth #Suicide #Artist #RobinWilliams #heathledger #kurtcobain #iancurtis #chesterbennington #chriscornell #elliotsmith #MIRRORThailand
.
.
.

ttps://mirrorthailand.com/self/mind/102429

แทบทุกครั้งเวลาได้ยินข่าวคราวของบรรดาคนดัง ไม่ว่าจะศิลปิน นักดนตรี นักแสดง หรือเอนเตอร์เทนเนอร์ที่จากไปอย่างกระทันหัน ทั้งด้วยการฆ่าตัวตาย หรือเสียชีวิตจากการ Overdose โดยใช้ยานอนหลับ แอลกอฮอลล์ หรือสารเสพติดเกินขนาด เราจะรู้สึกใจหายอยู่เสมอ และพร้อมกับความรู้สึกใจหาย มันก็มักจะมาพร้อมกับความรู้สึกสงสัย และตั้งคำถามอย่างเจ็บปวดอยู่เงียบๆ ว่าเพราะเหตุใดกันนะ พวกเขาจึงจากไปด้วยการจบชีวิตตัวเองลงแบบนั้น ทั้งๆ ที่เบื้องหน้า งานของพวกเขาคือการเป็นผู้มอบความสุข สร้างรอยยิ้ม เรียกเสียงหัวเราะ ผ่านการแสดงอันเก่งฉกาจ บทบาทอันอบอุ่น ผ่านเสียงดนตรีและเนื้อร้องราวกับบทกวีที่เป็นเหมือนเครื่องบรรเทาความทุกข์ให้กับผู้คน นั่นอาจเป็นเพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่า ภายใต้ผลงานอันเพอร์เฟ็กต์ บนใบหน้าเปื้อนยิ้มของผู้ทำหน้าที่สร้างความสุขให้คนอื่นเหล่านั้น แอบซ่อนความทุกข์ทนอะไรเอาไว้ข้างในมากมายบ้าง ในเดือนมิถุนายนของทุกปี นับเป็นเดือน Men’s Mental Health Awareness Month หรือเดือนแห่งการตระหนักรู้เรื่องสุขภาพจิตของผู้ชาย (ซึ่งอาจมีความแตกต่างกันไปได้ในแต่ละประเทศ เช่น บางประเทศที่กำหนดให้เป็นเดือนพฤศจิกายน) เราจึงอยากชวนทุกคนมาร่วมกันสร้างความตระหนักไปพร้อมกันอีกครั้งว่า สัญญาณของปัญหาสุขภาพจิตเป็นเรื่องสำคัญสำหรับทุกคนที่ไม่อาจมองข้ามก็จริง แต่เพราะเหตุใด พอเป็นเรื่องสุขภาพจิตของผู้ชาย มันกลับเป็นเรื่องยากและมีมิติที่ซับซ้อน จนหลายครั้งทำให้ความทุกข์ทนเจ็บปวดของพวกเขาถูกมองข้าม และลงเอยด้วยโศกนาฏกรรมไม่คาดคิดอยู่เรื่อยไป ชวนหาคำตอบผ่านแง่มุมทั้งหมดที่ลิงก์หน้า bio #Mind #menmentalhealth #Depression #mentalhealth #Suicide #Artist #RobinWilliams #heathledger #kurtcobain #iancurtis #chesterbennington #chriscornell #elliotsmith #MIRRORThailand . . . ttps://mirrorthailand.com/self/mind/102429

เมื่อโลกของการซื้อของมือสองกลายเป็นสิ่งที่ไม่น่าอายอีกต่อไป และดูทีท่าว่าจะสนุกมากขึ้นกับที่สาวๆ ฝั่งฮอลลีวู้ดอย่าง Olivia Rodrigo และ Dove Cameron ก็ต่างหิ้วกระเป๋าวินเทจจาก Coach เพราะอะไรกระเป๋าหนังรุ่นเก่าถึงครองใจคนเจนซีมากขึ้น?

ปฏิเสธไม่ได้ว่าโซเชียลมีเดียอย่าง TikTok อย่าง  @WildernessStyler, @VintageCoachRestore and @VintageCoachie  ที่ทำคอนเทนต์หากระเป๋า Coach ในสภาพเก่าเก็บหรือยับเยินมาจากร้านมือสอง แล้วนำมาชุบชีวิตด้วยการทำความสะอาด และซ่อมแซม นวดหนังด้วยครีมบำรุงที่ดูแล้วก็เพลินตา จนสวยเหมือนใหม่ และใช้ได้ต่ออีกยาวๆ ทำให้ถูกใจใครที่เป็นสาย sustainable ไปเต็มๆ 

รุ่นที่ป็อปปูลาร์ของวินเทจ Coach ก็มี กระเป๋าสะพายไหล่รุ่น Ergo จากยุค 90’s กระเป๋าหัวเข็มขัดสไตล์ Y2K อย่าง Soho จากปี 2006 หรือรุ่นขั้นเทพหายากอย่าง Archive Limited Edition Bleecker Haversack ต้นยุค 2000s ที่มีขายเฉพาะที่สาขา Bleecker Street ที่ปิดไปแล้วในปัจจุบันนี้ 

หลักฐานที่แสดงให้เห็นว่ากระเป๋าโค้ชวินเทจเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น คือ มีการเสิร์ชมากขึ้น 114 เปอร์เซนต์ในเว็บ eBay ตั้งแต่เดือนมกราคม 2024 เป็นเพราะ haul ของ TikTok ที่เป็นไวรัล ทำให้คนเห็นกระเป๋าหนังแท้ที่คงทนกับกาลเวลา บวกราคาถูกเมื่อเทียบกับราคาออกช็อป บวกกับการต่ออายุขัยไม่ให้กลายเป็นขยะนี่แหละ ที่เป็นส่วนผสมชั้นดีทำให้กลายเป็นกระแสอีกครั้ง ที่ทางแบรนด์ Coach เองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ก่อให้เกิด 2 โปรเจ็กต์รักษ์โลกอย่าง (Re)Loved ที่เปิดตัวในปี 2021 ทำให้ลูกค้านำกระเป๋าโค้ชใบเก่ามาแลก มาซ่อมแซม หรือมาแปลงโฉมใหม่ ที่ยังมีเซ็กชั่นนี้ให้ลูกค้าได้ช็อปกระเป๋าที่ไม่เหมือนใครในร้านอีกด้วย

โปรเจ็กต์ที่สองอย่าง Coachtopia ที่แตกไลน์มาเพื่อเจาะตลาดเจนซีโดยตรงเมื่อปี 2023 ที่ใช้เศษหนังจากการตัดกระเป๋ามาต่อกันเป็นแพตช์เวิร์คที่เต็มไปด้วยสีสันและความสนุก บวกเพิ่มกับเรซิ่นจากพลาสติกรีไซเคิลมาเป็นแท็กห้อย มีมุมเล็กๆ ของตัวเองในร้านที่ใช้เฟอร์นิเจอร์จากการอัพไซเคิลขยะมาทั้งหมด ก็ทำให้เห็นถึงความตั้งใจและมุ่งมั่นของแบรนด์ที่พูดถึงเรื่อง sustainable ได้อย่างชัดเจน

และนี่ก็คือการปรับตัวของแบรนด์เครื่องหนังอายุ 84 ปีจากนิวยอร์ก ตามกระแสของโลกโซเชียล
พร้อมสื่อสารและเข้าถึงลูกค้าโดยตรงอย่างสม่ำเสมอ ทำให้คนเปิดใจที่จะใช้กระเป๋าใบเก่า หรือรักษากระใบใหม่ให้อยู่ด้วยกันไปนานๆ 

อ่านบทความเต็มๆ ต่อได้ใน Link in Bio
#MirrorThailand #VintageCoachBag #Style #sustainable 
.
.
.
https://mirrorthailand.com/style/trends/102427

เมื่อโลกของการซื้อของมือสองกลายเป็นสิ่งที่ไม่น่าอายอีกต่อไป และดูทีท่าว่าจะสนุกมากขึ้นกับที่สาวๆ ฝั่งฮอลลีวู้ดอย่าง Olivia Rodrigo และ Dove Cameron ก็ต่างหิ้วกระเป๋าวินเทจจาก Coach เพราะอะไรกระเป๋าหนังรุ่นเก่าถึงครองใจคนเจนซีมากขึ้น? ปฏิเสธไม่ได้ว่าโซเชียลมีเดียอย่าง TikTok อย่าง @WildernessStyler, @VintageCoachRestore and @VintageCoachie ที่ทำคอนเทนต์หากระเป๋า Coach ในสภาพเก่าเก็บหรือยับเยินมาจากร้านมือสอง แล้วนำมาชุบชีวิตด้วยการทำความสะอาด และซ่อมแซม นวดหนังด้วยครีมบำรุงที่ดูแล้วก็เพลินตา จนสวยเหมือนใหม่ และใช้ได้ต่ออีกยาวๆ ทำให้ถูกใจใครที่เป็นสาย sustainable ไปเต็มๆ รุ่นที่ป็อปปูลาร์ของวินเทจ Coach ก็มี กระเป๋าสะพายไหล่รุ่น Ergo จากยุค 90’s กระเป๋าหัวเข็มขัดสไตล์ Y2K อย่าง Soho จากปี 2006 หรือรุ่นขั้นเทพหายากอย่าง Archive Limited Edition Bleecker Haversack ต้นยุค 2000s ที่มีขายเฉพาะที่สาขา Bleecker Street ที่ปิดไปแล้วในปัจจุบันนี้ หลักฐานที่แสดงให้เห็นว่ากระเป๋าโค้ชวินเทจเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น คือ มีการเสิร์ชมากขึ้น 114 เปอร์เซนต์ในเว็บ eBay ตั้งแต่เดือนมกราคม 2024 เป็นเพราะ haul ของ TikTok ที่เป็นไวรัล ทำให้คนเห็นกระเป๋าหนังแท้ที่คงทนกับกาลเวลา บวกราคาถูกเมื่อเทียบกับราคาออกช็อป บวกกับการต่ออายุขัยไม่ให้กลายเป็นขยะนี่แหละ ที่เป็นส่วนผสมชั้นดีทำให้กลายเป็นกระแสอีกครั้ง ที่ทางแบรนด์ Coach เองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ก่อให้เกิด 2 โปรเจ็กต์รักษ์โลกอย่าง (Re)Loved ที่เปิดตัวในปี 2021 ทำให้ลูกค้านำกระเป๋าโค้ชใบเก่ามาแลก มาซ่อมแซม หรือมาแปลงโฉมใหม่ ที่ยังมีเซ็กชั่นนี้ให้ลูกค้าได้ช็อปกระเป๋าที่ไม่เหมือนใครในร้านอีกด้วย โปรเจ็กต์ที่สองอย่าง Coachtopia ที่แตกไลน์มาเพื่อเจาะตลาดเจนซีโดยตรงเมื่อปี 2023 ที่ใช้เศษหนังจากการตัดกระเป๋ามาต่อกันเป็นแพตช์เวิร์คที่เต็มไปด้วยสีสันและความสนุก บวกเพิ่มกับเรซิ่นจากพลาสติกรีไซเคิลมาเป็นแท็กห้อย มีมุมเล็กๆ ของตัวเองในร้านที่ใช้เฟอร์นิเจอร์จากการอัพไซเคิลขยะมาทั้งหมด ก็ทำให้เห็นถึงความตั้งใจและมุ่งมั่นของแบรนด์ที่พูดถึงเรื่อง sustainable ได้อย่างชัดเจน และนี่ก็คือการปรับตัวของแบรนด์เครื่องหนังอายุ 84 ปีจากนิวยอร์ก ตามกระแสของโลกโซเชียล พร้อมสื่อสารและเข้าถึงลูกค้าโดยตรงอย่างสม่ำเสมอ ทำให้คนเปิดใจที่จะใช้กระเป๋าใบเก่า หรือรักษากระใบใหม่ให้อยู่ด้วยกันไปนานๆ อ่านบทความเต็มๆ ต่อได้ใน Link in Bio #MirrorThailand #VintageCoachBag #Style #sustainable . . . https://mirrorthailand.com/style/trends/102427